คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 151 อย่าไป ลั่วหาน
ตอนที่ 151 อย่าไป ลั่วหาน
หยวนชูเฟินร้องตะโกนเรียก ยื่นมือออกไปจะตบไปบนใบหน้าของฉู่ลั่วหาน ลักษณะท่าทางกับรังสีที่แผ่ออกมานั้นแน่นอนว่ากะจะตบฉู่ลั่วหานให้ถึงตาย
พอหลงจื๋อเห็นฉากนี้ก็รู้สึกขึ้นมาในทันทีว่าสถานการณ์ไม่ดีต่อเธอเป็นอย่างมาก จึงไม่สนใจอะไรมากมายขนาดนั้น หมุนตัวใช้แผ่นหลังของตนเองกำบังที่ด้านหน้าของฉู่ลั่วหานในทันที ถูกฝ่ามือของหยวนชูเฟินเข้าอย่างเต็มแรง
ดีที่ฝ่ามือนี้ตบลงที่แผ่นหลังของหลงจื๋อ ไม่เช่นนั้นอย่าพูดถึงว่าเป็นฉู่ลั่วหาน ต่อให้เป็นหลงจื๋อที่โดนตบลงไปบนใบหน้าก็บวมแดงขึ้นมาได้เช่นเดียวกัน
ฉู่ลั่วหานแหงนหน้าขึ้นอย่างตกตะลึง มองเห็นสีหน้าที่อดทนต่อความเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัดของหลงจื๋อ ก็ทั้งโทษตัวเองทั้งโมโห “หลงจื๋อ เธอบ้าไปแล้ว?”
“หากผมไม่กำบังแทนพี่เอาไว้ พี่ก็เสียโฉมแล้ว”
หยวนชูเฟินคราวนี้ยิ่งโกรธจนควบคุมอารมณ์ตนเองเอาไว้ไม่อยู่ เดิมทีคิดจะตบฉู่ลั่วหานระบายอารมณ์ คิดไม่ถึงว่าหลงจื๋อเจ้าเด็กนี่จะกล้ารับแทน ไฟโกรธภายในจิตใจก็ยิ่งไม่อาจจะหยุดยั้งได้
“หลงจื๋อ แกลุกขึ้นมา!ฉันจะตบนังผู้หญิงสารเลวนี่ให้ตาย!”
หยวนชูเฟินชูฝ่ามือขึ้นยังจะตบต่อไป ฉู่ลั่วหานสลัดตัวหลุดออกมาจากอ้อมแขนของหลงจื๋อ เธอไม่ยอมหลบเลี่ยง เธอจะเผชิญหน้าด้วยตัวเอง
ปัดการปกป้องของหลงจื๋อออก เธอหันหน้าเข้าหายืนอยู่ที่ด้านหน้าของหยวนชูเฟิน ความอ่อนล้าที่อยู่บนใบหน้ายังมีความห่อเหี่ยวอยู่เล็กน้อย น้ำเสียงกลับไม่มีความทนยอมเชื่อฟังเพื่อรักษาหน้าทุกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย หากแต่เป็นผงกศีรษะพร้อมกับเอ่ยขึ้นอย่างนิ่งสงบและสุภาพ “แม่คะ แม่เป็นห่วงหลงเซียว สงสารเขา หนูรู้ว่าแม่ทุกข์ใจ หากตบหนูจะทำให้แม่สบายใจขึ้นมาหน่อย แม่ตบได้อย่างเต็มที่ค่ะ”
หยวนชูเฟินอุทานออกมาอย่างประชดประชัน “เธอยังมามีเหตุผลอีก!เมื่อคืนนี้ไปที่ไหนมาล่ะ? ตัวเองยังสภาพนั้นแล้ว ไม่อยู่ที่โรงพยาบาลดีๆไปเกลือกกลั้วที่ไหนมา !”
พูดจริงๆแล้ว ต้นตอของทุกอย่างดูเหมือนต่างก็เป็นเพราะฉู่ลั่วหานออกจากโรงพยาบาลกลางคัน ตอนนี้ต่อให้เธอมีปากเต็มตัวก็พูดได้ไม่ชัดเจนแล้ว
ก็เลยไม่อธิบายอีกต่อไป “หนูมีธุระออกไปก่อนเวลา หนูมีส่วนรับผิดชอบ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นต่อมาในภายหลัง แม่ก็จะให้เป็นความผิดของหนูด้วยหรอคะ?”
