ตอนที่ ๓๗
ด้านนอกห้องของซูเอ้อร์หยาในเรือนจินหยวน แม่บ้านหลี่รู้สึกหวาดกลัวและเคาะประตูอย่างต่อเนื่อง นางตะโกนเรียก “คุณหนูสอง ท่านอยู่ในห้องไหมเจ้าคะ? อย่าทำให้ข้ากลัวสิเจ้าคะ”
“ให้เป็นหน้าที่ข้าเอง!”
พ่อบ้านชราดูเคร่งเครียดและรีบเดินมาหา ขณะที่เขากำลังจะเตะประตู ประตูก็พลันเปิดออก ซูเอ้อร์หยาออกมาในสภาพสวมชุดนอนตัวบาง นางเอ่ยด้วยท่าทางดูสับสน “แม่บ้านหลี่ พ่อบ้าน เกิดอะไรขึ้นหรือจ๊ะ? ทำไมพวกท่านถึงมาเคาะประตูกลางดึกเช่นนี้? ข้ากำลังหลับลึกอยู่เลยไม่ได้ยินพวกท่านจนกระทั่งถึงตอนนี้น่ะจ้ะ”
แม่บ้านหลี่รู้สึกโล่งใจ นางลูบอกและเอ่ยขึ้น “คุณหนูทำข้ากลัวแล้วนะเจ้าคะ มีนักฆ่าเข้ามาในบ้านตระกูลซู คุณหนูสามเกือบจะถูกฆ่าแล้วเจ้าค่ะ”
“หา?!” ดวงตาของซูเอ้อร์หยาเบิกกว้างดูราวกับเมล็ดชิ่ง นางดูหวาดผวาไป
หลี่หยินยังรู้สึกเป็นห่วง หลังจากที่เขาเข้าไปในห้องและตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วเขาก็โล่งใจ ไม่มีร่องรอยของคนเข้าไปในห้อง ดูเหมือนว่าเป้าหมายของนักฆ่าจะมีเพียงคุณหนูสามเท่านั้น
“พ่อบ้าน นายท่านเรียกให้ท่านมาที่เรือนใหญ่เพื่อปรึกษาหารือขอรับ” ผู้คุ้มกันคนหนึ่งเอ่ยจากด้านนอกประตู
หลี่หยินพยักหน้าและเอ่ยเตือน “ผู้คุ้มกันเรือนจินหยวนเพิ่มความระมัดระวังเป็นสองเท่า อย่าวางใจเด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวัน”
“ขอรับ!”
หลังจากหลี่หยินออกไปแล้ว เรือนจินหยวนก็กลับสู่ความสงบสุข แม่บ้านหลี่หวาดกลัวว่าซูเอ้อร์หยาจะนอนเพียงลำพัง นางจึงนำฟูกนอนของนางไปที่ห้องของซูเอ้อร์หยาและวางฟูกบนพื้นติดกับเตียงของซูเอ้อร์หยา
ซูเอ้อร์หยานอนอยู่บนเตียง ผมสีดำของนางแผ่สยายราวกับน้ำตก
ในความมืดมิด แม่บ้านหลี่ระบายลมหายใจลึกและสม่ำเสมอ ซูเอ้อร์หยายิ้ม อย่างที่คาดคิดไว้ ใครบางคนคงอดทนรอไม่ไหวที่จะสังหาร อัจฉริยะด้านอาหาร แต่ถ้าซูจื่อเผยตาย ความพอใจในชาติใหม่ของซูเอ้อร์หยาก็จะถูกทำลาย
ภายในเรือนหลัก ทุกคนที่อยู่ในการประชุมต่างรู้สึกตึงเครียด หลังจากนั้นครึ่งชั่วยามพวกเขาก็กลับไปพักผ่อน
ซูฮ่วนหลี่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยอย่างยิ่ง ในเวลากลางวันเขาได้เจรจากับตระกูลจูและตระกูลหยางเป็นเวลานาน ตอนนี้ในเวลากลางคืนเขายังต้องหารือเรื่องนักฆ่าอีกหรือ?
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกระซิบบางอย่าง เสียงนั้นช่างคุ้นหูนัก เขาจึงอดไม่ได้ที่จะย่องไปยังทิศทางของเสียง
“ตอนนี้ข้าแต่งงานกับซูจื่อเผยไม่ได้แล้ว ข้าก็จะไม่ปล่อยให้คนอื่นได้ทำเช่นนั้นเหมือนกัน!”
“…ไอ้คนไร้ประโยชน์ แค่ฆ่าสตรีคนหนึ่งแกยังทำไม่ได้ แกยังมีหน้าจะมาคิดว่าเป็นบุคคลสำคัญในเจียงหูอีกเรอะ! แกรู้ไหมว่าข้าโกรธขนาดไหน!”
เสียงนั้นค่อย ๆ เลือนหายไป ซูฮ่วนหลี่รู้สึกหวาดกลัวแต่ไม่กล้าจะออกไปมอง หากนักฆ่ายังอยู่ที่นั่น เขาก็จะนำความหายนะมาสู่ตัวเอง!
เมื่อเสียงเงียบหายไปแล้ว ซูฮ่วนหลี่ก็ยืนขึ้นมองไปยังทิศทางของเสียง เสียงนั้นมาจากทางเรือนตะวันตก
เขานอนไม่หลับอีกต่อไป และรู้สึกหนาวเยือกตั้งแต่เท้าลามขึ้นมายังศีรษะ หลานชายของเขาช่างเหี้ยมโหดนัก นี่คือความคิดของเขาหรือของตระกูลหยางกันแน่?
