บทที่ 49 ยังคิดว่าคุณไม่…ต้องการฉัน
คนที่มากับฉู่หนิงหนิงคือจ้าวเสี่ยวฟาง ลูกพี่ลูกน้องของเธอ
พวกเขาขี่จักรยานมา ก่อนนั่งลงพักหายใจหอบบนโซฟา และดื่มชาที่ฉือฮวนรินให้ พวกเธอก็สูดลมหายใจก่อนจะพูดว่า “พี่ฉือ ฉันถามมาแล้ว บ้านเกิดคนที่ขายเสื้อผ้าอยู่ที่หมู่บ้านเกาซาน! รูปร่างหน้าตาค่อนข้างดี แต่แต่งตัวแบบชาวบ้านชนบท น่าจะอายุยี่สิบต้น ๆ หน้าตาดูฉลาด!”
ฟังคำบรรยายแล้ว ย่อมเป็นเย่หมิงจูอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ว่าครอบครัวของเย่หมิงจูยากจน เธอจะหาเงินจากที่ไหนมาสต็อกสินค้า?
คำถามใหญ่ผุดขึ้นในใจของฉือฮวน
ขณะที่พูด จ้าวเสี่ยวฟางก็ยื่นเสื้อผ้าที่เธอซื้อให้กับฉือฮวน
“นี่คือเสื้อยืดที่ฉันซื้อจากเขา สิบหยวน เท่ากับราคาที่คุณขาย”
เป็นความคิดของฉือฮวนที่ให้เงินจ้าวเสี่ยวฟางไปซื้อเสื้อผ้ามาเพื่อเปรียบเทียบ
ฉือฮวนเปิดถุง บรรจุภัณฑ์สินค้าเป็นแบบธรรมดาเพียงใส่ในถุงพลาสติก เมื่อหยิบเสื้อผ้าออกมาดู ก็เห็นว่าทั้งเนื้อผ้าและวัสดุแตกต่างจากของเธอโดยสิ้นเชิง
เรียกได้ว่าคุณภาพของเสื้อยืดค่อนข้างแย่
เธอกับสืออวี่ไป๋ไปซื้อสินค้าและบังเอิญเจอเสื้อยืดประเภทนี้ ราคาทุนห้าหยวน ซักไม่กี่ครั้งก็เสียรูป
ราคาที่พวกเขาซื้อนั้นแพงกว่าสองหยวน และไม่ว่าเนื้อผ้า ลวดลาย หรือรูปแบบการตัดเย็บ ล้วนแต่ดูดีกว่าเสื้อตัวนี้
ฉือฮวนดูอย่างรวดเร็วและมีความคิดผุดขึ้นในใจ
“ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของเธอ น้องจ้าว”
จ้าวเสี่ยวฟางบอกข้อมูลทั้งหมดกับฉือฮวนว่า “พวกเขาอยู่ในตรอกโทรม ๆ ทางตะวันออกของเมือง เดี๋ยวฉันจะพาพี่ฉือไปรู้จักสักหน่อย”
แววตาของฉือฮวนเยือกเย็น
เธอคิดอย่างรวดเร็วถึงวิธีเอาชนะศัตรูด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว
เฉิงจื่อเฉียนชอบรายงานไม่ใช่เหรอ? งั้นก็ใช้วิธีของเขาจัดการตัวเขาแล้วกัน
“น้องจ้าว ฉันต้องรบกวนเธอให้ไปที่นั่นพรุ่งนี้และร่วมมือกับฉันทั้งภายในและภายนอก”
จ้าวเสี่ยวฟางตอบ “วางใจได้เลย!”
หลังจากส่งฉู่หนิงหนิงและจ้าวเสี่ยวฟางกลับไป ฉือฮวนก็มองที่อยู่บนโต๊ะน้ำชา
ถ้าจำไม่ผิด ที่อยู่น่าจะเป็นบ้านครอบครัวสามีคุณป้าของเฉิงจื่อเฉียนในตัวอำเภอ
ในชาติก่อน เธอคิดว่าที่เฉิงจื่อเฉียนและเย่หมิงจูมีความสัมพันธ์กันเป็นเรื่องหลังจากนี้อีกนาน แต่ตอนนี้ไม่เพียงพวกเขาจะมีความสัมพันธ์กันมานานแล้วเท่านั้น แม้แต่คนในตระกูลเฉิงก็รู้เรื่องนี้ด้วย
พวกเขายอมรับในความสัมพันธ์ระหว่างเย่หมิงจูและเฉิงจื่อเฉียน แต่กลับจงใจวางแผนการแต่งงานกับเธอ
รับสินสอดจากเธอและใช้เงินเป็นบันไดก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุด
การได้รับความรักจากเย่หมิงจูเติมเต็มความเป็นชายอันภาคภูมิของเขา
เฉิงจื่อเฉียนสมควรตายจริง ๆ!
