ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ - ตอนที่ 5 ได้รับชัยด้วยความดื้อดึง
กู้เหม่ยอวี้ทานโจ๊กเข้าไปหนึ่งคำ จากนั้นก็ยิ้มแล้วเอ่ยถามเซี่ยอันหราน "ได้ยินมาว่าวันนี้ตอนบ่ายมีสัมภาษณ์เหรอลูก"
เซี่ยอันหรานพยักหน้า "ได้รับผลประกาศแล้ว บริษัทหวาอวี่รับนักแสดง แล้วให้หนูไปลอง
ดู….."
เซี่ยอันหรานได้รับการรับเลือกจากบริษัทหวาอวี่ ความจริงแล้วเป็นเรื่องราวที่บังเอิญมาก เซี่ยอันหรานเดินอยู่บนถนน แล้วก็ถูกเอเจ็นซี่พบเข้า เซี่ยอันหรานจึงรับนามบัตรเอาไว้แล้วเข้าไปสัมภาษณ์ที่บริษัทหวาอวี่ ถ้าหากว่าผ่านสัมภาษณ์ เธอก็จะสามารถเป็นนักแสดงของบริษัทได้เลย
เมื่อภพที่แล้ว เซี่ยอันหรานเองก็ผ่านและกลายมาเป็นนักแสดง แต่ว่าตอนที่เซี่ยอันหรานอยู่ในวงการมาได้หนึ่งปี ตอนที่พึ่งจะโด่งดังนั่นเอง เธอก็ได้แต่งงานกับถังรั่วชิวไปเสียก่อน
ตอนแรกคนที่เดินอยู่ด้วยกันกับเซี่ยอันหรานก็คือฉู่เสี่ยวเสี่ยว แต่เธอก็ไม่ได้รับคำชักชวนไปด้วย ความจริงแล้วฉู่เสี่ยวเสี่ยวเองก็มีหน้าตาสะสวยที่ไม่ได้แพ้เซี่ยอันหรานเลย แต่เพราะด้วยความเคยชินของฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่ชอบแสร้งทำตัวน่าสงสาร ตอนที่เอเจ็นซี่ถามคำถามนั้น เธอก็ได้ตอบคำถามอย่างเหนียมอายไปด้วยความเคยชิน
เมื่อเอเจ็นซี่เห็นว่าฉู่เสี่ยวเสี่ยวคงขึ้นเวทีไม่ได้ ก็เลยไม่ได้ใส่ใจฉู่เสี่ยวเสี่ยวอีกต่อไป
แต่ฉู่เสี่ยวเสี่ยวไม่มีทางที่จะคิดว่าสาเหตุที่ตนไม่ถูกเอเจ็นซี่รับเลือกไปนั้นมีสาเหตุมาจากตัวเธอเองอย่างแน่นอน และเรื่องนี้ก็ได้โทษเซี่ยอันหรานอีกครั้งหนึ่ง ฉู่เสี่ยวเสี่ยวคิดว่าถ้าหากไม่มีเซี่ยอันหรานที่ดึงดูดสายตาของเอเจ็นซี่ไปล่ะก็ เธอจะต้องได้รับเลือกแน่นอน
ขณะนั้นนั่นเอง ฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่ได้ยินหัวข้อสนทนาที่เซี่ยอันหรานพูดว่าจะได้กลายเป็นนักแสดงแล้วนั้น ก็พลันกำตะเกียบที่อยู่ในมือแน่นด้วยความริษยา
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวกดความริษยาที่อยู่ภายในใจลงไป แล้วยิ้มออกมาบางๆ พลางพูดขึ้นมาเบาๆ ว่า "แต่ว่าอันหรานคงไม่ไปใช่ไหม ถ้าวันไหนเกิดคุณหนูใหญ่กลายไปเป็นดาราเปิดเผยสู่สาธารณชนขึ้นมา คงจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่"
ภายในใจของฉู่เสี่ยวเสี่ยวก็คิดขึ้นมาอย่างเงียบๆ ว่า เซี่ยอันหรานเธอห้ามไปนะ เธอห้ามไปเด็ดขาด ฉันไม่อยากให้เธอที่มีทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว และยังได้กลายมาเป็นดาราอีกด้วย
