บทที่ 38 เขาร้อนแรงและอยู่ท่ามกลางฝูงชนมานาน
จางเสี่ยวเชี่ยวเป็นคนหน้าตาดี เธออดใจไม่ได้เมื่อเห็นสิ่งสวยงามเช่นเดียวกับฉือฮวน
ฉือฮวนรู้ใจเธอดี ดังนั้นจึงเลือกเสื้อผ้าที่ฉูดฉาดอยู่เสมอ
“พี่สะใภ้รองชอบไหม ลองใส่ดูสิ”
จางเสี่ยวเชี่ยวถูกดึงดูดด้วยเสื้อผ้า หยิบชุดเข้าไปเปลี่ยนในห้องด้านในอย่างร่าเริง
เสื้อผ้าที่เตรียมไว้ให้แม่ฉือนั้นเรียบง่ายและสง่างาม แม่ฉือเป็นคนประหยัด เธอจับเสื้อผ้าไปก็บ่นไป แม้จะวางไม่ลงก็ตาม
“ราคาเท่าไรเนี่ย ลูกกับสืออวี่ไป๋ต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัดบ้างนะ”
“ถ้ากินใช้ตามใจชอบ ไม่วางแผนให้ดีจะทุกข์ทรมานจากความยากจน”
แม่ฉือตักเตือน
ลูกสาวคนเล็กคนนี้เอาแต่ใจมาตั้งแต่เด็ก และเมื่อเธอแต่งงานกับอวี่ไป๋ เธอก็มีลักษณะนิสัยงอมืองอเท้าไม่ยอมช่วยหยิบจับอะไรทั้งสิ้น
คนที่ไม่เคยรับผิดชอบย่อมไม่รู้ถึงความลำบาก เธอจึงกังวลเกี่ยวกับลูกคนนี้อย่างสุดหัวใจ
ฉือฮวนลดเสียงลงและพูดอย่างเจ้าเล่ห์ “แม่คิดว่าหนูจ่ายค่าเสื้อผ้าไปเท่าไร?”
แม่ฉือตัดสินใจไม่ถูก ลองแตะผ้าแล้วคลี่ออกเพื่อดูรูปแบบ
“เอ้อ เสื้อผ้าสวย ๆ แบบนี้น่าจะราคาเกินสิบหยวนใช่ไหม?”
ฉือฮวนเปรียบเทียบตัวเลข
“สิบหกหยวน?”
“ไม่ค่ะ หกหยวน”
“โอ้สวรรค์!”
แม่ฉือตกใจกับตัวเลขนี้
“ชุดนี้สวยมาก ทำไมราคาถูกขนาดนี้?”
“แน่นอนว่ามันแพงกว่านี้ถ้าแม่ไปซื้อเอง แต่หนูเป็นผู้ค้าส่ง เจ้าของแผงเห็นว่าซื้อเยอะมาก เลยให้ราคาขายส่งกับเสื้อผ้าที่ซื้อฝากครอบครัว”
“ไม่คิดว่าราคาขายส่งจะถูกขนาดนี้” แม่ฉือถามด้วยความตกใจ “แล้วลูกคิดจะขายเสื้อผ้าพวกนี้ราคาเท่าไรล่ะ?”
“อย่างน้อยก็ยี่สิบหยวน และนี่คือเสื้อโค้ตซึ่งเป็นสไตล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปีนี้”
แม่ฉืออ้าปากกว้างและตั้งสติอยู่นาน
เธอคำนวณอัตราส่วนต้นทุนกำไรแล้วอดยิ้มไม่ได้ “ฮวนฮวน แม่คิดว่าธุรกิจนี้จะประสบความสำเร็จ ดังนั้นลูกทำงานให้ดี ถ้าลูกขาดคน แม่จะเข้าไปช่วย”
“ได้ค่ะ!”
ฉือฮวนยิ้ม
แม่ฉือมองใบหน้าของลูกสาวแล้วเพิ่งรู้สึกว่าลูกมีความสามารถมาก จากนั้นก็มองไปยังสืออวี่ไป๋ที่นั่งอีกโต๊ะ แอบยิ้มมุมปาก และค่อย ๆ ละทิ้งความกังวลก่อนหน้านี้เกี่ยวกับลูกสาวไปเงียบ ๆ
เอาละ ลูกสาวของฉันโตแล้ว ต่อไปลูกจะกำหนดชีวิตของตัวเอง
ในเวลานี้ จางเสี่ยวเชี่ยวเปิดม่านแล้วเดินออกมาจากห้อง ลูบเสื้อผ้าใหม่บนร่างกายของเธอพลางยิ้มกว้างถึงใบหูด้วยความดีใจ
ทันทีที่เธอออกมา ฉือฮวนก็ยืนขึ้นจับมือเธอแล้วมองไปรอบ ๆ
“สวยดีค่ะ พี่สะใภ้รอง ถ้าพี่ออกไปเดินเล่นในชุดนี้ จะกลายเป็นศูนย์กลางความสนใจแน่”
“โอ้ นางฟ้าตัวน้อยของตระกูลไหนกำลังลงมายังโลก?”
