คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 1068 เขามักมาได้ทันเวลา
ตอนที่ 1068 เขามักมาได้ทันเวลา
ห้องทำงานของถังจิ้นเหยียน
รอบดวงตาของลั่วหานแดงเล็กน้อย "ยาชุดนี้นายเป็นคนนำมาส่งด้วยตัวเองหรอ?"
พอตัวแทนยาเห็นว่าบอสใหญ่ที่สุดมาก็ก้มหน้าอย่างผวา "หมอฉู่ ผม…ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆนะครับ ผมเอายาจากคลังแล้วส่งให้หมอถังโดยตรงเลย ระหว่างนั้นเกิดอะไรขึ้นก็ไม่มีใครรู้นี่"
ร่างสูงของลั่วหานยืนอยู่ด้านในประตู หลังเธอแนบติดประตูมือ เธอกำมือแน่นในกระเป๋าเสื้อใบใหญ่ "ฉันให้โอกาสนายแค่ครั้งเดียว บอกความจริงฉันมา ใครขอให้นายทำแบบนี้?"
"ไม่…ไม่ใช่ ผมไม่เข้าใจที่หมอฉู่พูด ไม่มีใครให้ผมทำอะไรทั้งนั้น เมื่อกี้ผมบอกรองคณบดีไปแล้ว ผม…"
คำอีกสามคำยังไม่ทันออกปากมา ลั่วหานก็ยิ้มอย่างเย็นชา "ตรวจสอบบันทึกการโทรของนายใช้เวลาแค่ห้านาที หากจำเป็นฉันไม่ถือสาที่จะส่งนายให้ตำรวจ 1.ให้ฉันแจ้งตำรวจทันที เก็บคำพูดของนายไปพูดกับตำรวจ 2.บอกฉันมาว่าใครใช้ให้ทำ แล้วฉันจะไม่เอาความ"
ถังจิ้นเหยียนมองลั่วหานในใจก็พลางรู้สึกชื่นชมเธอ เธอเป็นคนมีเหตุผล เงียบขรึมและเด็ดขาด ดูชนะดูดีกว่าความโกรธของเขาไม่รู้กี่เท่า
ไม่กี่นาทีต่อมา…
ในห้องทำงานมีเพียงถังจิ้นเหยียนกับลั่วหาน ลั่วหานทำลายความเงียบ "จริงๆเลย…เหอะๆๆ! ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ เธอทำได้เด็ดขาดจริงๆ"
ถังจิ้นเหยียนเห็นคำสามพยางค์ "โม่หรูเฟย" ในกระดาษหมายหัวลั่วหานที่อยู่ห่างช่วงโต๊ะ "ฉันไม่คิดว่าจะเป็นเธอ"
ตุบ
ลั่วหานทิ้งปากกาลงอย่างแรง "เรื่องที่เหลือฉันจะจัดการเอง ในเมื่อโม่หรูเฟยไม่รักชีวิต ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ"
ถังจิ้นเหยียนลุกขึ้นอย่างกะทันหัน "เธอจะทำอะไรต่อ?"
โม่หรูเฟยกำลังตั้งครรภ์ ใกล้จะคลอดแล้ว
"ฉันมีวิธีของฉัน" ลั่วหานเหลือบมองชื่อบนกระดาษ ความอ่อนโยนและความเมตตาในดวงตาหายไปหมด
โม่หรูเฟย ซุนปิงเหวิน สองคนนี้ไม่ตายคงไม่หยุด!
งั้นก็ไปตายซะ
"รองคณบดี…"
หลินซีเหวินบุ่มบ่ามเปิดประตูจนเกือบจะชนลั่วหานที่ออกมาจากข้างใน เธอตะลึงชั่วขณะ "พี่ลั่ว เธอก็อยู่ที่นี่ คือ…ครอบครัวของเฉินจุน…เสียการควบคุมน่ะ!"
"ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!"
