ซ่งอี่นั่วอดหลับอดนอน รอยจูบของเสิ่นฉวนซี ทำให้หัวใจของเเธอนั้นยุ้งเหยิงขีดสุด เธอพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการสัมผัสจากเสิ่นฉวนซีอยู่ตลอด แต่ถึงเอาเข้าจริงก็มักจะเป็นไปอีกทางที่เธอคาดการณ์เอาไว้
เธอพิงอยู่ที่เตียงนอน เธอในจดใจจองมองที่บนเพดาน เธอไม่รู้ว่าเธอกับเสิ่นฉวนซีที่เป็นอยู่มันคืออะไรกันแน่ หรือว่า ถังโย่วหนานรู้สึกเกรงใจเธอ เธอก็ต้องนอกใจอย่างนั้นหรือ และเนื้อคู่ก็ยังคงเป็นเสิ่นฉวนซี ผู้ชายที่ไม่อ่อนข้อให้กับเธอ อย่างนี้เธอจะหาเรื่องได้เหรอ
ซ่งอีนั่วทำอะไรไม่ถูก เธอคว้่่าหมอนขึ้นมา เอาตัวเองลงไปใต้หมอน ซ่งอี่นั่ว เธอจะเปลี่ยนเป็นคนหน้าไม่อายแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด
วันต่อมา ซ่งอี่นั่วได้เดินออกมาพร้อมใบหน้าเหมือนหมีแพนด้าตาโต เห็นฮันเหม่ยซีนั่งอึ้งและงอยเหงาอยู่ที่บนโซฟา เขาได้เดินมานั่งข้างเธอ นำข้อศอกสะกิดเธอ "เหม่ยซี เธอเป็นอะไรไป"
ฮันเหม่ยซีมองหน้าเธอ พูดอย่างอ่อนแอว่า "เห็นเธอกับหัวหน้าเสิ่นกระหนุงกระหนิงกันที่ใต้ตึก ฉันรู้สึกวาบหวามเลย"
ฮันเหม่ยซีล้มลงบนโซฟา นึกถึงความฝันอันไร้สาระเมื่อวานตอนเย็น เธอจะเป็นบ้าอยู่แล้ว อายุของเธอก็ปูนนี้แล้ว แม้ว่าจะฝันหวาน แต่เนื้อคู่นั้นยังคงเป็น……..ให้ตายเถอะ เอาสายฟ้ามาฟาดใส่ฉันที
ซ่งอี่นั่วล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ ตอนที่กลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็ได้เห็นกล่องกำมะยีสีฟ้าที่เคยทิ้งลงไปในถังขยะได้กลับมาวางอยู่บนโต๊ะเครื่องสำอ่าง เธอหยิบมันขึ้นมา พอดีฮันเหม่ยซีก็ได้เดินผ่านจากประตูด้านนอก เธอชะโงกหน้าเข้ามาแล้วบอกว่า "เมื่อวานฉันเห็นมันอยู่ในถังขยะ เลยช่วยเธอเก็บมันขึ้นมา นี้ไม่ใช่่ของสำคัญของเธอหรอกเหรอ ทำไมถึงโยนทิ้งมั่วซั่ว"
ซ่งอีนั่วพูดอะไรไม่ออก ได้เอากล่องกำมะยีสีฟ้าวางไว้บนโต๊ะเครื่องสำอาง หลังจากนั้นก็เดินไปหยิบเสื้อผ้าที่จะใส่ของวันนี้ที่ตู้เสื้อผ้า
ฮันเหม่ยซีมองเห็นแบบนั้นก็เดินยกไหล่ออกมา
ซ่งอีนั่วเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย ตอนที่ถือกระเป๋า เธอได้มองเห็นถุงที่เมื่อวานถืออยู่ด้วยความตกใจทำอะไรไม่ถูก ด้านในของถุงใส่ชุดสูทของเสิ่นฉวนซีร่วมถึงไข่มุกที่มีมูลค่านั้นด้วย เธอครุ่นคิดที่จะเปลี่ยนประเป๋าที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมเพื่อจากนั้นได้นำไข่มุกและเสื้อผ้าใส่ลงไป ตอนเย็นจะได้หาโอกาสเอาคืนให้กับเขา พวกเขาก็จะไม่ได้ติดค้างอะไรกันอีก
