บทที่ 86 คุณ
ฉือฮวนหันมองสืออวี่ไป๋โดยอัตโนมัติ
เฉินจี้เฉิงตะโกนไปที่สนาม “คุณลุง ออกมาต้อนรับแขกหน่อยครับ!”
จากนั้นชายวัยกลางคนที่กำลังก้มหน้ามองชิ้นผ้าในซุ้มหลังคาโปร่งก็ออกมา เขามีใบหน้าเหลี่ยม รูปร่างสูงพอ ๆ กับเฉินจี้เฉิง ทันทีที่เขายืนขึ้น ฉือฮวนก็รู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนภาคใต้
“จี้เฉิง มีเรื่องอะไร? สองคนนี้เป็นใคร?”
“นี่คือจ้าวเจี้ยนกั๋วลุงของผม ลุงครับ สองคนนี้เป็นลูกค้าเก่าของแผงขายของเรา พวกเขาบอกว่าต้องการหาโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า พ่อผมอยากเก็บเงินไว้ไม่ให้รั่วไหลไปหาคนนอก ผมก็เลยพาพวกเขามาที่นี่”
พูดแล้วเฉินจี้เฉิงก็ขยิบตาและขอเครดิต “ลุงครับ ถ้าธุรกิจประสบความสำเร็จ ลุงต้องเลี้ยงอาหารค่ำมื้อใหญ่เราด้วย!”
จากนั้นจ้าวเจี้ยนกั๋วก็มองฉือฮวนและสืออวี่ไป๋อย่างจริงจัง
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับ เถ้าแก่จ้าว ผมสืออวี่ไป๋ และนี่ฉือฮวนภรรยาผม”
สืออวี่ไป๋และจ้าวเจี้ยนกั๋วจับมือกัน
จ้าวเจี้ยนกั๋วกล่าวว่า “พวกคุณอยากได้เสื้อผ้าสไตล์ไหนล่ะ ต้องการให้ผลิตชุดเครื่องแบบหรือเปล่า วางใจได้ แม้ว่าเวิร์กช็อปของเราจะเล็ก แต่เรามีประสบการณ์มากกว่าสิบปี ไม่ว่าภาพร่างจะเป็นยังไง เราก็สามารถทำงานให้ลุล่วงตามคุณภาพและปริมาณได้”
สืออวี่ไป๋มองฉือฮวนด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ใช่เครื่องแบบครับ ส่วนเรื่องรายละเอียดของสไตล์ ต้องให้ฉือฮวนภรรยาผมคุยกับเถ้าแก่จ้าว”
จ้าวเจี้ยนกั๋วยิ้มและพูดว่า “ที่แท้ภรรยาคุณสือเป็นหัวหน้าครอบครัวนี่เอง ไม่ทราบว่าคุณนายอยากได้สไตล์ไหนครับ”
ฉือฮวนหยิบนิตยสารออกมาจากถุงผ้าใบ พลิกอย่างรวดเร็วไปที่หน้าหนึ่ง ชี้ชุดที่อยู่บนนั้นแล้วถามว่า “แบบนี้ค่ะ มันเป็นสไตล์ของคนดัง ฉันเคยเห็นในโทรทัศน์มาก่อน”
จ้าวเจี้ยนกั๋วหยิบนิตยสารขึ้นมาดู คิ้วของเขาย่นทันที
เห็นแบบนี้หัวใจของฉือฮวนก็ระทึก บางทีเขาอาจจะทำไม่ได้
“รูปแบบซับซ้อนเกินไปหรือเปล่าคะ คอเสื้ออาจจะทำยาก…”
“จริง ๆ มันต้องลงแรงนิดหน่อยครับ แต่ให้เวลาเราสักหน่อย หากเราเข้าใจรูปแบบอย่างละเอียดถี่ถ้วนก็ไม่น่าจะมีปัญหา”
ดวงตาของฉือฮวนเป็นประกาย รีบเปิดนิตยสารและชี้ให้ดูอีกหลายสไตล์ “แล้วแบบพวกนี้ล่ะคะ”
“จะลองดูก็ได้ แต่ผมไม่กล้าคุยโวมากนัก ยังไงนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เราร่วมงานกัน ผมรอบคอบไว้ดีกว่า เกรงว่าถ้าทำไม่สำเร็จจะเสียหน้าเอา”
ฉือฮวนถอนใจด้วยความโล่งอก “เถ้าแก่จ้าว เรายังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นจึงไม่รีบร้อน หากคุณผลิตต้นแบบเสร็จ คุณสามารถส่งมาให้ฉันได้ตลอดเวลา”
หลังจากพูดจบ ฉือฮวนก็หยิบปากกาและกระดาษออกมาจดที่อยู่ลงไปอย่างรวดเร็ว
“นี่คือที่อยู่ของฉันค่ะ”
จ้าวเจี้ยนกั๋วหยิบกระดาษแผ่นนั้น พับอย่างเรียบร้อยแล้วใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง
แล้วเขาก็ต้อนรับทั้งสองคนอย่างอบอุ่นว่า “เอาละ ในเมื่อทั้งสองคนมาหาผมที่นี่ ถือว่าเป็นชะตาลิขิตของพวกเรา แวะชมเวิร์กช็อปเล็ก ๆ ของผมดีไหม ต่อไปถ้าเราได้ทำงานร่วมกัน เราก็จะเข้าใจกันและกันได้ ว่าไหม?”
