คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 153 อุบัติเหตุได้รับรู้ ความจริงเมื่อห้าปีก่อน
ตอนที่ 153 อุบัติเหตุได้รับรู้ ความจริงเมื่อห้าปีก่อน
ไม่ให้โอกาสเธอเล่ารายละเอียดอธิบายเลยแม้แต่น้อย ความแข็งกร้าวและความตัดขาดไมตรีอย่างเด็ดขาดของหยวนชูเฟินแสดงออกมาจนชัดเจนจนถึงที่สุด หากฉู่ลั่วหานกล้าพูดโต้แย้งมาคำนึง เธอสามารถนำคนผลักออกไปได้ในทันที ผลักออกจากบ้านตระกูลหลงไปตลอดกาล
หลงจื๋อก้าวเท้าใหญ่ๆเดินเข้าไปคุ้มกันฉู่ลั่วหานเอาไว้ โมโหแต่กลับจำเป็นจะต้องอดทน ผงกศีรษะโน้มตัวแสดงความเคารพต่อหยวนชูเฟิน “คุณแม่ เรื่องยังไม่ตรวจสอบให้ชัดเจน คุณแม่กรุณาระงับความโกรธ บางทีอาจจะเป็นเหล่านักข่าวที่จงใจใส่ร้าย”
หยวนชูเฟิน “ปั้ง” นำจานโยนลงบนโต๊ะ โค้งปลายหางคิ้วหัวเราะด้วยความประชดประชันถากถางจนถึงขีดสุด “คนมากมายขนาดนี้ไม่ใส่ร้าย ดันจ้องเธอแค่คนเดียว!แมลงวันไม่ตอมไข่ไก่ที่ไม่มีรอยร้าว ตัวเองทำเรื่องที่ขัดต่อประเพณีและศีลธรรม ยังกลัวคนอื่นรู้?”
ฉู่ลั่วหานพลิกมือเช็ดน้ำจากอาหารที่อยู่บนใบหน้า เช็ดน้ำที่อยู่บนดวงตาทิ้ง ในที่สุดก็สามารถลืมตาสบตากับหยวนชูเฟินได้ “แม่คะ หนูกับถังจิ้นเหยียนบริสุทธิ์ใจ หนูจะพิสูจน์ให้แม่ดู แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาซักไซ้ไล่เลียงเรื่องเหล่านี้ หลงเซียวยังไม่พ้นขีดอันตราย ทุกอย่างรอเขาฟื้นขึ้นมาหนูจะชี้แจงเองค่ะ”
หยวนชูเฟินอยากจะมีโอกาสเตะเธอออกไปได้มาตั้งนานแล้ว จะให้เธอชะลอแผนการโจมตีได้ยังไงกัน หากหลงเซียวฟื้นขึ้นมา อาศัยการปกป้องที่ลูกชายมีต่อฉู่ลั่วหาน อย่าพูดถึงไม่มีเรื่องอะไร ต่อให้มีเรื่องก็จะหลีกเลี่ยงปัญหาที่สำคัญจบลงอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ไม่ต้องแล้ว!หลงเซียวคือลูกชายของฉัน ตอนนี้เขาสลบไม่ได้สติ เรื่องของเขาฉันในฐานะที่เป็นแม่จะจัดการด้วยตัวเอง ฉู่ลั่วหาน หย่าขาดกับลูกชายของฉันเดี๋ยวนี้!เดี๋ยวนี้!”
หลงจื๋อแยกทั้งสองคนให้ออกจากกัน “คุณแม่ก็ต้องการคนสองคนเดินเอกสารด้วยกัน ตอนนี้พี่ใหญ่สลบไม่ได้สติ จะเซ็นชื่อได้ยังไง? ต่อให้คุณแม่อยากให้พี่สะใภ้ใหญ่ออกไป ก็ต้องรอพี่ใหญ่ฟื้นขึ้นมา ไม่เช่นนั้นด้วยนิสัยของพี่ใหญ่แล้ว ฟื้นขึ้นมาหากพบว่าพี่สะใภ้ใหญ่หายไปแล้ว คุณแม่ลองคิดดูว่าจะมีผลลัพธ์ที่ตามมาอะไรเกิดขึ้น?”
