คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 102 ไม่รอแล้ว ท่านเซียวจะไปสารภาพรัก
ตอนที่ 102 ไม่รอแล้ว ท่านเซียวจะไปสารภาพรัก
“เอ่อ…..” คนปลายสายกู้เยนเซินอ้ำอึ้ง
เสมือนว่าสติของหลงเซียวค่อยหดโฟกัสเพ่งไปยังทิศทางเดียว เขาอยากรู้คำตอบ แต่เกรงว่าหากรู้คำตอบจะได้รับการกระทบจิตใจอีกครั้ง
“เป็นอะไร?”
กู้เยนเซินเอ่ย “เรื่องนี้ กระทั่งตัวเธอเองก็คงยังไม่รู้ เพราะเขาคนนั้นไม่ได้ทิ้งร่องรอยใดๆ ไว้เลย สืบไม่ได้แล้วล่ะ”
“จะสืบหาไม่ได้ได้อย่างไร? คนเป็นๆ ทั้งคน ต้องทิ้งอะไรไว้บ้างสิ”
“ไร้หนทางจริงๆ ฉันลองมาหลายวิธีแล้ว ไม่ได้ผลเลย แต่ว่านะคุณชายใหญ่หลง สิ่งสำคัญตอนนี้ไม่ใช่เขาคนนั้นเป็นใครไม่ใช่หรือ? สิ่งที่นายควรให้ความสำคัญคือ เมียของนาย เธอไม่ใช่คนธรรมดาเลยนะ ฉันว่าทำไมนายถึงแต่งงานกับเธอได้นะ แท้ที่จริงแล้วเพื่อสิ่งนี้หรือ!”
หลงเซียวขมวดคิ้ว เขาไม่รู้เรื่องมาก่อน
เรื่องราวของฉู่ลั่วหาน เขาไม่เคยสืบประวัติเธอมาก่อน เธอเล่าแค่ไหน เขารู้เพียงเท่านั้น
ทีแรกเขาหวังรับรู้เรื่องราวเหล่านี้จากปากเธอเอง หลังจากนั้น เกิดเรื่องราวเหล่านั้นขึ้น ท่านเซียวไม่อยากรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเธออีกเลย
“ยังมีอะไรอื่นอีกไหม?”
กู้เยนเซินยกมือขึ้นบีบสันดั้ง “อันที่จริงแล้ว เสียเวลาไปตั้งนานเพิ่งสืบหาได้เท่านี้แถมยังไร้ประโยชน์อีก ฉันเริ่มสงสัยในความสามารถตัวเองแล้วล่ะ”
หลงเซียวกลับหลังหันเดินไปมุมสุดของห้อง “อาจจะใช่ หรืออาจจะ…..”
เพราะเธอเสแสร้งเก่งจนเกินไป ทำลายหลักฐานเกี่ยวกับอดีตของตนเองจนสิ้น คนอื่นไม่สามารถสืบหาสิ่งใดได้
“หรืออาจจะอะไร?”
“ไม่ได้อาจจะอะไรทั้งนั้น บางทีสมองของนายคงใช้ไม่ได้การ”
“บ้าเอ้ย! นายพูดดีๆ สักประโยคจะตายหรือไง?”
“ฉันไม่ใช่นักทำนายตามมุมสะพาน ประโยคที่นายอยากฟังฉันพูดไม่เป็นหลอกนะ”
โถ่!
“ยังมีอีกอย่าง บางทีนายอาจสนใจ เมียของนายเมื่อสมัยเรียนเธอแอบชอบใครบางคน แต่หลังจากนั้นคนคนนั้นไม่ได้อยู่ที่อเมริกาแล้ว แอบรักของเมียนายว่างเปล่า”
อะไรนะ! เขาไม่สนใจ!
“ฉันไม่อยากรอแล้ว”
เขาหลุดประโยคออกมา อย่างแปลกประหลาด
กู้เยนเซินนิ่งค้างสักครู่ “นายจะทำอะไร?”
“สารภาพรักเธอ”
กู้เยนเซิน “…..นี่ฉันไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม? สารภาพรัก! กับฉู่ลั่วหานนี่นะ?”
“ทีหลัง สุภาพกับเธอหน่อย”
กู้เยนเซิน “…..”
เขามั่นใจแล้ว เขาจะไม่ปิดบังอีกต่อไป ไม่ว่าเธอจะคิดอย่างไร เขาจะบอกเธอ
เขารักเธอ!
