การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม - ตอนที่ 432
บทที่ 432 – อาการทางจิต
[คำเตือน : เนื้อหาต่อไปนี้ค่อนข้างที่จะเซนซิทีฟและมีความผิดปกติทางจิตที่ชัดเจน ไม่แนะนำให้ลอกเลียนแบบหรือทำตาม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน]
ในห้องเล็กๆ ของลูเซีย กรอบเล็กๆ ของเธอ.. บนโต๊ะมีหนังสือเรียน มีโคมไฟเปิดไว้ราวกับเธอพึ่งตั้งใจเรียน
แต่ในตอนนี้เธอนั่งอยู่มุมของห้อง ดึงผ้าห่มมาปกคลุมทั้งตัว ที่หูสวมหูฟังบางอย่างราวกับไม่ต้องการจะได้ยินเสียงอื่น
ในหูฟังของเธอมีเสียงของเลทิเซียที่เป็นเรนดังอยู่.. เป็นเสียงที่เรียกชื่อของลูเซียด้วยความอ่อนโยน
ด้วยความเป็นห่วง..
“ลูเซีย.. อย่ากินเลอะสิ”
“ลูเซีย พี่จะไปซื้อของไปด้วยกันไหม?”
“ลูเซีย เธอไม่สบายงั้นเหรอ ก็บอกมาสิ วันนี้ไม่ต้องไปโรงเรียน เดี๋ยวจะโทรไปบอกครูให้เอง.. อะไรนะ? อยากให้ดูแลงั้นเหรอ ได้สิ เป็นคำขอของน้องสาวนี่น่า”
“เดี๋ยวเถอะ ลูเซีย พี่บอกกี่รอบแล้วว่าอาบน้ำเสร็จให้ปิดน้ำด้วย.. แล้วก็ใส่เสื้อด้วย อย่าเดินโป๊แบบนั้นสิ!เธอเองก็โตแล้วนะ”
“แน่นอนว่ารักอยู่แล้ว พวกเราเป็นพี่น้องกันจะไม่รักได้ไงล่ะ ถามอะไรแปลกๆ ?”
“อ่า.. จะให้พี่ไปเป็นผู้ปกครองเหรอ.. จะดีเหรอ ก็แบบว่าพี่น่ะหน้าตาไม่ดีน่ะ… ไม่หรอก พี่ดูเท่สุดๆ งั้นเหรอ.. แฮะๆ ขอบใจนะ”
“ลูเซีย..”
“ลูเซีย….”
“ลูเซีย……”
เสียงของเลทิเซียดังกึกก้องอยู่ในหูสองข้างของเธอ มันทำให้เธอสงบใจลงได้.. ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เธอเป็นแบบนี้
ทุกคืน.. ทุกวัน เวลาอยู่คนเดียวเสียงแว่วจะดังขึ้น และสิ่งเดียวที่ช่วยเธอได้มีเพียงเสียงของพี่ชาย..