เผชิญหน้ากับคำอธิบายและการแก้ต่างที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองของหลงจื๋อ หยวนชูเฟินกัดฟันแน่นด้วยความโกรธเกลียด ยกมือขึ้นตบลงไปเต็มฝ่ามือ!
“เพี้ยะ” เสียงก้องกังวาน บนใบหน้าของหลงจื๋อถูกตบขึ้นมาอีกครั้ง
ฉู่ลั่วหานตัวสั่น “หลงจื๋อ เธอเป็นยังไงบ้าง?”
นิ้วยาวของหยวนชูเฟินชี้ไปทางประตูใหญ่อย่างรุนแรง “ไสหัวออกไป!ที่นี่แกมีสิทธิ์ที่จะพูดตั้งแต่เมื่อไรกัน!หลงจื๋อ แกไสหัวออกไป!”
ฉู่ลั่วหานเงยหน้าขึ้น ไม่ให้น้ำตาไหลออกมา “แม่คะ ต่อหน้าของหลงเซียว แม่ทำขนาดนี้ เกินไปแล้ว หลงเซียวเพียงแค่ไม่ได้สติ แต่จิตใต้สำนึกท่ามกลางความไม่ได้สติของคนไข้ก็มีความรู้สึกรับรู้ต่อสภาพแวดล้อมที่อยู่บริเวณโดยรอบ รอเขาฟื้นขึ้นมา แม่จะอธิบายยังไงคะ?”
สายตาที่โหดเหี้ยมของหยวนชูเฟินแทบจะฉีกฉู่ลั่วหานออกเป็นชิ้นๆ “ฉู่ลั่วหาน ประโยคนี้ฉันควรจะเป็นฝ่ายถามเธอมากกว่า ของสกปรกเหล่านี้!ทางที่ดีที่สุดเธอคิดๆดูว่าจะอธิบายยังไง!”
พูดจบ เธอก็นำโทรศัพท์มือถือที่มีอยู่ชูไปยังด้านหน้าของฉู่ลั่วหาน การหัวเราะเย้ยหยันอย่างดูหมิ่นที่น่าอัปยศอดสูยิ่งกว่าตบมาบนใบหน้าของเธอตรงๆ “ฉู่ลั่วหาน ในกระดูกของเธอก็คือปีศาจจิ้งจอก เธอนึกว่าในตอนแรกเธอปีนขึ้นมาบนเตียงของลูกชายฉันได้ยังไง ฉันไม่รู้? ตระกูลหลงไม่มีทางอนุญาตผู้หญิงที่ไม่สะอาดเข้ามา เธอจะช้าจะเร็วก็ต้องไสหัวออกไปจากบ้านตระกูลหลง จำเอาไว้!”
โม่หรูเฟยเห็นไฟสงครามผ่านไปได้พอประมาณแล้ว ถึงได้คล้องแขนของหยวนชูเฟินเอาไว้ เอ่ยขึ้นอย่างว่านอนสอนง่ายรู้เรื่องรู้ราว “คุณป้าคะ คุณป้าอย่าโมโหเลยค่ะ ขึ้นมาบนร่างกายจะไม่คุ้มเอา หลายปีมานี้ที่หนูรู้จักกับเธอ เรื่องที่ผ่านมามากมายเหลือเกิน หากต้องพูดออกมาจนหมด ไม่ใช่ว่าต้องโมโหแย่หรอกหรอคะ? คุณป้านั่งลงค่ะ คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไล่ออกไปก็พอแล้ว”
ฉู่ลั่วหานถูกบีบบังคับขับไล่ไสส่งออกจากห้องผู้ป่วย เธอยืนอยู่นอกประตู ถูกห้ามไม่ให้เข้าใกล้ประตูใหญ่ห้องผู้ป่วย ผู้รักษาความปลอดภัยที่ด้านนอกประตูคำพูดเฉียบขาด ไม่มีใจกว้างให้เจรจาต่อรองเลยแม้แต่น้อย
“หากพี่ใหญ่มีสติอยู่ พวกเขาใครกล้ารังแกพี่ขนาดนี้!พี่สะใภ้ใหญ่ไม่ต้องเสียใจ รอพี่ใหญ่ฟื้นขึ้นมาผมจะบอกทุกอย่างในวันนี้กับเขา พี่ใหญ่จะต้องระบายความแค้นแทนพี่แน่!”