เผชิญหน้ากับความใจเย็นและความที่เป็นคนมีความรู้ความสามารถของฉู่ลั่วหาน ไฟโกรธของหยวนชูเฟินก็ติดอยู่ที่ริมฝีปากระบายไม่ออกอย่างกะทันหัน เธอเกลียดฉู่ลั่วหาน เธอทำอะไรก็ผิดไปหมด ตอนนี้คิดอยากจะลงโทษ ย่อมมีเหตุผลหรือหาข้ออ้างได้เสมอ?
หยวนชูเฟินเพิ่งจะนิ่งเงียบลงไป โม่หรูเฟยก็เดินเข้ามาอย่างน่ารักอ่อนโยน คล้องแขนของหยวนชูเฟินเอาไว้อย่างเอาอกเอาใจ ปลอบประโลมเธอราวกับลูกสาวในไส้ก็ไม่ปาน “คุณป้า อย่าโมโหเลยค่ะ เธอเป็นคนยังไงคุณป้ายังไม่ทราบอีกหรอคะ? หากคุณป้าสู้รบเอาชนะกับเธอ จะต้องโมโหจนเสียสุขภาพอย่างแน่นอน มีความจำเป็นอะไรล่ะคะ?”
เธอเป็นคนยังไง?
ในใจของฉู่ลั่วหานอุทานออกมาอย่างประชดประชัน กลัวเพียงแต่ว่าฉู่ลั่วหานที่หยวนชูเฟินได้ยินจากปากของโม่หรูเฟย คงจะเป็นฉบับที่ไม่อาจจะทนดูต่อไปได้อีกกระมัง
หยวนชูเฟินอุทานออกมาอย่างประชดประชัน ชำเลืองมองฉู่ลั่วหาน “ไม่รู้ว่าตระกูลหลงซวยอะไรกัน!”
โม่หรูเฟยคล้องแขนของเธอเอาไว้ ที่มองกลับเป็นฉู่ลั่วหาน “เมื่อคืนนี้ เดิมทีพี่เซียวนั่งอยู่ในห้องของฉันดีๆ อยู่ๆก็ออกไปอย่างกะทันหัน ฉันยังนึกว่าคือเรื่องใหญ่อะไร ที่แท้คือเธอออกไปจากโรงพยาบาลกลางคัน ฉู่ลั่วหาน เธอยังคิดอยากจะทำร้ายเขายังไงอีกกันแน่!เธอทำร้ายเขามาสามปียังไม่พออีกหรอ? ถือว่าฉันขอร้องเธอก็แล้วกัน ปล่อยพี่เซียวไปได้หรือเปล่า?”
ในใจของฉู่ลั่วหานหัวเราะขึ้นอย่างประชดประชันจนแทบจะเสียรูป “โม่หรูเฟย ฉันคือภรรยาของเขา จะบอกว่าปล่อยไป คำพูดนี้ควรจะเป็นฉันที่บอกคุณ”
ตอนนี้คนคนเดียวยากที่จะเอาชนะคนสองคนได้ ฉู่ลั่วหานรู้ว่าตัวเองไม่สามารถถอยหลังกลับไปอย่างปลอดภัยได้ แต่เธอไม่อยากให้คนมาสาดโคลนใส่
หยวนชูเฟินขึงตาใส่เธอ “หุบปาก!อย่าให้ฉันได้ยินเสียงของเธออีก”
โม่ล่างคุนกับฟู่เหวินฟางมองดูฉู่ลั่วหาน ความรังเกียจภายในลมหายใจต่างก็ไม่ปิดบังเลยแม้แต่น้อยอีกต่อไป ฉู่ลั่วหานในสายตาของพวกเขาก็คือตัวเรือด เป็นตัวแทนของความอัปยศบางอย่าง
หลงจื๋อขมวดหางคิ้วเข้าหากันแน่น บนหน้าผากของเด็กหนุ่มรูปงามบีบเข้าหากันจนเป็นรอยเส้นเพราะความสงสารอย่างแท้จริง เขากดเสียงลงต่ำแล้วเอ่ยขึ้น “พี่สะใภ้ใหญ่ พี่อย่าไปทะเลาะกับคนบางกลุ่มที่มีความรู้ต่ำกว่า จะดึงให้คุณภาพของพี่ต่ำลง ไม่ต้องไปโกรธ”
ฉู่ลั่วหานตอนนี้ยังมีอารมณ์ไปโกรธที่ไหนกัน เพียงแต่รู้สึกทรมานที่ดวงตาแห้งเหือด ในลำคอดูเหมือนมีกลิ่นคาวเลือด “สถานการณ์ของพี่ใหญ่เธอเป็นยังไงบ้าง?”