เซี่ยอันหรานรู้ว่าฉู่เสี่ยวเสี่ยวคาดหวังที่จะเป็นดารามากที่สุด เพราะว่าฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่ไม่ได้ครอบครองอะไรเลยนั้น ก็มีเพียงแค่ใบหน้าอันสะสวยนั้นของเธอที่จะยังพอมีค่าอยู่ ที่จะทำให้กลายมาเป็นดาราได้ เป็นโอกาสอันดีงามที่ฉู่เสี่ยวเสี่ยวจะใช้ชุบตัวได้ และโอกาสอีกอันที่จะใช้ชุบตัวได้นั้นก็คือ แต่งงานกับพี่ชายของเธอ เซี่ยหมิงเซวียน แต่ว่าพี่ชายของเธอก็ไม่แลฉู่เสี่ยวเสี่ยวเลยแม้แต่น้อย
คนที่จะหลงรักฉู่เสี่ยวเสี่ยวได้นั้น ก็คงจะมีแต่ผู้ชายเศษสวะเช่นถังรั่วชิวเท่านั้น
เซี่ยอันหรานมีหรือที่จะให้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวได้ดั่งใจหวัง และเธอเองก็ชอบการแสดงด้วยเช่นกัน ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าเธอชอบถังรั่วชิวมากกว่า ยอมที่จะทำตัวให้เหมาะสมกับตระกูลถังเพื่อตัวถังรั่วชิวแล้ว เธอเองก็คงไม่ยอมทิ้งเส้นทางการเป็นนักแสดงอย่างง่ายดายเช่นนั้นหรอก
เมื่อได้มองไปที่พ่อแม่ของตนเอง และเพราะว่าคำพูดของฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่พูดขึ้นมาราวกับต้องการจะห้ามไม่ให้เธอไปสัมภาษณ์ที่บริษัทเอเจ็นซี่ ตนจึงได้เผลอขมวดคิ้วไป
เซี่ยอันหรานก็ทำตัวดื้อขึ้นมา "โอ้ย คุณพ่อ คุณแม่ ให้หนูไปเถอะนะคะ อย่างแย่ที่สุดก็ถูกคนเรียกกันว่าอันหราน แต่จะไม่ยอมให้พวกเขารู้ว่าหนูเป็นลูกสาวของตระกูลเซี่ยหรอก แล้วก็ขอสัญญาว่าจะไม่เล่นฉากรัก โอเคไหมคะ หนูชอบการแสดงมากจริงๆ……."
เซี่ยอันหรานกระพริบตาปริบๆ ราวกับว่าเป็นลูกหมาตัวน้อยที่แสนน่าชังที่ผู้คนต่างเอ็นดู โดยเธอได้ซุกอยู่ในอ้อมอกของกู้เหม่ยอวี้ "ขอร้องละค่ะ ได้ไหมคะ"
ท่าทีของเซี่ยอันหราน ทำให้กู้เหม่ยอวี้และเซี่ยจวินอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เซี่ยหมิงเซวียนที่มีสีหน้าเย็นชามาตลอดก็พลันยกยิ้มมุมปากขึ้นมาเช่นกัน
หลังจากที่เซี่ยหมิงเซวียนรับช่วงงานดูแลบริษัทมา เซี่ยจวินก็ค่อยๆ เอางานที่อยู่ในมือตนส่งมอบไปให้เซี่ยวหมิงเซวียนทีละน้อย โดยมีแนวคิดที่จะเลี้ยงดูให้เซี่ยหมิงเซวียนกลายมาเป็นผู้นำของครอบครัว
เมื่อได้ยินคำขอร้องของเซี่ยอันหราน เซี่ยจวินก็หันหน้าไปมองเซี่ยหมิงเซวียน "เรื่องนี้ต้องถามพี่ชายของลูก"
เซี่ยอันหรานรีบกระพริบตาปริบๆ สาวเท้าหันไปออดอ้อนเซี่ยหมิงเซวียน "พี่จ๋า ขอร้องล่ะ สงสารน้องสาวตาดำๆ ที่เรียนไม่ได้ความแต่ชอบการแสดงคนนี้ด้วยเถอะนะ"