ฉู่ลั่วหานเช็ดคราบมันที่อยู่บนใบหน้า ยิ้มอย่างขมขื่น “เธออยากให้เขาระบายความแค้นแทนพี่ยังไง? หรือว่าหันหลังเป็นศัตรูกับแม่ของตัวเอง? ภาพแบบนั้นพี่ไม่อยากเห็น ไม่ต้องบอกเขา มือสะอาดไม่จำเป็นต้องล้าง พี่จะพิสูจน์เอง”
หลงจื๋อจิกลงบนเส้นผมอย่างกลัดกลุ้ม “ผมว่านะพี่สะใภ้ใหญ่ ทำไมดวงพี่ถึงได้แย่ขนาดนี้? เรื่องไม่เป็นเรื่องยังสามารถถูกนักข่าวถ่ายเอาไว้ได้ พี่ห้าองค์ประกอบขาดโชคใช่หรือเปล่า?”
ฉู่ลั่วหานสีหน้านิ่งเฉย “คุณชายรองหลง ตอนที่เธอไม่จริงจังยังจะน่ารักเสียกว่า พี่ไม่เป็นไร ห้องผู้ป่วยเข้าไปไม่ได้ ทางนี้ก็ฝากไว้กับเธอแล้ว”
หลงจื๋อยักไหล่เล็กน้อย “ผมถามหมอแล้ว พี่ใหญ่ไม่นานก็จะฟื้นขึ้นมา พี่ไม่ต้องเป็นห่วง มีความคืบหน้าอะไรผมจะบอก”
ฉู่ลั่วหานพยักหน้า “ขอบคุณมากหลงจื๋อ เรื่องเมื่อสักครู่นี้ แล้วก็…ต่างก็ต้องขอบคุณเธอ”
หลงจื๋อทำปากยื่น “พี่สะใภ้ใหญ่ ตอนที่พี่เผด็จการยังจะน่ารักเสียกว่า อ่อนแออะไรไม่เหมาะสมกับพี่ พี่ต้องรีบลุกขึ้นมา!”
ฉู่ลั่วหานขึงตาใส่ “ยังไม่ไสหัวไปอีก?”
หลงจื๋อหัวเราะร่า “รับคำสั่ง!ไสหัวเดี๋ยวนี้!”
มองดูหลงจื๋อจากไป ฉู่ลั่วหานส่ายศีรษะอย่างไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี อยู่ที่บ้านตระกูลหลงสถานที่แบบนี้คิดไม่ถึงว่าจะยังสามารถรักษานิสัยที่สะอาดสดใสเอาไว้ได้ หลงจื๋อไม่ง่ายเลยจริงๆ
ประคองหัวเข่าลุกขึ้นมา วินาทีนั้นฉู่ลั่วหานรู้สึกโลกหมุน ฝ่าเท้าราวกับเหยียบลงบนทางเดินบนภูเขาที่สูงต่ำไม่เท่ากันก็ไม่ปาน เดี๋ยวล้มเดี๋ยวชน แผ่นหลังชนลงบนกำแพงอย่างจัง ในเวลานั้นเจ็บจนหอบหายใจเข้าทางปาก
“คุณเป็นอะไรไป?”
ถังจิ้นเหยียนที่ขึ้นมาตรวจดูอาการของหลงเซียวผ่านมาพอดี ประคองฉู่ลั่วหานเข้ามาไว้ข้างในอ้อมแขนของตนเอง ยื่นมือออกไปพอทาบลงบนศีรษะของเธอ ก็ชักกลับราวกับไฟฟ้าช็อตก็ไม่ปาน
“ทำไมถึงได้ร้อนขนาดนี้? คุณเป็นไข้แล้ว”
แต่ของที่อยู่บนร่างกายของหญิงสาวนี่คือเกิดเรื่องอะไรกัน?
แหงนหน้าขึ้นมองห้องไอซียูพิเศษแวบหนึ่ง คนชุดดำที่ดุดันโหดเหี้ยมด้านนอกประตู ไม่ยากที่จะจินตนาการว่าด้านในเป็นภาพอะไร ตระกูลหลงคนเหล่านี้ สมควรตายกันให้หมด!