ตระกูลเฉิงทุกคนล้วนชั่วช้ากันหมด!
เมื่อคิดถึงการถูกครอบครัวเฉิงทรมานในชาติก่อน ดวงตาของฉือฮวนก็เต็มไปด้วยความอัปยศอดสู อดกำหมัดแน่นไม่ได้
ทันใดนั้น บานประตูก็ขยับ และร่างสูงของสืออวี่ไป๋ก็ปรากฏตัว
เขาขมวดคิ้ว เพียงมองก็บอกได้ทันทีว่าเธออารมณ์ไม่ดี
“เป็นอะไรไป?”
เขาก้าวเข้าไปและกดปลายนิ้วหัวแม่มือลงบนเปลือกตาเธอ
ดวงตาที่ร้อนผ่าวสัมผัสถึงความรู้สึกเย็นเล็กน้อย
“ไม่มีอะไร”
ฉือฮวนสูดจมูก “ฉู่หนิงหนิงกับจ้าวเสี่ยวฟางเพิ่งมา คู่แข่งเรามาจากหมู่บ้านเกาซานตามคาด คุณเดาซิว่าใคร?”
“ใครเหรอ?”
ไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาหรือเปล่า แต่เธอรู้สึกว่าอารมณ์ของสืออวี่ไป๋หยุดนิ่ง
“เย่หมิงจู”
สืออวี่ไป๋หรี่ตาลงและรีบยืดตัวขึ้น
“ผมคิดว่าเป็นเฉิงจื่อเฉียน”
ฉือฮวนเม้มริมฝีปากและสงสัยว่าเธอควรบอกเขาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเย่หมิงจูกับเฉิงจื่อเฉียนหรือไม่
เพราะคงบอกว่าเธอกลับมาเกิดใหม่ เลยรู้เรื่องราวในอนาคตอย่างนั้นไม่ได้หรอก?
“มั้ง?”
ความลังเลของเธอสะท้อนในดวงตาของเขา
“ทำไมถึงไม่ค่อยสบายใจเลย?”
ฉือฮวนนั่งอยู่ ส่วนสืออวี่ไป๋กำลังยืน จึงต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อมองสีหน้าอีกฝ่าย
เมื่อมองจากมุมนี้ รูปร่างเขาสูงขายาว มีรัศมีเยือกเย็นสะอาดตา จู่ ๆ เธอก็รู้สึกอยากโผเข้าไปในอ้อมแขนเขา
เธอมองตรงไปที่ไหล่กว้างของเขา และหูของเธอก็แดงเรื่อก่อนที่จะทันพูดอะไร
“คุณ คุณกอดฉันได้ไหม?”
สืออวี่ไป๋ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่รีบกางแขนออกและรอให้เธอเข้ามาในอ้อมแขนเงียบ ๆ
ฉือฮวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ยกเว้นตอนที่พวกเขาจูบกันยาวนานในคืนที่ย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้ครั้งแรก จากนั้นมาสืออวี่ไป๋ก็หลีกเลี่ยงเธอมาตลอด
เธอโอบรอบเอวของเขาอย่างระมัดระวัง ซุกใบหน้าสีแดงเข้มของเธอจมลงในเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขา
เธอลูบหน้าอกเขาอย่างเสน่หาและพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้ “ฉันคิดว่าคุณจะไม่ยอม… กอดฉัน”
เมื่อพูดสองคำสุดท้าย หูเธอก็แดงมากราวกับสีเลือด
“วันนี้คุณไม่สบายใจ ผมเลยยอมให้”
น้ำเสียงเย็นชาของเขาตอบกลับ
ฉือฮวนหลับตา การกอดที่เรียบง่ายนี้ดูจะสามารถขจัดความเจ็บปวดทั้งหมดในหัวใจเธอได้
“คุณไม่มีเรื่องอื่นจะพูดกับผมเหรอ?”
