คุณนายซ่งเห็นซ่งอีนั่วเดินไปนั่งข้างเสิ่นเฉินชีก็ตากระตุกขึ้นมา บางเรื่องที่เธอเผลอลืมไปก็กลับเข้ามาในสมองอีกครั้ง เธอจ้องซ่งอีนั่วอย่างดุร้าย และเตือนเธอว่าอย่าพูดอะไรพล่อยๆ
เช้าวันนี้ซ่งจื่อจินร้องไห้กลับมาบ้าน ไม่ว่าเธอจะถามยังไง ซ่งจื่อจินก็ไม่บอกว่าทำไมถึงร้องไห้ สุดท้ายเมื่อโดนเธอจี้ถามจึงได้รู้ความว่าเสิ่นเฉินชีไร้อารมณ์ทางเพศ
เธอรู้สึกราวกับฟ้าผ่าลงมากลางใจ ลูกเขยที่เธอเลือกแล้วเลือกอีกดันเป็นคนไม่มีอารมณ์ทางเพศ แล้วเขาจะให้ความสุขกับจื่อจินได้ยังไง ผู้ชายที่แม้แต่จะมีเซ็กซ์ก็มีไม่ได้ จะทำให้จื่อจินมีความสุขได้ยังไง ถึงเขาจะรวยแต่ลูกสาวของเธอก็ไม่มีความสุข
อาจเป็นเพราะความจริงที่ว่าเสิ่นเฉินชีไม่มีอารมณ์ทางเพศกระทบต่อเธออย่างรุนแรง ดังนั้นเมื่อจื่อจินบอกว่าท้องกับถังโย่วหนาน เธอจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก ขอแค่ให้จื่อจินไม่เป็นม่าย ท้องกับใครก็ได้ทั้งนั้น
ต่อมาเธอก็เงียบ และไตร่ตรองอย่างรอบคอบ จื่อจินท้องลูหของถังโย่วหนาน เรื่องนี้มันค่อนข้างยุ่งยาก โดยเฉพาะเมื่อถังโย่วหนานและเสิ่นเฉินชีมีความสัมพันธ์เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ไม่ใช่คนอื่นไกล
ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไป ไม่เพียงแต่ถังโย่วหนานที่เสียชื่อเสียง แต่จื่อจินก็จะโดนกล่าวหาว่าเป็นคนตีท้ายครัวหลานเขย และเรื่องนี้จะทำให้เสิ่นเฉินชีโกรธ เสิ่นเฉินชีเป็นผู้กุมอำนาจทุกอย่างในตงเฉิง ถ้าเขาโดนดูถูกมากขนาดนี้ เขาก็สามารถทำลายตระกูลซ่งได้โดยไม่ต้องลงแรงอะไรเลย
เธอต้องหาวิธีให้เสิ่นเฉินชีเป็นคนนอกใจก่อน ให้เขาทำไม่ดีกับจื่อจิน แค่นี้จื่อจินก็จะสามารถกำจัดเขา และยังได้เงินตอบแทนอีกมหาศาล
คุณนายซ่งมองซ่งอีนั่วกับเสิ่นเฉินชีที่นั่งอยู่บนโซฟา ทันใดนั้นก็เกิดความคิดพิเรณขึ้น ถ้าเสิ่นเฉินชีนอกใจไปหาซ่งอีนั่ว ปัญหานี้ก็จะจัดการได้อย่างง่ายดาย
คุณนายซ่งยกนิ้วให้กับความคิดของตัวเอง ถ้าทำอย่างนี้เสิ่นเฉินชีก็จะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แถมเธอยังได้โยนขี้ให้ซ่งอีนั่วด้วย แค่คิดก็รู้สึกโล่งใจ
ถังโย่วหนานขมวดคิ้วขึ้นมาเมื่อเห็นซ่งอีนั่วนั่งข้างเสิ่นเฉินชี เธอคิดจะทำอะไร จะบอกอาสี่ว่าซ่งจื่อจินท้องลูกของเขาหรอ ถ้าเธอกล้าก็อย่าหวังว่าจะได้หย่ากับเขา อย่าคิดว่าจะได้รับอิสระภาพ
ซ่งจื่อจินกังวลจนเหงื่อแตก เมื่อเช้าที่เธอกล้าไปยั่วยุซ่งอีนั่ว เพราะเธอรู้นิสัยอีนั่วดี ว่าถ้าแม่ออกโรง อีนั่วไม่มีทางกล้าพูดอะไร แต่จากสถานการณ์ตอนนี้ ถ้าเธอบอกกับเสิ่นเฉินชีแล้ว และมาเอาเรื่องด้วยกันล่ะ
เมื่อคิดได้อย่างนั้นซ่งจื่อจินก็นั่งแทบไม่ติด เธอรู้สึกเลิ่กลั่ก รู้สึกว่าสายตาของเสิ่นเฉินชีที่มองมามีอะไรบางอย่างแฝงอยู่ เธอนั่งไม่ติดแล้ว ‘ปึง’ เธอยืนขึ้น ก่อนทุกคนจะหันมามองทางเธอ จึงเพิ่งรู้ตัวว่าเธอมีปฏิกิริยารุนแรงเกินไป เธอเม้มปากแน่น และพยายามปั้นยิ้มออกมา “อีนั่วมาที่ห้องกับพี่หน่อย พี่เห็นมีเสื้อผ้าที่เหมาะกับเธอก็เลยซื้อมาให้”
ซ่งอีนั่วแสยะยิ้มเย็นในใจ เธอคิดว่าซ่งจื่อจินจะไม่กลัวอะไรซะอีกถึงได้กล้าทำอุกอาจอย่างนั้น ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ แล้วจะทำแต่แรกทำไม “ฉันทำงานมาทั้งวันรู้สึกเหนื่อยมาก พี่เอาลองมาให้หน่อยสิ”
เธออยากคุยลำพังหรอ ฝันไปเถอะ เธอยังมองท่าทีนั่งไม่ติดนั้นไม่พอเลย
ซ่งจื่อจินโกรธจนตัวสั่น แต่ก็กลัวเสิ่นเฉินชีจะดูออก จึงได้แต่ข่มความโกรธ และมองไปที่คุณนายอย่างขอความช่วยเหลือ แม่ลูกรู้ใจกันเป็นอย่างดี คุณนายซ่งรีบยิ้มอย่างอบอุ่นมาข้างซ่งอีนั่ว “อีนั่ว อย่าทำนิสัยเด็กสิ พี่สาวเธอเดินช้อปปิ้งเหนื่อยขนาดนั้นยังคิดถึงเธอ อย่าทำลายน้ำใจกันอย่างนี้”
ซ่งอีนั่วเงยหน้ามองคุณนายซ่ง และยิ้มอย่างไร้เดียงสา “แม่พูดถูกค่ะ พี่สาวเดินช้อปปิ้งเหนื่อยมาก เธอทะ…”
“อีนั่ว!”
“ซ่งอีนั่ว!”
“ซ่งอีนั่ว!”
ซ่งอีนั่วมองทั้งสามคนอย่างไร้เดียงสา และแอบรู้สึกพอใจอยู่ลึกๆที่เห็นทุกคนตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี เธอรู้สึกเศร้าและเสียใจอีกครั้ง พลางยักไหล่และพูด “ทุกคนจะเครียดทำไมคะ ฉันจะบอกว่าเธอถือดอกไม้ไว้ ก็เลยลำบาก”
MANGA DISCUSSION