เช้าวันต่อมา ฉู่ลั่วหานลืมตาตื่นขึ้น เดินตรงมาทางหน้าต่างพลางบิดขี้เกียจ กลับพบดอกพุดที่เบ่งบานในพุ่มหญ้า
ดอกพุดสีขาวสะอาดตาเบ่งบานอย่างสวยงาม
ไม่สิ เธอมั่นใจวันก่อนตรงนี้ไม่มีนี่นา ทำไมถึงโตเร็วเช่นนี้หละ?
เธอโน้มตัวออกนอกหน้าต่างสูดกลิ่นหอมของดอกพุด กลิ่นหอมจางๆ ให้ความรู้สึกสดชื่น หอมจังเลย
อาหารเช้า ทั้งสามร่วมโต๊ะด้วยกันแต่กลับไร้เสียงใดๆ เล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน
หลงเซียวคีบบรอกโคลีจากจานชิ้นหนึ่งให้กับฉู่ลั่วหาน
เธอนิ่งอึ้ง โม่หรูเฟยนิ่งอึ้ง
“ขอบคุณ”
“ขอนมสดฉันหน่อย”
แก้วนมสดอยู่ระหว่างกลางแท้ๆ เขากลับไม่ยอมยกหยิบเอง? อยากจะให้เธอบริการให้ได้เลย?
ก็ได้
เธอยื่นแก้วนมสดให้กับเขา หลังจากหลงเซียวรับแก้วกลับไม่ยอมปล่อยมือ เพราะมือใหญ่ของเขากุมทับบนมือของฉู่ลั่วหาน อุณหภูมิไหลผ่านชั่วขณะ คลุมเครือย่างไม่คาดคิด
โม่หรูเฟยส่งยิ้มหวาน “พี่เซียว อาหารที่พี่ชอบทั้งนั้นเลย กินสิ”
เธอคีบผักให้กับเขา หรี่ตาอมยิ้ม
“วันนี้กลับดึกไหม?”
เขายกนมสดในมือขึ้นดื่ม เอ่ยถามอย่างใส่ใจ
ฉู่ลั่วหานรู้สึกว่าวันนี้เขาผิดปกติ “ไม่น่าจะ มีอะไรหรือ?”
เขาไม่เอ่ยตอบใดๆ ไม่ดึกก็ดีแล้ว
ระหว่างงาน ฉู่ลั่วหานตรวจคนไข้เสร็จเสียงโทรศัพท์พลันดังขึ้น
“ฉู่ลั่วหาน เที่ยงนี้มีเวลาใช่ไหม ฉันอยากพบเธอ”
หยวนชูเฟินนี่เอง!
ปวดฉัน ปวดจี๊ดเลย
“ค่ะ แม่”
การเผชิญหน้าเที่ยงนี้…..ฉู่ลั่วหานไม่สบายใจทั้งเช้า หยวนชูเฟินมาหาเธอเรื่องอะไรกันแน่? ด่าทอ? แทงใจดำ?
เที่ยงวัน ฉู่ลั่วหานเลิกงาน เปลี่ยนเสื้อผ้า ไปตามสถานที่นัดพบ
ภายในร้านอาหาร ชุดกี่เพ้างดงามอวดโฉมร่าง มีราคาสง่าราศียิ่ง มองจากที่ไกลๆ ก็รู้เธอไม่ใช่คนธรรมดา
“นั่งสิ”
เธอเย็นชา ไม่อ้อมค้อม เสมือนว่าไร้ความอดทนอะไรบางอย่างต่อเธอ
ฉู่ลั่วหานพยักหน้ารับ เลื่อนเก้าอี้นั่งลง “คุณแม่มีเรื่องอะไรคะ?”
หยวนชูเฟินวางแก้วกาแฟในมือลง เปิดกระเป๋าถือHermesออก หยิบบัตรเครดิตออกมาใบหนึ่ง ยื่นให้กับเธอ
“นี่อะไร?”
หยวนชูเฟินราวทำการกุศล “นี่คือเหตุผลที่เธอแต่งเข้าบ้านตระกูลหลง แน่นอน เทียบกับความทะเยอทะยานของเธอแล้วแค่นี้ยังถือว่าน้อยไปนัก แต่เธอควรเจียมตัวซะบ้าง ฉันไม่มีวันยอมให้เธออยู่กับเซียวเอ๋อแน่นอน เธออย่าได้คิดว่าจะได้เหยียบประตูบ้านตระกูลหลง!”
