คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 115 ดูหนัง ไปห้องสำหรับคู่รัก
ตอนที่ 115 ดูหนัง ไปห้องสำหรับคู่รัก
ทันใดนั้นเธอก็ไม่อยากปล่อยมือแล้ว สามปีผ่านไปแล้วความเจ็บปวดที่ถูกถักทอขึ้นมา แม้มันจะทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน แม้ว่ามันจะกลายเป็นความชอกช้ำไปหมดแล้ว แต่ทุกครั้งที่เธอย้อนกลับไปคิดถึงมัน ก็ทำให้เจ็บปวดรวดร้าวได้ทุกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทุกประโยคที่เขาพูดข้างๆ หูของเธอเต็มไปด้วยความรักอย่างลึกซึ้ง กลับดูเหมือนมือข้างหนึ่ง ออกแรงดึงเธอออกมาจากในวังวน เธอตะกายออกมาจากโคลนทีละเล็กทีละน้อย และกำจัดอุปสรรคแห่งความเจ็บปวดออกไปทีละเล็กทีละน้อย
ในเวลาสองวันสุดท้าย เธอควรจะไปทำอะไรที่ไหน?
“หมอฉู่? เมื่อกี้นี้มีคนไข้เรียกคุณล่ะ?”
จู่ๆ ผู้ช่วยก็เรียกฉู่ลั่วหานอย่างกะทันหัน เธอถึงตระหนักได้ว่าเธอนั้นได้ใจลอยขณะที่อยู่ในวอร์ดผู้ป่วย ปกปิดความว้าวุ่นเมื่อกี้นี้ไว้ ฉู่ลั่วหานก้มหน้าลงแล้วพูดขึ้น “เมื่อกี้นี้คุณถามอะไรนะคะ?”
หลังจากจัดการกับปัญหาของผู้ป่วยเสร็จแล้ว ฉู่ลั่วหานก็เดินออกมาจากวอร์ดผู้ป่วย เกาหยิ่งจือกำลังเดินนำหมอไม่กี่คนมาจากทางเดินฝันโน้น เธออยากจะเดินเลี่ยงผ่านเธอไป เกาหยิ่งจือกลับหยุดยืนดักเธอไว้
“หมอฉู่ วันนี้ดูเหมือนจะเป็นวันหยุดของคุณนะ ทำไม กลายเป็นภรรยาของตระกูลเศรษฐีแล้ว ยังจะทุ่มเทขนาดนี้อีก แสดงให้ใครดูกัน?”
เมื่อเผชิญหน้ากับการยั่วยุของเกาหยิ่งจือ ฉู่ลั่วหานเพียงแค่กำมือข้างหนึ่งอยู่ในกระเป๋า แล้วตอบอย่างลวกๆ “รองคณบดีเกา จุดประสงค์ที่คุณสนใจ เบี่ยงเบนไปแล้ว”
เธอสาวเรียวขายาวเดินต่อไป เกาหยิ่งจือ กล่าวขึ้นอย่างเย็นชา “เธอคิดว่าฉันอยากสนใจเธอเหรอ ฉันก็แค่เดินมาเตือนเธอเท่านั้น แบบฟอร์มการตรวจสุขภาพของโรงพยาบาลออกมา ในสองวันนี้หาเวลาไปเข้าร่วมการตรวจสุขภาพด้วย”
ฉู่ลั่วหานขมวดคิ้ว “ขอบคุณ”
เมื่อพูดจนเธอก็สาวเท้าเดินกลับไปที่ห้องทำงานทันที
จ้าวเหมียนเหมียน และจี้ซือหยู่กำลังซุบซิบกันเกี่ยวกับเรื่องการตรวจสุขภาพ “ปีละครั้ง ฟ้าผ่าก็ไม่ขยับ คงกลัวว่าพวกเราจะติดโรคจากผู้ป่วยล่ะมั้ง?”