“ได้ยินหมอบอกว่าหัวใจได้รับความเสียหาย สถานการณ์โดยละเอียดผมก็ไม่ชัดเจนเช่นเดียวกัน แต่ว่ารองคณบดีที่เก่งมากคนนั้นของพวกพี่อยู่ข้างในล่ะ คงจะไม่มีปัญหาอะไร”
ฉู่ลั่วหานพยักหน้า แยกห่างจากหยวนชูเฟินพวกเขาระยะหนึ่งมองดูห้องผ่าตัดอยู่ไกลๆ ด้านบนแสดงเวลาที่ใช้ในการผ่าตัด ได้ผ่านไปหกชั่วโมงสี่สิบนาทีแล้ว
โม่หรูเฟยมองหลงจื๋อแวบหนึ่ง แสร้งทำเป็นรู้ว่าอะไรควรไม่ควรหัวเราะขึ้นมาเล็กน้อย “หลงจื๋อ คุณแม่ของเธออยู่ทางนี้นะ ยังไม่เข้ามาอีก?”
จุดประสงค์นั้นเห็นได้ชัดว่าจะให้ฉู่ลั่วหานโดดเดี่ยว
ฟู่เหวินฟางก็เอ่ยขึ้นตามเช่นเดียวกัน “หลงจื๋อ อย่าแยกแยะหนักเบาไม่ออก”
หลงจื๋อแสยะมุมริมฝีปากเล็กน้อย น่าขำจริงๆ เขาตอนนี้ยังไม่ถึงตาที่บางคนจะมาออกคำสั่งเสียงสูง!
“ผมชอบยืนอยู่ตรงนี้ อากาศดี”
หลงจื๋อเดิมทีอายุก็น้อย เอาแต่ใจสักหน่อยต่อหน้าผู้ใหญ่ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลก ที่สำคัญก็คือเขาไม่อยากเห็นฉู่ลั่วหานขายหน้า
เฮ้อ ความรู้สึกแบบนี้ซับซ้อนมากจริงๆในใจของหลงจื๋อ
ในระเบียงทางเดิน พลังสองกลุ่มต่อสู้กันในความมืดอย่างเห็นได้ชัด ที่เด่นชัดยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ความแตกต่างของพลังของทั้งสองฝ่ายชัดเจนมาก ไม่ว่าใครต่างก็ดูออก ฉู่ลั่วหานแทบจะไม่มีสถานะใดๆในตระกูลหลง
สายตาที่เหลือบริเวณหางตาของหยวนชูเฟินมองดูทางนั้น ปากอุทานออกมาอย่างประชดประชัน “เป็นของน่าเกลียดประเภทเดียวกันอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ !”
