บทที่ 99 อัน
ผู้ชมรอบ ๆ เริ่มกระซิบกระซาบกัน “ฉันก็ได้ยินมาเหมือนกันว่าหลายวันมานี้ผู้เฒ่าบ้านจางแก่ตัวลงเยอะ”
“บอกว่ารักษาอาการของผู้เฒ่าไม่ได้เลยเก็บเงินมาแต่งหลานสะใภ้แทน”
“น่าสงสารจัง คงอยากสะสมลาภเพื่อลูกหลาน ใครจะคิดว่าจะเจอคนแบบนี้ ซวยไปแปดชั่วโคตรจริง ๆ”
“หล่อนมั่นหน้ามาจากไหน เอาสินสอดไปมากมายขนาดนั้น แต่ยังหน้าด้านแต่งงานกับคนอื่นอีก!”
“ใช่ ๆ!”
เสียงดังต่อเนื่องทำให้เย่หมิงจูหน้าซีด สองเบ้าตาแดงก่ำเอ่ยแก้ตัวเสียงอ่อน “ไม่จริงค่ะ มันไม่ใช่อย่างนั้น!”
“จางเจิ้ง คุณต้องการทำอะไรกันแน่!’
เธอกดเสียงต่ำ ขอร้องอย่างนุ่มนวล “คุณกลับไปก่อนเถอะ ขอร้องละ เงินพวกนั้นฉันจะคืนคุณแน่ อีกอย่างคุณก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าเงินพวกนั้นไม่ได้อยู่ในมือฉัน พ่อของฉันเอาไปต่างหากค่ะ”
ปกติถ้าเย่หมิงจูพูดอย่างนี้ จางเจิ้งก็ใจอ่อนตั้งนานแล้ว แต่ครั้งนี้เขาใจแข็งเหมือนเวลาเต่างับของไม่ปล่อย “ไม่ต้องพูด ไม่ได้ผลหรอก ในเมื่อคุณตอบรับสินสอดของผมแล้วก็ต้องเอามาคืนตอนนี้”
“จะไปเขียนทะเบียนสมรสกับผมหรือจะเอาสินสอดมาคืนกันฮะ!”
เมื่อเฉิงจื่อเฉียนได้ยินคำพวกนี้ก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ภายใต้การล้างสมองของเย่หมิงจู เขาย่อมรู้ว่าคนบ้านเย่ปฏิบัติต่อเย่หมิงจูยังไง พวกเขาถือว่าจางเจิ้งเป็นชายอายุมากที่มีสินสอดอู้ฟู่ เขาพลันเห็นใจเย่หมิงจูขึ้นมา
“คิดจะมาชิงเจ้าสาวไปงั้นเหรอ? เลิกคิดไปได้เลย!”
ตอนนั้นเองที่แม่เฉิงผละตัวจากความยุ่งวุ่นวายที่หลังบ้าน แล้วพบเหตุการณ์ด้านนี้เข้า เมื่อได้ยินคำพูดของจางเจิ้ง คนที่คิดเล็กคิดน้อยแบบเธอพลันระเบิด “อยากเอาเงินบ้านเราไปเรอะ ไม่มีทาง ใครเอาเงินแกไปก็ไปเอากับคนนั้นสิ”
จางเจิ้งคาดไว้อยู่แล้วว่าการเอาสินสอดคืนมาคงไม่ราบรื่น เขาหัวเราะเสียงเย็น “คนที่เอาสินสอดผมไปคือเย่หมิงจู ผมก็มาแล้วไม่ใช่หรือไง?”
“ไม่ให้เงินก็ให้คนมากับผม! วันนี้ผมต้องได้สิ่งแลกเปลี่ยน!”
เย่หมิงจูยังถูกจางเจิ้งจับข้อมือแน่น เธอพูดเสียงเบา “แต่ตอนนี้ฉันไม่มีเงินค่ะ”
เงินพวกนั้นถูกเอาไปซื้อเสื้อผ้าเติมสินค้าหมดแล้ว เสื้อผ้าก็ยังขาดทุนจนถึงตอนนี้ เธอจะเอาเงินจากไหนให้จางเจิ้ง
แต่ถ้าไม่มีเงินให้จางเจิ้ง งานแต่งวันนี้คงจัดไม่สำเร็จแน่
แต่สิ่งที่จางเจิ้งได้ยินในหูก็คือเย่หมิงจูกำลังหน้าด้านอยากได้สินสอดแล้วไม่คืน
“ไม่มีเงินใช่ไหม? งั้นก็ง่ายมาก คุณก็ไปกับผมสิ แต่งงานกับผม แล้วผมจะปล่อยเรื่องก่อนหน้านี้ไป”
ดวงตาของเย่หมิงจูพลันสั่นไหวอยู่หลายส่วน
แต่ไม่รอการตอบสนองของหญิงสาว เฉิงจื่อเฉียนกับแม่เฉิงก็พุ่งเข้ามาแล้วกระชากข้อมืออีกข้างของเย่หมิงจู “อย่าได้คิด!”
