บทที่ 75 ทำให้
ฉือฮวนเขียนกระดาษแผ่นหนึ่งแล้วส่งให้หลัวเชี่ยนท่ามกลางสายตาไม่เข้าใจของสืออวี่ไป๋
หลังจากหลัวเชี่ยนเห็นที่อยู่ นัยน์ตาพลันมีความประหลาดใจแวบผ่าน “พวกคุณซื้อบ้านในเมืองแล้วเหรอ?”
กระดาษแผ่นนั้นในมือของหลัวเชี่ยนยับยู่ยี่เพราะถูกเธอกำด้วยความตื่นเต้น
ฉือฮวนว่า “จะเป็นไปได้ยังไงคะ นั่นคือบ้านที่เราเช่าต่างหาก”
จากนั้นความตื่นเต้นบนใบหน้าของหลัวเชี่ยนก็ถูกระงับไว้ “ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง”
“ซื้อกับเช่าต่างกันตรงไหนเหรอคะ?” ฉือฮวนขมวดคิ้ว
“ถ้าซื้อบ้านก็คงต้องแสดงความยินดีกับพวกเธอแล้ว”
หลัวเชี่ยนระงับความทะนงตนที่พลุ่งพล่านแล้วพูด
“งั้นก็ทำให้คุณหลัวตื่นเต้นเสียเปล่าแล้ว ตอนนี้พวกเราจะมีเงินไปซื้อบ้านได้ยังไงคะ?”
“รอขายเสื้อผ้าเก็บเงินสักหน่อย เราก็วางแผนจะซื้อบ้านอยู่ค่ะ”
“ถ้าซื้อได้จริง ๆ จะไม่ลืมมาบอกทุกคนแน่ค่ะ”
ฉือฮวนพูดจบ คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมาประจบ “นั่นก็เป็นเรื่องไม่ช้าก็เร็วใช่ไหมล่ะ? พี่สะใภ้มีความสามารถขนาดนี้ ต้องนำพี่สือไปหาเงินก้อนใหญ่แล้วอิ่มหนำสำราญกันทุกวัน”
“มา ๆ ๆ เรามาดื่มกันสักแก้ว”
กว่างานสังคมนี้จะจบก็ดึกแล้ว
ผู้คนต่างค่อย ๆ สลายตัว ฉือฮวนและสืออวี่ไป๋ขี่รถจักรยานกลับบ้าน
เธอโอบเอวสืออวี่ไป๋ แก้มซุกแผ่นหลังหนากว้าง ได้กลิ่นหอมสดชื่นของเขา ทั้งที่ไม่ได้ดื่มเหล้า ฉือฮวนกลับรู้สึกเหมือนเมามาย
เธอแบมือสองข้างออกมา สายลมอบอุ่นน่ามัวเมาลอดผ่านร่องนิ้ว เธอกระชับแขน โอบเขาไว้ อิงแก้มบนแผ่นหลังเขาแล้วถูไถ
“สืออวี่ไป๋ ถ้าเวลาหยุดหมุนตรงนี้จะดีแค่ไหนกันนะ?”
ฉือฮวนไม่ได้สังเกตว่าการที่เธอถูแก้ม ทำให้ร่างกายของสืออวี่ไป๋สะดุ้งเล็กน้อย
“ทำไมครับ?”
“เพราะตอนนี้สวยงามมาก ไม่อยากทำลายมันเลย”
“วันคืนเงียบสงบ กาลเวลายาวนาน สายลมพัดผ่านต้นหญ้าก็ทำลายความสมดุลในกาลนี้ได้แล้ว”
ใบหน้าของฉือฮวนไม่รู้กำลังคลอเคลียอยู่หรือว่ากำลังเขินอยู่ แต่เธอกลับกล้าเอ่ยปากถาม “คุณชอบไหมคะ?”