สี่โมงตรง เธอยุ่งจนหาเวลาว่างไม่ได้เลย คุณนายซ่งได้โทรศัพท์มาเพื่อเตือนเธอ งานตอนเย็นจัดอยู่ที่ห้องหมู่ตานของห้องโถงสุดหรูรุ่งโรจน์ งานเริ่มหกโมงครึ่ง บอกเธอให้ถึงตรงเวลา ซ่งอี่นั่ววางสายโทรศัพท์ ในสมองของเธอมีแต่ความเบลอไปหมด หลังจากนั้นก็ได้ทำงานต่อไป
ซ่งอีนั่วได้ทำงานเสร็จก็เกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว เธอถือโทรศัพท์ขึ้นมา มีสายไม่ได้รับสิบกว่าสาย สิบกว่าสายนั้นก็เป็นคนๆเดียวที่โทรมา เธอนึกออกว่าท่าทางลุกหลี่ลุกลนของเขาเป็นอย่างไร เธอไม่ได้โทรกลับไป ได้แต่เก็บของบนโต๊ะทำงานแล้วก็ถือกระเป๋าออกจากห้องทำงาน
นั่งรถมาถึงห้องโถงสุดหรู่รุ่งโรจน์ พนักงานได้นำเธอมาที่ด้านนอกของห้องหมู่ตาน เสิ่นฉวนซีได้ยืนสูบบุหรี่อยู่ที่ทางเดิน สายตาที่จ้องมองเธออย่างลึกซึ้งผ่านควันบุหรี่บนทางเดิน ทำให้่คนมองไม่ชัดเจนว่าเขากำลังทำอะไร
ซ่งอี่นั่วค่อยๆเดินก้าวเข้าไป ก็ได้นึกถึงการจูบเมื่อวานที่เกิดขึ้นแล้วก็เริ่มหายใจผิดจังหวะ เธอสบัดหน้าหนี หลบหลีกสายตาที่มองมาของเขา แล้วได้ผลักเปิดประตูไม้ที่แกะสลักด้วยรูปดอกไม้จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องรับรองแขก
ห้องรับแขกหรู่หราเจิดจรัส เสิ่นถังฉี่หงกับซ่งจ่งเย้นั่งอยู่ด้านหน้า คุณนายเสิ่นกับคุณนายซ่งนั่งอยู่ข้างๆของสามีตัวเอง และซ่งจื่อจินกับถังโย่วหนานยังไม่เห็นแม้แต่เงา ซ่งอี่นั่งได้มองไปที่คุณนายซ่ง คุณนายซ่งได้ลุกยืนขึ้นมา ตอนรับอย่างเต็มอกเต็มใจ "อี่นั่ว เธอทำไมถึงพึ่งมาช้าละ รีบมาทักทายกันเร็ว"
ซ่งอี่นั่วโดนคุณนายซ่งลากไปทางคุณนายเสิ่น ประตูที่แกะสลักด้วยรูปดอกไม้ก็ได้มีคนเปิดออกมา หางตาของเธอได้เยื้องมองไปที่หน้าของเสิ่นฉวนซีที่กำลังเดินเข้ามา เธอก็เริ่มลุกหลี่ลุกลน
เธอได้ร้องเรียก คุณนายซ่งมองเธอด้วยสายตาและน้ำเสียงที่ไม่ดีใจนัก "เธอยังรู้อยู่เหรอว่าฉันเป็นแม่ของเธอ ปีสองปีแล้วไม่เคยเห็นกลับมาบ้านสักครั้ง เธอยุ่งอะไรอยู่กันแน่ แต่งงานให้กับโย่วหนานห้าปีแล้ว ในท้องก็ไม่ได้มีข่าวดีอะไรเลย พรุ่งนี้เธอกลับไปบ้านตระกูลเสิ่นหน่อยนะ ฉันจะพาเธอไปตรวจที่แผนกสูตินารีเวช"
ซ่งอี่นั่วรู้สึกอึดอัดใจได้แต่ก้มหน้าลงไม่พูดอะไรสักคำ