ลั่วหานก้าวเท้า ถังจิ้นเหยียนก็ไม่รอช้า
พอลั่วหานมาถึงสมาชิกครอบครัวของเฉินจุนกำลังกอดร่างเฉินจุนร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด เดิมทีการที่ลูกตายก่อนพ่อแม่ก็เศร้าเสียใจอยู่แล้ว ผู้ป่วยไม่น้อยออกมาดู ลูกสาวของเฉินจุนกอดแม่ที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก สองแม่ลูกร้องไห้ไปด้วยกัน
ถังจิ้นเหยียนดึงแขนของลั่วหาน "ให้ฉันเข้าไปเถอะ ตอนนี้อารมณ์สมาชิกครอบครัวยังคงแรงอยู่"
ถ้าเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมาจะเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับหมอหญิง
ลั่วหานถอนหายใจเบาๆ "ฉันไปดีกว่า"
สำหรับความจริงของการเสียชีวิตของเฉินจุน ลั่วหานไม่รู้ว่าควรอธิบายอย่างไรดี เดิมทีเฉินจุนควรจะได้มีชีวิตอยู่ดีๆ แต่เป็นเพราะโม่หรูเฟยอยากจะแก้แค้นเธอถึงได้สร้างข้อพิพาทเรื่องการตายของคนไข้ในโรงพยาบาลหวาเซี่ย โม่หรูเฟยโง่เขลามาก แต่เฉินจุนก็บริสุทธิ์
"คุณหญิงเฉิน"
ลั่วหานก้มตัววางมือบนหลังคุณหญิงเฉินที่สั่นเทา "ที่ไม่สามารถช่วยสามีของคุณได้ พวกเรามีความรักผิดชอบที่ผลักออกไปไม่ได้ ฉันขอโทษมากๆนะคะ"
ลูกสาวของเฉินจุนเงยหน้าขึ้นมองลั่วหานด้วยดวงตาที่แดงและบวมพร้อมกับเขย่าไหล่ของเธอขึ้น "หมอฉู่ พ่อหนูตายได้ยังไง? พ่อฟื้นตัวใกล้จะหายแล้ว ทำไมจู่ๆถึงเป็นแบบนี้ไปได้?"
แม้ว่าเด็กหญิงจะอายุน้อย แต่ความคิดกลับละเอียดรอบคอบมาก
ลั่วหานเป็นใบ้ไปชั่วขณะ หากบอกความจริงไป มันจะเป็นความอัปยศอย่างยิ่งต่อชื่อเสียงของโรงพยาบาลและทีมแพทย์ทั้งหมด ชื่อเสียงโรงพยาบาลหวาเซี่ยจะเสื่อมเสีย
แต่หากไม่บอกความจริงก็หมายความว่ากำลังหลอกลวงผู้ป่วย
ทางเลือกสองทางจุกขึ้นในใจของลั่วหาน จะเลือกฝ่ายไหนก็เป็นเรื่องยาก
ไม่นานลั่วหานก็เลือกที่จะซื่อสัตย์
ห้องทำงานของลั่วหานเป็นระเบียบสะอาดสะอ้านเหมือนเดิม เฟอร์นิเจอร์สีขาวทำให้ทุกอย่างดูไร้ฝุ่น ลั่วหานหยิบกระดาษสองสามแผ่นส่งให้คุณหญิงเฉินกับลูกสาวของเฉินจุนดู
"คุณหญิงเฉินคะ เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของโรงพยาบาล เป็นความประมาทของพวกเรา…"
ลั่วหานพูดเพียงเท่านี้ สีหน้าของคุณหญิงเฉินก็เปลี่ยนไป "หมอว่าอะไรนะคะ? ความประมาทของพวกคุณ? พวกคุณทำอะไรไป?"