เสียงที่ไม่ดัง กลับถูกทุกคนได้ยินอย่างชัดเจนพอดิบพอดี
บนใบหน้าของหลงจื๋อแสบร้อนขึ้นมาระลอกหนึ่ง ฉู่ลั่วหานแหงนศีรษะขึ้นอย่างละอายใจ “เป็นพี่ที่ทำให้เธอพลอยติดร่างแหไปด้วย”
“ไม่เป็นไร ผมชินมาตั้งนานแล้ว”
ทันใดนั้น ฉู่ลั่วหานรู้สึกว่าบนร่างกายของหลงจื๋อมีลมหายใจกลุ่มนึงที่แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง ค่อนข้างไม่สอดคล้องกับอายุของเขาในตอนนี้ ราวกับในใจเก็บซ่อนความรู้สึกได้รับความไม่เป็นธรรมและความเจ็บปวดเอาไว้อย่างมากมาย แต่กลับไม่เคยแสดงออกมาเลยแม้แต่น้อย
ผ่านไปเจ็ดชั่วโมง ในที่สุดไฟด้านนอกห้องผ่าตัดก็ดับลง
ฝีเท้าของฉู่ลั่วหานเดินขึ้นไปข้างหน้าสองเมตรอย่างเร่งรีบ ยังไม่ถึงหน้าประตูก็ถูกหยวนชูเฟินพวกเธอขวางเอาไว้ที่ด้านนอก ไม่รู้ว่าเป็นแขนของใครที่ชนอย่างรุนแรง อีกนิดเดียวก็แทบจะชนเธอจนล้มลงไปกองกับพื้น ร่างกายเอียงตัวล้มเข้าไปในข้อพับแขนของหลงจื๋อ ศีรษะทางด้านหลังชนไปบนซี่โครงผอมของเขา เจ็บปวดขึ้นมาระลอกหนึ่ง
หลงเซียวสวมหน้ากากออกซิเจน ตอนที่ถูกเข็นออกมาสีหน้าแห้งเหี่ยวจนแทบจะแยกแยะสีผิวเดิมไม่ออก ใบหน้าอันหล่อเหลาซีดเผือด ดวงตาปิดสนิท คิ้วขมวดเข้าหากันเอาไว้ ไม่รู้ว่าก่อนที่จะสลบกำลังคิดอะไรอยู่ ใบหน้าที่เศร้าหมองเต็มไปด้วยเรื่องที่เก็บเอาไว้ในใจ
ฉู่ลั่วหานอยากเดินเข้าไปดูข้างหน้า กลับถูกโม่ล่างคุนกันเอาไว้ที่ด้านนอก แม้ว่าไม่พูด แต่การกระทำที่ถือสิทธิ์แสดงบทบาทเจ้าของแทนเสียเองในเวลานี้ของโม่ล่างคุนได้ถือเอาว่าตัวเองเป็นพ่อตาของหลงเซียวแล้ว
“เซียวเอ๋อ ลูกเป็นยังไงบ้าง?”
“พี่เซียว ฉันคือหรูเฟย พี่สามารถได้ยินหรือเปล่าคะ?”
แต่ละประโยค เสียงที่เป็นห่วงเป็นใยเป็นอย่างมากราวกับเป็นญาติสนิท
ถังจิ้นเหยียนเดินออกมาจากห้องผ่าตัด การผ่าตัดระดับสูงที่ติดต่อกันเจ็ดแปดชั่วโมง ทำให้เขาในเวลานี้รอบดวงตาแดงก่ำ ด้านในลูกตาเต็มไปด้วยสีเลือดที่แดงสด
ถอดหน้ากากอนามัยออก มองเห็นดวงตาเปล่งประกายของฉู่ลั่วหานมองตามต่อท้ายหลงเซียว ถังจิ้นเหยียนก็เดินเข้าไปอย่างสงสารจับใจ “เขาได้พ้นขีดอันตรายแล้ว ตอนนี้ต้องพักผ่อนเงียบๆ คุณไม่ต้องเป็นห่วง”
“ขอบคุณนะคะ”
หลงจื๋อก็ผงกศีรษะด้วยเช่นเดียวกัน “ขอบคุณครับ หมอถัง”
มองดูหลงเซียวถูกเข็นไปที่ห้องไอซียู มองดูฉู่ลั่วหานถูกทำเหมือนเป็นคนนอกตัดขาดการใกล้ชิดกับหลงเซียวแต่กลับไม่สามารถที่จะช่วยอะไรได้ ไฟโกรธในใจของถังจิ้นเหยียนก็แทบจะอดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่จริงๆ
“ฉู่ลั่วหาน คุณตามผมมา”
ถังจิ้นเหยียนก็ไม่สนใจแล้วว่าตอนนี้คือสถานการณ์อะไร ดึงฉู่ลั่วหานออกมาจากหลงจื๋อแล้วเดินไปทางด้านนอก หลงจื๋อมึนงง หันกลับมาพบว่าคนหายไปแล้ว
ฉิบ ฝึกวิทยายุทธอะไรมา?