เสียงของเขาเปรียบดั่งสรวงสวรรค์สำหรับเธอ มือของเลวี่ขยับไปเองลงไประหว่างขาทั้งสองข้างเธอ.. เธอฟังเสียงของพี่ชายแท้ๆ ตัวเอง
พร้อมกับนั่งจ้องภาพของพี่ชาย.. และก็ช่วยตัวเองไปด้วย ทุกคืนมันจะเป็นแบบนี้.. เป็นแบบนี้
แต่การทำแบบนี้มันไม่ได้ทำให้อาการดีขึ้น แต่กลับยิ่งทุเลาลง.. เมื่อเวลาผ่านไปความต้องการของเธอยิ่งมากขึ้น.. มากขึ้นอีก
พี่ชาย.. คือคนที่ดีที่สุดสำหรับเธอ พี่ชายคือทุกสิ่งทุกอย่างของ เธอ ถ้าเพื่อพี่ชายละก็.. เธอพร้อมที่จะมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้
เลวี่ที่ดูสิ่งยี้อยู่รู้สึกคลื่นไส้.. เธอไม่ใช่ลูเซียเธอไม่รู้ว่าอาการมันเป็นแบบไหน แต่ความคิดของลูเซียมันทะลุเกินความรักระหว่างพี่น้อง
ทะลุเกินความนักระหว่างชายหญิงธรรมดาไปไกลโข ความอิจฉาที่มีต่อพี่สาวแท้ๆ ของเธอยังมีทะลุหลอด
ไม่ว่าใครที่ว่าร้ายหรือคิดจะแย่งพี่ไปจากเธอ ราวกับว่าเธอพร้อมที่จะพรากชีวิตมันทิ้งโดยไม่ลังเล
ความรู้สึกเหล่านี้มันรุนแรงขึ้น… จนคืนหนึ่งเธอไม่สามารถทนทานต่อความต้องการของเธอ…
เธอจ้องมองใบหน้าหลับสนิทของพี่ชายและแอบเข้าไปนอนบนเตียงเดียวกัน.. เธอใช้มือของเธอช่วยตัวเองอยู่ตรงนั้นแต่ก็ยังรู้สึกไม่พอ..
เธอใช้มือของพี่ชายช่วย.. ความแปลกประหลาดนั้นยิ่งทวีคูณขึ้นไม่มีทางลดลง ทุกคืน ทุกคืน.. เธอจะแอบเข้ามาในห้องของพี่ชายเพื่อทำเรื่องแบบนั้น
“พี่.. พี่… พี่….”
เธอพึมพำ.. มองหน้าพี่ชายก่อนที่จะก้มลงไปจูบกับริมฝีปากของเขา..
“ทำไม.. พี่ชายจูบกับพี่สาวได้..งั้นจูบกับฉันก็ได้ใช่ไหมล่ะ?”
เธอพึมพำหาข้ออ้างมากมายมาโยนทิ้งลงตรงหน้าเพื่อทำทุกอย่างที่ตัวเองต้องการ..
อยู่มาวันหนึ่งพี่ชายของเธอกำลังเล่นกับแมวตัวหนึ่ง เป็นแมวจรจัด พี่ชายแม้จะหน้าตาน่ากลัวก็ยังเป็นคนใจดี
แม้แมวตัวนั้นมันจะไม่ชอบหรือกลัวพี่ชายเธออะไรก็แล้วแต่.. มันใช้กรงเล็บของมันข่วนพี่ชายจนเป็นแผล…
ทั้งที่พี่ชายพยายามจะรักษาขาที่หักของมันให้ ทั้งที่พยายามให้อาหาร… ในวันเดียวกันเธอเดินอยู่ทางเดินแถวใต้สะพาน
ก็มีแมวตัวหนึ่งมันเดินมาถูไถขาทั้งสองข้างของเธอ มันคลอเคลียราวกับต้องการอาหารอย่างน่าเอ็นดู
“แกมัน.. เจ้าแมวเมื่อตอนนั้น”
“เมี๊ยววว”
“อะไรกัน.. แกอยากได้อาหารเหรอ?”
“เมี๊ยววววว”
“ทำไมพี่ให้แล้วแกไม่กินล่ะ?”
“เมี๊ยว..”
“แกต้องการอะไร?”
“เมี๊ยว…”
“ฉันถามก็ตอบมาสิเว้ย!”
จู่ๆ ลูเซียที่พูดอยู่ดีๆ เธอก็โกรธขึ้นมาอย่างฉับพลันเท้าของเธอเตะใส่แมวตัวนั้นจนกระเด็นอัดผนังใต้สะพาน
แมวตัวนั้นร้องอย่างทรมาน อาจจะเพราะเป็นแมวจรจัดอยู่แล้ว ร่างกายมันเลยค่อนข้างที่จะผอมแห้งพอถูกเตะอัดผนัง
ขาทั้งสองข้างมันก็แทบลุกไม่ขึ้น.. ดวงตาของลูเซียจ้องไปที่แมวที่ร้องอย่างทรมานอยู่ตรงนั้น
“พี่ของฉันอุตส่าห์ให้อาหารแกแล้ว แต่แกไม่เอา…. แกเองก็ต้องการจะแกล้งพี่ชายใช่ไหม ใช่ไหม!”