“เย่หมิงจูเป็นภรรยาของฉันเฉิงจื่อเฉียน นายเสียสินสอดไปหนึ่งร้อยหยวน บ้านเฉิงของเราก็เสียเงินหนึ่งร้อยหยวนเหมือนกัน ถ้าจะแต่งงานก็ต้องแต่งกับเราบ้านเฉิง”
จางเจิ้งหรี่ตาซึ่งเผยถึงความโหดร้าย “ถ้าไม่ปล่อยตัวคนก็คืนเงินมา!”
“เงินน่ะไม่มี มีแต่ชีวิตจะเอาไหมล่ะ!”
แม่เฉิงคิดโหวกเหวกโวยวายอีกครั้ง
แม้จะเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจไปหน่อย แต่ก็มีประโยชน์ในสถานที่อย่างหมู่บ้าน
เธอพุ่งพรวดออกมาข้างหน้าเพื่อจะฉีกกระชากจางเจิ้ง แต่จางเจิ้งเป็นทหารหลายปี รูปร่างสูงใหญ่กำยำ เพียงพริบตาก็หลบได้
แม่เฉิงไม่ได้จะตีเขาอยู่แล้ว เธอเพียงฉวยโอกาสนั่งบนพื้นตบต้นขาโอดครวญ
“ไอหยา นี่มันโจรจากไหนกัน มาถึงก็จะขโมยสะใภ้บ้านเฉิง นี่คงคิดว่าบ้านเฉิงรังแกง่ายใช่ไหมล่ะ!”
“พอแล้ว!”
ทันใดนั้นเสียงชายชราของเฉิงฉินฉู่ก็ดังขึ้นมา ทุกคนที่อยู่ในสถานการณ์ต่างตกตะลึง
“บ้านเฉิง เรื่องนี้เป็นลูกสะใภ้พวกเธอที่ทำไม่ถูก ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นคนมาหาถึงที่เอง ถ้าพวกเธอยังยืนกรานจะแต่งสะใภ้ก็เอาเงินสินสอดคืนอีกฝ่ายไปเถอะ”
“ไม่อย่างนั้นคงทำให้ฤกษ์มงคลล่าช้าได้ เฉิงจื่อเฉียนและสะใภ้บ้านเธอคงไม่สงบสุขทั้งชีวิต”
เมื่อพูดถึงตอนนี้ แม่เฉิงก็ไม่คร่ำครวญบนพื้นแล้ว เธอรีบปีนขึ้นจากพื้นแล้วพูดว่า “ปู่รอง เงินก่อนนี้บ้านเย่เป็นคนติดนะคะ มิสิทธิ์อะไรถึงให้เราบ้านเฉิงจ่ายให้?”
เมื่อฉือฮวนดูถึงตอนนี้ เธอเกือบหลุดหัวเราะออกมา
ที่แท้แม่เฉิงก็เป็นนักแสดงแต่กำเนิด ให้เธอควักเงินในมือออกมายากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์อีก
สีหน้าของเฉิงฉินฉู่ดำคล้ำ เขาวิเคราะห์ถึงข้อดีข้อเสียแล้วพูดว่า “นอกจากว่าวันนี้พวกเธอจะไม่อยากเกี่ยวดองกับบ้านเย่แล้ว”
“ใช่แล้ว ก็ให้คนไปเรียกบ้านเย่สิ ให้คนบ้านพวกเขามาเจรจาสิ เงินหนึ่งร้อยหยวนไม่ใช่เงินน้อย ๆ ถ้าพวกเธอจัดการไม่เหมาะสม อีกฝ่ายคงแจ้งความจับข้อหาหลอกแต่งงานแน่!”
เฉิงฉินฉู่เอ่ยเตือน
แม่เฉิงพลันได้สติ
เฉิงฉินฉู่มองจางเจิ้งก่อนจะมองเย่หมิงจูที่เป็นต้นเหตุของเรื่อง เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าสะใภ้คนนี้เป็นตัวหายนะ แต่งงานวันแรกก็นำหายนะมาสู่บ้านเฉิงของพวกเขา ทำให้บ้านเฉิงกลายเป็นตัวตลกไปสี่บ้านแปดบ้าน
บ้านใครบ้างที่แต่งสะใภ้แล้วมีคนมาก่อเรื่องชิงเจ้าสาวกัน?