"เป็นบัณฑิตของมหาสิทยาลัยชื่อดังแล้วไม่ใช่เหรอ ยังจะบอกว่าตัวเองไม่มีความรู้อีกหรือไงกัน ทำตัวน่าสงสารนี่เขาทำกันแบบนี้เหรอ" เซี่ยหมิงเซวียนที่มีสีหน้าเย็นชาก็พลันอ่อนโยนลงมา ตัวเขาไม่สามารที่จะปั้นหน้าต่อหน้าน้องสาวคนนี้ได้เลย
เซี่ยหมิงเซวียนยกมือขึ้นไปยีหัวเซี่ยอันหราน จากนั้นจึงยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นมา "ในเมื่อเธอขอร้องเสียขนาดนี้ งั้นก็เอาแบบนี้แล้วกัน มีเงื่อนไขทั้งหมดสามข้อ ข้อแรกต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ ข้อสองคือต้องปกปิดสถานะของตนเอง และข้อสามก็คือยังต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ"
ความจริงแล้วที่เซี่ยหมิงเซวียนพูดถึงเงื่อนไขทั้งสามข้อขึ้นมานั้น ก็ล้วนแต่เพื่อให้เซี่ยอันหรานดูแลตัวเองให้ดี แม้ว่าตระกูลเซี่ยจะเป็นตระกูลที่ทำธุรกิจบริสุทธิ์ แต่เพราะด้วยความที่เป็นตระกูลใหญ่โตและมีธุรกิจที่ทรงอำนาจ จึงเป็นการยากที่จะหลีกเลี่ยงศัตรู ถ้าหากว่าเซี่ยอันหรานจะเข้าวงการนั้นก็จะต้องได้พบกับผู้คนมากมาย การที่ตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลเซี่ยจึงเป็นการปกป้องตระกูลเซี่ยที่เซี่ยอันหรานสามารถทำให้ได้
ยังดีที่เซี่ยอันหรานพึ่งจะเรียนจบกลับมาจากต่างประเทศ ยังไม่ได้ออกงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ อีกทั้งเซี่ยอันหรานพออายุได้ 12ปี ก็ออกนอกประเทศไป ตั้งแต่อายุ12 จนถึง 20ปี ก็อยู่ในช่วงวัยเจริญเติบโตพอดี เซี่ยอันหรานจึงดูเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก คนที่ไม่ได้เป็นคนสนิทจึงไม่มีทางดูออกว่าเป็นเธอเลย ขอเพียงแค่เธอไม่เอ่ยปากพูดออกมาว่าตนเป็นลูกสาวของตระกูลเซี่ย ก็จะมีเพียงไม่กี่คนที่รู้ถึงสถานะตัวตนของเซี่ยอันหราน
เมื่อเซี่ยอันหรานได้ยินคำตอบรับตกลงของเซี่ยหมิงเซวียน ก็พลันกระโดดเข้าไปกอดเซี่ยหมิงเซวียนแล้วพูดอย่างดื้อๆ ว่า "พี่ชายใจดีที่สุดเลย……."
เซี่ยอันหรานกล่าวจบ ก็กดเสียงลงต่ำจนเป็นเสียงแหบพร่าแล้วกล่าวพูดซ้ำขึ้นมาอีกที "พี่ชายใจดีที่สุดเลย……."
พี่ชายของเธอ พ่อแม่ของเธอ ทุกคนเป็นคนดีที่สุดเลย ทั้งยังใจดีกับเธอได้ถึงขนาดนี้ ตามใจเธอได้ถึงขนาดนี้ ในภพนี้ เธอจะต้องปกป้องพ่อแม่และพี่ชายของเธอให้ถึงที่สุด จะไม่ยอมให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นมาอีกครั้งอย่างแน่นอน