“แต่ก็เพื่อประโยชน์ของตัวพวกเราเอง ยังไงซะหากตรวจร่างกายตอนนี้ มีโรคก็รักษาไม่มีโรคก็ป้องกันไว้ก่อน แต่การตรวจร่างกายนั้นมีบางโครงการที่น่าอายเล็กน้อย”
“ก็จริง สูตินรีเวชพวกนั้น…… เฮอเฮอ ทว่าฉันยังโสด มีบางโครงการที่ไม่จำเป็นต้องตรวจ เฮอเฮอ”
“ชิ! ในสังคมแบบนี้ก็มีคนโสดหลายคนที่เคยทำเรื่องอย่างว่าแล้วแล่ะจริงไหม?”
เมื่อเห็นฉู่ลั่วหานเดินเข้ามา จ้าวเหมียนเหมียนก็หัวเราะเฮอเฮอ “หมอฉู่ ตอนที่ไปตรวจสุขภาพพวกเราไปด้วยกันไหม”
ฉู่ลั่วหานตอบกลับอย่างลวกๆ “ได้”
จี้ซือหยู่กระแทกแขนของจ้าวเหมียนเหมียน แล้วกระซิบเสียงเขา “ทำไมวันนี้สีหน้าของหมอฉู่ดูไม่ดีเลย? เฮ้อ ข่าวข้างนอกพวกนั้นน่ารังเกียจจริงๆ”
“ชู่ว์ ไม่ต้องพูดแล้ว”
ยุ่งอยู่ในโรงพยาบาลจนถึงเย็น ไปห้องฉุกเฉินมาหนึ่งครั้ง ตอนที่ขึ้นไปบนตึกกลับบังเอิญพบกับฉู่ซีหราน
“ฉู่ซีหราน? เธอมาทำอะไรที่โรงพยาบาล?”
ทันทีที่เห็นฉู่ลั่วหาน ฉู่ซีหรานก็รีบยัดกระดาษผลตรวจลงในกระเป๋าทันที แสดงสีหน้าที่ไม่พอใจ และพูดขึ้นอย่างสบประมาท “คุณนายหญิงตระกูลหลง ฉันยังไม่ได้ไปแสดงความยินดีกับเธอด้วยตัวเองเลย สถานะคุณนายหญิงตระกูลหลงของเธอถูกเปิดเผยแล้ว ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีอะไรอย่างนี้ ด้วยบารมีของเธอ ตอนนี้การดำเนินงานของ บริษัท ดีขึ้นมาก! ทางที่ดีเธอควรจะนั่งบนตำแหน่งคุณนายให้มันคงกว่านี้หน่อย!”
ฉู่ลั่วหานขมวดคิ้ว ไม่แปลกใจเลยที่ช่วงนี้ ฉู่ซีหรานสองแม่ลูกไม่มาก่อกวนเธอเลย ก็จริง ตอนนี้สถานะของเธอถูกเปิดเผยแล้ว ขอเพียง บริษัทฉู่ซื่อ ชูป้ายชื่อของเธอขึ้นมาก็มีคนทุบหัวเสนอตัวเข้ามาลงทุนด้วยแล้ว?
สำหรับ บริษัทฉู่ซื่อ แล้วนี่เป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก
คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่า บริษัทฉู่ซื่อ จะเดินมาถึงจุดที่ต้อง “ขายลูกสาว” เพื่อช่วยต่อเวลาให้บริษัทแล้ว
“ฉู่ซีหราน ในเมื่อเธอเป็นผู้จัดการ บริษัทฉู่ซื่อแล้ว ก็บริหารจัดการ บริษัทกับแม่เธอดีๆ หาก บริษัทฉู่ซื่อ ล้มละลาย พวกเธอก็จะไม่เหลืออะไรเลยเหมือนกัน ถึงตอนนั้นพวกเธอจะได้ร้องไห้แน่”
ฉู่ซีหรานวางให้เห็นเล็บคริสตัล “พอแล้ว! มีป้ายที่มีชีวิตอย่างเธออยู่ พวกเรายังจะต้องกังกลอะไร? เพียงเธอยังเป็นคุณนายหญิงตระกูลหลงแค่หนึ่งวัน บริษัทฉู่ซื่อ ก็ยังคงสามารถสร้างรายได้ได้เป็นกอบเป็นกำ ดังนั้น พี่สาวที่แสนดีของฉัน เธอเข้มแข็งหน่อย! ท้องก็เข้มแข็งหน่อย!”