"แม่คะ ฟังหมอฉู่พูดให้จบก่อน" เด็กหญิงกอดแขนแม่ โน้มน้าวอย่างรู้ความ
หัวใจของลั่วหานรู้สึกอึดอัดราวกับถูกไฟสุมอก เธออดทนต่อความโกรธและความรู้สึกผิดที่ไม่สามารถบรรยายได้ เพื่อพูดเหตุการณ์ทั้งหมดให้จบ
เสียงของลั่วหานหยุดลง ห้องทำงานก็ตกอยู่ในความเงียบ คุณหญิงเฉินลืมแม้กระทั่งร้องไห้ ใบหน้าที่แดงและบวมของเธอหวาดกลัว หลังจากนั้นถึงยิ้มอย่างขมขื่น "สามีของฉันก็เลยจากไปแบบนี้? เพราะความแค้นส่วนตัวของพวกคุณ?!"
ลั่วหานก้มหน้าอย่างทุกข์ใจ "ขอโทษค่ะ ฉันไม่คิดว่าเธอจะใช้วิธีรุนแรงเช่นนี้"
คุณหญิงเฉินพูดด้วยสีหน้าบิดเบี้ยวว่า "หรั่นหรั่น ได้ยินรึยังลูก? อีกหน่อยยังจะกล้าเป็นหมออยู่อีกมั้ย?"
เฉินหรั่นหรั่นไม่ตอบเธอ แต่มองลั่วหานด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา "หมอฉู่คะ พ่อหนูจะตายเปล่าไม่ได้"
"เขาจะไม่เสียสละโดยเปล่าประโยชน์แน่นอน ฉันจะหาฆาตกรที่อยู่เบื้องหลังออกมาให้ได้ กฎหมายจะให้ความยุติธรรมที่สุด นอกจากนั้น…"
ลั่วหานหันหน้ามาพูดเสริมกับคุณหญิงเฉินว่า "เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเพราะฉัน ฉันจะรับผิดชอบอย่างเต็มที่ พวกคุณอยากจะได้อะไรชดเชยก็สามารถพูดออกมาได้ ฉันรู้ว่าเงินเท่าไรก็ไม่สามารถชดเชยความเจ็บปวดของคุณได้…"
"หมอฉู่คะ ฉันอยากเจอผู้หญิงคนนั้น" คุณหญิงเฉินขัดจังหวะลั่วหาน สีหน้าและแววตาเธอเปลี่ยนเป็นอาฆาตอย่างเลือดเย็น
"ได้ค่ะ"
——
โทรศัพท์ของหลงเซียวดังขึ้นอย่างต่อเนื่องบนโต๊ะทำงาน
หน้าจอขึ้นเป็นชื่อซุนปิงเหวิน
"หลงเซียว ที่ผมโทรหาคุณก็เพื่ออยากจะพูดเรื่องหนึ่งด้วย ผมคิดไม่ถึงจริงๆว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่โหดร้ายเช่นนี้! ผมขอโทษท่านเซียวด้วยจริงๆ! โม่หรูเฟยจิตใจอำมหิตเกินไปแล้ว!"
ดวงตามืดของหลงเซียวฉายแววดูถูกเหยียดหยาม "โอ้?"
ซุนปิงเหวินได้รับคำตอบจากหลงเซียวที่ทำให้เขายิ่งขุ่นเคือง "ท่านเซียว ผมก็เพิ่งรู้ว่าเธอส่งนักฆ่าไปลักพาตัวหมอฉู่ที่ลอนดอนลับหลังผม ผม…ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเธอกล้าขนาดนี้!"
ใบหน้าของหลงเซียวไร้ความรู้สึก เขาก็ไม่ได้ตอบกลับแม้แต่คำเดียว
"ท่านเซียว ผมตรวจสอบชัดแล้วว่า อีหญิงเลวโม่หรูเฟยยักยอกเงินของผมจ้างคนฆ่าหมอฉู่ โชคดีที่หมอฉู่ไม่เป็นไร ไม่อย่างนั้นต่อให้ผมตายเป็นหมื่นครั้งก็ยังไม่พอ!"