เย่หมิงจูสวยสู้ฉือฮวนไม่ได้ ฐานะทางบ้านก็ไม่น่าเหลือบแล แถมไม่ใช่สายเลือดผู้ดีอีก จะเป็นที่นิยมอะไรขนาดนั้น คงเป็นเพราะปีศาจอย่างเธอใช้ปากหวาน ๆ นั่นยั่วยวนผู้ชายแน่!
แม่เฉิงครุ่นคิดแล้วตวัดสายตาไปยังเย่หมิงจูอย่างดุดัน
แผ่นหลังของเย่หมิงจูสั่นเทาเมื่อสัมผัสได้ถึงความเกลียดชังที่ไม่คิดปกปิดของแม่เฉิง ในหัวมีเพียงความคิดเดียวคือ ‘จบเห่แล้ว!’
จบสิ้นแล้ว!
ถ้าแต่งเข้าบ้านเฉิงในสถานการณ์เฮงซวยแบบนี้ การขู่เข็ญที่รอเธอหลังจากนี้จะเป็นอะไร แค่จินตนาการก็รู้แล้ว
เฉิงจื่อเฉียนก็เพิ่งได้สติ เขารีบให้เพื่อนสนิทไปเรียกคนบ้านเย่มา
เวลาว่างระหว่างรอคนบ้านเย่
เหล่าคนกินเผือกทั้งหลายต่างกระซิบกระซาบกัน
แต่ถ้าพูดถึงคนที่กระสับกระส่ายที่สุด คงไม่พ้นเย่หมิงจู
เย่หมิงจูใบหน้าซีดขาว กำลังครุ่นคิดอย่างหนัก จางเจิ้งรู้ได้ยังไงว่าเธอแต่งงานวันนี้ จากที่เขาบอก เขาบอกว่าพ้นปีใหม่ถึงจะมีวันหยุดนี่ ทำไมถึงโผล่มางานแต่งกลางคันได้ล่ะ?
มีกลิ่นตุ ๆ!
ใครเป็นคนบอกความลับกันแน่!
ความคิดนับไม่ถ้วนแล่นพล่านในหัวของเย่หมิงจู
ทันใดนั้นราวกับเธอสัมผัสบางอย่างได้ เธอพลันเหลือบตาขึ้นมองฉือฮวนที่ปะปนอยู่ท่ามกลางผู้คน
พริบตาที่ดวงตาสองคู่ประสานกัน ดวงตา ‘งุนงง’ ก็ทำให้เธอลังเล
ไม่… เป็นไปไม่ได้
ฉือฮวนโง่ขนาดนั้น เธอละเล่นกับหล่อนจนวิ่งวุ่นเป็นวงกลมมาตั้งยี่สิบกว่าปี อีกฝ่ายจะรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?
อีกอย่างเรื่องของเธอและจางเจิ้งถูกปิดมิดชิด คนที่รู้มีแค่คนในบ้านเย่ไม่กี่คน
เย่หมิงจูสมองแล่นไปแล่นมา จิตใจยุ่งเหยิงดุจเส้นด้าย
ในเวลาที่เย่หมิงจูเบนสายตาสงสัยของเธอไป ฉือฮวนก็เปลี่ยนท่าทีงุนงงเป็นสายตาอันเฉียบแหลมเป็นพิเศษ
“ดูงิ้วพอหรือยังครับ?”
ทันใดนั้นเสียงหยอกล้อเอื่อย ๆ ของสืออวี่ไป๋ก็ดังขึ้นข้างหู
เสียงนั้นเหมือนมือใหญ่ที่ฉุดเธอออกมาจากบ่อแห่งทุกข์แล้วกลับสู่ความจริง
เมื่อเห็นบ่อลึกในดวงตาใสกระจ่าง ใจฉือฮวนพลันเอ่อล้นด้วยเกล็ดความหวาน
มุมปากของเธอหยักยิ้มนุ่มแล้วเลิกคิ้ว “ไม่พอค่ะ ในเมื่อเข้าฉากมาแล้วก็ต้องมีเรื่องราวสนุก ๆ ตามมาเรื่อย ๆ สิคะ”
สืออวี่ไป๋งุนงง “?”
ราวกับตอบข้อสงสัยของเขา มีเงาร่างหนึ่งวิ่งฝ่ากลุ่มคนออกมา
“เย่หมิงจู! คืนเงินสินสอดฉันมาซะ!”
MANGA DISCUSSION