บทที่ 72 เธอ
ตอนที่บ้านเฉิงและบ้านเย่สามัคคีกัน ฉือฮวนก็โอบเอวสืออวี่ไป๋ เมื่อสัมผัสถึงความอบอุ่นผ่านฝ่ามือ เธอก็จมสู่ความคิด
เธอค่อนข้างว้าวุ่นใจ ความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์เล็กน้อยของเธอล้วนตกอยู่ในสายตาของสืออวี่ไป๋
“สืออวี่ไป๋ คุณเดาปฏิกิริยาของบ้านเฉิงและบ้านเย่ไว้ก่อนแล้วใช่ไหมคะ ถึงได้พูดเรื่องลาออกล่วงหน้า?”
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เธอก็คงเป็นภาระของสืออวี่ไป๋เหมือนที่หลัวเชี่ยนว่า
“คุณนี่คิดมากกับเรื่องไม่เป็นเรื่องนะ”
เสียงหัวเราะแผ่วเบาดังจากลำคอสืออวี่ไป๋
“หรือคุณคิดว่าผมจะอยู่ที่เมืองเล็ก ๆ แบบนี้ไปตลอดชีวิต?”
เสียงเย็นของสืออวี่ไป๋ไม่รู้ดังขึ้นข้างหูตั้งแต่เมื่อไร
“ไม่ใช่อยู่แล้วค่ะ”
ฉือฮวนตอบอย่างรวดเร็วและฉับไว น้ำเสียงมั่นใจทำให้สืออวี่ไป๋ขมวดคิ้ว
“ดูเหมือนคุณจะ…รู้จักผมดี?”
ความเข้าอกเข้าใจนี้ถูกวิเคราะห์จากมุมมองคนไม่สนิท แต่ไม่รู้ทำไมถึงเผยความคุ้นเคยชวนย้อนแย้งออกมา
สืออวี่ไป๋มั่นใจว่าเขาและฉือฮวนยังไม่รู้จักกันดีถึงขั้นนั้น
ฉือฮวนอารมณ์เสียจนอยากจะกัดลิ้นตัวเองทิ้ง
ซวยแล้ว ตอนนี้เธอกับสืออวี่ไป๋ยังไม่สนิทกัน แม้พวกเขาจะมีลูกชายคนหนึ่ง และแต่งงานมาหลายปีแล้ว
ทว่าแต่ก่อน พวกเขาต่างเมินเฉยต่อกันโดยสิ้นเชิง
เธอจะพูดมั่นใจแบบนั้นไปเพื่ออะไร
“เปล่าค่ะ ฉันแค่เชื่อใจคุณ”
เธอพยายามดัดเสียงอ่อนเสียงหวานแล้วปฏิบัติต่อเขาอย่างเคารพ “ก่อนหน้านั้นฉันอาจเข้าใจคุณผิดไป สรุปแล้วตอนนี้ฉันคิดว่าชีวิตในอนาคตของฉันต้องมีเส้นทางยาวไกลแน่นอนค่ะ”
“ยอผมไปก็ไม่ได้ผลหรอกครับ ฮวนฮวน”
เสียงของสืออวี่ไป๋ยังคงเย็นชา
“ผมยังไม่ได้โทษที่คุณเปลี่ยนเรื่องเลย”
ฉือฮวนพึมพำ “วกเข้าเรื่องเลยนะคะ ถ้าคุณลาออกเพราะบ้านเฉิง ฉันคงละอายใจชั่วชีวิต”
“แล้วยังไงต่อครับ?”