ไม่ได้ตระหนกอะไรมากนัก ทุกอย่างเป็นไปตามคาด กลับรู้สึกสบายใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
บัตรเครดิตธนาคารที่ไหนสักที่ การสมัครบัตรนี้อย่างน้อยต้องมีจำนวนเงินหลายร้อยล้าน ในนี้อย่างน้อยต้องมีหลายร้อยล้าน สำหรับหมอตัวเล็กๆ แบบเธอ เป็นตัวเลขมหาศาล
“คุณแม่ต้องการใช้เงินก้อนนี้ บังคับให้ฉันหย่ากับหลงเซียวหรือ?”
“เธอฉลาดมาก ใช่แล้ว ฉันไม่อยากรออีกต่อไป ฉันให้เวลาเธอหนึ่งสัปดาห์ จัดการเอกสารหย่ากับเซียวเอ๋อให้เรียบร้อย เซียวเอ๋อไม่ยอมหย่า เหตุผลฉันไม่รู้ แต่ฉันอยากให้เธอรู้เอาไว้ ฉันกับเธอ เซียวเอ๋อเลือกได้เพียงคนเดียวเท่านั้น! หากเธอต้องการให้เขาสูญเสียแม่บังเกิดเกล้า ก็อยู่กับเขาต่อไป ไม่เช่นนั้น สิ่งที่รอเขาอยู่คือข่าวแม่ลูกแตกหักกัน!”
หยวนชูเฟินเป็นคนเด็ดขาด เอาจริงเอาจังเสมอ ความร้ายกาจของเธอ หากเอาจริงขึ้นมาแล้วละก็ต้องได้เสมอ
หนึ่งอาทิตย์…..
เธอเตือนเธอเป็นครั้งสุดท้าย!
บังคับให้เธอหย่า อย่างน้อยต้องให้เหตุผลเธอสิ
“ทำไมท่านถึงบังคับให้เราหย่า?” ฉู่ลั่วหานจ้องหยวนชูเฟินนิ่งๆ เธอไม่ค่อยยุ่งวุ่นวายกับทั้งสอง แต่ในวันนี้ครั้งเดียวกลับทิ้งไพ่ใหญ่!
“เหตุผล? ง่ายมาก เซียวเอ๋อไม่รักเธอ ฉันก็ด้วย อีกอย่าง ชาติกำเนิดของเธอไม่คู่ควรกับเซียวเอ๋อเลยสักนิด เพียงแค่บริษัทฉู่ซื่อที่โอ่นเอนจะล้มแหล่ มีสิทธิ์อะไรมาเกี่ยวข้องกับตระกูลหลง?”
ร้ายกาจทุกคำพูด
“ลูกสะใภ้ที่ตระกูลหลงเลือกคือโม่หรูเฟย พวกเขารู้จักกันก่อนหน้านี้หลายปี การปรากฏตัวของเธอเป็นมือที่สามของพวกเขา! ตอนนี้เธอควรออกไป ให้พวกเขามีความสุข อย่ารบกวนพวกเขาอีกเลย!”
หัวใจ ต่ำดิ่งสู่ห้วงทะเลลึก!
แท้ที่จริงแล้ว เธอไม่คู่ควรกับตระกูลหลง?
แท้ที่จริงแล้ว เป็นเธอที่กีดขวางพวกเขาทั้งคู่
แท้ที่จริงแล้ว เธอควรถอยออกมา
ฉู่ลั่วหานดวงตาร้อนผ่าว อดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลริน เธอหัวเราะ “ฉันไม่ทำให้เขาลำบากใจ ฉันจะหย่าให้”
“ดีมาก”
ขณะที่หญิงสูงศักดิ์เตรียมเดินออกไปนั้น เขารั้งเธอไว้ยื่นบัตรเครดิตคืนให้กับเธอ “ฉันหย่าแน่ แต่เงินก้อนนี้ฉันรับไว้ไม่ได้ คุณเอากลับไปเถอะ”
หยวนชูเฟินหัวเราะแห้ง “เธอคิดว่าจะได้อะไรจากการหย่ากับลูกชายฉันมากกว่านี้หรือ?”