ฉู่ซีหรานหยิบกระเป๋าแล้วเดินจากไป
ฉู่ลั่วหานขมวดคิ้ว บริษัทฉู่ซื่อไม่ได้เป็นของเธออีกต่อไปแล้ว และความสัมพันธ์กับตระกูลฉู่ก็เริ่มจางหายไป เธอยังมีความจำเป็นต้องยอมถูกคนอื่นควบคุมเพื่อ บริษัทฉู่ซื่อ อีกเหรอ?
เธอจะเห็นแก่ตัวสักครั้งได้ไหม แล้วเดินต่อไปแบบนี้พร้อมกับหลงเซียว?
เธอจะพุ่งไปข้างหน้าโดยไม่คิดชีวิตสักครั้งได้ไหม?
ในขณะที่กำลังคิด โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
ที่แสดงอยู่บนหน้าจอคือเบอร์โทรศัพท์ของหลงเซียว เวลาคือ 5 โมงเย็น
MBKเพิ่งจะเลิกงาน สิ่งแรกที่ท่านเซียวทำก็คือโทรหาเธอเลย
“ฮัลโหล ” ฉู่ลั่วหานกดลิฟต์เพื่อขึ้นไปชั้นบน ส่งเสียงตอบไปหนึ่งคำ
ห่างออกไปหลงเซียวที่อยู่ในห้องทำงานของประธานบริษัทMBK หยิบเสื้อคลุมที่พาดอยู่บนพนักเก้าอี้ “อยู่ไหน?”
ประตูลิฟต์เปิดออกแล้ว ฉู่ลั่วหานก้าวเดินเข้าไป “ฉันอยู่ที่โรงพยาบาล”
“วันนี้เป็นวันหยุดไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงยังไปทำงาน?” ถามอย่างเป็นธรรมชาติราวกับว่าเป็นสามีธรรมดาคนหนึ่ง ที่เป็นห่วงภรรยาที่ทำงานหนัก
“ในบ้านไม่มีอะไรให้ทำ ที่โรงพยาบาลมีเรื่องนิดหน่อย ก็เลยมา” ฉู่ลั่วหานจ้องไปที่หมายเลขบนลิฟต์ หมายเลข 4 กระโดดออกมา ได้คาดการณ์ไว้ในใจอยู่แล้ว
เท้าข้างหนึ่งของฉู่ลั่วหานก้าวออกมาจากลิฟต์ ด้านหน้ามองเห็นถังจิ้นเหยียน เขายืนรอลิฟต์อยู่ที่หน้าประตูอยู่ก่อนแล้ว ไม่ ถ้าให้พูดตามตรงเหมือนเขาจะมายืนรอใครคนหนึ่งอยู่ และกำลังเหม่อลอย เดินผ่านหน้าประตูลิฟต์พอดี
“ก็ดี ถ้าเลิกงานแล้วขับรถมาที่อาคารหัวชิวพวกเราไปดูหนังกัน”
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์มีคนกำลังพูดเสียงเบา เหมือนว่าจะเป็นหลงเซียวที่ออกคำสั่งกับคนขับรถ
ฉู่ลั่วหานตกใจจนอ้าปากค้าง ดูหนังเหรอ เกิน……คาดคิดมาก
“ค่ะ ฉันจะไปถึงให้ตรงเวลา” กลั้นความตกใจ และประหลาดใจไว้ แล้วเธอก็พยักหน้าตกลง
ถังจิ้นเหยียนกำลังรอเธออยู่ ดังนั้นหลังจากที่วางสายไปแล้ว ฉู่ลั่วหานเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋าแล้วก็ยังไม่ได้จากไป
“รองคณบดี มีธุระอะไรเหรอคะ?”
ถังจิ้นเหยียนรอให้เธอคุยโทรศัพท์จนเสร็จอย่างอดทน มองไปที่เธอแล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ดูเหมือนว่าหลังเลิกงานแล้วจะมีธุระต่อ?”
