บทที่ 217: ฟิโอน่าตะลุยกินทัวร์ร้านอร่อยสปาด้า ครั้งที่สาม
เพราะผมบอกให้พักผ่อนอยู่ที่โรงเตี๊ยม ลิลี่เลยนอนกลางวันมากเกินไปจนกลางคืนนอนไม่หลับซะงั้น
พูดตามตรง ผมรู้สึกผิดจริงๆ ที่เข้าไปจุ้นจ้านเกินเหตุ
เดิมทีแล้ว ลิลี่ที่ปีกขาดก็ยังคงร่อนเร่ตามล่าราสปุนอยู่ในเทือกเขากาลาฮัดกับพวกเราตั้งสามวัน สภาพร่างกายของเธอไม่มีปัญหาในการเคลื่อนไหวตามปกติเลยแม้แต่น้อย
น่าจะปล่อยให้เธอทำตัวตามปกติโดยไม่ต้องไปสั่งอะไรที่ไม่เข้าเรื่อง คิดแล้วก็เสียใจ แต่ตอนนี้มันก็สายไปเสียแล้ว
ลิลี่ที่ดูเหมือนจะเพิ่งหลับไปเกือบจะพร้อมๆ กับฟ้าสาง เมื่อพิจารณาจากเวลานอนของเธอแล้ว คงจะไม่ตื่นจนกว่าจะใกล้ค่ำแน่ๆ เอาเป็นว่าปล่อยให้เธอพักผ่อนไปเงียบๆ ก่อนแล้วกัน
“ขอโทษนะลิลี่”
ผมเอ่ยคำขอโทษกับลิลี่ที่ยังคงหลับสนิทแม้จะถึงเวลาอาหารเช้าแล้วก็ตาม
แต่ว่า ลิลี่ในชุดปุยขาว [ไวท์ปุนปุนโร้บ] นี่มันน่ารักเกินต้านทานจริงๆ นะ ยิ่งคิดว่าเป็นของขวัญที่ผมให้แล้วเธอก็ยังอุตส่าห์ใส่อยู่เป็นประจำ ความรู้สึกมันก็ยิ่งท่วมท้น
ขณะที่กำลังคิดเรื่องนั้น ผมก็ทิ้งเจ้าหญิงนิทราลิลี่ไว้ในห้อง แล้วมุ่งหน้าไปยังโรงอาหารเพื่อทานอาหารเช้า
“วันนี้จะทำอะไรเหรอคะ?”
หลังจากทักทายกันพอเป็นพิธี ผมกับฟิโอน่าก็นั่งล้อมโต๊ะคุยกันเรื่องแผนการของแต่ละคน
ฟิโอน่าไม่ได้อยู่ในชุดคลุมแม่มดตามปกติ แต่สวมเสื้อคลุมเคปสีดำ ส่วนผมเองก็อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตกับกางเกงธรรมดาๆ ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ได้สวมใส่อุปกรณ์อะไร เป็นเครื่องแต่งกายที่ดูสบายๆ
“เอาเป็นว่า ธุระที่จำเป็นน่ะทำเสร็จไปหมดแล้วตั้งแต่เมื่อวานน่ะนะ”
ในเมื่อไม่ได้ไปทำเควสต์ สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ก็ล้วนแต่เป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่ำทั้งนั้น พูดง่ายๆ ก็คือ วันนี้ทั้งวันสามารถใช้ชีวิตเป็นวันหยุดพักผ่อนได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
“นั่นสินะ ไม้เท้าสำหรับมนตร์ดำกับชุดเกราะ—เอ่อ เอาไว้คราวหน้าแล้วกัน วันนี้พัฒนามนตร์ดำดีกว่า”
เมื่อคิดดูแล้ว การที่จะได้ใช้เวลาค่อยๆ พัฒนามนตร์ดำอย่างจริงจังแบบนี้ รู้สึกเหมือนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ตอนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่หมู่บ้านอิลส์เลยแฮะ
ถึงแม้ในช่วงที่กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมการรับมือที่หมู่บ้านอัลซัส จะได้คุณมอสช่วยสอนเรื่องมนตร์ดำรูปแบบปัจจุบัน [โมเดล] สายความมืดต่างๆ ให้ จนสามารถพัฒนา ‘ประตูเงา’ [ชาโดว์เกท] กับ ‘มือหนวดเงา’ [แองเคอร์แฮนด์] ได้สำเร็จก็ตาม
แต่ตอนนั้นมันสถานการณ์คับขันจนต้องพยายามอย่างสุดชีวิตเลยนี่นา ต่างกับตอนนี้ลิบลับเลย
“แล้วก็ อยากจะลองใช้พลังของพรพิทักษ์ดูหลายๆ อย่างด้วย”
สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลยในการพัฒนามนตร์ดำก็คือความสามารถใหม่ที่ได้รับมาจากพรพิทักษ์ นั่นก็คือการแปรสภาพเป็นเปลวไฟ
จนถึงตอนนี้ สิ่งที่เกี่ยวข้องกับพลังโจมตีจากพลังเวทมนตร์สีดำของผมก็มีแค่ การแปรสสาร [มาเทเรียไลซ์] หรือการเสริมพลัง [เอนแชนท์] ให้อาวุธ หรือไม่ก็การปล่อยพลังโดยตรงของ ‘ไพล์บังเกอร์’ [ตอกเขื่อน] หรือการใช้เป็นแหล่งพลังงานในการปล่อยเพลงดาบ ก็มีอยู่ประมาณนี้แหละ
แต่คราวนี้ คุณสมบัติ ‘เปลวไฟ’ —ถึงแม้จะเป็นรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงมาจากพลังเวทมนตร์สีดำเลยไม่ใช่ไฟจริงๆ ก็ตาม— แต่การนำสิ่งนี้มาใช้ประโยชน์ ก็ได้สร้างความเป็นไปได้ที่จะทำให้มนตร์ดำของผมมีการโจมตีสองรูปแบบคือ ‘ความร้อน’ และ ‘การระเบิด’ ขึ้นมา
นี่ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญเลยนะ ถ้าทำได้ดีๆ อาจจะสามารถจำลองอานุภาพของเครื่องยิงจรวดหรือเครื่องพ่นไฟได้เลยก็ได้ ไม่สิ ต้องทำได้แน่ๆ
แค่ไฟเยอร์บอลที่ประกอบขึ้นมาส่งๆ ยังมีพลังระเบิดพอสมควรเลยนี่นา ถ้าเข้าใจพลังของพรพิทักษ์ใหม่นี้ได้อย่างถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น แล้วสร้างคาถาที่มีประสิทธิภาพขึ้นมาได้ มันจะต้องกลายเป็นกำลังรบที่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน
จะว่าไปแล้ว มิอาเคยบอกไว้ว่าถ้าเข้าใจพลังของพรพิทักษ์แล้ว ก็จะพอจะเดาบททดสอบต่อไปหรือพลังของพรพิทักษ์ใหม่ที่จะได้รับได้ นี่คงจะหมายถึงการได้รับความสามารถในการแปรสภาพเป็นคุณสมบัติธาตุอื่นๆ สินะ
ราสปุนเป็นมอนสเตอร์ที่เชี่ยวชาญด้านไฟ ถ้าเช่นนั้น มอนสเตอร์ที่เป็นบททดสอบต่อไปถ้าเชี่ยวชาญด้านน้ำ ก็จะได้รับการแปรสภาพเป็นน้ำ ถ้าเชี่ยวชาญด้านสายฟ้า ก็จะได้รับการแปรสภาพเป็นสายฟ้า คาดเดาได้ว่าชนิดของคุณสมบัติที่สามารถจำลองขึ้นมาได้ด้วยพลังเวทมนตร์สีดำจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าเคลียร์บททดสอบทั้งหมดได้ ก็อาจจะได้เป็นปรมาจารย์ธาตุ [เอเลเมนท์มาสเตอร์] ที่สามารถใช้ได้ทุกธาตุจริงๆ ก็ได้
ไม่สิ ถ้าว่ากันตามจริงแล้วมันเป็นแค่การจำลองคุณสมบัติธาตุด้วยพลังเวทมนตร์สีดำสินะ คงจะเป็นได้แค่ปรมาจารย์ธาตุจอมปลอม [เฟคเอเลเมนท์มาสเตอร์] ล่ะมั้ง
“สรุปก็คือ วันนี้ว่างสินะคะ”
“อา อืม ก็ไม่มีธุระด่วนอะไรหรอกนะ”
ถึงจะพูดจายืดยาวมาตั้งเยอะ แต่สุดท้ายมันก็เป็นอย่างนั้นแหละ
“แล้วฟิโอน่าล่ะเป็นยังไงบ้าง?”
“ฉันยิ่งไม่ค่อยมีอะไรต้องทำมากกว่าคุณคุโรโนะอีกค่ะ”
คำตอบที่ตรงไปตรงมาอย่างไม่อิดออดกลับมา
เห็นว่าเมื่อวานฟิโอน่าอยู่เป็นเพื่อนลิลี่ก็เลยไม่ได้ออกไปข้างนอก
ลิลี่ที่เป็นคู่สนทนาก็ดันมาหลับไปแล้วในวันนี้อีก นี่มันต้องเบื่อจนทนไม่ไหวแน่ๆ
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ลองชวนฟิโอน่าออกไปซื้อของด้วยกันดูดีไหมนะ ขณะที่กำลังคิดเช่นนั้น ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัว
“ใช่สิฟิโอน่า วันนี้ให้ผมเลี้ยงขอบคุณหน่อยได้ไหม?”
