คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 120 เขาอยากกอดเธอไว้ในอ้อมแขน
ตอนที่ 120 เขาอยากกอดเธอไว้ในอ้อมแขน
เธอไม่อยากเห็น บริษัทฉู่ซื่อ ล้มลง แม้ว่าเธอจะเกลียดฉู่ซีหราน และฟางหลิงหยู้มากแค่ไหน บริษัทฉู่ซื่อ ก็เป็นทั้งชีวิตของพ่อ และวันนี้ผู้พิทักษ์คนสุดท้ายของ บริษัทฉู่ซื่อก็มีแค่เธอแล้ว ถ้าบริษัทฉู่ซื่อล้มลง อีกหน่อยเธอจะอธิบายกับพ่อแม่ของเธออย่างไร?
ช่วงชีวิตอีกครึ่งหนึ่งที่เหลืออยู่ของเธอ ก็จะจมอยู่กับการโทษตัวเอง และความเสียใจ
ถังจิ้นเหยียนขมวดคิ้วด้วยความเป็นห่วงเป็นใย บนใบหน้าที่สงบ และสง่างามนั้น เปลี่ยนเป็นทะเลที่ไร้ขอบเขตมืดมิดราวกับเวลากลางคืน เพราะความตึงเครียด และความเสียใจในตอนที่เห็นเธอ การเปลี่ยนแปลงแค่เล็กน้อยในการแสดงออกของเขาเต็มไปด้วยความรักที่ลึกซึ้ง
เขาอยากจะยื่นมือออกไปดึงหญิงสาวที่กำลังร้องไห้คนนี้เขามากอดไว้ในอ้อมแขนของตัวเองมากมาก แต่ตอนทำนี้ไม่ได้แล้ว สถานะของเธอถูกเปิดเผย ระหว่างคนทั้งสองนั้นมีช่องว่างที่ไม่อาจข้ามได้ขวางกั้นอยู่ เขาอดกลั้นความเจ็บปวดไว้ พยายามปรับลมหายใจให้คงที่
“สถานการณ์ของบริษัทฉู่ซื่อในตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”
น้ำเสียงที่อ่อนโยนของเขาดังขึ้นเหนือศีรษะทำให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจ น้ำตาไหลมากขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ อาบเต็มไปหมดทั้งหน้า
เธอสำลักเล็กน้อย “ห่วงโซ่เงินทุนของบริษัทฉู่ซื่อขาดไปแล้ว หากไม่มีเงินทุนหมุนเวียนเข้ามา ก็อาจจะถูกธนาคารยึดในไม่ช้า หุ้นของบริษัทฉู่ซื่อต้องหยุดลง นักลงทุนเอกชนบางคนอยากขายหุ้น แต่บริษัทฉู่ซื่อไม่มีเงินสดมากมายขนาดนั้น”
ถังจิ้นเหยียนสีหน้าดูเคร่งขรึม แม้ว่าเขาจะไม่ได้ยื่นมือเข้าไปแทรกแซงด้านการเงิน และการบริหารองค์กรโดยตรง แต่ข่าวของ ฉู่ซีหรานเพิ่งจะออกมาไม่ถึงหนึ่งวัน บริษัทขนาดใหญ่อย่าง บริษัทฉู่ซื่อ ทำไมถึงได้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงขนาดนี้ได้?
อูฐที่ผอมตายยังตัวใหญ่กว่าม้า เขาไม่เชื่อว่าสถานการณ์ในปัจจุบันของ บริษัทฉู่ซื่อ จะเกิดขึ้นจากเรื่องอื้อฉาวจริงๆ
“บริษัทฉู่ซื่อต้องการเงินทุนเท่าไหร่? ตอนนี้เพียงแค่ต้องอัดฉีดเงินทุนให้เพียงพอก็ได้แล้วใช่ไหม?”
ฉู่ลั่วหานลดศีรษะอยู่บนพวงมาลัย จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างกะทันหัน “รองคณบดี ฉันยังมีธุระต่อ จำเป็นต้องไปจัดการตอนนี้เลย คุณกลับไปก่อนเถอะ”
เธอกระตือรือร้นที่จะผลักคนให้ลงไปจากรถ ใช่ เธอคิดหาวิธีได้แล้ว แม้ว่ามันจะฟังดูไร้สาระ แต่เธอก็อยากจะลองดู
ตอนนี้บริษัทฉู่ซื่อต้องการเงิน เธอสามารถนำของใช้ส่วนตัวไปขายได้ เอาทุกอย่างออกไปจำนองให้หมด เปลี่ยนได้เงินเท่าไหร่ก็เท่านั้น
ส่วนเรื่องทางด้านของหลงเซียว เธอไม่อยากพึ่งพาตระกูลหลง
การที่แต่งงานกับหลงเซียว ทุกคนต่างก็คิดว่าเธอเห็นแก่สถานะ และทรัพย์สมบัติของตระกูลหลง เธอจะพิสูจน์ว่าเธอไม่ใช่!