ฉู่ลั่วหานออกแรงขัดขืน “ปล่อยฉัน ถังจิ้นเหยียน คุณปล่อยฉัน”
หัวคิ้วของถังจิ้นเหยียนบิดตัวเข้าหากันแน่น ตรงกลางระหว่างคิ้วสองด้านขมวดจนกลายเป็นร่องลึก “เวลาไหนแล้วคุณยังใส่ใจข่าวลือชู้สาวอะไรอยู่อีก? ฉู่ลั่วหาน มีชีวิตอยู่อย่างเป็นอิสระหน่อยได้ไหม? ให้ตัวเองเอาแต่ใจสักครั้งจะเป็นอะไร? ใครจะทำอะไรกับคุณได้?!”
พอเขาตะคอก เธอก็สงบลง หรือก็คือเธอไม่มีแรงที่จะขัดขืนอีกต่อไปแล้วจริงๆ
ถังจิ้นเหยียนนำเธออุ้มขึ้นลิฟต์ไปในทันที กดไปที่ชั้นบนสุด
ฉู่ลั่วหานถูกเขาวางเข้าไปในห้องพักผ่อนที่อยู่ในโรงพยาบาลของตนเอง “วันนี้ที่ไหนคุณก็ห้ามไป ฟ้าถล่มลงมาก็ต้องอยู่นิ่งๆ”
พูดจบถังจิ้นเหยียนก็หมุนตัวล็อคประตู รอตอนที่เขากลับเข้ามาอีกครั้งในมือมีถุงน้ำเกลือสองถุงเพิ่มขึ้นมา “ผมช่วยคุณลดไข้ก่อน ตอนนี้คุณอ่อนแอมากเกินไป จำเป็นต้องเสริมพลังงาน นอนดีๆ ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น”
ถังจิ้นเหยียนโน้มตัวลง หาเส้นเลือดบนหลังมือของเธอจนเจอ “จะไม่เจ็บ เชื่อใจผม”
ฉู่ลั่วหานยิ้มขึ้นเบาๆ เธอในตอนนี้นอกจากยิ้มดูเหมือนจะไม่มีสีหน้าแสดงความรู้สึกอะไรที่สามารถทำได้แล้ว “ถังจิ้นเหยียน คุณว่า ก่อนที่ฟ้าจะทำลายชีวิตคนคนนึงทิ้ง จะต้องให้เธอเป็นบ้าสิ้นหวังก่อนใช่หรือเปล่า?”
ปลายเข็มแทงเข้าไปในผิวอย่างราบรื่น เหมือนกับที่เขาพูด ไม่เจ็บ
ทดลองปรับความเร็วในการให้น้ำเกลือ ทำการมั่นใจว่าทุกอย่างพร้อม
ถังจิ้นเหยียนไม่ได้ตอบกลับเธอ แต่ไปหยิบผ้าขนหนูที่สะอาดในห้องน้ำ ช่วยเธอเช็ดคราบน้ำอาหารที่อยู่บนใบหน้า อีกทั้งเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ผมคาดหวังจริงๆว่า คนคนนั้นที่คุณพบเข้าก่อนจะเป็นผม ผมจะต้องแย่งคุณให้กลายเป็นภรรยาของผมก่อนหน้าเขา ไม่ให้โอกาสเขาได้ทำร้ายคุณ”
พูดอะไรไปก็สายแล้ว
ฉู่ลั่วหานมองดูเขา ค่อนข้างจนปัญญาคิดไม่ถึงว่าในเวลานี้เขายังมีอารมณ์อาลัยอาวรณ์อยู่อีก “ถังจิ้นเหยียน คุณคือผู้ชายที่ดีคนหนึ่ง แต่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ดี หากเลือกได้ ฉันก็จะไม่พบเข้ากับคุณก่อน อยู่ด้วยกันกับฉันคุณจะซวยได้”
และเธอไม่อาจจะทำใจได้
เช็ดสิ่งสกปรกที่อยู่บนร่างกายของเธอออกจนสะอาด ถังจิ้นเหยียนถือโอกาสนั่งลง “คุณดีมาก เป็นเขาที่ทำให้คุณกลายเป็นเช่นนี้ จนถึงตอนนี้ผมยังจำท่าทีตอนที่คุณยกเอาคนไข้ขึ้นมาทำซีพีอาร์ได้ดีหมอฉู่เท่ห์มากจริงๆ”
ฉู่ลั่วหานส่ายศีรษะโดยไม่พูดอะไร อยู่ๆคิดถึงอะไรขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน เอ่ยถามขึ้นว่า “ทำไมการดำเนินการผ่าตัดของหลงเซียวถึงได้ใช้เวลานานขนาดนั้นคะ? พูดโดยทั่วไปแล้วไม่ควรจะนานขนาดนั้น”
ถังจิ้นเหยียนก็อยากจะสนทนาเรื่องนี้กับเธอเช่นเดียวกัน ตัวเองก็ส่ายศีรษะอย่างสงสัยแปลกใจเช่นเดียวกัน “หลายปีก่อนหลงเซียวเคยมีอุบัติเหตุที่หัวใจได้รับความเสียหายใช่หรือเปล่า?”