สิ่งที่ตอบกลับมาคือความเงียบ ฉือฮวนไม่โกรธ เธอกอดเอวสืออวี่ไป๋แล้วค่อย ๆ หลับตาลง
แม้เป็นการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ ก็ได้ยินเสียงชัดเจน
เสียงลมพัดลอยมา เสียงใบไม้กรอบแกรบ เสียงรถจักรยานที่สืออวี่ไป๋กำลังปั่นอยู่ เสียงล้อบดบนถนน แต่ละเสียงดังเข้ามาในหู ฟังไปฟังมา ฉือฮวนก็หลับโดยไม่รู้ตัว
ตอนที่พวกเขากลับถึงบ้านก็ดึกแล้ว ทุกอย่างเงียบเชียบ เมื่อสืออวี่ไป๋จอดรถก็แตะฉือฮวนเบา ๆ แต่เขากลับได้ยินเสียงงึมงำเลือนราง “อย่าขยับ คนกำลังหลับอยู่…”
สืออวี่ไป๋เอียงคอมอง ภาพที่สะท้อนเข้าตากลับเป็นใบหน้าที่กำลังหลับอย่างสงบสุขของเธอ
ราวกับมีอะไรมาชนเบา ๆ ที่หัวใจ เขาประคองไหล่เธอแล้วใช้วิธีที่คาดไม่ถึงพยุงรถ มือหนึ่งสอดใต้แขนเธอ อีกมือหนึ่งสอดใต้เข่าเธอแล้วช้อนอุ้มในท่าเจ้าสาว
ขณะเดินผ่านบันได เสียงเปิดไฟอัตโนมัติดังขึ้น แสงสลัวสาดส่องที่ใบหน้าของฉือฮวน เธอหลับลึกมาก ใบหน้าเกินครึ่งกำลังซุกอกเขา ขนตายาวหนาทอดเป็นเงา จมูกกระจุ๋มกระจิ๋ม ริมฝีปากแดงฉ่ำ
มองไปมองมา คลื่นใต้น้ำเบื้องลึกของสืออวี่ไป๋พลันเคลื่อนไหว
เขาปลดกลอนเปิดประตูอย่างยากลำบาก พาเธอไปวางบนเตียงใหญ่นุ่มอย่างราบรื่นไร้อุปสรรค
เขายืนมองเธอเงียบ ๆ ตรงที่เดิมอยู่นานแล้วดึงผ้านวมขึ้นคลุมให้เธอ ก่อนจะเดินกลับ
มือนุ่มข้างหนึ่งคว้าเขาไว้ “อย่าไปนะ”
สืออวี่ไป๋เลิกคิ้วแล้วมองไปยังคนบนเตียง
ไม่รู้ว่าฉือฮวนตื่นตั้งแต่เมื่อไร ดวงตาที่หยีลงเล็กน้อยยังหลงเหลือความง่วงงุน ขนตายาวเผยความโหยหาอาวรณ์ นิ้วเรียวแต่ละนิ้วของเธอจับเขาแน่น
“อย่าไปนะ…”
เธอพูดงึมงำอย่างไม่พอใจ
“อยู่เป็นเพื่อนกันนะ”
สืออวี่ไป๋มองเธออยู่ครู่หนึ่งแล้วแกะนิ้วเธอออกทีละนิ้ว
“เฮ้!”
เธอไม่พอใจอย่างมาก จนความง่วงในตาหายไปทันที
ดังนั้นสืออวี่ไป๋จึงเห็นสาวน้อยที่กึ่งหลับกึ่งตื่นเมื่อครู่ จู่ ๆ ก็ลงจากเตียงแล้วลุกขึ้นยืน
เธอดูเกรี้ยวกราดไม่น้อย ดวงตาโตคู่สวยเต็มไปด้วยไฟโทสะ
“หืม?”
สืออวี่ไป๋ไม่เร่งร้อน ถึงขนาดขมวดคิ้วใส่เธอด้วยซ้ำ
ฉือฮวนโกรธแทบตาย ทุกครั้งที่คิดว่าตกผู้ชายคนนี้ได้แล้ว เขาจะตอกหน้าเธอด้วยตัวเอง
“คุณไม่ชอบฉันใช่ไหม?”
สืออวี่ไป๋ไม่พูดอะไร เพียงยืนมองเธอเงียบ ๆ ใต้แสงไฟ
ฉือฮวนหดหู่มากกว่าเดิม ใบหน้ามุ่ยจนมากองรวมกัน
“หืม?” สืออวี่ไป๋ขมวดคิ้วอีกรอบ รอคำพูดต่อไปของเธอ
“ฉันรู้สึกว่าคุณมีความอดทนให้หลัวเชี่ยนมากกว่าฉันอีก”
ความโกรธของฉือฮวนสลายไปอย่างไร้ร่องรอย แล้วแทนที่ด้วยความเศร้าเหนือคณนา
เธอทำใบหน้าเศร้าซึม ดวงตามีเศษประกายแวบผ่าน มองเขาอย่างน่าสงสาร
สืออวี่ไป๋ใช้ประโยชน์จากเรี่ยวแรงของเธอแล้วทิ้งตัวลงนั่ง
“หึงเหรอ?”
“ใช่ค่ะ!”
“เธอมีสิทธิ์อะไรถึงมาอยากได้สามีฉัน?”
