บทที่ 73 มาตลอด
ความเย็นของน้ำชะล้างความร้อนที่แก้มของเธอออกไป หัวใจซึ่งเต้นแรงค่อย ๆ สงบลง
เมื่อฉือฮวนเดินออกจากห้องน้ำ ใบหน้าเคลือบด้วยชั้นน้ำบาง ๆ ผมเปียกชื้น แม้แต่ดวงตาก็ปกคลุมไปด้วยหมอก
สายตาสืออวี่ไป๋หยุดที่ใบหน้าของเธอโดยบังเอิญ
“ล้างหน้าเสร็จแล้วเหรอ?”
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เสียงของสืออวี่ไป๋จึงทั้งทุ้มต่ำและแหบแห้ง
“เปลี่ยนเสื้อผ้า อีกเดี๋ยวเราจะไปร้านต้าซานฝูกัน”
ฉือฮวนตั้งใจเลือกกระโปรงตัวสวย การตัดเย็บเรียบง่าย แต่เนื้อผ้าแนบสนิทมาก ส่วนโค้งเว้าขับเน้นรูปร่างงดงามของเธอเต็มที่
พอเธอเดินออกมา ก็เห็นความตกตะลึงในดวงตาสืออวี่ไป๋อย่างชัดเจน
“ดูดีไหม?”
เธอเดินวนไปรอบ ๆ สืออวี่ไป๋อย่างเขินอาย
“ก็โอเค”
สืออวี่ไป๋เหลือบมองเพียงแวบเดียว
ฉือฮวนไม่พอใจ เธอก้าวไปข้างหน้าและจับฝ่ามือใหญ่ของเขา ในขณะที่ผิวสัมผัสกัน เธอรู้สึกได้ชัดเจนว่าร่างกายของสืออวี่ไป๋สั่น
ปฏิกิริยาของเขาทำให้หัวใจฉือฮวนรู้สึกเหมือนถูกขนนกแหย่ซ้ำ ๆ แรงกระตุ้นที่ถูกระงับก่อนหน้านี้ถูกปลุกเร้าขึ้นมาอีกโดยไม่ทันตั้งตัว
เธอจับนิ้วของเขาทีละนิ้ว น่าเสียดายที่มือเธอเล็กเกินกว่าจะจับให้เต็มมือ
ท่าทีไร้เดียงสาและคลุมเครือนี้ทำให้สืออวี่ไป๋หันมามองด้านข้าง เขาเอียงคอมองเธอด้วยนัยยะบางอย่าง
“เป็นอะไร?”
“คุณสูงเกินไป ย่อตัวลงได้ไหม?”
ฉือฮวนกะพริบตา
“หืม?”
สืออวี่ไป๋ไม่ทำตาม ราวกับต้องการเห็นว่าเธอจะก่อเรื่องอะไร
ฉือฮวนกัดริมฝีปากสีแดงอย่างกังวล เพียงจับแขนเขากดลงขณะใส่แผ่นเสริมในรองเท้าส้นเตี้ยทรงบัลเลต์คู่สวย เม้มริมฝีปากแน่นภายใต้การจ้องมองที่ล้ำลึกขึ้นเรื่อย ๆ ของสืออวี่ไป๋
เงียบสนิท
บรรยากาศดูจะชะงักงันไปชั่วขณะ
หูได้ยินเสียงลมหายใจของสืออวี่ไป๋แรงขึ้นกะทันหัน
เมื่อรู้สึกว่าอันตรายร้ายแรงกำลังมา ฉือฮวนก็อยากจะผลักมันออกไปตามสัญชาตญาณ แต่บ่าของเธอพลันถูกกดลงด้วยแรงมหาศาล ฝ่ามือใหญ่ของสืออวี่ไป๋บีบไหล่เรียวของเธอ เปลี่ยนเป็นฝ่ายรุกเข้าประกบริมฝีปากของเธอ
ม่านตาของฉือฮวนขยายตัวเล็กน้อย
เธอไม่สามารถเพิกเฉยต่ออาการวาบหวามและชาดิกบนริมฝีปากของเธอได้ กระแสไฟฟ้าพุ่งเข้าสู่หัวใจเป็นระลอก
เลือดพลันสูบฉีดแรง ไอร้อนลามไปตามดวงหน้า ทำให้แก้มกลายเป็นสีแดง ลมหายใจเธอไม่เป็นจังหวะในทันที