“มีเรื่องอะไร? ให้ผมไปกับคุณไหม หมอฉู่ ตอนนี้คุณกำลังต่อสู้อยู่ตัวคนเดียว ให้ผมเป็นเพื่อนคุณ แล้วก็……”
ทันใดนั้นถังจิ้นเหยียนก็หยุดพูด บริษัทฉู่ซื่อต้องการเงินจำนวนมาก เรื่องนี้ ฉู่ลั่วหานไม่จำเป็นต้องพึ่งหลงเซียว เขาก็ได้เหมือนกัน!
ดังนั้น ถังจิ้นเหยียนพยักหน้า “ได้ คุณไปเถอะ เชื่อผม บริษัทฉู่ซื่อจะสามารถเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้แน่นอน เชื่อผม!”
เขากดเบาๆ ที่หลังมือของเธอ ฝ่ามืออุ่นทาบทับหลังมือของเธอ ราวกับว่าอุณหภูมิของผิวหนังทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้น
มองดูรถของฉู่ลั่วหานขับเคลื่อนออกไป ถังจิ้นเหยียนกดโทรศัพท์โทรออก
“เจี๋ยรุ่ย ฟังนะ ตอนนี้ถอนเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากบัญชีส่วนตัวของผม……”
“ตอนนี้?”เสียงของอีกฝ่ายลังเลเล็กน้อย
“ใช่ ตอนนี้เลย!”
ถังจิ้นเหยียนกล่าวแล้วกลับไปนั่งที่รถของตัวเอง นั่งอยู่บนเบาะคนขับ บังคับพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียว และจ้องมองไปยังทิศทางที่ลั่วหานหายไป
“จำนวนเงินที่คุณต้องการมากเกินไป จำเป็นต้องแจ้งกับธนาคารล่วงหน้าก่อนสิบสองชั่วโมง นี่เป็นวิธีที่ได้เลือกไว้ในตอนนั้นได้เตือนคุณไปแล้ว เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงรีบร้อนขนาดนี้?”
ทุบลงไปที่พวงมาลัยอย่างอึดอัดใจ เขาไม่เคยใช้เงินจำนวนมากขนาดนี้ ดังนั้นจึงไม่เข้าใจกระบวนการที่เกี่ยวข้อง ทรัพย์สินภายใต้ชื่อของเขาได้รับการดูแลจัดการโดยผู้จัดการการด้านการเงินมืออาชีพมาโดยตลอด
ถังจิ้นเหยียนมองดูเวลา ตอนนี้ตามเวลาของประเทศจีนเป็นเวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง เวลาของนิวยอร์กช้ากว่าจีนสิบสองชั่วโมง ……
อยากจะใช้เงิน จะต้องรอหลังจากนี้อีกสิบสองชั่วโมง หวังว่าบริษัทฉู่ซื่อจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในระหว่างสิบสองชั่วโมงนี้
“ทันทีที่ถึงเวลา คุณรีบไปจัดการทันที จำไว้ ต้องเร็ว!”