หลงเซียวเอานิ้วชี้เคาะโต๊ะแล้วยิ้มเยาะเงียบๆ
"นอกจากนี้เพื่อสร้างความเสื่อมเสียให้กับหมอฉู่ สร้างความเสื่อมเสียให้กับโรงพยาบาลหวาเซี่ย โม่หรูเฟยยังซื้อตัวตัวแทนยาของบริษัทฉู่ซื่อ ให้เขาใส่ยาพิษในยาตัวใหม่ของโรงพยาบาลหวาเซี่ยเพื่อฆ่าคนอีก 1 คน"
อะไรนะ?
ดวงตาที่สงบลึกล้ำของหลงเซียวหรี่ลงทันที!
"เมื่อเช้าตอนหมอฉู่มาถึงโรงพยาบาล คนไข้ก็เสียชีวิตแล้ว หมอฉู่ต้องเป็นคนแรกที่รับผิดชอบ คนไข้คนนั้นเป็นคนที่หมอฉู่ผ่าตัดให้ ได้ยินมาว่าคนไข้ใกล้หายเป็นปกติแล้ว แต่ตอนนี้จู่ๆก็ตายแล้ว และพอดีกับวันที่หมอฉู่เพิ่งกลับมาวันแรก ความคิดของโม่หรูเฟยช่าง…ผมคิดไม่ถึงจริงๆท่านเซียว!"
หลงเซียวไม่มีอารมณ์ฟังเสียงพูดพร่ำซุนปิงเหวินแล้ว โม่หรูเฟยกับซุนปิงเหวินล้วนไม่ควรตายดี แต่ตอนนี้เขาแค่อยากรู้ว่าภรรยาของเขาเป็นอย่างไรบ้าง
"ผมแจ้งความแล้ว จะต้องส่งตัวเธอให้กับตำรวจจัดการ! ท่านเซียวถ้าคุณมีเข้าใจผิดอะไรเกี่ยวกับผม ตอนนี้ผมสามารถอธิบายได้ ผมไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้พวกนี้ ผมเพิ่งถามได้ความเมื่อวันนี้เอง ว่าเธอกล้าดีมาก!
ท่านเสี่ยว ผมสาบานว่าผมไม่เคยจงใจที่จะทำร้ายภรรยาคุณเลย และยิ่งไม่สามารถใส่อะไรเข้าไปในยา! ผู้หญิงสมควรตายนี่…"
ซุนปิงเหวินยังคงสาปแช่งโม่หรูเฟย หลงเซียวหมดความสนใจที่จะฟังเรื่องไร้สาระของเขาขึงวางสาย
——
"หรั่นหรั่น เธออยากฟังเรื่องของฉันไหม?"
ลั่วหานกับคุณหญิงเฉินกำลังจะไปหาโม่หรูเฟย แต่กลับได้รับสายจากเจิ้งซิ่วหยาก่อน
โม่หรูเฟยถูกนำตัวไปสถานีตำรวจโดยมีซุนปิงเหวินเป็นคนแจ้งความ
ลั่วหานไม่คาดคิดว่าคนที่โทรแจ้งตำรวจคือซุนปิงเหวิน
เขาส่งโม่หรูเฟยที่กำลังท้องแล้วไปสถานีตำรวจด้วยมือตัวเองจริงหรือ? คนคนนี้มันคือต้องเหี้ยขนาดไหน?
