การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม - ตอนที่ 363
บทที่ 363 – ความรักที่ข้ามกาลเวลา
ภายใต้อารมณ์อันตกต่ำของเลทิเซียนั้นเอง เสียงบางอย่างกลับดังกึกก้องในจิตใจของเลทิเซียอย่างฉับพลัน
ฝ่ามืออันอ่อนโยนพลันเอื้อมมาคว้าเอาแขนของเลทิเซียเอาไว้และฉุดดึงเธอขึ้นมาจากการปะทะของห้วงกาลเวลา
“อย่าพึ่งยอมแพ้สิ.. ถ้าหากยี่สิบปีไม่ไหว.. ถ้าหากยี่สิบปีไม่ไหวละก็.. ก็ร้อยปีสิ มากกว่านั้นซะสิ”
ดวงตาที่ปิดสนิทของเลทิเซียที่ถูกดึงขึ้นมาจากบ่อน้ำแห่งกาลเวลาก็พลันเบิกโพลงขึ้นตรงหน้ามีใบหน้าอันอ่อนโยนของอามาเระกำลังจ้องมองมาที่เธอ
“อา..มาเระ… เธอ”
เลทิเซียอ้าปากค้าง ร่างกายของอามาเระในยามนี้ราวกับกำลังแตกสลายหายไปทีละส่วน เธอกำลังฝืนร่างกายตัวเอง
“ไม่ต้องห่วงข้า”
“จะไม่ให้ฉันไม่ห่วงได้ยังไงกัน? .. ก็เธอในตอนนี้กำลังจะแตกสลายไปไม่ใช่เหรอ แบบนั้นไม่เอาด้วยหรอก”
เลทิเซียตะโกนออกมามองร่างกายที่แตกสลายหายไปทีละส่วนของอามาเระ พออามาเระเห็นที่เลทิเซียเป็นห่วงเธอก็ตกตะลึงเล็กน้อย
ตลอดช่วงเวลาห้าปีที่อยู่ในโรงเรียนอามาเระได้พูดคุย ได้หัวเราะ ได้สนุกสนานไปพร้อมกับเลทิเซีย
บางครั้งก็นอนหลับลึกอยู่ในที่ไหนสักแห่ง บ้างก็ออกมาเล่นกับเลทิเซีย.. ตัวเธอนั้นเชื่อมต่อกับเลทิเซียด้วยความรู้สึกบางอย่างอันแรงกล้าที่แม้แต่ตัวเธอก็ไม่ค่อยเข้าใจ
แค่สิ่งเดียวที่เธอเข้าใจคือ.. การที่คนคนนี้ คนที่ชื่อเลทิเซียนี้มีความสุขนั่นคือความต้องการของเธอ..
ไม่รู้สิ.. อาจจะเป็นเพราะอยู่กับเลทิเซียมานานเธอถึงได้รู้ว่าทำไมตนเองถึงแข็งแกร่ง ทำไมตนเองถึงเป็นภูตที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก..
และ..ทำไมตัวเธอถึงเป็นแบบเดียวกับพวกเทพผู้สร้าง.. ตัวตนที่มีเพียงหนึ่งเดียว!หนึ่งเดียวในต้นกำเนิดแห่งนี้
ไม่มีตัวตนอื่นในโลกคู่ขนานๆ อื่นๆ .. ใช่.. เพราะเธอน่ะถือกำเนิดขึ้นมาเพราะความรักของเทพผู้สร้างที่มีให้กับคนคนหนึ่ง
ความรักของเทพผู้สร้างที่รังสรรค์สรรพสิ่งเพื่อคนคนนั้น ความรู้สึกรักใคร่ที่ไม่หวังจะครอบครองเหล่านี้นั้น..
มันประกอบขึ้นมาเป็นตัวเธอ.. ความรู้สึกอันแรงกล้าของเทพผู้สร้างนั้นได้มอบพลังให้กับอามาเระอย่างมากเหลือล้น
ซึ่งแน่นอนว่าผู้ที่ได้รับความรักจากเทพผู้สร้างก็ย่อมได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้ เพราะตัวตนอย่างภูตแห่งความรักของเธอถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว
มันทำให้ใครสักคนที่ได้รับความรักจากเทพผู้สร้างนั้น.. แข็งแกร่งขึ้นมานั่นเอง..
อย่างไรก็ตาม.. มีเรื่องที่อามาเระยังสงสัยอยู่..คนที่ได้รับความรักจากผู้สร้างไม่ใช่เลทิเซียอย่างแน่นอน
แต่ถ้าอย่างนั้น..แล้วทำไมเธอถึงได้ยึดติดกับเลทิเซียนัก หากเทพผู้สร้างมีความรู้สึกต่อใครสักคนก็หมายความว่าเธอต้องเป็นตัวกลางระหว่างเทพผู้สร้างกับบุคคลนั้นไม่ใช่เหรอ
แต่ทำไมอามาเระถึงได้มาเชื่อมโยงกับเลทิเซียได้โดยไม่รู้ตัว.. บางทีความทรงจำของเธอที่หายไปในช่วงเวลาที่โลกถือกำเนิดขึ้นมานั้นคงจะมีคำตอบบางอย่างที่เธอหลงลืมไปแล้วล่ะ
แต่นั่นก็ไม่สน.. นั่นไม่เกี่ยวกัน.. อามาเระได้สัมผัสสิ่งที่เรียกว่าความสุขตลอดระยะเวลาห้าปี…
แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ .. มันสั้นมากจริงๆ สำหรับคนแบบเธอที่อยู่มานานนับหมื่นปี.. ตลอดช่วงระยะเวลาหมื่นปีนั้นเธอแทบไม่เคยสัมผัสกับความสุข
ทุกครั้งที่หายใจออกมาต้องจมปลักอยู่กับความสิ้นหวังและความรู้สึกรักใคร่ที่มนุษย์มีให้ต่อกันและมากกว่าความรู้สึกใคร่
ยังมีความเคียดแค้นที่เกิดจากไม่สมหวังในความรัก.. หรือสิ่งต่างๆ … ทุกอย่างมันล้วนเกิดขึ้นตลอดทุกวี่ทุกวันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
มันนานจนเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันมากแค่ไหน.. ต่อให้เป็นอามาเระเองแม้จะเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งท้ายที่สุดแล้วเธอก็ยังคงลืม..