ฉู่ลั่วหานเจ็บปวดใจ “ฉันอยู่กับเขา ไม่ใช่เพราะเงิน ฉันรักเขา”
“พอได้แล้ว! รับไว้ซะ เธอสบายใจ ฉันเองก็สบายใจ”
หากรับเงิน เธอจะถอยไม่ได้อีกแล้ว เธอเองก็ไม่ต้องกังวล
ฉู่ลั่วหานกำบัตรเครดิตแน่น ไม่ได้ส่งกลับคืน
ฉู่ลั่วหานเดินออกจากร้านกาแฟ รอบดวงตาไม่ทันได้แห้งสนิทดี พลันเห็นเบอร์หลงเซียวโทรเข้ามา เจ็บปวดใจจนแทบเป็นลมล้มพับซะตรงนั้น
“ฮัลโล”
“เย็นนี้เลิกงานแล้วเจอกันหน่อยสิ”
“มีอะไรไหม”
“ฉันนัดเธอ จำเป็นจะต้องมีอะไรด้วยหรือ?”
เธอนิ่งไปสักพัก “ได้”
เพิ่งจบศึกกับหยวนชูเฟินหมาดๆ หลงเซียวตามมาติดๆ วันนี้หนีไม่พ้นแล้วสินะ?
เธอเรียกสติตนเองกลับคืนมา ฉู่ลั่วหานไม่ได้แสดงอาการตระหนกหวั่นต่อหน้าเขามากนัก เพียงเอ่ยรับคำเสียงแผ่ว “อยู่ที่ไหน?”
“ภัตตาคารEarlเป็นไง?” หลงเซียวจำได้ ฉู่ลั่วหานชอบทานสเต๊กเนื้อสันนอก สเต๊กที่ภัตตาคารEarlอร่อยสดใหม่ชุ่มคอนัก
“ไม่ต้องหลอก คุณมาที่อพาร์ทเม้นของฉันแล้วกัน คุณรู้ที่ไหน”
หลงเซียวประหลาดใจ เธอเชื้อเชิญเขาไปที่พักอาศัยส่วนตัวเช่นนี้ หรือเธอต้องการคืนดีกับเขาเช่นกัน?
บริษัทMBK ห้องทำงานประธาน
หลงเซียวคลายมือออก โทรศัพท์ไถลไปกับโต๊ะ ต่างเห็นประธานอารมณ์ดี
เขาอยากให้ความสัมพันธ์ทั้งคู่กลับคืนดีกัน เธออ้าแขนตอบรับอ้อมอกของเขา รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก หลงเซียวเคยเผยให้เห็นรอยยิ้มโดยไม่รู้ตัว
จี้ตงหมิงเดินเข้ามายังห้องทำงาน สังเกตเห็นเจ้านายตนยืนจ้องมองออกไปยังนอกหน้าต่าง “เจ้านาย ท่านเรียกหาผม?”
หลงเซียวลูบไล้ขอบโต๊ะแผ่วเบา “ยกเลิกรายการในคืนนี้ทั้งหมด ฉันมีที่ๆ จะต้องไป”
จี้ตงหมิงไล่ถาม “คืนนี้เจ้านายมีนัดหรือครับ?”
“ใช่”
จี้ตงหมิงนิ่งงันราวสามวินาที เจ้านายมีนัดอย่างนั้นหรือ? เขาไม่เห็นมีนัดกับใครในตารางนี่นา หรือเขาพลาดเรื่องราวตรงไหนไป? เรื่องสำคัญอะไรกัน?
“นายช่วยไปออฟฟิศเค่ยรุ่ยที ให้เธอช่วยเลือกของขวัญสำหรับผู้หญิงมา” หลงเซียวเอ่ยอย่างนิ่งเฉย
จี้ตงหมิงนิ่งราวถูกแช่แข็ง ของขวัญ? เจ้านายจะให้ของขวัญผู้หญิงคนไหนกัน? คงไม่ใช่โม่หรูเฟยหลอก อยู่กับเจ้านายมาตั้งนาน ไม่เคยเห็นเจ้านายให้ของขวัญอะไรกับโม่หรูเฟยเลยสักครั้ง ปกติแล้วเธออยากได้อะไร จะหยิบเองเลย
ไตร่ตรองดีๆ แล้ว คงไม่เกี่ยวข้องอะไรกับโม่หรูเฟย เป็นเธอเองที่เกาะแกะเจ้านายอยู่ฝ่ายเดียว
“ได้ครับเจ้านาย ผมไปที่ออฟฟิศเค่ยรุ่ยก่อน แล้วจะกลับมารับเจ้านาย” ของขวัญนี้เจ้านายคงมอบให้แก่ฉู่ลั่วหานเป็นแน่
อดรู้สึกสนุกไม่ได้