“ถังจิ้นเหยียน นี่คุณทำอะไรคะ?”
ในที่สุดก็หยุดฝีเท้าลง เธอได้ถูกถังจิ้นเหยียนดึงตัวมาถึงระเบียง ขวางเอาไว้ที่ริมรั้วกั้น
นิ้วชี้ของถังจิ้นเหยียนชี้ไปยังทางที่เดินมา ตะคอกด้วยความโมโหและปวดใจ “ผมอยากรู้ยิ่งกว่าว่าคุณคิดจะทำอะไร!ท่าทีแบบนั้นที่คนของตระกูลหลงปฏิบัติต่อคุณ คุณยังพยายามอะไรอีก? ขอเพียงแค่ท่าทีที่คนของตระกูลหลงมีต่อคุณดีหน่อยผมก็จะไม่ทำแบบนี้!ฉู่ลั่วหาน คุณเป็นผู้หญิงที่ฉลาดขนาดนี้ ทำไมในด้านความรู้สึกถึงไม่กระจ่าง!คุณเข้าใจหรือไม่เข้าใจกันแน่ คุณอยู่ที่บ้านตระกูลหลงไม่มีทางที่จะอยู่รอดต่อไปได้!”
ฉู่ลั่วหานเงยศีรษะ น้ำตาไหลลงมา เธอเช็ดเล็กน้อย ยิ้มขึ้นอย่างขมขื่น “ออกไปจากตระกูลหลงฉันก็จะอยู่รอดต่อไปได้หรอคะ? ฉันคือคนที่ใกล้จะตาย ไวรัสที่อยู่ในร่างกายของฉันได้เลวร้ายลงแล้ว คุณรู้หรือเปล่าคะ?”
ฝีเท้าของถังจิ้นเหยียนอ่อนลงอย่างแรง “ทำไมถึงไวขนาดนี้?”
น้ำตาที่อยู่บนใบหน้ายิ่งเช็ดยิ่งมาก สุดท้ายก็เลยไม่เช็ดอีกต่อไป “ความเร็วในการกำเริบของเชื้อไวรัสเอชไอวีมีส่วนเกี่ยวข้องกับพื้นฐานสุขภาพร่างกายของผู้ป่วย พื้นฐานสุขภาพร่างกายของฉันก็คงจะเป็นเช่นนี้ ดังนั้น เวลาของฉันไม่มากแล้ว ไม่นานฉันก็จะปรากฏความเจ็บปวด วูบหมดสติ ฉันจะออกจากบ้านตระกูลหลงก่อนหน้าที่จะเป็นเช่นนี้ คุณรู้ไหมคะ?”
น้ำตาที่รินไหลไม่หยุดของเธอก็เหมือนกับน้ำตาเทียนที่ร้อนระอุหยดลงบนใจเขา ถังจิ้นเหยียนไม่อาจทนดูได้อีกต่อไป สองแขนยื่นกางออก นำหญิงสาวที่อ่อนแอกอดเข้ามาไว้ในอ้อมแขน
เธอผอมลงไปมาก ดูเหมือนมีเนื้ออยู่ไม่กี่ร้อยกรัม กอดขึ้นมากระดูกที่อยู่บนร่างกายกระทบจนอ้อมกอดของเขาต่างก็เจ็บไปหมด
“ไม่ต้องกลัว ลั่วหาน ผ่านช่วงนี้ไปก็จะไม่มีน้ำตาไม่มีความเจ็บปวดอีกต่อไป”
ฉู่ลั่วหานซบกับอ้อมแขนของเขาร้องไห้อย่างหนักขึ้นมา
ถังจิ้นเหยียนลูบไปตามเส้นผมของเธอเบาๆ หลับตาลงอย่างปวดร้าวปานจะขาดใจ แสงสะท้อนจากน้ำตาเอ่อล้นอยู่ในดวงตาที่บวมแดง
“ผมได้เก็บตัวอย่างเลือดของเขาเอาไว้ จะทำการตรวจเลือดให้กับเขา รอผลออกมาผมจะบอกกับคุณ” เสียงที่อ่อนโยนของถังจิ้นเหยียนดังอยู่ที่เหนือศีรษะของเธอ
“ขอบคุณค่ะ”
เขาอุทานออกมาเบาๆ “ผมไม่อยากได้ยินสามคำนี้ออกมาจากปากของคุณแล้วจริงๆ”
ห้องไอซียู
หยวนชูเฟินเช็ดน้ำตา เช็ดหน้าผากและแก้มให้กับลูกชายอย่างร้อนอกร้อนใจ “คุณหมอ เมื่อไรเขาถึงจะฟื้นขึ้นมาได้คะ?”
