คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 160 ท่านเซียวโมโหมาก ผลลัพธ์แสนสาหัส
ตอนที่ 160 ท่านเซียวโมโหมาก ผลลัพธ์แสนสาหัส
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง…
“อาหมิง คุณบินไปที่เคนยาทันที ถึงสถานที่แห่งนี้หาถังจิ้นเหยียนให้พบ ผมไม่สนใจว่าคุณจะใช้วิธีการอะไร ถามเอาที่อยู่ของลั่วหานออกมาให้ได้!”
ฉู่ลั่วหานอยู่ที่เมืองหลวง คนที่สามารถพึ่งพาได้เพียงหนึ่งเดียวก็คือถังจิ้นเหยียน และก็มีเพียงถังจิ้นเหยียนเท่านั้นที่มีความสามารถทำให้เธอหายไปอย่างไร้ร่องรอยได้ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่รู้ว่า นาฬิกาข้อมือที่ลั่วหานสวมใส่อยู่บนมือตลอดนั้นมีฟังก์ชั่นในการกำหนดตำแหน่งพิกัดได้ เงื่อนไขเหล่านี้รวมกันขึ้นมา ต่อให้ลั่วหานไม่ได้ไปด้วยกันกับเขา ก็ต้องหลบซ่อนอยู่ในสถานที่ที่เขารู้อย่างแน่นอน
“ครับ!บอส!ผมจะบินไปเดี๋ยวนี้”
หรี่ตาลง มือของหลงเซียวกำแน่นยิ่งขึ้น เส้นเลือดดำที่อยู่บนหลังฝ่ามือก็ยิ่งนูนเห็นเป็นเส้นๆอย่างชัดเจน ออกปากส่งจี้ตงหมิงไป หลงเซียวออกคำสั่งกับหยังเซินด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “เรียกโม่หรูเฟยมาหาผม!”
หยังเซินได้ยินโม่หรูเฟย ตกใจจนสันหลังเย็นวูบ ปากสั่นขึ้นมาเล็กน้อย “ท่านประธาน คุณโม่เพิ่งจะแท้ง ตอนนี้ไม่สะดวกเดินเคลื่อนไหว…”
ความหมายภายใต้คำพูดก็คือ เรียกมาทีหลังได้หรือเปล่า?
สายตาที่เยือกเย็นของหลงเซียวเพ่งไปที่หยังเซินอย่างยากที่จะต้านทานได้ แทบจะเรียกได้ว่าภายในหนึ่งวินาทีก็สามารถจ้องออกมาเป็นหลุมดำที่นับไม่ถ้วนบนใบหน้าของเขา “เดินไม่ได้ คลานก็ต้องคลานมาหาผม!”
หยังเซินไม่กล้าขัดคำสั่ง ถอยออกมาด้านนอกประตูถึงกล้าเช็ดเหงื่อที่เต็มหน้าผาก หายใจเข้าออก เตรียมตัวไปเรียกที่ห้องผู้ป่วยของโม่หรูเฟย เห็นหยวนชูเฟินและคนรับใช้ของตระกูลหลงที่เดินมาจากอีกฝั่งของระเบียงทางเดิน คนรับใช้ยืนตรงสองมือประสานเข้าหากันทักทายถามไถ่สารทุกข์สุกดิบอยู่ในระเบียงทางเดิน กลัวถูกหยวนชูเฟินซักถาม หยังเซินหลบหลีกอย่างรวดเร็ว ขึ้นลิฟต์ไม่ทัน เดินมาจนสุดทาง ปึ้งๆๆเหยียบบันไดวิ่งลงไปด้านล่างสองชั้น
“เซียวเอ๋อ สีหน้าเป็นอะไรไป? ทำไมเปลี่ยนเป็นแย่ขนาดนี้?” หยวนชูเฟินเอาใจใส่อย่างรีบร้อน มือที่สวมแหวนมีชื่อเสียงราคาแพงกำลังจะลูบไล้ไปบนหน้าผากของลูกชาย สายตาที่เลือดเย็นของหลงเซียวก็กวาดมองไปบนนิ้วมือและแหวนที่อยู่บนนิ้วมือของเธอ
ระหว่างแสงระยิบระยับ หลงเซียวคิดถึงรอยแผลที่ลากยาวบนใบหน้าของลั่วหาน เขาเข้าใจทุกอย่างโดยสมบูรณ์แบบ
รอยแผลเป็นนั้น จะต้องเป็นตอนที่คุณแม่ฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าของเธอเหลือทิ้งเอาไว้อย่างแน่นอน!