“OK! ฉันจะแจ้งกับธนาคารเดี๋ยวนี้เลย”
ฉู่ลั่วหานกลับไปถึงบ้านเช่าของตัวเอง หยิบเครื่องประดับทั้งหมดออกมาจากกล่องใต้เตียง และนั่งลงบนพื้น น้ำตาของฉู่ลั่วหานร่วงหล่นลงมา
ข้างในนี้ เป็นของขวัญทั้งหมดที่ได้รับจากพ่อแม่ของเธอในวันเกิดของเธอทุกปี เพื่อให้ลูกสาวสามารถเก็บความทรงจำตอนเด็กๆ ได้ง่าย สิ่งที่พ่อแม่ตระกูลฉู่มอบให้ล้วนแต่เป็นเครื่องประดับราคาแพง แต่ไม่ใช่เพื่อให้เธอนำมันไปแลกเป็นเงินมาใช้ในสักวันหนึ่ง……
เช็ดน้ำตาบนใบหน้าอย่างลวกๆ ฉู่ลั่วหานปิดฝาลง “พ่อคะ แม่คะ ขอโทษนะคะ ตอนนี้บริษัทฉู่ซื่อกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤต หนูไม่สามารถที่จะนิ่งดูดายได้ หนูรับปาก ถ้าหนูมีกำลังอีกครั้งจะต้องไปไล่ซื้อกลับมาให้ครบทุกชิ้นเลย พวกคุณอย่าโกรธหนูเลยนะคะ”
ตลอดทางที่ขับรถไป รถของฉู่ลั่วหานก็ได้มาถึงโรงรับจำนำ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉู่ลั่วหานมายืนอยู่ตรงนี้ เงยหน้าขึ้นไปมองป้ายที่ไม่เข้ากันกับตัวเองเลย
ฉู่ลั่วหานสวมแว่นกันแดดขนาดใหญ่ ปิดบังใบหน้าไปมากกว่าครึ่ง
“เครื่องประดับชิ้นนี้……ตอนนี้สามารถให้คุณได้มากที่สุดเพียงห้าแสนเท่านั้น”
“จะเป็นไปได้ยังไง? เครื่องประดับชิ้นนี้เป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นมูลค่ามากกว่าสองล้าน ทำไมคุณถึง……”
“คุณผู้หญิง นี่คือกฎของการจำนำ จะยอมหรือไม่ยอมก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณเองแล้วล่ะ”
ของขวัญที่คุณพ่อให้เธอในวันที่อายุครบ 18 ปี ในปีนั้นมีมูลค่ามากกว่าสองล้าน ตอนนี้ก็ยิ่งมีคุณค่ามาก แต่เขากลับอ้าปากบอกว่าให้ได้แค่ห้าแสน!
เครื่องประดับทั้งหมดเมื่อประเมินออกมา เดิมทีสามารถขายได้มากกว่า 100 ล้าน เมื่อรวมกันทั้งหมดกลับไม่คุ้มสามล้านเลยด้วยซ้ำ……
ฉู่ลั่วหานมองสมบัติที่มีความหมายที่สุดในชีวิตของเธอ กัดฟันแน่น
สามล้าน เธอจะขายความทรงจำดีๆ ที่พ่อและแม่มอบให้เธอเหรอ?
ไม่ เธอทำไม่ได้
เดินออกมาจากโรงรับจำนำ ฉู่ลั่วหานมองไปรอบๆ ทันใดนั้นก็ตระหนักขึ้นได้ โลกที่กว้างขนาดนี้ เธอเหมือนถูกถึงไว้เลย
ในเวลานี้ โทรศัพท์มือถือของฉู่ลั่วหานก็ดังขึ้น
ฉู่ลั่วหานแปลกใจมาก ที่หลงจื๋อกลับโทรมาหาเธอ
“พี่สะใภ้ สถานการณ์ของบริษัทฉู่ซื่อเป็นยังไงบ้างพอดีผมบังเอิญเห็นข่าวเข้า คุณเป็นยังไงบ้าง? ”
“ฉันไม่เป็นไร” น้ำเสียงเนือยๆ แสดงว่าคนๆ นั้นกำลังอารมณ์ไม่ดี
หลงจื๋อเกาหัว “การรับมือกับวิกฤตประเภทนี้ต้องใช้เงินจำนวนมาก แต่ว่าตอนนี้พี่ใหญ่ไม่อยู่บ้าน พี่สะใภ้ ในมือของผมมีเงินส่วนตัวอยู่ 50 ล้าน ให้คุณหมดเลย คุณเอาไปใช้ก่อน……ปกติผมมักจะใช้เงินครั้งละมากๆ อยู่แล้ว และที่บ้านก็ใช้เงินไม่มาก”
“ไม่ต้องหรอก เธอเก็บไว้ใช้เถอะ เงิน 50 ล้านสำหรับบริษัทฉู่ซื่อแล้วก็เป็นแค่น้ำนิ่งที่ไหลลึก แล้วจะทุบเข้าไปทำไม”
แม้ว่าหลงจื๋อจะเป็นคนในตระกูลหลงเหมือนกัน แต่สถานะของเขานั้นพิเศษ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีหุ้นเลยสักนิด ปกติเขาเป็นคนใจกว้าง แต่จริงๆ แล้วไม่ได้มีเงินออมมากมายอะไร
ฉู่ลั่วหานไม่อยากให้เขาโทษตัวเอง จึงพูดต่อ “เรื่องเงินฉันจะคิดหาทางเอง เธอเป็นนักเรียน ขอแค่ตั้งใจเรียนก็พอแล้ว”
“พี่สะใภ้ ขอโทษครับ ตอนนี้ผมยังไม่มีความสามารถมากพอ ทว่าผมจะพยายามแน่นอน!”