ฉู่ลั่วหานพยักหน้า มองเห็นใบหน้าของเขาดูเหน็ดเหนื่อยเล็กน้อย ราวกับว่าไม่ได้นอนมาทั้งคืน หากมองดูดีดีจะสามารถมองเห็นเส้นเลือดสีแดงที่อยู่ในดวงตาของเขา ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย
“มีธุระนิดหน่อย……ทว่าสามารถรอได้ รองคณบดีมีธุระอะไรกับฉันเหรอคะ?”
ถังจิ้นเหยียนเหมือนจะลำบากใจเล็กน้อย เดาว่าสายที่เธอเพิ่งรับเมื่อกี้นี้คือหลงเซียว รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย “ไม่ได้มีเรื่องสำคัญอะไรหรอก คุณเลิกงานก่อนเถอะ ไว้วันหลังผมค่อยบอกคุณ”
ฉู่ลั่วหานสงสัย จึงพยายามมองหาเบาะแสจากบนใบหน้าของเขา แต่ก็ไม่มีเลย เขาดูเหมือนจะรู้วิธีเก็บซ่อนอารมณ์ของตัวเอง แม้จะโศกเศร้าแค่ไหนก็ไม่มีใครสามารถมองออก
“งั้นเป็นพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ถ้าไม่ใช่ธุระที่สำคัญมาก ที่ฉันเองก็มีเอกสารบางส่วนที่ต้องให้คุณเซ็นชื่อเหมือนกัน” ฉู่ลั่วหานใช้เรื่องงานเพื่อมาปกปิดความอึดอัดใจระหว่างคนทั้งสอง เมื่อพูดจบก็สาวเท้าเดินไปที่ห้องเปลี่ยนชุดทันที
ในเวลานี้ ฉู่ซีหรานนั่งอยู่ภายในรถ กำปั้นถูกทุบลงบนพวงมาลัยอย่างรุนแรง!
“ให้ตายสิ! ซวยอะไรอย่างนี้!”
เธอเปิดใบรับรองแพทย์ออก ด้านบนเขียนเอาไว้อย่างชัดเจน ฉู่ซีหรานตั้งครรภ์ 41 วันแล้ว
ฉู่ซีหรานขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน คนที่สมควรตั้งท้องกลับไม่ท้อง เธอพยายามคุมกำเนิดแล้วแต่สุดท้ายก็พลาดจนได้ ให้ตายเถอะ! 45 วันแล้ว เมื่อลองนับดูแล้วเหมือนจะเป็นคืนในวันงานเลี้ยงใหญ่
คืนนั้นมีผู้คนมากมายที่ดื่มด้วยกัน หลังจากนั้นก็มีคนไม่น้อยที่ดื่มจนเมา ตอนที่เธอตื่นขึ้นมาร่างกายก็เปลือยเปล่า มีผู้ชาย และผู้หญิงหลายคนนอนเกลื่อนไม่เป็นที่เป็นทางอยู่ภายในห้องเพรสซิเดนท์สูทเต็มไปหมด ให้ตายสิ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเด็กคนนี้เป็นของใคร
ถ้าผู้คนภายนอกรู้ว่าเธอท้องไม่มีพ่อ จะต้องสร้างความเดือดร้อนขึ้นมาอย่างหนักแน่!
เธอจำเป็นต้องแอบเอาเด็กออก
ฉู่ซีหรานไม่กล้าโทรไปหาฟางหลิงหยู้ แม้ว่าฟางหลิงหยู้จะรู้ว่าลูกสาวของเธอชอบเที่ยว แต่เธอก็ไม่รู้ว่าชีวิตส่วนตัวของเธอนั้นยุ่งเหยิงขนาดนี้ ถ้าเธอรู้เข้าจะต้องจบแน่
ฉู่ซีหรานกดโทรออกไปหาหมายเลขหนึ่ง “ช่วยฉันติดต่อกับโรงพยาบาลสักแห่งหน่อย หาหมอที่สามารถเชื่อถือได้ ไม่ต้องถามว่าฉันจะทำอะไร เร็วเข้า!”
