พวกนางทั้งสองไม่ได้เชื่อมโยงฉีเล่อร ์กับลูกศิษย์ของสานักเร ้น
ลับ แม้ว่าแม่ของฉีเล่อร ์จะเปลี่ยนชื่อของเขาก่อนที่นางจะเสียชีวิต
แต่ส าหรับพวกเขา เขาเป็ นเพียงเศษขยะ ไม่มีทางที่คนอย่างเขาจะกลายเป็ นศิษย์ของสานักเร ้นลับได้ “ให้หลี่ชิวท้าทายเขาเพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของเขา” ฮูหยิน
ใหญ่หลี่สั่ง
หลี่ชิวเป็ นหนึ่งในอัจฉริยะของตระกูลหลี่ อย่างไรก็ตามเขามาจากตระกูลสาขา เขามีอายุ 800 ปี และได้บรรลุขอบเขตเต๋าขั้นที่ 15 “ในส่วนของผู้น าตระกูล…”
สาวใช้ลังเล ตระกูลหลี่ให้ความสาคัญอย่างยิ่งกับการประลองนี้
เพื่อปกป้ องชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของตระกูลหลี่ พวกเขาไม่ ต้องการใช้ประโยชน์จากฉีเล่อร์ และส่งศิษย์ไปทดสอบความ แข็งแกร่งของเขา
หากพวกเขาทาเช่นนั้น มันจะทาให้คนอื่นรู ้สึกว่าตระกูลหลี่ไม่ มั่นใจในความสามารถของหลี่เทียนหลง
ฮูหยินใหญ่หลี่พูดหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง “เช่นนั้นก็ไปหาศิษย์ที่ ไม่ได้มาจากตระกูลหลี่”
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สาคัญนี้ อัจฉริยะของส านักเร ้นลับได้ ปรากฏตัวขึ้นและท้าทายเหล่าศิษย์ของตระกูลหลี่ เรื่องนี้กระตุ้นให้ นางสงสัย
สาวใช ้รู ้ว่าฮูหยินใหญ่หลี่กังวลอะไร
พวกเขากลัวว่าฉีเล่อร ์อาจแข็งแกร่งเกินไป และหลี่เทียนหลง อาจจะพ่ายแพ้
หลี่เทียนหลงเป็ นสมบัติล้าค่าของนาง
“เจ้าค่ะฮูหยิน”
สาวใช้พยักหน้าและกาลังจะออกไปเตรียมการเมื่อได้ยินเสียงดัง ขึ้น
“ไม่จาเป็ นต้องทาเช่นนั้น”
หลี่หวู่เฟิ่งก้าวเข้ามา
“ไม่ว่าใครจะชนะหรือแพ้ เทียนหลงก็ยังเป็ นอัจฉริยะ”
หลี่หวู่เฟิ่งนั่งลงบนเก้าอี้แล้วพูดว่า “การทดสอบฉีเล่อร ์จะทาลาย ชื่อเสียงและความมั่นใจของเทียนหลงเท่านั้น มันเลวร ้ายยิ่งกว่าการ สูญเสียความภาคภูมิใจเสียอีก”
“เช่นนั้นเราจะทาตามที่เจ้าบอก” ฮูหยินใหญ่หลี่พูดพร ้อมกับ พยักหน้า
แม้ว่าหลี่เทียนหลงจะพ่ายแพ้ เขาก็คงจะพ่ายแพ้ให้กับศิษย์ของ สานักเร ้นลับ ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าละอาย ตราบใดที่การต่อสู้ดาเนินไป ด้วยดี
ตระกูลหลี่ได้เริ่มเตรียมการสาหรับผลลัพธ ์ทั้งสองอย่างแล้ว
เมื่อมีการประกาศวันที่และสถานที่ของการประลอง มันก็ทาให้ ชาวส่วนกลางตกอยู่ในความโกลาหล และขุมอ านาจและอัจฉริยะ จานวนนับไม่ถ้วนก็แห่กันไปที่สถานที่จัดงาน
ทุกคนต่างอยากรู ้ว่าศิษย์ใหม่ล่าสุดของสานักเร ้นลับนั้นทรงพลัง เพียงใด
ศิษย์ทุกคนที่ได้รับการฝึ กฝนจากสานักเร ้นลับสามารถเป็ น อัจฉริยะทุกคนได้หรือไม่?