มาถึงจุดนี้ ท่านเซียวไม่อาจที่จะทนต่อไปได้ และก็ไม่อาจจะให้อภัยได้เช่นเดียวกัน!
ปลายนิ้วที่เยือกเย็นราวกับสอดเข้าไปในถ้ำน้ำแข็ง เสียงของหลงเซียวเยือกเย็นจนถึงขีดสุด น้ำเสียงรวดเร็ว “หยุด!-
เสียงที่เยือกเย็นไปถึงกระดูกหยุดการเคลื่อนไหวของหยวนชูเฟินลงอย่างรวดเร็วเด็ดขาด นิ้วมือของเธอสั่น ไม่กล้าที่จะเชื่อว่านี่คือคำพูดที่ลูกชายของตัวเองพูดกับเธอ
บนใบหน้าของหยวนชูเฟินเดี๋ยวเก้กังเดี๋ยวซีดเผือด “เซียวเอ๋อลูกเป็นอะไรไป? แม่คือแม่แท้ๆของลูกนะ”
หลงเซียวเงยคางขึ้นด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก สายตาที่เด็ดเดี่ยวไม่อนุญาตให้ผู้อื่นเข้าร่วมความเห็นแหลมคมอย่างหาใดเปรียบ นัยน์ตาที่มีสีดำขลับดุจดั่งน้ำวนที่ยากจะคาดเดาระดับความลึกได้มองไปทางแม่ของตัวเองอย่างรุนแรง มุมริมฝีปากของเขาโค้งลงเล็กน้อย หัวเราะด้วยความประชดประชันเป็นอย่างยิ่ง “แม่แท้ๆ? แม่คือแม่แท้ๆของผมจริงๆ แต่ตอนที่แม่ตบภรรยาลูกชายแท้ๆของตัวเอง ลืมไปโดยสมบูรณ์แบบใช่หรือเปล่าว่า แม่คือแม่แท้ๆของผม?”
แผ่นหลังของหยวนชูเฟินแข็งทื่ออย่างรุนแรง ทั่วทั้งตัวเกร็งไปไม่น้อย เนื้อหาคำพูดที่ลูกชายพูดกับเธอนั้นสำหรับเธอแล้วกลับไม่ได้รุนแรง แต่น้ำเสียงและสายตาของเขา…ความแข็งกร้าวและเด็ดขาดแบบนั้น ราวกับที่เผชิญหน้าคือศัตรูตัวฉกาจของตัวเอง ไม่ใช่คนในครอบครัวอย่างเด็ดขาด
ในใจของหยวนชูเฟินสั่นไหว น้ำเสียงต่างก็กำลังเยือกเย็นลง “ลูกพูดแบบนี้กับแม่ได้ยังไงกันน่ะ!”
สีหน้าของหลงเซียวไม่เปลี่ยน น้ำเสียงยังคงเยือกเย็น เด็ดขาดทั้งยังโมโหเป็นอย่างยิ่ง “แม่บีบบังคับภรรยาของผมให้จากไป ย้อนกลับมาตำหนิผมว่าน้ำเสียงไม่ดี แม่ครับ หลายปีมานี้ ผมว่าแม่ดูเหมือนจะลืมนิสัยของผมไปหมดแล้ว”
หลายปีมานี้ การแต่งงานของเขากับฉู่ลั่วหานไม่ราบรื่นนัก มีเรื่องมากมายที่เขาขี้เกียจจะไปรับมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องภายในบ้าน ปกติแล้วหยวนชูเฟินพูดยังไงเขาก็ให้ความร่วมมืออย่างนั้น แต่การร่วมมือของเขาไม่ใช่เป็นเพราะเขาอ่อนแออย่างแน่นอน แต่เป็นเพราะเขาไม่ใส่ใจเลยต่างหาก !