——
เมื่อฉู่ลั่วหานเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็ตรงไปที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินแล้วขับรถไมบัคคันนั้นออกไปทันที รถขับมาถึงอาคารหัวชิวอย่างรวดเร็ว
ห่างออกไปไกล เธอมองเห็นหลงเซียวที่ยืนอยู่หน้าประตูอาคารราวกับรูปปั้นที่สมบูรณ์แบบ ด้านหลังของเขามีผู้คนมากมายเดินผ่านไปมา มีเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่ยืนนิ่งเงียบอยู่กับที่ สายลมและดวงจันทร์ยังต้องหลีกทางให้เขา
เขาก็มีความสามารถแบบนั้นแล่ะ ไม่ต้องทำอะไร คนอื่นกลับต้องถวายหัวคุกเข่าให้
หลงเซียวจำรถของเธอได้ ก่อนที่เธอจะลงมาจากรถก็ได้สาวเท้าเดินเข้าไปหา ดังนั้นทันทีที่ฉู่ลั่วหานเปิดประตูรถออกก็โผเข้าสู่อ้อมกอดที่อบอุ่น และมั่นคง
เขากอดรั้งไหล่ของเธอไว้อย่างรักใคร่ บนตัวของเธอยังคงมีกลิ่นเอทานอลติดอยู่ สดชื่นแจ่มใสไม่ฉุนสักนิด “ไปกันเถอะตั๋วถูกซื้อไว้แล้ว และจะเริ่มฉายในอีก 20 นาที”
เขาจับมือเล็กๆ ของเธอไว้ในฝ่ามือของตัวเอง ร่างสูงสวมชุดสูทแฮนด์เมดอาร์มานี่ ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยแสงสว่าง
“ทำไมจู่ๆ ถึงคิดจะชวนฉันมาดูหนังล่ะ?”
เธอเดินตามอยู่ข้างๆ เขา ในช่วงนาทีนี้ เธอเหมือนเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ถูกสามีเอาใจใส่ราวกับของล้ำค่า และมีโลกทั้งใบในชั่วขณะหนึ่ง
หลงเซียวฉีกยิ้มออกมา คิ้วสวยๆ เต็มไปด้วยความอบอุ่น “พวกเรายังไม่เคยดูหนังด้วยกันเลย คุณไม่อยากลองดูหน่อยเหรอ?”
บอกตามตรง เธออยากมาก
เมื่อเดินไปถึงโถงใหญ่ของโรงหนัง คนหนุ่มสาวที่อยู่ด้านในทั้งหมดต่างก็ให้ความสนใจมาที่ร่างของคนทั้งสอง! คิดไม่ถึงเลยว่าตัวเอกในข่าวร้อนที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในโลกออนไลน์นั้นจะเดินออกจากจอ และมาที่โรงหนัง!
สนุกกว่าดูหนังเสียอีก!
หลงเซียวโอบเอวของเธอไว้ เป็นสัญญาณให้เธอไม่จำเป็นต้องไปสนใจใครทั้งนั้น
ฉู่ลั่วหานรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย “มีคนมากมายกำลังมองอยู่ ไม่เอา พวกเราอย่าดูเลยดีกว่า?”
“จะไปสนใจพวกเขาทำไม? ควรจะทำอะไรก็ทำ ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ในสายตาของคุณจะต้องมองเพียงแค่ผมคนเดียวเท่านั้นก็พอ”
ฉู่ลั่วหาน: “……”
เดินไปถึงหน้าเคาน์เตอร์ น้ำเสียงที่ทุ้มต่ำพูดขึ้น “คุณรอผมสักพัก”
ฉู่ลั่วหานชะงักไปครู่หนึ่ง หลงเซียวก็เดินไปที่หน้าเคาน์เตอร์ทั้งแบบนี้ แผ่นหลังของเขาสูงโปร่ง เพียงแค่ด้านหลังก็ปลิดชีพเหล่าผู้ชมชายได้ภายในวินาทีเดียว
สิ่งที่ทำให้ฉู่ลั่วหานประหลาดใจก็คือ หลงเซียวเดินกลับมาพร้อมกับป๊อปคอร์นถังใหญ่ และเครื่องดื่มอีกสองแก้วใหญ่!