เรื่องราวต่างๆ ในอดีต..ค่อยๆ เลือนลับหายไปพร้อมกับสายน้ำแห่งกาลเวลา.. จนเมื่อตื่นมาอีกครั้งเธอก็ไม่อาจจำได้แล้วว่า..
เธอ…คืออะไรกันแน่.. มันเป็นความรู้สึกสับสนปนเศร้าโศก… สูญเสีย.. สูญเสียแล้วก็สูญเสีย ซ้ำไปซ้ำมา..
แต่ว่า.. ห้าปี.. ห้าปีที่อยู่ในโรงเรียนนั้นช่วงเวลาที่ได้อยู่กับเลทิเซียมันสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด.. เธอมีความสุขมาก
และความสุขเหล่านั้นเธอไม่มีทางลืมมันอย่างแน่นอน..มันจะถูกฝังลึกในจิตใจของเธอ.. เธอกำมือของเลทิเซียแน่นขึ้น
“ไม่เป็นไร..ข้าไม่ตายหรอก.. เพราะตราบใดที่โลกใบนี้ยังมีความรักอยู่ข้าก็จะไม่มีทางตาย แต่หลังจากนี้.. ข้าจะโดนพัดไปอยู่ในที่ที่แสนไกล.. บางทีพวกเราคงไม่สามารถได้พบกันอีกแล้ว”
“แต่ว่านะ.. แต่ว่าเลทิเซียถึงแบบนั้น.. ข้าก็จะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า ไม่ว่าจะหลุดไปในช่วงเวลาไหน.. กาลเวลาใด.. ข้าจะสร้างสถานที่.. สร้างสถานที่ที่เจ้าสามารถช่วยทุกคนได้..”
“เพราะงั้น..อย่ายอมแพ้นะ.. เลทิเซียอย่ายอมแพ้นะ.. ข้าน่ะรู้จักเจ้าดี..ข้าเห็นความคิดเจ้า ข้าเห็นความรู้สึกเจ้า ข้ารู้ว่าเจ้าผ่านความเจ็บปวดความเศร้าโศกมากี่ครั้ง กี่หน”
“ทุกครั้งไม่ว่าเจ้าจะเจอปัญหาแบบไหน เจ้าจะหาแรงบันดาลใจมาเพื่อก้าวเดินต่อไป.. เพราะงั้นไม่เป็นไรหรอก”
“เจ้าต้องไม่เป็นไร ดังนั้น… เจ้าก็เตรียมตั้งรับด้วยล่ะ.. ตั้งรับการช่วยเหลือจากข้าที่อาจจะมาจากอดีตอันไกลโพ้น..หรืออนาคตที่ยังก้าวไปไม่ถึง”
“โลกใบใหม่ที่พวกเราแปรเปลี่ยนสำเร็จนั้น..”
“มันจะต้องมีอยู่แน่นอน”
“ฉากจบที่พวกเรา.. พวกเราทั้งหมดได้อยู่ร่วมกั—”
ก่อนที่ทันจะได้กล่าวจบร่างของอามาเระพลันแตกสลายไปต่อหน้าต่อตาของเลทิเซียหายวับเข้าไปสู่แม่น้ำแห่งกาลเวลา
บางทีนับจากนี้.. หลังจากนี้เธออาจจะไปโผล่ในช่วงเวลาไหน กาลเวลาใดไม่มีใครทราบนอกจากเธอเอง
มือสองข้างเลทิเซียสั่นสะท้าน.. ฝ่ามือนั้นกลับมีบางสิ่งบางอย่างปรากฏอยู่.. มันมีจี้สีแดงอันหนึ่งอยู่ในมือของเลทิเซีย!!
เลทิเซียกำมือเข้าแน่นๆ ..
“อ่า.. นั่นสินะ.. อามาเระ.. ไม่ว่าเส้นทางจะโหดร้ายขนาดไหน.. ไม่ว่าพวกเราจะอยู่คนละห้วงเวลาก็ตาม..”
“แต่ความรู้สึกของพวกเรา..มันจะก้าวข้ามผ่านกาลเวลาเชื่อมถึงกันได้อย่างแน่นอน”
ดวงตาเลทิเซียเผยแววมาดมั่น.. จ้องมองไปยังทิศทางไหนไม่มีใครอาจจะทราบได้แต่เธอก็ยกกำปั้นไปข้างหน้า
“ฝากทางฝั่งนั้นด้วยนะ.. อามาเระ.. ส่วนทางฝั่งนี้..ฉันจะหาทางทำอะไรสักอย่างด้วยเอง”
ภายใต้คำสัตย์สาบานนั้นร่างกายเลทิเซียก็ถูกพัดออกไปจากแม่น้ำแห่งกาลเวลา…….