ในขณะนี้ลั่วหานกับลูกสาวของคุณหญิงเฉินนั่งอยู่ที่เบาะหลังในรถที่มุ่งหน้าไปยังสถานีตำรวจ เธอค่อยๆลูบไล้เส้นผมของเด็กหญิงแล้วพูดอย่างนุ่มนวล
เฉินหรั่นหรั่นพยักหน้าช้าๆ "ค่ะ"
ลั่วหานช่วยจัดผมเธอให้เรียบ "พ่อของฉันเสียชีวิตในโรงพยาบาลเหมือนกัน เขาเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายจากไปอย่างกะทันหันโดยไม่พูดอะไรสักคำ"
เฉินหรั่นหรั่นเงยหน้ามองใบหน้าสวยที่ดูเศร้าตรงหน้า "นานมากแล้วเหรอ?"
"อืม นานมาแล้ว ฉันอายุมากกว่าเธอนิดเดียว หลังจากพ่อจากไป ฉันตัดสินใจว่าอีกหน่อยจะเรียนหมอ เป็นหมอ เป็นหมอที่เก่งที่สุด มีความเชี่ยวชาญที่สุดในโลก"
เฉินหรั่นหรั่นเม้มริมฝีปากแน่น ความปรารถนาของเธอก็คือการเป็นหมอเช่นกัน
เธออยากเป็นหมอที่ดีที่สุด!
"ต่อมาฉันถึงได้รู้ว่าพ่อฉันไม่ได้หัวใจวายตาย เขาถูกฆ่าในห้องพักผู้ป่วย คนที่ฆ่าเขาคือเพื่อนที่เขาไว้ใจ" ดวงตาของลั่วหานเจ็บปวด แสดงออกอย่างจริงใจ
คุณหญิงเฉินที่นั่งข้างคนขับหยุดร้องไห้ชั่วขณะ ตั้งใจฟังบทสนทนาข้างหลัง
"ฉันเข้าใจความเสียใจของเธอในตอนนี้ ตอนนั้นฉันก็เสียใจมากเหมือนกัน จนฉันคิดว่าคงทนไม่ไหวอีกต่อไป แม่ของฉันจากไปตอนฉันเกิด พ่อของฉันเป็นครอบครัวคนเดียวของฉัน ฉันไม่มีคุณปู่คุณย่าที่ดีเหมือนหรั่นหรั่น ไม่มีแม่ที่คอยอยู่เคียงข้าง พ่อเป็นทุกอย่างของฉัน
แต่หลังจากวันนั้น ทุกอย่างของฉันก็หายไป"
เฉินหรั่นหรั่นกัดริมฝีปากของเธอแน่นสักพักก่อนจะพูดว่า "คุณเกลียดฆาตกรมั้ย?"
"เกลียด เกลียดแน่นอน ไม่เพียงเพราะความเกลียด แต่ยังเป็นเพราะความยุติธรรม ดังนั้นฉันจะช่วยคุณทำให้ฆาตกรถูกลงโทษตามกฎหมาย ไม่ว่าเบื้องหลังเธอจะเป็นยังไง ฉันสัญญาว่าเธอจะต้องชดใช้"
เธอจะไม่ใจอ่อนให้โม่หรูเฟยอีก!