สืออวี่ไป๋จูบเธออย่างดูดดื่ม กดแนบริมฝีปากเธอเข้าหากัน ราวกับว่าเขาต้องการกลืนเธอเข้าไปในกระดูกและเลือดเนื้อ
ลมหายใจของเขากระทบหูเธอไม่เป็นจังหวะ ทำให้ขนบริเวณนั้นลู่เรียบไปเป็นแนว
ฉือฮวนเพียงยอมตามน้ำไปในตอนแรก แต่แล้วก็ไม่สามารถระงับอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดในใจและเริ่มจูบตอบ เกือบจะทันทีที่เธอจูบกลับ ร่างกายของสืออวี่ไป๋ก็ชะงัก
สิทธิ์ในการเป็นฝ่ายรุกกลับมาอยู่ในมือฉือฮวนทันที
เธอเลียนแบบวิธีของสืออวี่ไป๋ โดยจูบเขาอย่างรุนแรงและเร่าร้อน
การจูบยังไม่จบสิ้นอย่างน่าพึงพอใจดี เธอก็สังเกตเห็นว่าหางตาของสืออวี่ไป๋เปื้อนรอยสีแดงงดงาม รอยสีแดงนั้นเกือบทำลายอำนาจของฉือฮวน
เธอยังกระตือรือร้นอยากจะจูบเขาต่อไปชั่วนิจนิรันดร์
จูบนี้หวานหยาดเยิ้ม
รสชาติที่สะเทือนอารมณ์ลึกซึ้งทำให้ฉือฮวนรู้สึกเบลอ
หัวใจของเธอวาบชา อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปแตะมุมปากเขาซึ่งถูกเธอบดขยี้ด้วยสีแดง และเมื่อเทียบกับผิวขาวนวลของเขาก็ทำให้เธอใจอ่อนยวบ
“ยังจูบไม่พออีกเหรอ?”
เมื่อสืออวี่ไป๋พูดออกมา เสียงแตกพร่าของเขาก็ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น
“ถ้าฉันบอกว่าไม่พอ คุณจะให้ฉันจูบต่อไหมคะ”
ฉือฮวนถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงสูดหายใจเข้ามาในหู
สืออวี่ไป๋หรี่ตา ความรู้สึกพลุ่งพล่านในใจ
ฉือฮวนเพิ่งตระหนักว่าเรื่องล้อเล่นของเธอเลยเถิดไป จึงกระแอมอย่างไม่สบายใจ “แม้คุณจะยอมให้ฉันจูบ แต่กลับบ้านแล้วค่อยคุย… ไหม?”
คำสุดท้ายติดอยู่ในลำคอ
ริมฝีปากสืออวี่ไป๋บึ้งตึง แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกไร้ทางออก
“ไปกันเถอะ”
เมื่อพวกเขาไปที่ร้านต้าซานฝู ผู้อำนวยการเฉียนและเพื่อนร่วมงานหลายคนก็รออยู่ที่นั่นแล้ว
เมื่อเห็นฉือฮวนและสืออวี่ไป๋เดินคู่กันมา หลัวเชี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาจากก้นบึ้งหัวใจ
“พวกคุณมาสาย”
ขณะหลัวเชี่ยนพูด เธอก็จิกตามองฉือฮวน พอเห็นริมฝีปากที่บวมเล็กน้อยของฉือฮวน และรอยแดงที่มุมปากของสืออวี่ไป๋ แววตาของเธอก็ดุร้ายขึ้นทันที
ให้ตายสิ!
ฉือฮวนไม่เคยปล่อยให้สืออวี่ไป๋แตะเนื้อต้องตัวตั้งแต่แต่งงานกันไม่ใช่เหรอ?
ขณะหลัวเชี่ยนมุ่งมั่นที่จะยั่วยวนสืออวี่ไป๋ เธอก็เกิดความคิด หรือว่าตั้งใจทำอย่างนี้เพื่อต่อต้านเธอ?