สืออวี่ไป๋ถามอย่างนิ่ง ๆ
ฉือฮวนเหลือบมองขึ้นมาทันที สายตาจับได้แค่แผ่นหลังกว้างของสืออวี่ไป๋ แม้ว่าจะเป็นอย่างนั้นสายตาของเธอก็จดจ้องเขาอย่างร้อนแรง
“ดังนั้นฉันจะชดเชยให้คุณเต็มที่ค่ะ”
เธอพูดเสียงเบา
สืออวี่ไป๋คล้ายจะหัวเราะ ไม่พูดหัวข้อนี้ต่อ
สือเยี่ยนถูกฝากที่บ้านยาย พวกเขากลับไปบ้านในเมือง เป็นครั้งแรกที่เธอและสืออวี่ไป๋อยู่ตามลำพังนับตั้งแต่เกิดใหม่มา
เมื่อกลับถึงบ้าน ร่างกายของสืออวี่ไป๋ก็มีเหงื่อคลุมบางเบา เสื้อเชิ้ตสีขาวชื้นเหงื่อแทบจะโปร่งแสง เผยร่องกล้ามและผิวเนื้อวับ ๆ แวม ๆ
เมื่อเข้าไปในห้อง ฉือฮวนก็เปิดพัดลมแล้วดันสืออวี่ไป๋เข้าห้องอาบน้ำ
“รีบไปอาบน้ำเลยค่ะ ฉันจะไปทำถั่วเขียวต้มสักหน่อย”
พูดจบฉือฮวนก็หมุนตัวเข้าครัว
แผ่นหลังบอบบางพลันหายเข้าไปในครัว สืออวี่ไป๋มองตามเงียบ ๆ ไม่เก็บสายตาอยู่นาน จนกระทั่งหยาดเหงื่อไหลผ่านใบหน้าขรึมของเขาแล้วไหลลงคอเสื้อลดเลี้ยวไปเบื้องล่าง เขาถึงจะเก็บสายตา
น้ำจากฝักบัวสาดลงใบหน้าเขาอย่างแรง มือทั้งสองของสืออวี่ไป๋ปิดหน้าแล้วปาดน้ำออก ร่างกายที่อับชื้นเหนอะหนะบรรเทาลง ค่อย ๆ สดชื่นขึ้น
เมื่อนึกถึงความเปลี่ยนแปลงของฉือฮวนในช่วงนี้ สายตาของสืออวี่ไป๋พลันสั่นไหว
ครั้นออกจากห้องอาบน้ำ ฉือฮวนก็ยกถั่วเขียวต้มออกมาพอดี อากาศร้อนแผดเผา ในห้องครัวยิ่งร้อนระอุ ใบหน้าเล็กของฉือฮวนถูกอบจนเป็นสีชมพูเลือดฝาด สีแดงเรื่อตรงหางตายิ่งทำให้ดูเปล่งประกาย
เม็ดเหงื่อไหลจากหน้าผากขาวกระจ่าง เธอยกแขนเสื้อเช็ดอย่างลวก ๆ หน้าม้าพลันกระเซอะกระเซิง ลมจากพัดลมพัดหน้าม้ากระจาย ผ้านุ่มบนใบหน้าเธอพลันจับสายตาของสืออวี่ไป๋
เหงื่อไหลริน ใบหน้าแต่งแต้มด้วยแป้งเป็นสีชมพูระเรื่อ เธอช้อนตามองเขา ดวงตาวาววับเป็นประกายเหมือนมีขนนกมาจักจี้หัวใจ
“คุณอาบน้ำเรียบร้อยแล้วเหรอ มากินถั่วเขียวต้มเร็ว ตอนนี้คงเย็นแล้ว”
ว่าแล้วเธอก็ใช้กระบวยตักน้ำให้เขา
แต่มือใหญ่กลับรั้งข้อมือเธอไว้ สืออวี่ไป๋หยิบกระบวยในมือเธอมาแล้ว ‘ทำเหมือน’ จะวางกระบวยกลับหม้อ
แขนยาวดึงผ้าเช็ดตัวบนไหล่ลงมา เล็งไปที่ใบหน้าชุ่มเหงื่อของเธอแล้วเช็ดอย่างตั้งใจ
เวลาพลันหยุดหมุน ตรงหน้าของฉือฮวนมีเพียงสืออวี่ไปที่กำลังจ้องใบหน้าเธออยู่ นัยน์ตาเย็นชาเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิดเพี้ยน แต่เขาเช็ดหน้าให้เธอราวกับกำลังเช็ดของล้ำค่า
พอคิดถึงเรื่องนี้ก็เหมือนโดนอะไรบางอย่างกระแทกใจเบา ๆ
ตำแหน่งของหัวใจมีกระแสความร้อนยุบยิบแล่นผ่านเส้นเลือดแล้ววิ่งไปทั่ว
ลมหายใจกระชั้นของฉือฮวนกระจุกอยู่ในลำคอ กัดปากมองใบหน้าใกล้แค่เอื้อม เธอพลันมีอารมณ์วูบหนึ่งที่อยากจะจูบเขา
ไม่รู้ว่าเธอเคยพูดหรือเปล่าว่ารูปปากของสืออวี่ไป๋น่ามองมาก ไม่บางไม่หนา เมื่อริมฝีปากแดงเรื่ออยู่บนผิวขาวซีดยิ่งดูยั่วยวนใจ
ราวกับผลเชอร์รีที่ส่งกลิ่นหอมหวานล่อลวงให้คนกัดชิม
เมื่อเอาผ้าขนหนูออก กลิ่นอายอุ่นร้อนที่อ้อยอิ่งตรงหน้าเธอก็ผละจากไป
ฉือฮวนมองริมฝีปากแดงระเรื่อของสื่ออวี่ไป๋ที่ค่อย ๆ ห่างออกไป
“มองอะไรครับ?”