ซูฮ่วนหลี่จากไปและไม่เห็นว่ามีเปลือกหอยสีดำบนหญ้ากำลังเคลื่อนตัวไปยังเรือนตะวันตกอย่างช้า ๆ
เช้าวันต่อมา ซูเอ้อร์หยาตื่นขึ้นและแตะข้างเตียง ทันใดนั้นนางก็สัมผัสได้ถึงวัตถุรูปร่างเหมือนเปลือกหอย นางหยิบมันและลืมตาขึ้น มันคือแมลงพิษซินเซียงชี่นั่นเอง
“เป็นแมลงพิษที่น่าประทับใจนัก! มันหาเจ้านายของมันเจอด้วย”
ซูเอ้อร์หยาเอ่ยชมมันเงียบ ๆ หลังจากหยุดนักฆ่าเมื่อคืนได้แล้วนางก็วางแผนต่อโดยบังเอิญ นางขว้างแมลงพิษไปในทางที่ซูฮ่วนหลี่จะเดินผ่านอย่างแน่นอน ถ้านางใส่ไคล้ตระกูลหยางสำเร็จมันก็จะเป็นเรื่องดีต่อนาง แต่ถ้านางล้มเหลวก็ไม่มีอันตรายใด ๆ
“คุณหนูเจ้าคะ ข่าวดีเจ้าค่ะ!”
เมื่อซูเอ้อร์หยาแต่งตัวเสร็จ แม่บ้านหลี่ก็เร่งรุดมาหานางจากด้านนอกและเอ่ยขึ้น “นายท่านกำลังเดือดดาล เขาคิดว่าตระกูลหยางส่งนักฆ่ามา วันนี้คุณชายหยางกับมารดาของเขากำลังจะถูกขับออกจากบ้านตระกูลซูแล้วเจ้าค่ะ”
ซูเอ้อร์หยาไม่รู้สึกแปลกใจ แต่นางก็แสร้งทำอย่างนั้น “ครอบบครัวพี่หยางโหดเหี้ยมขนาดนั้นเลยเหรอ? แย่จริง ๆ เลย!”
“ใช่เจ้าค่ะ!”
เมื่อจำได้ว่านางทำความเคารพพวกเขาเมื่อวาน นางก็รู้สึกหวาดกลัวจนขนลุก
ในตอนนี้ซูเยว่จู๋ร้อนใจอ่างยิ่งจนร้องไห้ที่ด้านนอกประตูบ้านตระกูลซู นางยึดตัวพี่ชายไว้และเอ่ยขึ้น “พี่ชาย ท่านทำอะไรหรือเจ้าคะ? อาเว่ยส่งนักฆ่ามาได้อย่างไรกัน? เขาเป็นหลานของท่านนะเจ้าคะ”
“ใช่แล้วท่านลุง! ถึงข้าจะเป็นไอ้เด็กเวร แต่ข้าก็ไม่ได้ทำสิ่งชั่วร้ายแบบนั้นแน่นอน!” หยางเว่ยอธิบายอย่างร้อนรน
ซูฮ่วนหลี่แสยะ “สิ่งที่ทำในตอนกลางคืนปรากฏในตอนกลางวัน ข้าได้ยินชัดเจนว่าเมื่อคืนเจ้าพูดอะไรบ้าง ตอนนี้ไร้ประโยชน์ที่จะพูดอะไรแล้ว ไม่ใช่ตระกูลหยางของเจ้าหรือที่ตัดสินใจทำเพื่อทรัพย์สินของภัตตาคารไป๋เว่ย? พวกเจ้าจะไม่ได้กำไรใด ๆ สักแดงเดียว!”
หยางเว่ยอึ้งไป เมื่อคืนเขาทำอะไรไปงั้นหรือ? เขาใช้เวลาอยู่กับท่านแม่ตลอด…เขาพูดถึงเรื่องอะไรกัน? เขาละเมอพูดออกมาขณะหลับงั้นหรือ?
“ซูเยว่จู๋ เจ้าช่างโหดร้ายนัก เจ้าทำร้ายแม้กระทั่งพี่ชายของตัวเอง! กลับไปที่ตระกูลหยางของเจ้าซะและอย่ากลับมาอีก” ซูฮ่ววนหลี่เอ่ยอย่างไม่ลดละและจากไปพร้อมกับสะบัดแขนเสื้อ เขาเมินซูเยว่จู๋ที่ดูเหมือนคนโง่งมในสายลม
ในตอนนั้น หลี่ซานเป่าก็มองดูชายชุดดำในจวนที่ว่าการ ชายหนุ่มก้มหน้าลงตรงเขา ดูไม่มีมารยาใด ๆ ต่อให้งานของเขาคือการสังหารและลอบวางเพลิง
หลังจากช่วงเวลาเงียบงันครู่หนึ่ง ในที่สุดหลี่ซานเป่าก็พูดขึ้นมา “เจ้าจะบอกว่ามีจอมยุทธ์คนหนึ่งหยุดเจ้าไว้ได้อย่างนั้นหรือ?”
ชายที่กำลังกระวนกระวายพลันรู้สึกผ่อนคลายลงและเอ่ยด้วยอาการสงบ”เขาทำเพียงแตะที่ข้อมือข้า แล้วทั้งแขนของข้าก็ชาไป พลังนั้นไม่ได้มาจากคนธรรมดาแต่มาจากคนพิเศษในเจียงหูที่ฝึกตำราเสวียนกง โชคดีที่ข้าเสียเพียงมีดสั้นเหล็กกล้าธรรมดาที่ไม่อาจระบุที่มาไปเท่านั้นขอรับ”
“ข้าไม่คิดเลยว่าตระกูลซูจะมีจอมยุทธ์ที่เชี่ยวชาญวรยุทธ์อยู่ด้วย”
MANGA DISCUSSION