"คุณน้าคะ หนูก็ไม่มีพ่อแล้ว โตขึ้นหนูก็อยากเป็นหมอเหมือนกัน"
ทันใดนั้นชะตากรรมของทั้งสองคนดูเหมือนจะเชื่อมโยงกันอย่างแน่นหนาจนแยกกันไม่ออก
คุณหญิงเฉินก็อดร้องไห้ออกมาไม่ได้
ลั่วหานสัญญาอย่างจริงจังว่า "หรั่นหรั่น น้าสัญญาว่าจะจัดการค่าเล่าเรียนทั้งหมดของเธอ จะส่งเธอไปโรงเรียนแพทย์ที่ดีที่สุด หลังจากจบมา น้ายินดีที่จะชี้แนะแนวทางเธอ ฝึกฝนเธอให้เป็นหมอที่เก่งที่สุด"
ค่าตอบแทนที่เป็นเงินนั้นน้อยเกินไป บางทีถ้าทำให้เธอกลายเป็นอย่างที่เธอฝันไว้ คงจะสอดคล้องกับความปรารถนาของเฉินจุนมากกว่า
"หนูอยากจะเก่งเหมือนคุณ ได้มั้ย?" เฉินหรั่นหรั่นถามด้วยน้ำตา
"ได้ เธอจะเก่งกว่าน้า"
ลั่วหานเอาศีรษะของเฉินหรั่นหรั่นมาแนบไว้บนอก ใบหน้าบางเต็มไปด้วยน้ำตา
เธอรู้สึกเศร้าใจกับสิ่งที่เฉินหรั่นหรั่นต้องเจอ แต่เฉินหรั่นหรั่นไม่รู้ว่าตอนนั้นหลังจากชีวิตของฉู่ลั่วหานตัวน้อยเปลี่ยน สิ่งที่เธอรอคอยไม่ใช่อ้อมกอดที่อบอุ่น แต่เป็นการแบ่งทรัพย์สินที่ยากเย็นกับแม่ลูกฉู่ซีหราน
——
"หมอชู โม่หรูเฟยอยู่ข้างในแล้ว เธอเอาแต่พูดว่าเธอไม่รู้อะไรเลย เรื่องนี้ซุนปิงเหวินเป็นคนทำทุกอย่าง"
พอเจิ้งซิ่วหยาเห็นลั่วหานเธอแทบจะรอไม่ไหวที่จะแสดงอาการไม่รู้จะพูดอะไรทุกแบบ
ลั่วหานจับมือเฉินหรั่นหรั่น "ไม่บ้าไปแล้วใช่มั้ยเธอน่ะ?"
หากทำร้ายเด็กขึ้นมาคงไม่ดีแน่
เจิ้งซิ่วหยาสำลัก "ก็ไม่ได้บ้าหรอก ก็แค่บ้าบิ่น ถือว่าตัวเองท้องแล้วทำตัวหน้าด้าน"
ดูไม่ออกเลยว่าเคยเป็นดาราที่เป็นที่นิยม ตอนนี้กลายเป็นคนร้ายไปแล้ว
"เหอะๆ หน้าหรอ? โม่หรูเฟยน่ะไร้ความหนาของหนังหน้ามานานแล้ว"
ลั่วหานหัวเราะเยาะ ได้ความรู้เกี่ยวกับโม่หรูเฟยใหม่อีกแล้ว ผู้หญิงคนนี้ สร้างความประหลาดใจได้เก่งจริงๆ
เจิ้งซิ่วหยาเห็นว่าสภาพลั่วหานไม่ดีนักจึงเข้าจับมือเฉินหรั่นหรั่น "ให้ฉันดูแลเถอะ ฉันจะพาพวกเขาไปเจอโม่หรูเฟยข้างใน ด้านความปลอดภัยเธอวางใจได้ เธอสามารถพักผ่อนข้างนอกสักพักเถอะ เดี๋ยวทนายมาพวกเธอค่อยคุย"
"อืม ลำบากเธอแล้ว"
เฉินหรั่นหรั่นมองลั่วหานอย่างอาลัยอาวรณ์ ลั่วหานยิ้มให้กำลังใจเธอ
ทั้งสองดูเหมือนจะตกลงกันได้ รอยยิ้มทำให้เฉินหรั่นหรั่นเชื่อฟัง
ครืน ครืน
โทรศัพท์ของลั่วหานสั่นสองครั้ง หมายเลขบนหน้าจอเป็นของคณบดีเฉิน
"คณบดี"
"ฉู่ลั่วหาน ผมเพิ่งกลับมาถึงโรงพยาบาลหลังจากประชุมงานสัมมนาเสร็จ เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ผมได้ฟังหมอถังเล่าแล้ว ตอนนี้คุณอยู่ไหน?"