หลายปีก่อน? ฉู่ลั่วหานไม่รู้
“เกิดอะไรขึ้นคะ?”
ถังจิ้นเหยียนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เปิดรูปภาพนึงขึ้น “นี่คือแผลเก่าและแผลใหม่ที่อยู่บนหัวใจของหลงเซียว ดูแผลเก่าอย่างน้อยที่สุดก็ซักห้าปีได้แล้ว อีกทั้งแทบจะซ้อนทับกับแผลใหม่ ถึงทำให้ความยากในการผ่าตัดเพิ่มมากยิ่งขึ้น”
มือที่ไม่ได้ใส่สายน้ำเกลือของฉู่ลั่วหานรับเอาโทรศัพท์มือถือมา มองดูอย่างละเอียด
จะเป็นไปได้ยังไง?!
เธอมองดูแผลเป็นและรอยเย็บของหัวใจที่อยู่บนรูป พร้อมพูดพึมพำกับตัวเอง “เป็นไปได้ยังไง…เป็นไปได้ยังไง…”
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าราวกับโดนของเข้า พูดซ้ำประโยคนั้นไม่ขาด คนทั้งคนราวกับถอดวิญญาณไปก็ไม่ปานดวงตาทั้งสองข้างจากรวมเข้าไว้ด้วยกันแปรเปลี่ยนเป็นสภาพว่างเปล่า นิ่งอึ้งมองดูหน้าจอโทรศัพท์มือถืออย่างกับคนโง่ มือสั่นไม่หยุดเพราะตกใจจนเกินระดับ
ถังจิ้นเหยียนเห็นท่า ก็รีบประคองไหล่ของเธอเอาไว้อย่างร้อนใจ น้ำเสียงหนักอึ้งขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว “เป็นอะไรไปกันแน่? ลั่วหานคุณอย่าทำให้ผมตกใจ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ฉู่ลั่วหานเงยหน้าขึ้นอย่างเหม่อลอย ดิ้นรนที่จะยืนขึ้นอย่างหัวชนฝา ไม่สนใจปลายเข็มที่ด้านหลังของมือ ดวงตาทั้งสองข้างราวกับควบคุมเอาไว้ไม่อยู่น้ำตาร้อนระอุไหลทะลักออกมา “ถังจิ้นเหยียน ฉันรู้แล้วค่ะ…ฉันรู้แล้ว…”
เธอคิดอยากจะพูดอะไรกันแน่?
“คุณไม่ต้องรีบ ค่อยๆพูด คุณค่อยๆพูด”
ฉู่ลั่วหานกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก ในลำคอราวกับถูกอะไรขวางกั้นเอาไว้ ผ่านไปอยู่นานถึงได้กลืนลมหายใจเฮือกหนึ่งลงไปได้ “ห้าปีก่อน…ห้าปีก่อนหลงเซียวประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ การผ่าตัดหัวใจของเขาเป็น…เป็นฉันที่ทำค่ะ”
อะไรนะ?!
แผ่นหลังของถังจิ้นเหยียนราวกับถูกสายฟ้าฟาด ยืดตรงตึงแน่น ยืนนิ่งอึ้งอยู่กับที่ “คุณ?”