ความดื้อรั้น และความมุ่งมั่นของเขาทำให้ ฉู่ลั่วหานประหลาดใจเล็กน้อย “ตั้งใจก็ดีแล้ว”
“เงินก้อนนี้ยังไงผมก็จะเอาให้คุณ ถือซะว่าผม……ให้คุณยืมก็แล้วกัน อีกหน่อยคุณค่อยคืนผม ส่งหมายเลขบัญชีมาให้ผม เร็ว”
อารมณ์ที่ไม่สามารถบรรยายได้ ซับซ้อนมาก แปลกประหลาดมาก
แต่เหมือนว่า ความรู้สึกต่อต้านที่มีต่อเขาน้อยลงไปมาก
แน่นอนว่าเธอไม่มีทางเอาหมายเลขบัญชีให้เขา เธอไม่อยากติดค้างคนของตระกูลหลง
หากเธอต้องการใช้ตระกูลหลง การ์ดใบนั้นที่หลงเซียวเคยให้เธอไว้ เธอก็สามารถรูดได้เป็นหลายร้อยล้าน……
กลับไปนั่งในรถ ฉู่ลั่วหานเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก นอกจากเครื่องประดับแล้ว เธอยังมีไม้เด็ดสุดท้าย บ้านที่พ่อแม่ทิ้งไว้ภายใต้ชื่อของเธอ
วิลล่าที่สองแม่ลูกฟางหลิงหยู้อาศัยอยู่ในตอนนี้ ในตอนนั้นถูกโอนเป็นชื่อของเธอ ตอนนี้เธอสามารถขายวิลล่าได้
ใช่แล้ว ขายวิลล่า! จนถึงตอนนี้ พวกเธอไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่หรูหราอีกต่อไปแล้ว
รถกำลังเร่งความเร็ว ทันใดนั้นเรื่องอื้อฉาวของ ฉู่ซีหรานก็ปรากฏขึ้นบนในวิทยุในรถ ไม่เพียงแค่ฉู่ซีหราน ยังมีเธอด้วย
“ตามที่ทุกคนรู้กันเรื่องที่ความสัมพันธ์ถูกเปิดเผย สองพี่น้อง บริษัทฉู่ซื่อมีความสัมพันธ์ไม่ดีมาโดยตลอด ครั้งนี้เกิดเรื่องขึ้นกับน้องสาว ในฐานะของคุณหนูฉู่ที่มีสถานะเป็นถึงคุณนายหญิงตระกูลหลง กลับยังไม่ออกมาแสดงตัวจนถึงวันนี้ จะเห็นได้ว่าทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างลับๆ ……”
“ฉู่ลั่วหานไม่สนใจน้องสาว และเพลิดเพลินกับมงกุฎของคุณนายหญิงตระกูลหลงเพียงคนเดียว และถือโอกาสนี้แย่งบริษัทฉู่ซื่อไป หรือว่าได้วางแผนที่จะกำจัดต้นหนามนี้ไว้ตั้งนานแล้ว?”
ให้ตายเถอะ! เหล่าผู้สื่อข่าวที่ไร้ยางอายพวกนี้!
“ตระกูลหลง และบริษัทฉู่ซื่อ ต่างก็พากันตกตะลึงกับวิกฤตนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ฉู่ลั่วหานสิ่งที่เป็นลางไม่ดี ทุกคนอยู่ให้ห่างเอาไว้ หลงเซียวบินไปอเมริกา หม้ายครบเครื่องควรจะทำยังไงดี?”
และบนหน้าจอมือถือ เรื่องอื้อฉาว และคำด่ามากมายที่เกี่ยวกับเธอยิ่งไม่น่าดู เหล่าแฟนคลับของโม่หรูเฟยก็กัดเรื่องนี้ไม่ปล่อย ด่าฉู่ลั่วหานจนต้องยอมแพ้
ยิ่งไปกว่านั้น “เนื่องจากตอนนั้นเธอสามารถปีนขึ้นไปบนเตียงของคุณชายหลง ตอนนี้คุณชายไม่อยู่ ก็สามารถปีนขึ้นเตียงใครก็ได้ นอนสักคืน บริษัทฉู่ซื่อก็ไม่ต้องล้มละลายแล้ว!”
บัดซบ!
ฉู่ลั่วหานทิ้งโทรศัพท์ลงอย่างรุนแรง เงยหน้าขึ้นมองวิลล่า
รูม่านตาหดอีกครั้ง!