ฉือฮวนพูดติดตลก
จางเสี่ยวเชี่ยวได้รับคำชมจนตัวลอยจากเธอ ใบหน้างามก็เปลี่ยนเป็นสีแดง อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปตีฉือฮวนเบา ๆ
“ต่อไปตาเธอลอง”
“มาเถอะ พี่เห็นว่าเธอซื้อมาตั้งหลายชุด เธอลองใส่ให้พี่ดูหน่อยนะ”
ฉือฮวนไม่อาจปฏิเสธได้ เธอถูกผลักเข้าไปในห้อง
แม้ว่าในช่วงทศวรรษ 1980 กางเกงขาบานจะเป็นที่นิยม แต่ฉือฮวนมีประสบการณ์กับรสนิยมแบบยุคสมัยใหม่แล้ว เธอจึงอิดออดกับกางเกงขาบาน ไม่อยากใส่มันเลย
แต่พี่สะใภ้รองคะยั้นคะยอหนักจนเธอปฏิเสธไม่ได้
หลังจากสวมเสื้อผ้าและเดินออกมา จางเสี่ยวเชี่ยวกับฉือฮวนก็กลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจ ทั้งครอบครัวห้อมล้อมและชื่นชมพวกเธอ
แม่ฉือยังยุสือเยี่ยนว่า “สือเยี่ยน หนูคิดว่าใครสวยกว่ากัน ป้ารองหรือแม่”
สือเยี่ยนไม่อยากถูกหลอก เขาคลอคเคลียคอของแม่ฉือ ซุกหน้าเล็ก ๆ เข้าไปอย่างเขินอายแล้วพึมพำว่า “ทั้งคู่สวยเหมือนนางฟ้าสองคนลงมาบนโลก”
ทุกคนในห้องหัวเราะออกมาทันที
ฉือฮวนเฝ้ามองฉากอันอบอุ่นนี้ด้วยอารมณ์ลึกซึ้ง
ดีจังเลย
หลังจากเกิดใหม่ นี่คือความสงบสุขที่เธอต้องการ
ภายใต้แสงไฟ แววตาฉือฮวนจมในความคิด จนเผอิญสบเข้ากับสืออวี่ไป๋ แววตาของชายหนุ่มลึกล้ำและสงวนท่าที ทำให้เธอใจสั่น
กลับจากการเดินทางครั้งนี้ ฉือฮวนไม่เพียงซื้อเสื้อผ้าให้พี่สะใภ้รองของเธอเท่านั้น แต่ยังซื้อมาให้พี่สะใภ้คนโตและพี่สะใภ้สามด้วย เนื่องจากวันนี้พวกเขาไม่ได้มา เธอจึงฝากแม่ไปให้พวกเขา
หลังจากกินดื่มอิ่มแล้ว ฉือฮวนกับสืออวี่ไป๋ก็อุ้มสือเยี่ยนตัวน้อยเดินไปทางลานบ้านขนาดเล็ก
เมื่อกำลังจะไปถึงลานเล็ก จู่ ๆ ร่างหนึ่งก็เดินเซออกมาจากความมืด เมื่อมองใกล้ ๆ ก็เห็นว่าเป็นเฉิงจื่อเฉียน
ดวงตาของเขาแดง จ้องมองไปที่ฉือฮวน “ฮวนฮวน คุณรู้ไหมว่าผมชอบคุณมากแค่ไหน!”
พูดจบก็เดินเซมาทางเธอ
ไม่มีใครผ่านไปมา เธอจึงได้กลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งเป็นอย่างแรก
ฉือฮวนกัดฟันด้วยความโกรธ
นี่คือคนเมาแล้ว ที่มาหาเธอเพราะความเมา!
เธอเบือนหน้าหนีเพื่อหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับเฉิงจื่อเฉียน และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉิงจื่อเฉียน คุณเมาแล้วก็กลับบ้านคุณไป อยากทำอะไรก็ทำ แต่อย่าออกไปข้างนอกและทำให้ตัวเองอับอาย”
“ฉันไม่ใช่คนของคุณ อย่ามารบกวนฉันที่นี่อีก!”