แต่ว่าตอนนี้ เขาถึงเวลาที่จะต้องตักเตือนแม่ของตัวเอง ว่าที่เธอครอบครองอยู่นั้นคือลูกชายแบบไหนกันแน่!
ดวงตาของหยวนชูเฟินเบิกโพลงขึ้นมาอย่างกะทันหัน มือที่ค้างอยู่กลางอากาศเก็บกลับเข้าไปอย่างช้าๆ ลำคอหดเกร็ง กลืนน้ำลายลงไปคำหนึ่ง บุคลิกที่ยังเต็มไปด้วยพลังเมื่อสักครู่นี้พังทลายลงมาอย่างเงียบเชียบ “เซียวเอ๋อ ลูกต้องเชื่อว่า แม่ทำทุกอย่างก็เพื่อลูก แม่เพียงแต่หวังให้ลูกสามารถมีความสุข ไม่มีวัตถุประสงค์อื่น”
หลงเซียวแม้แต่การหัวเราะอย่างประชดประชันก็ไม่ยินยอมที่จะมอบให้กับเธอ รักษาความเคร่งขรึมเย็นชาเมื่อสักครู่นี้เอาไว้ “ทำเพื่อผม หากทำเพื่อผมแบบนี้ ก็ไม่ต้องแล้ว”
ในใจของหยวนชูเฟินแอบรู้สึกไม่เป็นสุข อยู่ๆเซียวเอ๋อมีท่าทีเช่นนี้ต่อเธอ หากรู้ว่าฉู่ลั่วหานออกนอกประเทศอีกทั้งกลับมาไม่ได้อีก จะตัดขาดความสัมพันธ์แม่ลูกกันไปเลยใช่หรือเปล่า หรือว่า…ออกจากตระกูลหลงไปเลย?
ไม่ได้! นั่นไม่ได้โดยเด็ดขาด!
คิดมาถึงตรงนี้ เธอก็ไม่สนใจความรู้สึกของลูกชายอีกต่อไป สองมือกุมมือของลูกชายเอาไว้แน่น “เซียวเอ๋อ ฉู่ลั่วหานทำร้ายหรูเฟย ทำให้ลูกของพวกเธอต้องตาย ลูกรู้หรือเปล่า!”
เป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ!
หลงเซียวไม่ได้ยินยังไม่เป็นไร พอเธอพูด เขาก็แทบจะกระโดดลงจากเตียงภายในทันที สงบเยือกเย็นแต่กลับออกแรงสะบัด ดิ้นหลุดออกจากที่พันธนาการมือของตนเองเอาไว้ “เรื่องนี้ ผมจะตรวจสอบให้ชัดเจน !”
ทั้งสองคนกำลังทะเลาะกัน โม่หรูเฟยก็ถูกหยังเซินใช้วีลแชร์เข็นเข้ามา
โม่หรูเฟยนึกว่าหลงเซียวเป็นห่วงตนเองอยากจะพบหน้าเธอเร็วหน่อย พอเข้าประตูมาก็ร้องเรียกอย่างน่ารักน่าเอ็นดู “พี่เซียวคะ”
มือข้างหนึ่งของหยวนชูเฟินทาบไปบนหน้าผาก “เซียวเอ๋อ ลูกอย่ามากเกินไป หรูเฟยเพิ่งจะแท้ง สุขภาพร่างกายไม่ดี”
หลงเซียวจะสนใจไหม!เทียบกว่าสุขภาพไม่ดีของเธอนั้น การหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของภรรยาเขาถึงจะวนเวียนอยู่ในใจของเขาอย่างแท้จริง
ท่าทีที่ท่านเซียวมีต่อโม่หรูเฟยห่างออกไปนับพันไมล์ คนที่มีสมองต่างก็ดูออก ก็มีเพียงแต่โม่หรูเฟยคนเดียวเท่านั้น ที่มองหลงเซียวด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน รักใคร่ลึกซึ้งอย่างเห็นเขาเป็นคนรักของตัวเองก็ไม่ปาน
คนที่น่าสงสารก็ต้องมีจุดที่น่ารังเกียจเสมอ
ท่านเซียวเดินตรงเข้ามา “ทำไมต้องใส่ร้ายลั่วหาน? หึ ก็คืออยากจะใส่ร้ายเธอ ให้เธอต้องออกไปจากตระกูลหลง คุณจะได้เข้ามาแทนได้สะดวก?”
