คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 118 โครงการมีปัญหา รอฉันกลับมา
ตอนที่ 118 โครงการมีปัญหา รอฉันกลับมา
อาคารMBK ในห้องทำงานประธานบริษัท
จี้ตงหมิงเข้ามาพร้อมกับไปรษณีย์ด่วนพิเศษระหว่างประเทศ วางเอกสารลงบนโต๊ะทำงานของหลงเซียวด้วยสีหน้าที่ดูไม่ดีเลย “ท่านประธาน เกิดเรื่องแล้วครับ”
หลงเซียวมองไปยังคนที่พูด จี้ตงหมิงคอยติดตามเขามาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว และรู้สไตล์การทำงานของเขาเป็นอย่างดี ไม่ว่าพบเจอกับปัญหาที่ใหญ่แค่ไหน เขาก็ไม่ชอบเห็นความตื่นตระหนก และสับสนของลูกน้อง
เห็นได้ชัดว่า ปฏิกิริยาของจี้ตงหมิงในตอนนี้ ทำให้ท่านเซียวไม่พอใจเล็กน้อย
หลงเซียวเลื่อนสายตาจากใบหน้าของเขาลงมาที่ไปรษณีย์ด่วนพิเศษ พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ “เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ถึงได้ร้อนรนแบบนี้”
จี้ตงหมิงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ ถึงจะพูดขึ้น “ทางด้านซีแอตเทิล มีโครงการหนึ่งเกิดปัญหาขึ้น ได้ถูกเจ้าหน้าที่ยึดแล้ว ไม่รู้เหตุผลที่เฉพาะเจาะจง ตอนนี้สถานการณ์ร้ายแรงมาก เกรงว่าคุณจำเป็นต้องไปจัดการด้วยตนเอง”
หลงเซียวขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น “นายหมายถึง โครงการ SKY?”
จี้ตงหมิงพยักหน้า “ใช่ครับ โครงการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของ MBK ในสหรัฐอเมริกา ถูกสงสัยว่ามีการละเมิดหลายรายการ ตอนนี้ได้ถูกปิดตัวลงแล้ว คนงานกำลังสร้างปัญหาอยู่ในสถานที่ก่อสร้าง คนที่รับผิดชอบก็หายตัวไปแล้ว ตอนนี้คนที่อยู่ทางนั้นกำลังพยายามแก้ไขอย่างดีที่สุด แต่กระดาษนั้นไม่สามารถทนไฟได้”
ท่านเซียวเปิดเอกสาร ภายในเป็นหมายเรียกของศาลจากทางการซีแอตเทิล
ช่างเป็นเรื่องที่น่าขำสิ้นดี!
ท่านเซียวได้รับหมายศาลจากศาลจริงๆ !
โยนหมายศาลลงบนโต๊ะด้วยความโกรธ ความโกรธของ ท่านเซียวนั้นไม่สามารถหยุดยั้งได้ “ให้ลินดาซื้อตั๋วสำหรับเที่ยวบินที่เร็วที่สุด แล้วบินไปตอนนี้เลย”
“ตั๋วเครื่องบินได้ซื้อเสร็จแล้วครับ ออกเดินทางตอน 11โมง”
หลงเซียวยกข้อมือขึ้น นาฬิกาข้อมือแสดงเวลา 10 โมง 10นาที
“ดี เอารถออก ไปที่สนามบิน”
หยิบหนังสือเดินทางจากโต๊ะทำงาน หยิบเสื้อคลุมที่แขวนอยู่บนพนักเก้าอี้ด้านหลัง หลงเซียวเดินไปด้วยพลางกดโทรศัพท์โทรออกไปที่เบอร์โทรศัพท์ของฉู่ลั่วหาน
ฉู่ลั่วหานกำลังตั้งแถวเตรียมที่จะเจาะเลือด โทรศัพท์มือถือก็ขึ้น
เป็นหลงเซียว!
ปฏิกิริยาแรกก็คือ หรือว่าในช่วงเวลาสุดท้ายที่จะหมดลง หยวนชูเฟินได้ตรงไปหาเขาเหรอ?
หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแนบหูด้วยความกังวล ฉู่ลั่วหานลดเสียงต่ำ “ฮัลโหล”
ฝีเท้าของหลงเซียวก้าวอย่างรวดเร็ว และรีบมาก น้ำเสียงเริ่มกระวนกระวายเล็กน้อยตามจังหวะฝีเท้า “ผมมีธุระนิดหน่อยต้องเดินทางไปอเมริกา คุณอยู่บ้านก็ดูแลตัวเองด้วย ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ให้รอผมกลับมาจัดการ จำไว้ ไม่ว่ามันจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น อย่าถอยออกมา”
ฉู่ลั่วหานเดินหน้าเข้าแถว พยักหน้าอย่างเข้าใจ “ค่ะ คุณก็เหมือนกัน อยู่ทางนั้นต้องดูแลตัวเองด้วย”
หลงเซียวขึ้นรถ ทิ้งกระเป๋าเอกสารไว้ที่เบาะหลัง “รับปากผม ตอนที่ผมไม่อยู่ อย่าทนต่อความอึดอัด อย่ากดดันตัวเอง ทางด้านของวิลล่าผมจะส่งคนให้ไปเฝ้าระวัง ไม่มีใครทำร้ายคุณได้แน่นอน”
หัวใจของ ฉู่ลั่วหานเอ่อล้นไปด้วยกระแสความอบอุ่น บนใบหน้าเผยให้เห็นสีหน้าที่มีความสุขออกมาโดยไม่รู้ตัว ตอบตกลงด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล และอ่อนโยน “ฉันจะรอจนคุณกลับมาอยู่ที่บ้าน”
หลังจากที่ได้ยินประโยคนี้แล้ว ความหงุดหงิดในใจของ ท่านเซียวก็ ดีขึ้นอย่างอธิบายไม่ถูก ใบหน้าที่เมื่อกี้นี้ยังเต็มไปด้วยความมืดมนกลับมีความสุขเล็กๆ ปรากฏขึ้นมา “ดี รอผมกลับมานะ”
“คนต่อไป ฉู่ลั่วหาน”
ในตอนท้าย เสียงแจ้งของพยาบาลก็ดังแทรกขึ้นมา
ฉู่ลั่วหานขานกลับไป และลดเสียงพูดกับไมโครโฟนว่า “ฉันกำลังจะตรวจร่างกาย เข้าแถวเพื่อเจาะเลือดอยู่ ไว้ค่อยคุยกันนะคะ”
ท่านเซียวอมยิ้มอย่างมีความสุข ตอนนี้เวลานี้ ดูเหมือนว่าภรรยาของเขาจะเริ่มเข้าสู่บทบาทแล้ว ในเรื่องเล็กน้อย ทำให้เขารู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่ไม่คุ้นเคยระหว่างสามีและภรรยา
ความรู้สึกที่บอบบาง และอบอุ่นมาก
“เจาะเลือดเจ็บหน่อย ทว่าไม่ต้องกลัวหรอกนะ” เขาเตือนอย่างใส่ใจ ชั่วขณะหนึ่งเขาหวังว่าตัวเองจะสามารถอยู่เคียงข้างเธอ ไม่ว่าจะเป็นในตอนที่เจาะเลือด กินข้าว เดินเล่น รถติด เขาหวังจะได้ทำเรื่องเล็กๆ มากมายไปพร้อมกับเธอ
ฉู่ลั่วหานวางสายไป เหมือนว่าประโยคไม่ต้องกลัวของหลงเซียวนั้นจะมีพลังเวทมนตร์จริงๆ เธอไม่รู้สึกถึงความเจ็บเลยสักนิด โดยไม่ทันรู้ตัวเลือดบนแขนของเธอก็ถูกดูดไปแล้วกว่าครึ่งหลอดฉีดยา
จี้ตงหมิงรอให้เขาคุยโทรศัพท์จนเสร็จเรียบร้อย ถึงจะพูดขึ้น “เจ้านาย สถานการณ์ทางซีแอตเทิลในตอนนี้ เบื้องต้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว อาจต้องใช้เวลาสักระยะในการดำเนินการจัดการ”
หลงเซียวดึงเน็คไทอย่างหงุดหงิด “ผู้ประกอบการจีนต้องแบกรับความเสี่ยงต่างๆ อยู่แล้ว เมื่อเข้าไปขยายธุรกิจในต่างประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อีกด้วย ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ พูดให้ชัดเจน”
“ครับ”
ใช้เวลาขณะที่เดินทางไปยังสนามบิน จี้ตงหมิงได้อธิบายเรื่องที่เกี่ยวกับโครงการตลอดทาง ยิ่งเขาพูดละเอียดมากเท่าไหร่ หลงเซียวก็ยิ่งตระหนักได้ว่า เกิดปัญหาใหญ่แล้ว
อันที่จริง เมื่อจัดการขึ้นมามันซับซ้อนมาก
ใกล้จะขึ้นเครื่อง หลงเซียวได้กดโทรหาหยวนชูเฟิน
ยังไม่ทันที่หยวนชูเฟินจะได้เอ่ยปาก หลงเซียวก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “แม่ บริษัทเกิดเรื่องนิดหน่อยผมจะไม่อยู่ที่จีนหลายวัน ในช่วงเวลานี้ทางที่ดีคุณอย่าได้แตะต้องเธอแม้แต่ปลายนิ้ว ไม่อย่างนั้นไม่ต้องรอให้คุณลงมือ ผมก็จะจัดการเรื่องระหว่างพวกเราด้วยตัวเอง”
หยวนชูเฟินโกรธจนเขวี้ยงถ้วยกาแฟจนแตก “หลงเซียว! แกพูดกับฉันยังไง!”