"ฉันอยู่ที่สถานีตำรวจพาคุณหญิงเฉินกับลูกสาวไปเจอฆาตกร"
ลั่วหานได้ยินเสียงเอะอะที่ปลายสายก็ขมวดคิ้ว
"ผู้สื่อข่าวล้อมโรงพยาบาลไว้ บอกว่าการควบคุมของโรงพยาบาลหวาเซี่ยไม่เข้มงวด ใช้ยาราคาถูกฆ่าคนตาย ตอนนี้โรงพยาบาลกำลังวุ่นวาย คุณอย่ากลับมา ได้ยินไหม?"
คณบดีเฉินกำลังเดินอย่างรวดเร็ว เสียงรองเท้าหนังกระทบพื้นเสียงดังมาก
ข้างๆยังมีเสียงถังจิ้นเหยียน รอบๆวุ่นวายแต่ไหนก็พูดก็รู้
ลั่วหานหัวเราะเยาะ "นี่คงเป็นสิ่งที่เธออยากเห็น"
"ไม่ว่าใครอยากจะเห็น ทางนี้ให้ผมกับหมอถังดูแล เรื่องทั้งหมดจะไม่โยงไปหาคุณ ตามนี้นะ ผมวางสายก่อน"
ลั่วหานมองสายที่เพิ่งตัดไป พบว่าเธอมีสายที่ไม่ได้รับห้าสายก่อนหน้านั้น ทั้งหมดมาจากหลงเซียว
วันนี้วุ่นจริงๆ
ลั่วหานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรกลับหาหลงเซียว ทันทีที่โทรศัพท์แนบหู ร่างสูงสีดำก็ปรากฏในสายตาเธอ
หลงเซียวเป็นเหมือนเทพที่ลงมาจากฟ้ามองเธออย่างอ่อนโยน
โทรศัพท์ในมือลั่วหานเลื่อนมาที่คางดูสะดุ้งอย่างเห็นได้ชัด "รู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่"
"เจิ้งซิ่วหยาโทรหาฉัน ฉันเลยเลี้ยวกลับมาจากทางไปโรงพยาบาลหวาเซี่ย ทำไมไม่บอกฉันตั้งแต่เกิดเรื่อง?"
น้ำเสียงของหลงเซียวฉายแววตำหนิ แต่นอกจากตำหนิแล้วยังเต็มไปด้วยความทุกข์ใจ
โดยเฉพาะรอยแดงที่ยังไม่จางหายไปบนใบหน้าของภรรยา
ลั่วหานยัดโทรศัพท์ลงในกระเป๋า "ฉันไม่คงสามารถมีเรื่องอะไรรบกวนนายตลอดหรอกใช่มั้ยล่ะ? นี่เป็นงานของฉัน ฉันสามารถจัดการได้"
เธอเหลือบมองประตูด้านข้างของสถานีตำรวจบ่งบอกว่าคนอื่นอยู่ข้างในแล้ว
ไม่ว่าเธอจะอธิบายอย่างไร หลงเซียวก็กอดเธอด้วยแขนข้างเดียว "ทำไมเธอไม่เชื่อฟัง บอกหลายครั้งแล้วว่าถ้ามีอะไรให้บอกฉันก่อนอย่างแรก เรียนรู้ไม่ได้สักที"
ลั่วหานซุกตัวอยู่ในอกของเขาฟังเสียงหัวใจเขาผ่านเสื้อคลุม "ใช่ ฉันโง่เกินไป ฉันเรียนไม่ได้นายต้องสอนฉันต่อ"
เขาต้องเหนื่อยกับอาการป่วยของหยวนชูเฟินมากแล้ว เธอจะเพิ่มปัญหาให้เขาได้อย่างไร? เขาเหนื่อยเกินไป เธอทำไม่ลง
หลงเซียวจูบผมของเธอ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก "โง่จริง ทำไมถึงโง่จัง"
โง่จนทำให้เขาปวดใจ ทำให้เขามีความสุขและทำให้เขาสงสัยว่าควรทำอย่างไรดี