โม่หรูเฟยนิ่งอึ้งอยู่บนวีลแชร์อย่างกะทันหัน สองมีที่วางอยู่บนขาหดเข้าหากัน กำแน่น ลำตัวเกร็งไปหมด แม้แต่ปากยังซีด
ริมฝีปากสั่นเล็กน้อย เธอพูดออกมาประโยคนึงด้วยความยากลำบาก “พี่เซียว…พี่พูดแบบนี้ได้ยังไงกันคะ?”
นัยน์ตาของหลงเซียวไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเกิดขึ้น กลับมากพอที่จะมองทะลุโม่หรูเฟย “เล่ห์เหลี่ยมเล็กๆน้อยๆของคุณ อยากจะปิดฟ้าข้ามทะเล! โม่หรูเฟย! ความกล้าของคุณนับวันยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ”
ความโหดเหี้ยม ความอึดอัด การกดขี่ ความกดอากาศน้ำท่วมที่ถูกท่านเซียวคนเดียวดึงลงมาทะลักเต็มพื้นที่ห้องราวกับสัตว์ร้ายก็ไม่ปาน ดวงตากลมโตอันไร้เดียงสาของโม่หรูเฟยเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาขึ้นมาทันที
เธอมองไปทางหยวนชูเฟิน ร้องไห้อย่างน่าสงสาร “คุณป้าคะ ตอนนั้นคุณป้าก็อยู่ในเหตุการณ์ ฉู่ลั่วหานเธอกระชากคุณป้าไม่ยอมปล่อย ยังถือโอกาสผลักหนู…หนูปรักปรำเธอหรอคะ?”
ภาพเหตุการณ์ในตอนนั้น หยวนชูเฟินจำได้อย่างชัดเจน มือของฉู่ลั่วหานจับเธอเอาไว้ไม่ผิด แต่ตอนที่เธอคลายมือออกนั้นดูเหมือนกับไม่ได้มีการเคลื่อนไหวอย่างอื่น
หรือว่าฉู่ลั่วหานจะลงมือ ในที่ที่เธอมองไม่เห็น?
เจ็ดส่วนที่สงสัย สามส่วนที่มั่นใจ
แต่ทว่าก็สามส่วนที่มั่นใจนี้ หยวนชูเฟินเลือกที่จะสนับสนุนโม่หรูเฟย “เซียวเอ๋อ เป็นฉู่ลั่วหานที่ทำร้ายโม่หรูเฟยจริงๆ หรูเฟยได้รับความไม่เป็นธรรมที่มากขนาดนี้แต่กลับไม่กล้าที่จะให้ลูกรู้ กลัวว่าลูกจะเสียใจ ส่งผลกระทบต่อบาดแผล”
“พอแล้ว! โม่หรูเฟย ดูแลมือเท้าของตัวคุณเองให้ดี ดูแลไม่ดี ผมจะดูแลแทน”
สองคำที่เยือกเย็นราวกับเกล็ดน้ำแข็ง หลงเซียวไม่ไว้หน้าของทั้งสองคนเลยแม้แต่น้อย
คำให้การและคำพูดหลักฐานของโม่หรูเฟยกับหยวนชูเฟินไม่มีช่องโหว่อะไรจริงๆ แต่เขาเชื่อลั่วหาน ถึงแม้ทุกคนจะชี้นิ้วไปให้กับเธอ เขาก็ยังคงยืนอยู่ที่ข้างเธอ!