“นี่คือจุดยืนของผม คุณก็น่าจะรู้จักนิสัยผมดี ถ้าหลังจากที่ผมกลับมาแล้วเธอมีการเปลี่ยนแปลง ผมจะไม่เฝ้าดูอย่างนิ่งดูดายแน่”
“แก! หลงเซียวแก……”
โทรศัพท์ถูกตัดสายไปแล้ว
หยวนชูเฟินหยิบถ้วยกาแฟถ้วยเปล่าขึ้นมา “เพล้ง” แตกละเอียดไปอีกอัน!
“สู้ฟ้าแล้ว! ถึงกลับกล้าขู่ฉันที่เป็นแม่เลย!”
หลงจื๋อที่อยู่ในห้องโถงด้านข้างเมื่อได้ยินเสียงโกรธเกรี้ยวของหยวนชูเฟิน ก็คิดได้เลยว่าคงจะเป็นเพราะพี่ใหญ่ไปกดดันเธอแน่ ตัวเองจึงถอนหายใจ พูดแบบนี้ แสดงว่าพี่ใหญ่เริ่มที่จะปกป้องฉู่ลั่วหานแล้ว
ตราบใดที่ ฉู่ลั่วหานคนโง่ที่ทั้งดื้อรั้น และเข้มแข็งยังสบายดี เขาก็วางใจแล้ว
สำหรับหยวนชูเฟินจะสร้างปัญหาอย่างไรก็ปล่อยเธอไป
หลงจื๋อหยิบกุญแจรถมาหนึ่งคัน โยนไปโยนมาอยู่ในมือ และไปโรงเรียนอย่างอารมณ์ดี
เมื่อพูดถึงการเข้าเรียน คุณชายรองหลงก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดก็คือการไปโรงเรียน การเข้าเรียนในประเทศจีน ช่างน่าเบื่อ น่าเบื่อ แล้วก็น่าเบื่อ
ดังนั้นคุณชายรองหลงเมื่อต้องเข้าเรียนหลักสูตรภาคบังคับก็จะโดดเรียน สำหรับวิชาเลือกนั้น อะไรคือวิชาเลือก?
แต่ว่าวันนี้ เขาอารมณ์ดี จึงตัดสินใจจะไปเดินเล่นรอบๆ โรงเรียนสักรอบ
หลังจากเจาะเลือดเสร็จ ถัดมาเป็นเนื้อหาการตรวจสุขภาพบางส่วนที่ถูกล็อกไว้ เมื่ออธิบายเนื้อหาของโครงการทั้งหมดจบก็เป็นเวลา เที่ยง 12 โมงแล้ว ก่อนตรวจสุขภาพไม่สามารถกินข้าว ฉู่ลั่วหานจึงหิวจนหัวใจด้านหน้าติดกับด้านหลัง
“หมอฉู่ เมื่อกี้พวกเราเพิ่งไปเจาะเลือดมา ตอนเที่ยงจะต้องบำรุงให้มากๆ ออกไปกินข้างนอกกันเถอะ!”
จี้ซือหยู่ทำหน้าขมขื่น “ใช่ ดูดเลือดไปเยอะขนาดนั้น จะต้องกินข้าวกี่ชามถึงจะทดแทนกลับมาได้ พี่สาวฉันปวดใจมากเลย!”
ฉู่ลั่วหานยิ้ม บางทีเธออาจจะรับรู้ความเจ็บปวดได้ช้าจริงๆ นั่นแล่ะ ความเจ็บปวดจากการเจาะเลือดระดับนี้ไม่นับว่าเป็นอะไร “อยากกินอะไร ฉันเลี้ยงเอง”
จ้าวเหมียนเหมียนหัวเราะเฮอเฮอ “ดีขนาดนี้เลย? อะไรก็ได้ใช่ไหมคะ?”
