บทที่ 27 วาดวงกลมบนหน้าอกเขา
ฉือฮวนกล่าวอย่างกระตือรือร้น “ใช่! ยิ่งเธอพาคนมามากเท่าไรก็ยิ่งดี”
ไม่นานสองสาวจึงจากไปอย่างมีความสุข
หลังปิดประตูบ้าน ฉือฮวนก็หยิบกระเป๋าเงินจากมือของสืออวี่ไป๋ไปด้วยดวงตาที่สดใส เทลงบนโต๊ะกาแฟแล้วคลี่ธนบัตรทีละใบ
ธนบัตรสิบหยวนวางกองกับธนบัตรสิบหยวน ธนบัตรห้าหยวนวางกองกับธนบัตรห้าหยวน ธนบัตรสองหยวนวางกองกับธนบัตรสองหยวน และธนบัตรหนึ่งหยวนวางกองไว้ด้วยกัน
กางเกงขาบานขายออกไปสิบสามตัว พลอยทำให้เสื้อยืดสีขาวขายออกไปได้สองตัว เปรียบเทียบกับกางเกงขาบานแล้ว เสื้อยืดสีขาวได้รับความสนใจน้อยกว่าหน่อย
กางเกงขาบานตัวละยี่สิบห้าหยวน สิบสามตัวก็สามร้อยยี่สิบห้าหยวน
เสื้อยืดขาวสองตัว ตัวละสิบหยวน รวมเป็นยี่สิบหยวน
รวมทั้งหมดเป็นสามร้อยสี่สิบห้าหยวน
ตั้งแต่ฉู่หนิงหนิงกับจางถิงมาเคาะประตูจนกระทั่งออกไป ใช้เวลาทั้งหมดหนึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมงที่ทำเงินได้สามร้อยสี่สิบห้าหยวน!
สามร้อยสี่สิบห้าหยวนในทศวรรษ 1980 ที่ค่าครองชีพถูกมาก เงินเดือนของคนงานทอผ้าหญิงธรรมดาคนหนึ่งอยู่ที่ยี่สิบหยวน และเงินเดือนรายปีอยู่ที่สองร้อยสี่สิบหยวนเท่านั้น
ฉือฮวนระงับความตื่นเต้นแทบไม่อยู่ พลันถามว่า “สืออวี่ไป๋ คุณจ่ายไปเท่าไรสำหรับกางเกงขาบานและเสื้อยืดสีขาว”
สืออวี่ไป๋กลั้นยิ้มไม่อยู่เมื่อเขาเห็นใบหน้าที่ตื่นเต้นของฉือฮวน “กางเกงยีนสิบหยวน และเสื้อยืดสีขาวสองหยวน”
ดวงตาของฉือฮวนยิ่งเบิกกว้างขึ้น
เธอสงบสติอารมณ์ไม่อยู่ หยิบปากกาและกระดาษออกมาเริ่มคำนวณบัญชี
หลังจากหักต้นทุนแล้ว กางเกงตัวหนึ่งได้กำไรสิบห้าหยวน เสื้อยืดสีขาวกำไรตัวละแปดหยวน!
กำไรสุทธิของกางเกงอยู่ที่หนึ่งร้อยเก้าสิบห้าหยวน และของเสื้อยืดสีขาวคือสิบหกหยวน รวมกันเป็นสองร้อยสิบเอ็ดหยวน
หลังจากหักเงินสิบสามหยวนที่มอบให้ฉู่หนิงหนิงกับจางถิงแล้ว พวกเธอยังเหลืออีกหนึ่งร้อยเก้าสิบแปดหยวนในมือ แม้ว่าจะไม่มากเท่ากับเงินเดือนหนึ่งปีของคนงานโรงงานสิ่งหอ
แต่นี่คือทศวรรษ 1980 ซึ่งเป็นยุคทองที่คุณสามารถมีเงินเป็นกระสอบได้หากเดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง
ดวงตาของฉือฮวนร้อนวูบวาบ เลิกคิ้วโก่งขึ้นด้วยความสุข “สืออวี่ไป๋ เราทำเงินได้หนึ่งร้อยเก้าสิบแปดหยวนในเวลาอันสั้น!”
“ดีใจมากเลยสิ?”
ท่าทีของสืออวี่ไป๋ไม่เปลี่ยนแปลง เขาจ้องมองเธอนิ่ง ๆ ปล่อยให้เธอดีใจแทบกระโดดโลดเต้น
“คุณดีใจมากเลยเหรอ?”
“ดีใจสิ!”
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉือฮวนทำเงินได้มากมายจากความพยายามของตัวเอง และเธอก็ไม่สามารถระงับความตื่นเต้นไว้ได้
“สืออวี่ไป๋ ฉันมีความสุขมากเลย!”