เฉิงจื่อเฉียนโซเซไปมา ดวงตาของเขาแดงก่ำ เขาจ้องมองฉือฮวน ชี้ไปทางสืออวี่ไป๋ก่อนจะพูด
“ฮวนฮวน คุณเกรงใจไอ้ขี้แพ้คนนี้หรือเปล่า เลยไม่กล้าบอกความจริงกับผม”
“เห็นได้ชัดว่าคุณชอบผม คุณเอาแต่บอกว่าอยากหย่ากับสืออวี่ไป๋เพื่อผม ทำไมคุณถึงเปลี่ยนใจกะทันหัน?”
“เพราะผมชอบคุณ คุณเลยแกล้งผมใช่ไหม?”
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ ฉือฮวนก็อดรู้สึกสะอึกในใจไม่ได้ เธอเผลอมองท่าทีของสืออวี่ไป๋โดยไม่รู้ตัว
ภาพที่เห็นทำให้เธอหวาดกลัว
ริมฝีปากของสืออวี่ไป๋เม้มเป็นเส้นตรง อารมณ์ที่เผยออกมาจากดวงตาของเขานั้นเย็นชาเกินความยับยั้งชั่งใจ
เธอไม่สงสัยเลยหากสืออวี่ไป๋จะบุกเข้าไปในวินาทีนี้ และเอาชนะเฉิงจื่อเฉียนด้วยความรุนแรง
ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับสืออวี่ไป๋ซึ่งในที่สุดก็คลี่คลายแล้ว กลับถูกเฉิงจื่อเฉียนทำลายลง
ฉือฮวนสีหน้าเศร้าหมอง ส่งสือเยี่ยนที่กำลังหลับอยู่ในอ้อมแขนให้กับสืออวี่ไป๋
เมื่อสบตากัน ฉือฮวนก็สังเกตเห็นชัดเจนว่าท่าทีของสืออวี่ไป๋นั้นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
ฉือฉวนสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของเขา ทำให้หัวใจรู้สึกหนักอึ้งและเจ็บปวด
เธอไม่ได้อธิบายอะไรมาก
พอผละมือจากสือเยี่ยน เธอก็ก้าวไปหาเฉิงจื่อเฉียน
ดวงตาเฉิงจื่อเฉียนปรากฏแววประหลาดใจ เธอถกแขนเสื้อขึ้นแล้วตบหน้าเขาอย่างแรง
เฉิงจื่อเฉียนโกรธขึ้นมาทันที ก่อนที่จะโผเข้าหาเธอ ฉือฮวนก็ตบเขาอีกครั้ง
“กล้าดียังไงมาตบผม”
น้ำเสียงของเฉิงจื่อเฉียนเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
“ฉันตบคุณที่ไม่รู้จักมียางอาย!”
“ตบครั้งแรกสำหรับการแจ้งความเราที่ตลาดกลางคืน และตบครั้งที่สองสำหรับคุณที่พาคนจากสำนักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์บุกเข้าไปในบ้านของเรา”
“เฉิงจื่อเฉียน ถ้าคุณยอมจากไปแต่โดยดี ฉันจะเคารพคุณในฐานะลูกผู้ชาย!”
“สิ่งที่คุณทำทำให้ฉันตระหนักได้ว่าฉันตัดสินใจถูกต้องแล้วที่ไม่แต่งงานกับคุณ”
ฉือฮวนมองเข้าไปในดวงตาของเฉิงจื่อเฉียนด้วยความโกรธและจริงจัง “อย่าเสียเวลาเลย ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ฉันก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจ”
เฉิงจื่อเฉียนขบกรามแน่น แทบไม่เชื่อสายตา
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ายังคงเป็นฉือฮวนที่ถือว่าเขาคือพระเจ้าของเธอและไม่เคยปฏิเสธเขาหรือเปล่า?
ทำไมเธอถึงดูน่าเกรงขามจนไม่อาจขัดขืนได้ แบบนี้แปลกมากไม่ใช่เหรอ?
ฉือฮวนถอยหลังสองก้าวแล้วเดินไปหาสืออวี่ไป๋ ไม่สนใจความเย็นชารอบตัวเขา เธอจับแขนของเขาอย่างยั่วยวน
“สืออวี่ไป๋และฉันมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน อย่ารบกวนโลกของเราสองคนเลย”
MANGA DISCUSSION