ฉู่ลั่วหานพยักหน้า “อะไรก็ได้ทั้งนั้น”
จี้ซือหยู่ทั้งสองคนขยิบตาให้กัน “อะแฮ่ม อาหารฝรั่ง อาหารญี่ปุ่น และอาหารฝรั่งเศส อะไรก็ได้ใช่ไหมคะ?”
ฉู่ลั่วหานพยักหน้ายืนยัน “ใช่ อะไรก็ได้ ไกลขนาดไหนก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันขับรถพาพวกเธอไปเอง”
“ว้าว! ภรรยาท่านประธานผู้ยิ่งใหญ่! ฉันชอบเพื่อนที่หรูหราแบบนี้ที่สุด! งั้น อาหารญี่ปุ่นฮอกไกโดดีไหม? ชีชี ได้ยินคนอื่นบอกว่าอาหารอร่อยมาก แต่ว่าค่าอาหารแค่มื้อเดียวก็แพงเท่าค่าครองชีพตลอดทั้งเดือนเลย”
“ไม่มีปัญหา ไปที่ฮอกไกโดนั่นแล่ะ”
จี้ซือหยู่อ้าปากกว้าง “พระเจ้า สุดยอดเลย! หมอฉู่ฉันรักคุณมากเลย!”
ฮอกไกโดอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาล ขับรถไป 15 นาทีก็ถึงแล้ว
จ้าวเหมียนเหมียน และจี้ซือหยู่นักอยู่ในรถไมบัค ถอนหายใจอย่างหนักมาตลอดทาง ราวกับได้เห็นชีวิต และความตาย
ในระยะสั้น คนทั้งสองคนในชนชั้นพลเรือนกำลังเผชิญหน้ากับโลกของคนรวย แหงนมองจนคอเกือบหัก
เมื่อเข้าไปในร้าน ทั้งสามคนเลือกที่นั่งริมหน้าต่าง ร้านอาหารชั้นเลิศมักจะเงียบสงบเสมอ คนเราไม่มีทางแออัดตลอดเวลา
“อยากกินอะไรก็สั่งเองนะ ” ฉู่ลั่วหานมอบหน้าที่ให้แก่พวกเธอ
เมื่อคนทั้งสองมองเห็นเมนูอาหารลูกตาก็แทบหลุดออกมา “โห! ซูชิจานนี้แค่จานเดียวก็ร้อยแปดสิบเลยเหรอ มีแค่ไม่กี่ชิ้นเอง! โห ปล้นกันหรือเปล่า!”
“ซาซิมิอันนี้ก็โอเวอร์มาก ให้ตายเถอะ ทั้งหมดแค่สองร้อยกรัม จะเอาตั้งสามร้อยหกสิบหยวนเลย ที่นี่มันอะไรกัน? แค่อยากกินอิ่ม เงินเดือนทั้งเดือนกลับไม่เหลือแล้ว”
ฉู่ลั่วหานนั่งอยู่ตรงข้าม พูดขึ้นอย่างใจเย็น “ไม่เป็นไร ชอบอะไรก็สั่งเลย ถ้าไม่พอสามารถสั่งสองที่ก็ได้ อย่าใส่ใจกับราคาเลย”
คนทั้งสองมองไปที่ฉู่ลั่วหานอย่างชื่นชม ราวกับมองภรรยาท่านประธาน “เป็นคนรวยจริงๆ ด้วย ดุดันมาก เฮอเฮอ หมอฉู่ อีกหน่อยพวกเราอยู่กับคุณดีกว่า”
ฉู่ลั่วหานยิ้ม “พวกเธอค่อยๆ เลือกนะ ฉันจะไปห้องน้ำ”
เดินไปถึงห้องน้ำ ฉู่ลั่วหานปิดประตูห้องน้ำลง ได้ยินเสียงผู้คนพูดคุยกันอยู่ด้านนอก
“ฉู่ซีหรานยัยโสเภณีคนนั้น ได้ให้คนช่วยเธอนัดหมอสูติ – นรีเวชแล่ะ ผู้หญิงคนนี้เล่นใหญ่เกินไปแล้วมั้ง?”
ฉู่ซีหราน? เธอเป็นอะไร?
เงี่ยหูตั้งใจฟังต่อ
“เธอไม่รู้เหรอ? เรื่องนี้ได้ถูกเผยแพร่กระจายไปทั่วในกลุ่มแล้ว ฉู่ซีหรานได้นัดเซ็กส์กับใครบางคน เหมือนว่าจะถูกเขาทำจนท้องโต และคิดจะแอบเอาเด็กออกอย่างลับๆ”
อะไรนะ?! ฉู่ซีหรานท้องเหรอ? และคิดจะเอาเด็กออกด้วย?