เขาเดินเข้ามาตามแนวโคมระย้าขนาดใหญ่ในห้องโถงของโรงภาพยนตร์ ดวงตาที่ลึกล้ำอบอวลไปด้วยสไตล์ที่ไม่มีใครเทียบได้ ริมฝีปากบางยกขึ้นเบาๆ สัมผัสแห่งความสดใสไหลรินลงมาจากด้านบนของเขา กระทบเข้ากับแอ่งน้ำของเธอ
“มองอะไรกัน? มองจนตาค้างอยู่แล้ว”
“ไม่ได้มองอะไร” เธอรับป๊อปคอร์นมากอดไว้ในอก พูดในใจ นอกจากคุณแล้ว ฉันจะมองใครได้อีก
ที่หลงเซียวเลือกคือที่นั่งคู่รักVIP
ที่ไม่ได้ไปที่นั่งคู่รักชั้นพิเศษนั้น ก็เพราะว่ามันพิเศษเกินไป ทำให้ไม่ความรู้สึกร่วมกับผู้ชม เธออาจจะไม่ชอบ
ที่ไม่ได้เลือกห้องโถงธรรมดา ก็เพราะรู้สึกว่าคนเยอะเกินไป จะทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ
ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่า การตัดสินใจของหลงเซียวนั้นชาญฉลาดมาก
ห้องโถงคู่รักนั้นเต็มไปด้วยคู่รักมากมาย ทุกคนจูงมือกันตอนที่เดินเข้าไป หัวเราะและยิ้มแย้มกันอย่างสนิทสนมโดยไร้ช่องว่าง ในบรรยากาศแบบนี้สามารถกระตุ้นอารมณ์ได้ง่าย
ฉู่ลั่วหานรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว ความตั้งใจของหลงเซียวนี้ชัดเจนเกินไปหรือเปล่า?
คนทั้งสองนั่งอยู่แถวสุดท้าย ด้านหน้าไม่เพียงแค่สามารถดูหนังได้เท่านั้น ยังสามารถมองเห็นการแสดงความรักที่หลากหลายอีกด้วย
อยากจะเคอะเขินแค่ไหนก็มีความเคอะเขินมากเท่านั้นจริงๆ !
หนังเริ่มฉาย หลังจากสวมแว่น 3D แล้วใบหน้าส่วนใหญ่ก็ถูกปกปิดไปมากกว่าครึ่ง ฉู่ลั่วหานแอบมองหลงเซียว แม้ว่าใบหน้าจะถูกปกปิดไปมากกว่าครึ่ง แต่คางของเขาก็ยังคงดูสวยจนแทบขาดใจตาย!
พิเศษ!
หนังที่หลงเซียวไอคนบ้าคนนี้เลือกคือหนังผีฉบับ 3D ! ชั่วชีวิตนี้สิ่งที่ฉู่ลั่วหานกลัวที่สุดก็คือการดูหนังผี!
“กรี๊ด!”
“น่ากลัวจะตายอยู่แล้ว!”
“ที่รัก ฮือ ฮือ ฮือ!”
ผู้หญิงในกลุ่มคู่รักหลายคู่ที่อยู่ด้านหน้าออดอ้อนงอแง และกอดอยู่ในอ้อมกอดของฝ่ายชายอย่างนุ่มนวล
ฉู่ลั่วหานยัดป๊อปคอร์นเข้าปากเป็นกำกำ กัดฟันมองท่าทางที่ดูสงบของหลงเซียว มีความรู้สึกบางอย่างที่อยากจะตาย
แขนของท่านเซียววางอยู่บนที่พักแขน รออุทิศตนให้เธอได้ตลอดเวลา
แต่ฉู่ลั่วหานก็กัดฟันยื้อไว้จนกลุ่มคนด้านหน้าซาลง
ท่านเซียวรู้สึกจุกอกเล็กน้อย
ทันใดนั้นใบหน้าเปื้อนเลือดในกระจกก็กระโจนเข้าหาผู้ชม!
“กรี๊ด!!!!”
ฉู่ลั่วหานโยนป๊อปคอร์นทิ้ง แล้วพุ่งเข้าสู่อ้อมกอดของท่านเซียวอย่างรุนแรง