“ต่อไปนี้เราจะหาเงินได้เท่านี้ทุกวัน ไม่สิ เราจะทำเงินได้มากขึ้นเรื่อย ๆ!”
“เราย้ายไปอยู่บ้านหลังใหญ่กว่านี้ เปิดร้านเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดในตัวเมือง แล้วส่งเยี่ยนเยี่ยนไปโรงเรียนที่ดีที่สุด ดีไหม?”
ดวงตาของเธอสดใส ครุ่นคิดด้วยความสนใจอย่างมาก ราวกับว่าอนาคตที่สวยงามได้ปรากฏตรงหน้าเธอแล้ว
ขนตาของสืออวี่ไป๋ขยับเบา ๆ สอดมือไว้ในกระเป๋ากางเกง “…ได้เลย เอาตามที่คุณว่า”
คำอธิบายที่เปล่งประกายเหล่านี้ทำให้หัวใจซึ่งเงียบงันมาเป็นเวลานานของสืออวี่ไป๋สั่นไหว
สิ่งที่กระตุ้นเขาไม่ใช่เงิน แต่เป็นอนาคตที่สดใสของฉือฮวน ในที่สุดก็มีเขารวมอยู่ด้วย
บ้านในอำเภอเมืองเต็มไปด้วยความอบอุ่น
ในหมู่บ้านเกาซาน แม่เฉิงรู้สึกสับสนและแลกเปลี่ยนสิ่งที่พบในวันนี้กับเฉิงจื่อเฉียน
“แม่ พวกเขาทางนั้นมีอะไรเคลื่อนไหวไหม?”
แม่เฉิงส่ายหัว “ไม่มี นึกแล้วก็แปลก ดูเหมือนพวกเขาจะไม่รีบร้อน พวกเขาไม่เพียงไม่ได้ตั้งแผงขายเสื้อผ้าเท่านั้น แต่ยังไม่ค่อยออกไปข้างนอกมากนัก”
ใช่แล้ว
เฉิงจื่อเฉียนรู้เกี่ยวกับบ้านของสืออวี่ไป๋ในตัวเมืองตั้งนานแล้ว
ตั้งแต่พวกเขาคิดหาทางจัดการฉือฮวน ไม่เพียงทราบถึงการเคลื่อนไหวของฉือฮวนเท่านั้น แต่พวกเขายังรู้รายละเอียดของสืออวี่ไป๋ด้วย
“เป็นไปไม่ได้”
เฉิงจื่อเฉียนเอ่ยอย่างเด็ดขาดว่า “แม่ ลองคิดดูดี ๆ พฤติกรรมของพวกเขามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?”
“ผิดปกติเหรอ?”
“มีเรื่องผิดปกตินิดหน่อย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไปโรงงานทอผ้าในตอนบ่าย”
“ไปโรงงานทอผ้าทำไม?”
เฉิงจื่อเฉียนเหมือนถูกกระตุ้น และความคิดในจิตใต้สำนึกก็ผุดขึ้นมา เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขากำลังวางแผนที่จะทำเสื้อผ้าของตัวเองจึงไปติดต่อเรื่องผ้าที่โรงงานทอผ้า?
พอคิดขึ้นมาได้ เขาก็ปฏิเสธมัน
แม้ว่าสืออวี่ไป๋จะมีความสามารถ แต่ไม่มีความทะเยอทะยาน เขาอาศัยอยู่อย่างสงบสุขในหมู่บ้านเล็ก ๆ ในชนบทเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง
พูดตามตรง เฉิงจื่อเฉียนดูถูกสืออวี่ไป๋จากก้นบึ้งของหัวใจ
มีเงื่อนไขดี ๆ แบบนี้ ก็ต้องทะเยอทะยานให้มากจึงจะดี
“ดูเหมือนจะไปพบกับคนงานทอผ้าหญิงสองคน และชวนพวกเขาไปทานอาหาร”
แม่เฉิงเม้มริมฝีปากเมื่อเธอพูดแบบนี้ น้ำลายสอด้วยความโลภ “ไปร้านต้าซานฝูด้วย!”
“โอ๊ย! แม่ไม่กล้าเข้าไปในสถานที่หรูหรานั้นเลยดูอยู่ข้างนอก กลิ่นอาหารน่าอร่อยเตะจมูกแม่อยู่ตั้งนาน”
แม่เฉิงเต็มไปด้วยอารมณ์อิจฉา “จื่อเฉียน เมื่อลูกทำเงินได้มากมายในอนาคต อย่าลืมแม่นะ แม่อยากไปกินข้าวที่ต้าซานฝูด้วย หากได้ทานอาหารนอกบ้าน ชีวิตแม่ก็ไม่เสียเปล่าแล้ว”
เฉิงจื่อเฉียนขัดจังหวะแม่เฉิงอย่างหมดความอดทน
“แล้วหลังจากเลี้ยงข้าวล่ะ?”