แม้ว่าสานักเร ้นลับจะลึกลับและทรงพลัง แต่ก็ไม่เคยกลั่นแกล้งผู้ อ่อนแอ
การผงาดของอี้หลิงหลิงและเสวี่ยผิงเป็ นผลมาจากความ พยายามของพวกเขา พวกเขาต่อสู้ หลบหนี และบางครั้งก็เกือบตาย แต่พวกเขาก็อดทนอดกลั้นผ่านได้ อัจฉริยะหลายคนเงยหน้าขึ้นมอง พวกเขาและเคารภพวกเขา เลือกที่จะเดินตามรอยเท้าของพวกเขา และหลีกเลี่ยงการคุ้มครองจากสานัก
พวกเขาต้องการพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าพวกเขาก็ทัดเทียมกับอี้ห ลิงหลิงและเสวี่ยผิงได้เช่นกัน
ในช่วง 10,000 ปีที่ผ่านมา อัจฉริยะเพียงไม่กี่คนก็ปรากฏตัวขึ้น และบ่งบอกว่าพวกเขาสามารถแข่งขันกับอี้หลิงหลิงและเสวี่ยผิงได้ ซึ่งทาให้อัจฉริยะนับไม่ถ้วนมีความมั่นใจอย่างมาก
ตอนนี้ พวกเขากาลังจะได้เห็นการปรากฏตัวของลูกศิษย์คนที่ สามของส านักเร ้นลับ!
บางคนนั้นภูมิใจและหยิ่งยโส คิดว่าพวกเขาเกิดผิดเวลาจึงไม่ สามารถแข่งขันกับอี้หลิงหลิงและเสวี่ยผิงได้
อย่างไรก็ตาม ด้วยการปรากฏตัวของฉีเล่อร ์พวกเขาทั้งหมด สามารถใช ้เขาเป็ นบันไดที่จะผงาดขึ้นได้
สถานที่สู้รบครั้งสุดท้ายคือสนามรบโบราณในส่วนกลางของ โลก ซึ่งเป็ นหนึ่งในสถานที่ที่เกิดมหาสงคราม
หลังจากผ่านไปหลายปี พลังที่หลงเหลืออยู่ก็หายไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม พื้นดินนั้นเรียบเหมือนกระจก แต่ก็แข็งมาก เช่นกัน แม้แต่การโจมตีของจักรพรรดินักบุญเต๋าก็ไม่สามารถทิ้ง ร่องรอยไว้บนพื้นเรียบเหมือนกระจกได้
สนามรบโบราณแห่งนี้ยังเป็ นทางเลือกยอดนิยมในการประลอง กันในหมู่อัจฉริยะ
ยังมีเวลาหนึ่งวันก่อนการต่อสู้ แต่มีผู้ฝึกยุทธ ์หลายคนมาถึงแล้ว
นอกจากผู้ฝึกยุทธ ์มนุษย์แล้ว ยังมีเผ่าอสูรอีกด้วย!
โลกตะวันสวรรค์ถูกปกครองโดยมนุษย์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มี เผ่าพันธุ์อื่น เผ่าพันธุ์อสูรก็เป็ นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังที่สุด เช่นกัน
ก่อนมหาสงครามเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ของโลกตะวันสวรรค์ได้ต่อสู้ เพื่ออานาจสูงสุด และในตอนนั้นก็มีเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังมากมาย
เมื่อถึงจุดหนึ่ง เผ่าพันธุ์ที่ไม่ได้รวมกับเผ่าพันธุ์อสูรในอดีตได้ เข้าร่วมเผ่าอสูร พวกเขารวมตัวกันเป็ นหนึ่งเพื่อต่อสู้กับเผ่าพันธุ์ มนุษย์
เมื่อเวลาผ่านไป มันนามาซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันที่มีเผ่าที่ทรง พลังสองเผ่าในโลกตะวันสวรรค์ เผ่าพันธุ์มนุษย์ และเผ่าพันธุ์อสูร
เผ่าพันธุ์เล็ก ๆ อื่น ๆ ต่างก็ถูกละเลย
บนท้องฟ้ า นกล่าเหยื่อสีขาวราวกับหิมะบินมาราวกับริ้วแสง
นกพุ่งลงบนพื้นและกลายเป็ นชายหนุ่มในชุดขาว เขาเป็ นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงของเผ่าพันธุ์อสูร
MANGA DISCUSSION