ฉือฮวนอยากอยู่ที่นี่ต่อไปอีกสักหน่อย
แม้ว่าเธอจะมีพิมพ์เขียวอยู่ในหัวและตัดสินใจเปิดโรงงานเสื้อผ้าในอนาคต แต่คิดดูดี ๆ เธอก็ไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมนี้มากนัก การไปเยี่ยมชมเป็นความคิดที่ดี จะได้มีประสบการณ์เมื่อถึงคราวของเธอในภายหลัง
หลังจากการเยี่ยมชม ฉือฮวนก็ได้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทำแพทเทิร์น การสร้างแพทเทิร์น และการตัดเย็บ กระทั่งตกใจว่าการเปิดโรงงานเสื้อผ้าต้องใช้เงินทุนจำนวนมากจริง ๆ
ก่อนกลับ สืออวี่ไป๋ถามคำถามที่อยู่ในใจฉือฮวน “เถ้าแก่จ้าวครับ การเปิดโรงงานเสื้อผ้านี้ต้องใช้เงินเท่าไรเหรอครับ?”
“คุณสองคนสนใจจะเปิดโรงงานเสื้อผ้าเหรอ?”
ต้องบอกว่า จ้าวเจี้ยนกั๋วมองแผนการของพวกเขาออกอย่างรวดเร็วสมเป็นนักธุรกิจ
ฉือฮวนยิ้มอย่างเขินอาย “เงินทุนปัจจุบันของเราไม่สามารถทำได้ค่ะ แค่ถามด้วยความสงสัย แม้คิดจะเปิดตอนนี้ก็ไม่มีกำลังพอที่จะทำ”
จ้าวเจี้ยนกั๋วเป็นคนตรงไปตรงมา ตรงเสียจนเหมือนตบหน้าทั้งสองคนห้าครั้ง
“ห้าหมื่นหยวน ถึงจะสามารถเปิดโรงงานเสื้อผ้าแบบผมได้”
ห้าหมื่นหยวนฟังดูธรรมดาสำหรับยุคเงินเฟ้อในอนาคต แต่ในทศวรรษ 1980 นี่เป็นจำนวนมหาศาล
ทำเอาฉือฮวนอดเดาะลิ้นไม่ได้
จ้าวเจี้ยนกั๋วระบายว่า “ตอนเปิดเวิร์กช็อปนี้ครั้งแรก ผมขอร้องปู่และย่า เกือบจะยืมเงินจากญาติทุกคนที่ให้ยืมได้ กู้ยืมเงินจากธนาคารมากกว่าสี่หมื่นหยวนโดยปิดบังภรรยา ถึงจะฝืนเปิดได้ในที่สุด”
“คุณนึกไม่ออกหรอกว่าภรรยาของผมตกใจแค่ไหนเมื่อเจ้าหน้าที่ธนาคารวางเงินกองไว้ตรงหน้าเรา”
“โอ๊ย เส้นทางนี้น่ากลัวมาก โชคดีที่ในที่สุดเราก็ทำได้ดี เราเพิ่งจ่ายเงินกู้หมดเมื่อปีที่แล้ว ในที่สุดชีวิตของเราก็เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ!”