เธอพูดพร้อมกับกระทืบเท้าใส่ท้องแมวตัวนั้นจนกระดูกซี่โครงมันหักดังกรอบ พร้อมเสียง “เมี๊ยวว!!” อย่างเจ็บปวดทรมาน
“อาศัยความใจดีของพี่ฉัน เพื่อทำร้ายเขา พวกแกมันก็แค่ขยะ ขยะ!”
“จะมารู้อะไรเกี่ยวกับพี่!พี่นะไม่เคยแม้แต่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเลยด้วยซ้ำ!พี่น่ะใจดีกับฉันเสมอ ตอนที่ฉันกลัวพี่จะอยู่ข้างๆ ฉัน”
“ตอนฉันเหงาพี่จะคอยปลอบประโลม ตอนที่ฉันร้องไห้พี่จะยังกอดฉัน ช่วยฉัน พวกแกมันสวะ สวะ!!”
เธอร้องออกมาด้วยความเกลียดชัง ราวกับว่าคำด่า คำนินทามากมายของคนหลายคนที่เคยว่าพี่ของเธอมันดังสะท้อนอยู่ในหูสองข้างของเธออีกครั้ง
บ้างก็ว่าเป็นคนชั่วบ้าง บ้างก็ว่าเป็นคนโหดร้าย อย่างพวกแกจะมาเข้าใจอะไรท่านพี่สักอย่างกันล่ะ
เท้าของเธอเหยียบลงไปบนหัวของแมวตัวนั้นจนตายคาที่.. แต่เท้าของเธอก็ไม่หยุดกระทืบมัน ฟันกรามสองข้ามกัดกันจนเกิดเสียงกรอด
พี่.. พี่ไม่ผิด เธอเหยียบแมวตัวนั้นจนตายขาเท้าตัวเองเลือดสาดกระเซ็นไปเต็มร้องเท้า… จู่ๆ เธอก็เหมือนจะได้สติขึ้นมา
เธอยกเท้าขึ้นมา.. มองศพของแมวตัวน้อย…
เธอเงียบลงไปพักหนึ่ง ก่อนจะร้องอ๋อขึ้นมาเหมือนเข้าใจบางอย่าง ก่อนที่เธอจะหยิบขนมปังออกมาจากกระเป๋าพร้อมกับฉีกขนมปังให้ครึ่งหนึ่ง
“อ๋อ.. แกหิวสินะ.. ฉันมีขนมปังอยู่ กินหน่อยไหม?”
เธอวางขนมลงตรงหน้าศพแมวตัวน้อย แต่ก็ไม่เห็นมันลุกขึ้นมากินเธอก็เอียงคอเล็กน้อย..
“แกไม่กินเหรอ.. อร่อยนะ.. ขนมปังเมรองเท้าฉันกับพี่ชอบมากเลยล่ะ เอ๊ะ… นี่มันอะไรเนี่ย?”
เธอก้มลงไปจ้องแมวตัวน้อยที่กลายเป็นศพก็สังเกตเห็นเลือดอาบไปทั่วรองเท้าของเธอ เธอประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะถอดร้องเท้าไปล้างน้ำที่แม่น้ำใต้สะพาน
พอล้างรองเท้าเสร็จเธอก็หันกลับไปเห็นซากศพแมวตัวนั้นยังไม่กินขนมปังเธอก็ขมวดคิ้ว…
“ถ้าแกจะไม่กินทีหลังก็ไม่ต้องมาอ้อนนะ ”
เธอพูดแบบนั้นแล้วก็จากไป