เป็นครั้งแรก ที่ความคิดเด็ดเดี่ยวทั้งยังแข็งกร้าว หลงเซียวคิดถึงคำว่าเชื่อใจสองคำออกมา หากในตอนแรกเขามั่นใจที่จะเชื่อฉู่ลั่วหาน ทุกอย่างที่อยู่ในสามปีกว่านี้ก็คงจะไม่เกิด
เขาจะต้องหาเธอให้พบ ชดเชยข้อบกพร่องทั้งหมดให้กับเธอ
“ออกไป ไม่มีคำสั่งของผม ไม่อนุญาตให้เหยียบเข้ามาในห้องนี้แม้แต่ก้าวเดียว” ท่านเซียวที่อยู่ภายใต้ความโกรธ น้ำเสียงที่ขับไล่โม่หรูเฟยออกไปนั้นไม่มีความเกรงใจเลยแม้แต่น้อย
หยวนชูเฟินพยายามที่จะช่วยเธอพูด แต่ท่านเซียวนำคำพูดที่ยังไม่ออกจากปากเธอนั้นขวางกั้นกลับไป “แม่ แม่ก็ออกไปเหมือนกันครับ”
โลกในที่สุดก็เงียบลงมาหน่อย ท่านเซียวกุมขมับด้านซ้ายเอาไว้ด้วยความเจ็บปวด ปิดตาที่เยือกเย็นลงราวกับแช่แข็งก็ไม่ปาน
หยังเซินโน้มตัวลงเอ่ยขึ้นเบาๆ “ท่านประธาน ยังมีอะไรจะสั่งไหมครับ?”
หลงเซียวเงยศีรษะขึ้น มองท้องฟ้าทางนอกหน้าต่างที่จรดพื้น สีของท้องฟ้ากำลังจะมืดลง ด้านนอกหน้าต่างสามารถมองเห็นแสงไฟนีออนของเมืองค่อยๆสว่างขึ้นมาอีกครั้ง ไม่รู้ว่าคนนั้นที่เขาคิดถึงอยู่ในใจอยู่ที่ไหนกัน?
ได้รับความไม่เป็นธรรมมากมายขนาดนี้ แบกรับแรงกดดันมากมายขนาดนี้ ยัยโง่ที่ดื้อรั้นทั้งยังไม่รู้จักปกป้องตัวเองคนนี้ จะไปหลบอยู่ที่ไหนรักษาตัวกันนะ?
บ้าจริง!
คิดมาถึงตรงนี้ หัวใจของหลงเซียวก็ยิ่งชาด้วยความเจ็บปวด บาดแผนที่พันไว้ด้วยผ้าก๊อซ ดูเหมือนจะมีเลือดล้นออกมาที่ด้านนอก
“ไปที่คอนโดของคุณหญิง ดูว่าของๆเธอยังอยู่หรือเปล่า อะไรหายไปบ้าง” หัวใจของหลงเซียวเจ็บปวดอย่างรุนแรง ทำได้เพียงพิงไปบนหัวเตียงเพื่อปรับการหายใจ เพียงแต่ หายใจเข้าหายใจออก ขอเพียงแค่ดึงขยับบาดแผล ความเจ็บปวดที่ยากจะรับไหวก็เกิดขึ้นมาอีกเป็นระลอก เจ็บจนทั่วทั้งร่างกายต่างก็ถูกเหมือนเข็มทิ่มแทงยังไงอย่างงั้น
หยังเซินออกจากที่นั่นไป ตรงไปยังคอนโดของฉู่ลั่วหาน เปิดประตู
ด้านในยังคงรักษาสภาพหลังจากที่ฉู่ลั่วหานกับหลงเซียวทะเลาะกันเอาไว้ เศษแก้วแตกกระจายของขวดเหล้ากระจายอยู่เต็มที่ห้องรับแขก รอยเลือดที่อยู่บนพื้นแห้งไปหมดแล้ว ห้องรับแขกยังมีกระเป๋าเดินทางใบหนึ่งที่เอียงลาดอยู่
ที่นี่ ไม่เหมือนว่าถูกใครแตะต้องมาก่อน
หยังเซินรายงานตามความเป็นจริง เส้นเลือดที่อยู่บนหน้าผากของหลงเซียวเต้นนูนออกมาอย่างบ้าคลั่งไม่ยอมหยุด คิดไม่ถึงว่าเธอจะไม่ได้พกอะไรไปด้วยเลย ก็หายไปแบบนี้?