“ไม่มีอะไรแล้ว”
แม่เฉิงบ่น
“แม่ซุ่มดูทั้งวัน วิ่งจนขาแทบขวิด วันนี้เหนื่อยมาก เลยไม่ได้ตามต่อ”
“พวกเขาคงจะกลับไปที่หมู่บ้านพรุ่งนี้ ต่อไปจะติดตามพวกเขาได้ง่ายขึ้น เรื่องนี้ลูกไม่ต้องกังวล”
เฉิงจื่อเฉียนพลันโกรธจัด
“แม่ วันนี้ไม่ไปจับตาดูพวกเขาทำไมไม่บอกผม?”
แม่เฉิงตัวสั่นเมื่อเธอถูกตะคอกใส่ “แม่ไม่ทันคิด จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“แม่จะรู้อะไร ถ้าวันนี้พวกเขาถือโอกาสดำเนินการเรื่องสินค้าพวกนั้นล่ะ”
“ไม่ ไม่มีทาง!”
เฉิงจื่อเฉียนขยี้ผมด้วยความหงุดหงิด “ช่างเถอะ ผมจะจับตาดูเองในสัปดาห์หน้า ผมไม่เชื่อว่าจะจับพวกมันไม่ได้!”
พูดจบเฉิงจื่อเฉียนก็ออกจากบ้านด้วยความโกรธ
เขาหันหลังมุ่งไปยังสถานที่ซึ่งเขากับเย่หมิงจูมักจะพบกันเป็นการส่วนตัว เป็นลานร้างเล็ก ๆ ในมุมที่ห่างไกลที่สุดของหมู่บ้านทางทิศตะวันตก
เดิมทีที่นี่เป็นลานของชายไร้ครอบครัวคนหนึ่ง หลังจากเขาเสียชีวิต ลานก็ถูกทิ้งร้าง
วันนี้เป็นวันที่เขานัดพบกับเย่หมิงจู
เมื่อเข้าไปในห้อง เย่หมิงจูกำลังยืนแต่งตัวอยู่ใต้แสงเทียนสลัว ๆ เมื่อเธอเห็นเขาปรากฏตัว ก็โถมตัวเข้าไปในอ้อมแขน
“ทำไมคุณเพิ่งมา?”
เย่หมิงจูหยิกแขนของเฉิงจื่อเฉียนอย่างไม่พอใจ
เฉิงจื่อเฉียนรู้สึกเหมือนไฟปะทุขึ้นทั่วร่าง เขาช้อนใบหน้าที่สวยงามของเย่หมิงจูขึ้นมาและเริ่มจูบ
เย่หมิงจูไม่เต็มใจ เธอผลักใบหน้าของเฉิงจื่อเฉียนด้วยฝ่ามืออันอ่อนนุ่มของเธอ “คุณกล้าดียังไง!”
“คุณคิดว่าฉันเป็นคนง่าย ๆ เหมือนฉือฮวน นึกอยากจะจูบก็จูบอย่างนั้นเหรอ?”
สำหรับเฉิงจื่อเฉียน เสน่ห์ที่ไม่อาจเอื้อมคว้าของเย่หมิงจูนั้นยิ่งใหญ่กว่าของฉือฮวนอยู่แล้ว เมื่อเห็นท่าทางโกรธเกรี้ยวของเย่หมิงจู ส่วนเล็ก ๆ ในใจของเขาก็ถูกปลุกเร้ามากขึ้น
เขาโอบแขนรอบเอวของเย่หมิงจู บีบอย่างแรงเพื่อสนองตัณหาของตน
เย่หมิงจูปล่อยให้อีกฝ่ายจับ ใช้นิ้วของเธอลากวงกลมบนหน้าอกเขา พลางเหลือบมองเขาด้วยหางตา
“เรื่องนั้นไปถึงไหนแล้ว?”
เมื่อกล่าวถึงฉือฮวน ใบหน้าของเฉิงจื่อเฉียนก็หม่นลง
“อย่าพูดถึงเลย ยัยแซ่ฉือคนนั้นไม่รู้สมองไปโดนอะไรกระทบกระเทือนมา จู่ ๆ ก็เกิดอยากอยู่กินกับสืออวี่ไป๋”
“ตอนแรกผมต้องการแจ้งความสืออวี่ไป๋เรื่องการค้ากำไรเพื่อเอาเขาเข้าคุก แต่ใครจะไปคิดว่าจะเสียรู้พวกเขา!”
เย่หมิงจูหรี่ตาลง และหันหลังกลับด้วยความโกรธ “ถ้าคุณทำเรื่องไร้ประโยชน์แบบนี้ต่อไป ครอบครัวของฉันจะหาคู่ให้ฉัน”
“คุณจะยอมให้ฉันแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น ต้องถูกจูบ และนอนกับเขาจริง ๆ เหรอ?”
MANGA DISCUSSION