ฉู่ลั่วหานยื่นมือแกะปลายเข็มที่อยู่บนหลังมือออก “ฉันต้องไปหาเขา ฉันต้องบอกกับเขา ผู้มีบุญคุณที่ช่วยชีวิตที่เขานึกว่าเป็นมาโดยตลอด ไม่ใช่โม่หรูเฟย…คือฉัน…”
เธอพูดไปด้วยภาษาผิดเพี้ยนไปด้วยการเคลื่อนไหวก็จะลงจากเตียงอย่างยุ่งเหยิง น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างเหิมเกริมราวกับเขื่อนแตกก็ไม่ปาน
ไม่ใช่แค่นี้!ไม่ใช่แค่นี้!แล้วก็ เพราะว่าการผ่าตัดนี้…
แขนของถังจิ้นเหยียนกอดหญิงสาวที่สูญเสียการควบคุมเอาไว้แน่น หยุดยั้งการเคลื่อนไหวที่บ้าคลั่งของเธอ “ลั่วหาน คุณฟังผมพูด ตอนนี้หลงเซียวยังคงกำลังไม่ได้สติ เขาไม่ได้ยินที่คุณพูด อีกอย่าง คุณให้เขารู้แล้ว เพราะอยากให้เขายิ่งปวดใจหรอ? เขาผิดมาห้าปี ตอนนี้ความจริงเปิดเผย คุณกลับจะจากไปแล้ว คุณจะให้เขาทนรับได้ยังไงกัน?”
ด้วยนิสัยของหลงเซียวแล้ว เขาจะต้องฆ่าคนให้หมดครึ่งโลกก็ต้องหาฉู่ลั่วหานออกมาให้ได้อย่างแน่นอน
หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนสูญเสียการเคลื่อนไหวลงอย่างกะทันหัน แยกริมฝีปากออกจากกันร้องไห้จนส่งเสียงไม่ออก มองเห็นเพียงแค่น้ำตาเผาไหม้ใบหน้าที่ซีดเผือด ทะลักไหลพรากลงมา
ทำไมจะต้องเป็นแบบนี้!ทำไมจะต้องทำกับเธอขนาดนี้!
ถังจิ้นเหยียนปลอบขวัญความรู้สึกของเธอ พยายามทำให้อารมณ์ของเธอฟื้นคืนสู่ปกติ “ลั่วหาน บอกต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวทั้งหมดกับผม มีโอกาส ผมบอกกับเขาทุกอย่างแทนคุณได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้”
ฉู่ลั่วหานเคลื่อนตัวออกจากอ้อมแขนของเขาอย่างไม่พูดไม่จา น้ำตาอาบเต็มใบหน้า มุมริมฝีปากกระอักกระอ่วน พอปิดตาลงน้ำตาก็ชำระล้างลงมาที่ใบหน้าอีกครั้ง
“ห้าปีก่อน…โรงพยาบาลที่ฉันฝึกปฏิบัติการได้รับผู้ป่วยรายหนึ่ง ในเวลานั้นทั่วทั้งร่างกายและใบหน้าของเขาต่างก็คือเลือด ฉันไม่รู้แม้แต่น้อยว่าเขาคือใคร โรงพยาบาลเอาเขาเป็น…สินค้าทดลอง…ดังนั้นฉันถึงสามารถลงมีดได้ ระหว่างการผ่าตัดเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น มือของฉันถูกมีดผ่าตัดกรีดจนได้รับบาดเจ็บ…”
ฉู่ลั่วหานพูดมาครึ่งหนึ่ง พยายามสูดหายใจ แต่กลับทำยังไงก็สูดหายใจเข้าไม่เต็มปอด หนึ่งนาทีเต็มๆ เธอกลั้นจนทั่วทั้งใบหน้าแดงระเรื่อขึ้น “แต่ฉันไม่อยากยอมแพ้เขา พยายามฝืนจนการผ่าตัดเสร็จสมบูรณ์…”
เธอพูดต่อไปไม่ได้อีก
ถังจิ้นเหยียนประคองเธอเอาไว้ พูดเสริมแทนเธอ “ดังนั้นมือของคุณถึงได้ทรุดลงเรื่อยๆ ทำให้ไม่สามารถหยิบมีดผ่าตัดได้อีก จำเป็นต้องย้ายไปยังแผนกอายุรกรรม ดังนั้น…ความทรมานที่คุณได้รับในหลายปีมานี้ ที่จริงแล้วต่างก็เป็นผู้ชายที่ตัวเองทุ่มเทอย่างสุดชีวิตช่วยชีวิตเอาไว้…มอบให้กับคุณ!หลงเซียวไอ้คนสารเลว!”