“มองปากคุณค่ะ ต้องจูบอร่อยแน่เลย”
อาจเพราะบรรยากาศดีเกินไป ฉือฮวนจึงพูดความในใจออกมาโดยไม่รู้ตัว
พริบตานั้นอากาศภายในห้องพลันร้อนผ่าว พัดลมที่อยู่บนหัวกำลังแกว่งไกวอย่างเต็มหน้าที่ แต่รู้ตัวอีกทีใบหูของฉือฮวนก็เปลี่ยนเป็นสีแดงแล้ว
พอเธอรู้ว่าตัวเองพูดอะไรก็อายแทบตาย ขนตาสั่นระริกพลางเหลือบมองสืออวี่ไป๋อย่างรวดเร็ว
ม่านตาในดวงตาเขายิ่งสงบนิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ประกายแสงในตาวิบวับต่อเนื่อง ตอนที่เธอคิดว่าสืออวี่ไป๋จะเสียการควบคุมจนเผลอดันเธอเข้ากำแพงแล้วจูบในวินาทีต่อมา…
เสียงเย็นชาไม่แสดงอารมณ์กลับดังขึ้นจากบนหัว
“ไปอาบน้ำครับ ไม่อนุญาตให้มายั่วผม”
เอ๋?
บรรยากาศเป็นใจถึงขนาดนี้ ไม่จูบก็เกินไปแล้วไหม?
ดวงตาคู่สวยของฉือฮวนเขียนคำว่าผิดหวังและห่อเหี่ยวเต็มไปหมด
วินาทีต่อมามือใหญ่พลันพาดผ่านตาเธอ เธอยืนนิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม จากนั้นก็เบิกตามองมือใหญ่ที่เห็นข้อนิ้วชัดของสืออวี่ไป๋ปาดที่ปลายจมูกโด่งของเธอ
ฉือฮวน “…”
ลมหายใจเธอติดขัดในลำคอ สรุปแค่นี้เหรอ?
เธอปิดบังความผิดหวังในใจและในดวงตาไม่มิด อดไม่ได้ที่จะต่อว่าผู้ริเริ่มซึ่งกำลังจดจ้องเธออยู่
นัยน์ตาของสืออวี่ไป๋ดำมืดเหมือนพายุกำลังก่อตัว เมื่ออ้าปากพูดอีกครั้ง เสียงก็แหบพร่ามาก
“อยากให้ผมช่วยคุณอาบเหรอ?”
ฉือฮวนรับรู้ถึงความหมายลึกซึ้งของประโยคนี้ ใบหน้าพลันแดงเหมือนกุ้งต้มสุก มือกุมแก้มที่ร้อนลวกแล้วพุ่งฉิวไปห้องอาบน้ำ
ประตูปิดลง ฉือฮวนทาบมือกับอกซึ่งมีหัวใจที่กำลังเต้นตึกตักอย่างรุนแรง
ตรงหน้ามีภาพรอยยิ้มลุ่มลึกแฝงนัยของสืออวี่ไป๋ลอยขึ้นมาไม่หยุด
โอ๊ย ๆ ๆ ยั่วมาก!
เมื่อก่อนทำไมเธอถึงไม่รู้ว่าสืออวี่ไป๋มีเสน่ห์แบบนี้?
เธอขอแค่จูบเดียวเท่านั้นเอง
MANGA DISCUSSION