ฉือฮวนยิ่งฟังก็ยิ่งเคลิบเคลิ้ม
การกู้เงินในช่วงทศวรรษ 1980 คนจากธนาคารจะไปส่งมอบเงินด้วยตัวเองที่บ้านของคุณ เป็นเรื่องราวที่น่าทึ่งพอจะเล่าให้คนยุคหลังฟัง
การกู้เงินในยุคต่อมาจะไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนตอนนี้ ไม่เพียงต้องดูรายงานสินเชื่อ ยังต้องดูรายได้ส่วนบุคคลด้วย หากไม่ตรงตามเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งคำขอกู้เงินจะถูกปฏิเสธ
แต่ในช่วงทศวรรษ 1980 มีคนน้อยมากที่กล้าจะกู้เงิน
เพราะในเวลานี้ทุกคนเพิ่งเลิกใช้การปันส่วนอย่างเท่าเทียม แต่ยังมีแนวคิดง่าย ๆ ในการใช้จ่ายให้มากที่สุดเท่าที่หามาได้ ยังไม่มีแนวคิดการยืมเงินอนาคตของพรุ่งนี้มาใช้วันนี้
“คุณยังเด็กและเต็มไปด้วยพลัง ทำงานหนักต่อไป หลังจากมุ่งมั่นก็จะเอาชนะชายชราอย่างผมได้ในอนาคต”
เมื่อบอกลากัน จ้าวเจี้ยนกั๋วก็พูดทิ้งท้ายไว้อย่างร่าเริง
…
ระหว่างทางกลับโรงแรม ลมฤดูร้อนพัดราวกับไฟ ทำให้ในใจของฉือฮวนรู้สึกร้อนผ่าว
ช่วงเวลานี้ผ่านไปอย่างราบรื่น เฉิงจื่อเฉียนและเย่หมิงจูถูกจำคุก ธุรกิจขายเสื้อผ้ากำลังเฟื่องฟู พวกเขาจะเปิดร้านเมื่อกลับถึงบ้าน และยังได้พบโรงงานออกแบบแพทเทิร์นและผลิตเสื้อผ้าด้วย อนาคตสดใสกำลังรอพวกเขาอยู่ข้างหน้า
เธอหันไปมองสืออวี่ไป๋ คิ้วของเธอย่นยามแย้มยิ้ม และยังริเริ่มที่จะจับมืออันใหญ่โตที่ประสานกันอย่างดีของเขาไว้
“อวี่ไป๋ วันนี้เถ้าแก่เนี้ยฉือมีความสุขมาก เลยอยากจะเลี้ยงมื้อเย็นคุณ”
“คุณอยากกินอะไร?”
“เถ้าแก่เนี้ยใจกว้างมาก ถ้าผมไม่ฉวยผลประโยชน์ไว้คงเสียใจกับตัวเองแย่ใช่ไหม?”
ใต้โคมไฟถนน หัวตาและคิ้วของสืออวี่ไป๋สัมผัสความนุ่มนวลของสายลม ทำให้หัวใจของฉือฮวนอ่อนยวบ
“คุณอยากกินอะไร?”
เธอเกาะกุมมือเขาแล้วหัวเราะขณะมองเขา
สืออวี่ไป๋เงียบ ใบหน้าที่มีคิ้ววาดโค้งสะท้อนในม่านตาของเธอ ดวงดาวนับไม่ถ้วนส่องประกายในดวงตาเธอขณะที่ยิ้ม ทำให้ใจสั่นสะท้าน
คำว่า ‘กินเธอ’ เกือบหลุดปากออกมา
ข้อนิ้วมือส่วนที่ไม่ได้ถูกฉือฮวนจับไว้กำเข้าหากันแน่น ทำให้เกิดเสียง ‘กึก’ เบา ๆ ในสายลม
ขนตาของเขาแวววับ ในขณะที่กำลังจะพูด ใบหน้าสวยเล็ก ๆ ตรงหน้าเขาก็เพิ่มระดับสูงขึ้น คิ้วโค้งรูปพระจันทร์เสี้ยวของฉือฮวนและขนตาที่ยาวงอนตรงเข้ามาใกล้
ฉือฮวนเขย่งเท้า เอามือโอบรอบคอเขา กดคอแล้วดึงโน้มลง
กลิ่นหอมราวกับกลิ่นกล้วยไม้โชยมาเบา ๆ ริมฝีปากสีแดงของเธอเผยอขึ้นเล็กน้อย จนแทบจะแตะกับริมฝีปากของเขา “คุณสือ ดื่มเพื่อเคารพ*[1] ไปก่อนแล้วกันนะคะ…”
[1] ดื่มเพื่อเคารพ คือ วัฒนธรรมอย่างหนึ่งของจีน ก่อนเริ่มรับประทานอาหาร ผู้น้อยจะดื่มหมดแก้วเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้ใหญ่
MANGA DISCUSSION