“เอากระเป๋าเดินทางของเธอกลับมา”
กลับมาถึงห้องผู้ป่วย หยังเซินนำกระเป๋าเดินทางสีขาววางลงบนพื้น กระเป๋าเดินทางมีรหัส เขาลองอยู่พักหนึ่งถึงได้เปิดออก
“ท่านประธานครับ ดูนี่…”
ด้านในมีเพียงเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวนิดหน่อย แต่สิ่งที่ทำให้หลงเซียวประหลาดใจก็คือ ข้างในกล่องทำไมถึงได้มีเครื่องประดับที่มีค่ามากมายขนาดนี้?
ฉู่ลั่วหานเป็นคนที่ไม่ชอบสวมใส่อัญมณีคนหนึ่ง เธอสวยงามอย่างสะอาดสะอ้านสบายๆจนชินแล้ว ปกติแม้แต่หน้าก็ไม่แต่ง จะพกเครื่องประดับมากมายขนาดนี้ได้ยังไงอีก
อีกทั้ง…
เครื่องประดับเหล่านี้ แม้ว่าต่างก็เป็นแบรนด์ดัง แต่มีบางรุ่นที่เป็นของเมื่อสิบกว่าปีก่อน ไม่สอดคล้องกับสไตล์ของเธอ ยิ่งไม่เหมือนของที่เธอจะซื้อเสียด้วยซ้ำ
ทิ้งเครื่องประดับวางกลับไป หลงเซียวฝืนระงับความคาดเดาที่อยู่ในใจ ฉู่ลั่วหานพกเครื่องประดับไปจากที่นี่ รักเงินข้อนี้ ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความเป็นไปได้
แต่ท่านเซียวให้ตายก็ไม่ไปคิดเชื่อมโยงเช่นนั้น ภรรยาของเขา ไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้โดยเด็ดขาด!
หลังจากตกดึก หลงเซียวโทรออกเบอร์ของถังจิ้นเหยียนไปอีกหลายครั้ง ยังคงเป็นไม่สามารถติดต่อได้!
ถ้ายังติดต่อไม่ได้อีก ท่านเซียวก็จะไม่ใส่ใจดำเนินการพลิกแผ่นดินหาที่เคนยาเอง!
พลิกตัวกลับไปกลับมา ท่านเซียวนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน
ท้องฟ้าเพิ่งจะเริ่มสว่างขึ้น โทรศัพท์ของจี้ตงหมิงก็โทรเข้ามา
“พูด!”
จี้ตงหมิงยืนอยู่ภายใต้ท้องฟ้าของเคนยา ร้อนจนทั่วทั้งตัวแทบจะถูกเผาไหม้ก็ไม่ปาน “บอสครับ ผมถึงแล้ว เพียงแต่คนของทางนี้บอกว่าถังจิ้นเหยียนวันนี้ถูกส่งออกไปทำการตรวจคนไข้ที่ด้านนอก และไม่ได้อยู่ประจำการ พวกเขาไม่รู้ว่าถังจิ้นเหยียนไปที่ไหน”
“รอเอาไว้!จำเป็นต้องรอจนเขาปรากฏออกมา!”
“ครับ!”
วางสายโทรศัพท์ลง จี้ตงหมิงก็เดินจากไหล่เขากลับมาถึงห้องหลังเตี้ยๆเล็กๆที่เรียงกันเป็นแถวทางนั้นอีกครั้ง ด้านล่างไม่มีสัญญาณแม้แต่น้อย ไม่วิ่งไปถึงที่ไหล่เขาก็เท่ากับตัดขาดจากโลกไปเลย
ฉู่ลั่วหานดันประตูห้องเปิดออก ในมือถือถังน้ำใบหนึ่งเตรียมที่จะไปตักน้ำ พอเงยหน้าขึ้นมา มองเห็นจี้ตงหมิงที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อเดินมาด้วยความยากลำบากอย่างตกตะลึง!