คุณนายซ่งรีบตัดบทสนทนา " คุณพูดถููกต้อง อี่นั่วควรจะไปตรวจที่แผนกสูตินรีเวชแล้ว อี่นั่ว นั่งเถอะ นั่งคุยกับแม่สามีสิ เมื่อกี้ยังพูดถึงเธอเลยว่าเอาแต่ทำงาน ไม่มีเวลาหาความสุขให้กับตัวเอง"
สีหน้าของคุณนายเสิ่นได้ผ่อนคลายลงไปบ้างแล้ว ยื่นมือลากเธอมานั่งข้างๆตัวเอง กับซ่งอีนั่วสะใภ้คนนี้ เธอไม่ได้ชอบอะไรขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้เกลียด หลายปีมานี้โย่วนานได้ไปวุ่นวายอยู๋ข้างนอกก็ไม่เคยเห็นเธอโกรธอะไร จุดนี้เลยฝั่งอยู่ในใจของเธอ
ซ่งอี่นั่วรู้สึกถึงท่าทีที่ผิดปกติของคุณนายซ่ง ไม่ใช่ว่าเธอจะเอาเรื่องที่ซ่งจื่อจินท้องบอกกับผู้ใหญ่ตระกูลเเสินนะ แต่เห็นสภาพแบบนี้แล้วทำไมรู้สึกแปลกซะจริงๆ เธอมองไปที่คุณนายซ่ง คุณนายซ่งได้หลีกเลี่ยงสายตาของเธอ
ทำให้เธอประหลาดใจไปกว่านั้นคือ เธอเดินเข้ามาห้องนี้ ตัวเธอเองรู้สึกใจลอย ในห้องตลบอบอวนไปด้วยกลิ่นหอม กลิ่นนั้นได้โชยเข้ามาในจมูก เธอรู้สึกว่าเลือดทั่วร่างกายของเธอเริ่มจะสูบฉีด อาการคันแปลกๆก็ได้เริ่มลามไปทั่วร่างกาย ร่างกายของเธอร้อนละอุจนนั่งอยู่กับที่ไม่ได้
เธอพยายามทำให้ตัวเองสงบ "แม่ พี่สาวกับถังโย่วหนานยังไม่มาเหรอ แม่ไม่ได้บอกว่ามีอะไรจะบอกกับทุกคนหรอกเหรอ"
คุณนายซ่งได้ด่า่เด็กโง่นี้อยู๋ในใจ ใบหน้าได้แขวนรอยยิ้มที่อ่อนโยน "รถของจื่อจินมีปัญหาหนะ เมื่อกี้ที่พวกเธอยังมาไม่ถึง ฉันได้ให้โหย่วหนานไปรับเขาแล้ว ประเดี่ยวก็รีบกลับมา พวกเราไม่รอเขาแล้ว"
คุณนายซ่งกำลังพูดอะไร ซ่งอี่นั่วแม้แต่คำเดียวก็จับใจความไม่ได้ ร่างกายของเธอทั้งร้อนทั้งคัน เหมือนกับหนอนกำลังปืนป่ายอยู่ในเส้นเลือด เธออดทนด้วยชีวิต และเหงือก็ได้ไหลออกมาจากหน้าผาก เธอรู้ตัวว่าอาจจะโดนวางยาแล้ว แต่หลังจากที่เธอเดินเข้ามาในห้อง ของอะไรก็ยังไม่ได้แตะต้อง ทำไมถึงจะโดนวางยาได้ละ
เธอไม่มีเวลาคิดอย่างละเอียดแล้ว แค่อยากจะหนีไปจากที่นี้ จะได้ไม่เป็นตัวตลกของใคร เธอได้ลุกขึ้น ขณะที่เธอกำลังจะพูดออก ขาทั้งสองข้างของเธอก็ได้อ่อนละทวย แล้วได้ล้มลงบนพื้่น
ฝามือทั้งสองข้างได้มาประคองเธอเอาไว้ได้ทันเวลา เธอใช้สายตามเบลอๆของเธอมองไป เห็นใบหน้าที่ทำให้คนสงบขึ้น เธอรู้สึกตัวเองไม่ได้รับความธรรม เธอกลัวว่าคนรอบข้างจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเสิ่นฉวนซี เสียงกระซิบแนบชิดหูของเธอ "เธอโดนวางยาแล้ว ฉันพาเธอไปเอง"