ฉือฮวนย่อมมองเห็นความเกลียดชังในดวงตาหลัวเชี่ยนแน่นอน
“ขอโทษนะคะ ไม่รู้ว่าพวกคุณจะมาเร็วขนาดนี้”
ฉือฮวนเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “จริง ๆ แล้วเราไม่ได้มาสาย แต่พวกคุณมากันเร็วเกินไป”
เธอผละจากเรื่องบาดหมางกับหลัวเชี่ยน มองไปที่ผู้อำนวยการเฉียนและคนอื่น ๆ ด้วยรอยยิ้ม “ถึงยังไงพวกเราก็มาช้า ขอโทษนะคะที่ทำให้พวกคุณต้องรอนาน”
ผู้อำนวยการเฉียนเป็นชายวัยกลางคนที่มีใบหน้ากลมและมีรูปร่างอ้วน ทันทีที่เห็นฉือฮวน เขาลอบสังเกตเธออย่างละเอียด
เมื่อเห็นนิสัยที่สุภาพเรียบร้อยของฉือฮวนก็แปลกใจเล็กน้อย นี่ไม่เหมือนกับผู้หญิงไร้ศีลธรรมตามข่าวลือเลยสักนิด
แต่เขาเห็นความหลากหลายของสังคมมาหลายปี แม้มีความสงสัยในใจก็ไม่ได้แสดงออก กลับยิ้มเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศ แล้วกล่าวว่า “เพราะร้านต้าซานฝูนี้ต้องจองล่วงหน้าน่ะ พวกคุณมาก็ดีแล้ว รีบเข้ามาเร็ว”
เพราะเป็นงานเลี้ยงส่ง ผู้อำนวยการเฉียนจึงขอห้องส่วนตัวเป็นพิเศษ
ผู้อำนวยการเฉียนเป็นเจ้านาย และอาวุโสที่สุดในบรรดาหลายคน ดังนั้นเขาจึงนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ
เนื่องจากเป็นงานเลี้ยงส่งสืออวี่ไป๋ เขาจึงนั่งอยู่ทางด้านซ้ายมือของผู้อำนวยการเฉียน ส่วนฉือฮวนนั่งทางด้านซ้ายของสืออวี่ไป๋ และหม่าฮว๋ายเหรินนั่งอยู่ทางด้านขวามือของผู้อำนวยการเฉียน
โดยบังเอิญ คนที่นั่งตรงข้ามฉือฮวนและสืออวี่ไป๋คือหลัวเชี่ยน
พอนั่งลงแล้ว พนักงานเสิร์ฟก็รีบมาเสิร์ฟเหล้าขาวและอาหารเรียกน้ำย่อย
พวกผู้ชายดื่มอวยพรและพูดคุยเกี่ยวกับงานที่ฉือฮวนไม่เข้าใจ
พวกผู้ชายคุยกันเรื่องของผู้ชาย ในฐานะผู้หญิงเพียงสองคนที่โต๊ะ พวกเธอจึงดื่มเครื่องดื่ม โดยตรงหน้าแต่ละคนมีขวดน้ำอัดลมอาร์กติกโอเชียนที่เปิดฝาแล้ว
ทันทีที่ฉือฮวนรินน้ำอัดลมใส่แก้ว หลัวเชี่ยนที่นั่งตรงข้ามก็พูดด้วยใบหน้ากึ่งยิ้ม
“พี่สะใภ้ นี่เป็นครั้งที่สองที่เราพบกัน แก้วนี้ฉันขอดื่มอวยพรให้พี่นะคะ”
พูดจบหลัวเชี่ยนก็ยกแก้วขึ้น
ฉือฮวนต้องรักษาหน้าต่อหน้าคนจำนวนมาก เธอจึงยกแก้วขึ้นมาจ่อที่ริมฝีปาก
หลัวเชี่ยนเลิกคิ้ว แต่ไม่ได้แสดงความโกรธทันที เธอยกแก้วขึ้น กระดกหมดรวดเดียว ถึงขั้นคว่ำแก้วต่อหน้าฉือฮวน
จากนั้นก็มองตรงไปยังเครื่องดื่มฉือฮวนที่ยังเต็มแก้ว แสร้งทำเป็นประหลาดใจและพูดว่า “อ้าว พี่สะใภ้ ทำไมพี่ไม่ดื่มล่ะ? พี่ไม่พอใจฉัน หรือว่าฉันทำอะไรให้พี่โกรธหรือเปล่า?”
‘ยัยหลัวเชี่ยนนี่…’
ฉือฮวนหัวเราะเจื่อน ๆ ให้กับการแสร้งทำของหลัวเชี่ยน
กลอุบายที่น่ารังเกียจนี้ แค่ทำให้เธอขายหน้าในที่สาธารณะเท่านั้น ข่มขู่อะไรเธอไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
แน่นอนว่าพอเธอพูดประโยคนี้ ทุกคนก็หยุดการสนทนามามองพวกเธอด้วยความประหลาดใจ
เพื่อนร่วมงานเคยเห็นความขัดแย้งระหว่างพวกเธอที่สำนักงานใหญ่แล้ว จึงไม่แปลกใจมากนัก
คนส่วนใหญ่พร้อมสนุกกับละคร ยกเว้นหม่าฮว๋ายเหริน ผู้อำนวยการเฉียน และสืออวี่ไป๋
MANGA DISCUSSION