“เลี้ยงขอบคุณเหรอคะ?”
แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ช่วยให้ ‘ขวานตัดอาลัย [สะบั้นคอ]’ พัฒนาขึ้นนั่นเอง
แต่เอาเข้าจริงแล้ว ความรู้สึกที่อยากจะตอบแทนอะไรสักเล็กน้อยให้กับฟิโอน่าผู้ซึ่งสละร่างกายของตนเองเพื่อช่วยเหลือนั้น มันอาจจะแรงกล้ากว่าความรู้สึกที่อยากจะเลี้ยงขอบคุณเสียอีก
“อย่างน้อยก็ขอเลี้ยงข้าววันนี้สักมื้อเถอะนะ”
ถึงจะพูดว่าอย่างน้อยก็เถอะ แต่ถ้าเป็นอาหารสองมื้อของฟิโอน่าล่ะก็ คงจะต้องเตรียมใจไว้พอสมควรเลยทีเดียว วันนี้คงจะได้ตะลุยกินทัวร์ร้านอร่อยสปาด้าอีกแน่ๆ
ไม่สิ ไม่เป็นไรน่า ยังมีรางวัลจากเควสต์จับดอลทอสอยู่ด้วย อย่างเลวร้ายที่สุดก็แค่ของพวกนั้นเกลี้ยงกระเป๋าเท่านั้นเอง… แค่นั้นเอง…
“ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นก็ได้ค่ะ”
นึกว่าจะรีบตะครุบเหมือนตอนที่เลี้ยงคราวก่อนเสียอีก แต่ปฏิกิริยากลับไม่ค่อยดีอย่างที่คิด
หืม หรือว่านี่จะเป็นอย่างที่เธอพูดจริงๆ ว่าผมเกรงใจเธอมากเกินไปกันนะ
“อย่างนั้นเหรอ ถ้างั้นก็คงจะ—”
“ไม่ค่ะ ไปทานข้าวด้วยกันนะคะ”
อ้าว สุดท้ายก็ไปอยู่ดีนี่นา
ท่าทีที่ซื่อตรงไม่เปลี่ยนแปลงของฟิโอน่าทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ถึงแม้รอยยิ้มนั้นอาจจะเจือปนไปด้วยความขมขื่นอยู่บ้างก็ตาม
“นั่นสินะ ถึงจะรู้สึกผิดกับลิลี่ที่กำลังหลับอยู่หน่อยๆ แต่ก็ไปกินกันสองคนแล้วกัน”
ผมกล่าวขอโทษลิลี่ในใจอีกครั้ง พร้อมกับนึกขึ้นมาได้ว่า นี่เป็นครั้งแรกเลยไม่ใช่เหรอที่ได้ออกไปข้างนอกกับฟิโอน่าสองต่อสองน่ะ
“สองคนเหรอคะ… ออกไปข้างนอกกับคุณคุโรโนะสองต่อสองนี่เป็นครั้งแรกเลยนะคะ”
ดูเหมือนว่าฟิโอน่าจะมีความรู้สึกเดียวกันเป๊ะเลย
“เอาเป็นว่า—นั่นสินะ นัดเจอกันตอนเที่ยงที่ลานกว้างแล้วกัน”
แน่นอนว่าหมายถึงหน้าโอเบลิสก์ที่มีชื่อเรียกใหญ่โตว่า ‘จุดเริ่มต้นแห่งประวัติศาสตร์ ซีโร่ โครนิเคิล’ [เรคิชิโนะฮาจิมาริ ซีโร่โครนิเคิล] นั่นเอง ลิลี่ก็เคยรออยู่ที่นั่นเหมือนกัน
“ไปด้วยกันจากโรงเตี๊ยมเลยไม่ดีกว่าเหรอคะ?”
“ไม่ล่ะ พอดีนึกขึ้นได้ว่ามีธุระอยู่อย่างหนึ่ง อยากจะไปจัดการให้เสร็จก่อนน่ะ”
อย่างนั้นเหรอคะ ฟิโอน่าพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
ก็ไม่ได้โกหกอะไรหรอกนะ
เหมือนกับที่ให้เสื้อคลุมปุยขาว [ไวท์ปุนปุนโร้บ] เป็นของขวัญกับลิลี่ไปแล้ว คราวนี้ก็ตั้งใจว่าจะหาของขวัญให้ฟิโอน่าด้วยเหมือนกัน การที่จู่ๆ ก็มีธุระด่วนขึ้นมามันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอก
ปัญหาคือจะหาของขวัญที่เหมาะสมได้ทันก่อนเที่ยงหรือเปล่านี่สิ ว่าแต่ จะให้อะไรเป็นของขวัญกับฟิโอน่าดีล่ะเนี่ย…
Translater : Eidolonwww.nekopost.net/editor/78229
MANGA DISCUSSION