“โห! พูดจริงพูดเล่นเนี่ย? ปกติเธอเป็นคนหยิ่ง และบ้าคลั่งมาก ยังมีเวลาที่ถูกคนอื่นเล่นด้วยเหรอ โห พี่สาวของเธอเป็นถึงคุณนายหญิงตระกูลหลงเลยนะ ใครกันที่กล้าเล่นเธอ ไม่โดนหยิกตายในทุกๆ นาทีเหรอ?”
“เฮอเฮอเฮอ พี่สาวของเธอ? การแต่งงานที่ร่ำรวยแบบนี้ เธออย่าได้อย่าเพ้อฝันไปเลย วันนี้ถูกจับขึ้นสวรรค์ พรุ่งนี้ก็อาจจะถูกเหวี่ยงลงนรก”
“ก็จริงนะ! ฉู่ลั่วหานผู้หญิงคนนั้น แค่ดูก็ไม่เหมือนกับคนที่จะสามารถอยู่ในตระกูลที่ร่ำรวยแบบนั้นได้นานเลย”
“ใช่ไหมล่ะ! เหมือนมีชีวิตอยู่ในละครแค่สองตอน พวกเราก็รอดูความสนุกเถอะ”
คนทั้งสองคุยกัน แล้วเดินออกจากห้องน้ำไป จิตใจของฉู่ลั่วหานไม่สามารถสงบลงได้เป็นเวลานาน
ฝ่ามือกดอยู่บนอ่างล้างมือ ตัวเองที่อยู่ในกระจก โกรธจนหน้าซีดไปมาก
ฉู่ซีหรานกำลังตั้งท้อง เธอเองก็ไม่สามารถนั่งอยู่บนตำแหน่งคุณนายหญิงตระกูลหลงได้อย่างมั่นคง
แค่แอบนั่งฟังคำพูดที่สบประมาทแบบนี้อยู่ในนี้ก็รู้สึกแย่มากแล้ว แล้วโลกภายนอกจะพูดถึงพวกเธออย่างไรกัน?
ไม่สามารถเก็บความโกรธไว้ได้ ฉู่ลั่วหานกดโทรออกไปที่เบอร์โทรศัพท์ของฉู่ซีหราน
โทรศัพท์ดังอยู่นานถึงจะมีคนรับสาย
“มีอะไร! ถ้าไม่มีธุระอะไรก็ไม่ต้องโทรมาหาฉัน! ” ฉู่ซีหรานขี้โมโหมาก
ฉู่ลั่วหานกดนิ้วลงบนอ่างล้างมืออย่างแรง “เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่? เด็กเป็นของใคร?”
ฉู่ซีหรานตกตะลึง ปฏิเสธอย่างกระอักกระอ่วน “อะไร……เด็กอะไร! ฉันไม่เข้าใจว่าเธอพูดอะไร!”
“ยังจะเสแสร้งอยู่อีกเหรอ? ที่เธอจะเอาเด็กออก เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”
ฉู่ซีหรานนั่งอยู่นอกคลินิกนรีเวชวิทยา มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่นด้วยความตกใจ “เหลวไหล! ฉันจะทำเรื่องแบบนั้น……ได้นังไงกัน!”
ฉู่ลั่วหานอยากจะบีบคอเธอให้ตายจริงๆ !
“เธอฟังฉันนะ ตอนนี้เธอเป็นถึงผู้บริหารระดับสูงของ บริษัทฉู่ซื่อ ชื่อเสียงของเธอจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับชะตากรรมของ บริษัท อย่าได้คิดสร้างปัญหา!”
“เธอพูดหมดหรือยัง! ถ้าพูดหมดแล้วก็วางซะ! แปลกคน!”
วางสายลงอย่างรวดเร็ว ฉู่ซีหรานลูบหน้าอก และหายใจอย่างรุนแรง เธอ……เธอรู้ได้ยังไง? เธอไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครเลยนะ!
ไม่มีทาง ไม่มีทาง! เธอคงจะเดามั่วไปเอง!
ไม่เป็นไร มันจะต้องไม่เป็นไร!
“คุณคะ เข้าไปเถอะ ถึงคิวคุณแล้ว”
คุณหมอในชุดกาวน์คนหนึ่งเดินเข้ามา ฉู่ซีหรานตกใจจนทำโทรศัพท์ตกพื้น “คะ……ค่ะ”
“คุณแน่ใจเหรอว่าจะไม่เอาแล้ว? เด็กมีพัฒนาการที่ดีมากเลย”
“ไม่เอา! ไม่ต้องพูดมาก! เร็วๆ หน่อย!”