เสิ่นฉวนซีเห็นเธอเหงือไหลเต็มไปหมดอและสีหน้าที่แดงกล่ำ ก็ได้ทายไว้ไม่กี่อย่าง เมื่อกี้ได้ยินเธอบอกว่าโดนวางยา หน้าของเขาก็ขรึมเข้มขึ้นมา อุ้มประคองเธอแล้วพูดกับคนเหล่านั้นว่า "อี่นั่วไม่ค่อยสบาย น่าจะเป็นไข้หวัด ฉันจะส่งเธอไปโรงพยาบาล"
จากอารมณ์ของเสิ่นฉวนซี เขาไม่ได้อธิบายอะไรกับพวกเขา แต่เขาจะต้องวิเคราะห์แทนซ่งอี่นั่ว
คุณนายซ่งรู้ว่ายานั้นกับเครื่องหอมกระตุ้นอารมณ์ได้เกิดผลแล้ว เธอเฝ้าภาวนาให้เสิ่นฉวนซีพาซ่งอี่นั่วไป อีกสักพักพวกเขาจะได้จับผิดได้ ในเสียงของเธอควาบคุมอาการดีใจของตัวเองไว้ไม่ได้ "เหรอ งั้นรีบพาเธอส่งที่โรงพยาบาล อย่าเสียเวลาอยู่เลย"
เสิ่นฉวนซีเห็นซ่งอี่นั่วได้กระชากเสื้อ เขาไม่สามารถที่จะวิเคราะห์สถานการณ์ ณ เวลานั้นได้ ตอนกำลังที่จะพาเธอไป อ้อมอกของเขาก็ได้วางเปล่า เพียงพริบตาคนที่อยู่ในอ้อมอกก็ได้ย้ายที่ไป โดนถังโย่วหนานรีบอุ้มไปในอ้อมอก
ถังโย่วหนานกวาดสายตาไปที่เสิ่นฉวนซี ก้มหน้ามองซ่งอี่นั่วที่อยู่ในอ้อมอก ริมฝีปากเธอค่อยๆเปิดออก สีหน้าแดงกร่ำ คดตัวลงที่หน้าอกของเขา ในปากยังครางว่า ร้อน ร้อน
เธอไม่ได้เป็นไข้หวัด แต่โดนคนวางยา
เขาไม่ได้พูดประโยคที่สองออกไป โอบเอวเธอแล้วอุ้มเธอขึ้นแล้วได้รีบเดินออกไปจากห้อง เสียงของเขาได้ยินออกมาจากด้านหลังประตูที่ปิดอยู่ "พนักงาน รีบเปิดห้องให้ฉันห้องหนึ่ง ยิ่งเร็วยิ่งดี"
ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของเสิ่นฉวนซีก็ได้หมองคล้ำ ในสายตาเหมือนกับธนูที่กำลังเร่งอยู่บนร่างกายสี่คน สายตานั้นเหมือนกับโดนสัตว์ป่าที่กำลังโกรธทำให้คนเกิดความหวาดผวา เขาไม่พูดอะไรสักคำแล้วได้รีบเดินจากไป
ในห้อง ถังโย่วหนานได้พาซ่งอี่นั่วที่ร่างกายอ่อนปลวกเปียกวางลงบนเตียง เขายืดตัวขึ้นมามองดูเธอที่เจ็บปวดและหน้าที่ขมวดอยู่ของเธอ เขายื่นมือลูบหน้าเธอเบาๆ และได้จูบลงบนริมฝีปากของทีเธอ
ทั่วร่างกายของซ่งอี่นั่วทั้งร้อนทั้งไม่สะบายใจ ความรู้สึกตัวของเริ่มไม่ชัดเจนแล้ว ไม่รู้เลยว่าที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นใคร เธอทั้งดึงเสื้อ ทั้งถูเบาๆบนร่างกายของถังโย่วหนาน "ร้อนจัง…….ช่วยฉันหน่อย…..ขอร้องละช่วยฉันที……"
เลือดทั่วร่างกายของถังโย่วหนานก็ได้ไหลย้อนกลับ อดไม่ได้ที่จะแอบหวังเรื่องที่อยู่ในใจ น้ำเสียงของเขาเด็ดเดียว "อี่นั่ว แบบนี้สวรรค์ได้ส่งโอกาสนี้ให้กับพวกเราแล้ว ทำให้ฉันต้องได้เธอ"
พูดแล้ว จูบของเขาก็ได้จูบลงดั่งสายฝนที่ตกลงมา นิ้วมือค่อยๆขยับไปด้านล่าง ปลดกระดุมที่ละเม็ดของเธอออก….
MANGA DISCUSSION