หมอหวังโค้งคำนับตัวลง “โดยทั่วไปหลังจากผ่าตัดอย่างน้อยที่สุดก็ต้องสามถึงห้าชั่วโมงถึงจะฟื้นขึ้นมาได้ คุณอย่าร้อนใจ การผ่าตัดประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก เป็นรองคณบดีของเราลงมีดด้วยตัวเอง”
ถังจิ้นเหยียน?
หึ!
ชู้รักของฉู่ลั่วหาน!
“คุณป้า คุณป้าไม่ได้นอนมาทั้งคืนแล้ว ไปนอนพักข้างในสักหน่อยเถอะค่ะ ตรงนี้หนูดูแลก็พอแล้ว” โม่หรูเฟยพูดปลอบใจด้วยเสียงที่อ่อนโยน
หยวนชูเฟินพยักหน้า “ยังคงเป็นหรูเฟยที่รู้เรื่องรู้ราว หนูก็เหนื่อยมากแล้ว รอพยาบาลเข้ามา หนูก็พักผ่อนสักหน่อยนะ”
โม่หรูเฟยพยักหน้าอย่างว่านอนสอนง่าย ประคองหยวนชูเฟินไปยังห้องพักของห้องผู้ป่วยอย่างอ่อนโยนเอาใจใส่
ออกมาอีกครั้ง ฟู่เหวินฟางก็เอ่ยขึ้น “ฉันกับพ่อของแกก็กลับแล้วเหมือนกัน เช้าตรู่ขนาดนี้ทรมานซะ เฟยเฟย สองสามวันนี้แกจะต้องใจเย็นๆแสดงออกให้ดีๆ เตะฉู่ลั่วหานออกไปจากบ้านตระกูลหลงค่อยว่ากัน”
“วางใจเถอะค่ะแม่ ฉู่ลั่วหานคราวนี้มันตายแน่”
ห้องผู้ป่วยเงียบลงมา โม่หรูเฟยกุมมือของหลงเซียวเอาไว้ นิ้วมือที่เรียวยาวไล่ไปตามใบหน้าอันหล่อเหลาที่มีเค้าโครงชัดเจน เข้าใกล้เขาอย่างใกล้เคียงกับความโลภ แนบเขากับริมฝีปากของเขาทีละนิดๆ ปรับการเคลื่อนไหวให้บางเบาจูบลงบนริมฝีปากของเขาอย่างปรารถนาแรงกล้า
มือกุมหัวใจที่เต้นอย่างบ้าคลั่งเอาไว้ โม่หรูเฟยยิ้มขึ้นเล็กน้อย นิ้วมือไล่ไปตามเส้นผมของเขาทีละนิดๆ “พี่เซียว พี่ดูสิคะ สุดท้ายคนที่เฝ้าอยู่ที่ข้างกายของพี่ มีเพียงแค่ฉัน ต่อไป ก็เป็นได้แค่ฉัน ฉู่ลั่วหานผู้หญิงคนนั้น ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องไปจากพี่”
หลงเซียวได้หมดสติอย่างรุนแรง ยาชาที่อยู่บนร่างกายยังไม่หมดฤทธิ์ สมองแทบจะอยู่ในสภาพที่ว่างเปล่า
แต่ในจิตใต้สำนึกของเขา กลับมีเงาร่างหนึ่งวนเวียนอยู่รอบทิศทางไม่หยุด เงาร่างนั้นค่อยๆชัดเจนขึ้นอย่างช้าๆ เขายื่นมือออกไปคว้า กลับบินขึ้นอีกครั้ง…ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มบินขึ้นไปทางด้านบนท้องฟ้าไม่ยอมหยุด ไกลออกไปเรื่อยๆ
“ลั่วหาน…อย่าไป…ลั่วหาน…”