เขาถามเสียงเรียบ
ฉือฮวนได้สติ เธอคลายกอดจากเอวเขาเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองเขา “ฉันอยากจะแจ้งความเธอ!”
“หืม?”
สืออวี่ไป๋ตั้งข้อสังเกตอย่างสนใจ
“คุณไม่คิดว่ามันแปลกเหรอ?”
“เย่หมิงจูเอาเงินจากไหนมาสต็อกสินค้า? ฉันสงสัยว่าเธอกำลังสมรู้ร่วมคิดกับเฉิงจื่อเฉียน!”
ฉือฮวนกำหมัดแน่น ดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธ
“นึกถึงตอนที่เฉิงจื่อเฉียนแจ้งความเราสองครั้งแล้วยังโกรธไม่หาย คราวนี้พวกเขาต้องชดใช้”
“คุณรู้ได้ยังไงว่าเย่หมิงจูกับเฉิงจื่อเฉียนสมรู้ร่วมคิดกัน”
“คุณไม่มีหลักฐานสักหน่อย”
สืออวี่ไป๋พูดจี้จุดสำคัญ
ฉือฮวนกัดริมฝีปากด้วยความหงุดหงิด
นี่คือจุดที่ขัดกันอยู่ เพราะเธอไม่มีหลักฐาน
“ฉันไม่สนใจ ฉันแค่อยากจะแจ้งความเขา แม้มีข้อสงสัยเพียงเล็กน้อยก็ตาม”
“ฆ่าโดยไม่ได้ตั้งใจ ดีกว่าปล่อยไปเฉย ๆ”
สืออวี่ไป๋พูดเสียงเรียบว่า “เย่หมิงจูเป็นเพื่อนสนิทคุณ”
ฉือฮวนตกตะลึง
เธอเม้มริมฝีปากสีแดงและตอบโต้ว่า “ตอนนี้ฉันไม่ได้สนิทกับเธอแล้ว”
“ทำไมล่ะ?”
เมื่อเผชิญหน้ากับแววตาอันเฉียบคมของสืออวี่ไป๋ ลมหายใจของฉือฮวนก็ติดขัด
“ไม่มีเหตุผล จู่ ๆ ก็ไม่อยากสนิท”
“ดีมาก”
สืออวี่ไป๋พูดจบก็นั่งบนโซฟา ไขว้ขายาวทั้งสองข้าง แล้วจ้องมองเธอเงียบ ๆ ใต้แสงไฟ
ฉือฮวนงุนงง “?”
ใจของเธอเต็มไปด้วยคำถาม
ไม่เข้าใจว่าสืออวี่ไป๋คิดอะไรอยู่กันแน่
“ผมก็คิดว่าเย่หมิงจูไม่เหมาะกับมิตรภาพที่ลึกซึ้งเช่นกัน”
ฉือฮวนเลิกคิ้วขึ้น
“คุณขายเสื้อผ้าอยู่ดี ๆ แต่ลับหลังเขากลับแย่งชิงสิ่งที่เป็นของคุณไป*[1] นี่บ่งบอกถึงนิสัยของเธอได้ชัดเจน”
ใช่แล้ว
ฉือฮวนเกลียดที่ตัวเองดูคนไม่ออก เย่หมิงจูเต็มไปด้วยข้อบกพร่อง แทบไม่ต้องคิดก็มองทะลุได้
ชาติที่แล้วเธอต้องชดใช้ด้วยราคาที่แสนเจ็บปวด
ฉือฮวนสีหน้าสลด นั่งลงข้าง ๆ สืออวี่ไป๋ด้วยความหงุดหงิด
“ไม่มีความสุขเหรอ?”
ติ่งหูรู้สึกจักจี้กะทันหันราวกับถูกสัมผัสด้วยขนนก แผ่นหลังของฉือฮวนพลันแข็งทื่อ
เพราะนิ้วเรียวของสืออวี่ไป๋กำลังบีบติ่งหูเธอช้า ๆ
ลมหายใจจุกแน่นอยู่ในลำคอ แผ่นหลังแข็งเกร็ง เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อต้านทานกระแสไฟฟ้าที่เกิดจากการสัมผัสนี้
[1] 里应外合 หมายถึง ร่วมมือกันทั้งภายในและภายนอก
MANGA DISCUSSION