ฉือฮวนเชิดหน้าขึ้นด้วยความหยิ่งยโส ฉวยโอกาสตอนที่เขาไม่สังเกต ใช้แต่ละนิ้วเกี่ยวแล้วจับนิ้วเขาแน่น
“สามีคุณ?”
ดวงตาของสืออวี่ไป๋เหมือนมีอะไรแวบผ่าน เขาบีบจมูกเธอเล็กน้อย
“ลืมแล้วเหรอว่าเมื่อก่อนตัวเองพูดอะไรไว้?”
นัยน์ตาของสืออวี่ไป๋ขรึมขึ้น “ใครเป็นคนพูดกันว่าชาตินี้ก็ไม่นับผมเป็นสามี แล้วใครพูดกันว่าชาตินี้ไม่อนุญาตให้แตะแม้แต่ปลายนิ้ว?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ใจฉือฮวนก็ถูกแผดเผาด้วยความละอาย
ดวงตาเธอหลุบต่ำ คิดว่าถึงเวลาที่จะอธิบายความในใจให้สืออวี่ไป๋รับรู้ “สืออวี่ไป๋ คุณน่าจะรู้ดีว่าก่อนที่ฉันจะแต่งงานกับคุณ ใจมีแต่ความไม่คุ้นเคยให้คุณ แต่ระหว่างเราเกิดเรื่องขึ้นมา…เรื่องนั้นน่ะ ฉันก็เลยท้องเยี่ยนเยี่ยน ดังนั้นฉันจึงถูกบังคับมาแต่งงานกับคุณ”
“ถ้าคุณเป็นฉัน ในใจคงไม่ยินยอมเหมือนกันใช่ไหมคะ”
ดวงตาของสืออวี่ไป๋มีความหม่นหมองแวบผ่าน “งั้นทำไมตอนนี้คุณคิดได้แล้วล่ะครับ?”
เมื่อเผชิญกับสายตาคมกริบของเขา ฉือฮวนก็เก็บซ่อนอารมณ์อย่างระมัดระวัง “ฉันบังเอิญได้ยินคำพูดของเย่หมิงจูค่ะ ฉันถึงได้รู้ว่าคืนนั้นไม่ใช่แผนการของคุณ แต่แท้จริงแล้วคุณและฉันต่างเป็นผู้เสียหาย”
นัยน์ตาสืออวี่ไป๋พลันแข็งกร้าว
“ครับ? พูดชัดเจนหน่อยซิ”
มือของฉือฮวนพลันถูกสืออวี่ไป๋บีบไว้ แรงเยอะมากจนเธอรู้สึกเจ็บ
“มีวันหนึ่งที่ฉันไปหาเย่หมิงจู ฉันได้ยินเธอพูดกับเฉิงจื่อเฉียนว่าเดิมทีคืนนั้นของสองเราเป็นแผนของเย่หมิงจูเอง”
ฉือฮวนเพิ่งพูดจบก็สัมผัสได้ว่าเรี่ยวแรงของสืออวี่ไป๋คลายลง
แต่นัยน์ตาคู่นั้นของเขากลับยังจดจ้องที่เธอ
“คุณพบเฉิงจื่อเฉียนและเย่หมิงจูที่ไหน?”
“จู่ ๆ ทำไมถึงถามล่ะคะ?”
ฉือฮวนประหม่าโดยไม่รู้ตัว ริมฝีปากที่เม้มอยู่ของสืออวี่ไป๋ดั่งรอยดาบ ความขึงขังจากการไม่พูดไม่จาแผ่ออกมา
“เรื่องนี้สำคัญด้วยเหรอคะ?”
ฉือฮวนถามอย่างกลัวโดนจับได้
“สำคัญครับ ดังนั้นผมเลยอยากรู้คำตอบ”
สืออวี่ไป๋ตอบกลับ
ฉือฮวนสูดหายใจลึก เธอพยายามค้นคว้าหาความทรงจำในชีวิตก่อนอย่างเอาเป็นเอาตาย
เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาเร่งร้อนของสืออวี่ไป๋ ในที่สุดก็หาคำตอบนั้นเจอ
“ในบ้านเก่าทรุดโทรมข้างหมู่บ้านค่ะ”
ในชั่วพริบตานั้นฉือฮวนก็สัมผัสได้ว่าสายตาของสืออวี่ไป๋ไม่มีความเสียดแทงแล้ว
ความคิดน่าเหลือเชื่อพลันผุดขึ้นมาในหัวเธอ!
MANGA DISCUSSION