ด้านนอกของวิลล่าตอนนี้ถูกรายล้อมไปด้วยเหล่าผู้สื่อข่าว แต่ละคนเหมือนฉลามที่ได้กลิ่นเลือด มารอการเคลื่อนไหว และต้องการจะฉีกเหยื่อให้เป็นชิ้นๆ
ทางด้านหน้าและด้านข้างของวิลล่าไม่สามารถเข้าได้ ทันทีที่เธอเข้าไปใกล้ก็จะถูกเหล่าผู้สื่อข่าวเข้ามาล้อม เธอแค่คนเดียวไม่ใช่คู่ต่อสู้
ในเวลานี้ ฉู่ซีหรานที่กึ่งนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนกลัวจนมุดเข้าไปในหมอน “แม่คะ ทำยังไงดี?”
ฟางหลิงหยู้โกรธจนขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน คว้าหมอนในมือเธอโยนลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง เส้นผมที่สวยงามกระจัดกระจาย กระแทกเท้าด้วยความโกรธ “แกถามฉันว่าควรทำไง? แกลองมองดูสิ่งที่ตัวเองทำสิ! แก……ทำไมถึงไม่ระวังตัวแบบนี้!”
ฉู่ซีหรานร้องไห้ดั่งสายฝน “แม่คะ หนูถูกใครบางคนล้อมกรอบไว้ คืนนั้นหนูก็แค่ดื่มหนักไปเท่านั้น แต่เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นหนูไม่รู้อะไรเลยจริงๆ แม่ หนูสาบาน หนูไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวได้เขียนไว้จริงๆ แม่ คุณเป็นญาติคนเดียวของหนู แม่ต้องช่วยหนูนะ”
เสียงของลูกสาวค่อยๆ เบาลง ฟางหลิงหยู้ก็ปวดใจขึ้นมาแล้ว “พอแล้ว ตอนนี้แกเพิ่งจะผ่าตัดเสร็จ ร้องไห้ไม่ได้นะ จะเป็นอันตรายกับร่างกายได้ ฉันจะคิดหาวิธีเอง”
ฉู่ซีหรานเช็ดน้ำตาออก “แม่คะ ฉู่ลั่วหานผู้หญิงเลวคนนั้นจะต้องมีเงินอยู่ในมือแน่ ยังไงซะที่พวกเราเคยเอ่ยปากขอเงินเธอก็ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้งแล้ว เธอมองบริษัทฉู่ซื่อราวกับของรักที่สำคัญกว่าชีวิต คุณลองขอเงินกับเธอดู เธอต้องเอาให้แน่”
“ต้องให้แน่นอนเลยเหรอ? ทำไมฉันถึงไม่รู้มาก่อน?”
ทันใดนั้นเสียงหัวเราะอย่างโกรธเคืองก็ดังมาจากด้านหลังประตูห้องนอนที่ถูกผลักออก ร่างที่เหนื่อยล้า แต่กลับเฉียบคมของฉู่ลั่วหานยืนอยู่ตรงหน้าพวกเธอทั้งสองคน มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น จ้องมองไปที่ ฉู่ซีหรานด้วยความโกรธ “ขอเงินจากฉัน? ขอโทษนะ ไม่มีครั้งหน้าแล้ว”
ฟางหลิงหยู้หัวเราะอย่างเย็นชา “ดังนั้นเธอจะมองดูบริษัทฉู่ซื่อล้มละลายเหรอ? ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะทำได้!”
สายตาที่แหลมคมของฉู่ลั่วหานมองไปที่ฉู่ซีหราน การดูถูกที่มุมหางตาเป็นเหมือนมีดแทงเข้าที่ใบหน้าของเธออย่างแรง “แน่นอนว่าฉันทำไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้น ฉันถึงต้องการจะขายทรัพย์สินส่วนตัวเพื่อปกป้องความอยู่รอดของบริษัทฉู่ซื่อไว้”
ทรัพย์สินส่วนตัว?
ฟางหลิงหยู้หรี่ตา “เธอหมายความว่าไง?”
ฉู่ลั่วหานมองไปรอบ ๆ ห้องนอนเจ้าหญิงที่หรูหราใหญ่โตของ ฉู่ซีหราน ที่นี่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของเธอ เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดในวิลล่า แต่หลังจากที่ ฉู่ซีหรานเข้ามาก็ทำทุกวิถีทางเพื่อให้สถานที่แห่งนี้เป็นของตัวเอง จนตอนนี้ไม่สามารถมองเห็นเค้าเดิมได้แล้ว
“เห็นได้ชัดว่า วิลล่าแห่งนี้ คือทรัพย์สินส่วนตัวของฉัน ภายในสองวันนี้ฉันจะขายบ้านทิ้ง สำหรับพวกคุณ เก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้วก็ออกไปจากบ้านตระกูลฉู่”