บทที่ 16 พลังฟื้นคืน
หลังจากที่ฉือฮวนกล่าวจบ ฝูงชนที่มุงดูก็พุ่งเป้าไปที่หวังชุ่ยผิงทันที
คนเดียวที่รับเงินมาคือหวังชุ่ยผิง
แม้เฉินเหยาที่อยู่ตรงนั้นจะร้องไห้อย่างเศร้าใจ แต่รุ่นพี่รุ่นน้องก็ปลอบเธอจนดีขึ้นแล้ว
แต่การปรากฏตัวของฉือฮวนก็ทำให้เธอรู้สึกต่ำต้อย และแม้กระทั่งความคิดเพียงเสี้ยวหนึ่งก็ทำให้เธอรู้สึกอับอาย
เธอจ้องไปที่ฉือฮวนอย่างอิจฉาริษยาและเกลียดชัง
เดิมทีเธอคิดว่าฉือฮวนมีดีแค่รูปร่างหน้าตา คงเป็นพวกสวยแต่รูปจูบไม่หอม แต่หญิงสาวกลับตอบโต้อย่างมีไหวพริบและหักหน้าเธออย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าหวังชุ่ยผิงเสียเปรียบ หลายคนจึงไม่สนใจทำมาค้าขายแล้ว
“คุณพูดจาแบบนั้นได้ยังไง?”
แน่นอนว่าเฉินเหยาคือคนแรกที่ลุกขึ้นตอบโต้
จิตใต้สำนึกเธอต้องการเหยียบย่ำฉือฮวนให้จมดิน ด้วยวิธีนี้เท่านั้นจึงจะสบโอกาส
เฉินเหยากัดริมฝีปาก ดวงตาของเธอเปียกชื้นจากการร้องไห้ แม้จะตำหนิฉือฮวนอยู่แต่ก็ดูน่าสงสาร
“ชุ่ยผิงเป็นเด็กสาวที่ยังไม่ได้แต่งงาน คุณพูดแบบนี้เท่ากับทำลายชื่อเสียงเธอ ทำไมคุณถึงเลวทรามได้ขนาดนี้”
ดวงตาของฉือฮวนจ้องมองไปที่ใบหน้าของเฉินเหยา
“สิ่งที่เธอทำขัดขวางทางเดินของผู้คนบนถนน สร้างเรื่องหน้าด้านไร้ยางอายแบบนี้ แล้วจะไม่ให้ฉันสงสัยได้ยังไง?”
ฉือฮวนถามกลับอย่างรวดเร็ว
“ฉันบอกแล้วว่าถ้าเขาทำไม่ถูก ก็จะขอโทษแทน แต่เธอก็ยังรั้งเราไว้ไม่ปล่อยอย่างหน้าไม่อาย ทำไมถึงต้องยอมทำถึงขนาดนี้ล่ะ?”
“สาวน้อย เรายุ่งเรื่องของคนอื่นได้ แต่การเข้าไปแส่กับทุกเรื่องมีแต่จะทำร้ายตัวคุณเอง”
“เธอ…!”เฉินเหยาโกรธจนแก้มเปลี่ยนเป็นสีแดง และไม่สามารถพูดโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว
เนื่องจากทุกคำที่ฉือฮวนพูดล้วนเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้
“อีกอย่างฉันค่อนข้างสับสน ครอบครัวของฉันรักสันโดษมากและไม่ค่อยยุ่งกับคนอื่น แต่อะไรทำให้คุณขุ่นเคืองและร้องไห้กัน?”
ฉือฮวนอยากรู้จริง ๆ ความสับสนจึงฉายแววอย่างชัดเจนในดวงตาคู่งาม
เธอจะไม่ถามก็ได้ พอถามออกไปก็พบว่าใบหน้าของเฉินเหยายิ่งแดงขึ้นอีก
เฉินเหยาพึมพำและกัดริมฝีปาก ความคับข้องและความไม่พอใจดูเหมือนจะติดอยู่ในลำคอ เค้นอย่างไรก็พูดไม่ออก จนใบหน้าของเธอแดงขึ้นเรื่อย ๆ
เด็กสาวพูดอะไรไม่ออก แต่ผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ กลับเต็มไปด้วยความโมโห
“ก็แค่เราเห็นว่าเขาหน้าตาดีเลยมามอง แต่สามีคุณช่างแสนประเสริฐ บอกว่าให้เราไปให้พ้น!”
“ตลาดกลางคืนนี้เป็นของครอบครัวเขาหรือไง? หรือถนนสายนี้เป็นของครอบครัวคุณ? เขามีสิทธิ์อะไรถึงวางอำนาจขนาดนี้? ดูสิ! เขาทำให้เหยาเหยาของเราร้องไห้!”
“ขอโทษมา คุณต้องขอโทษ! ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ยอมปล่อยคุณไป!”
ฉือฮวนคิดแล้วว่าคงมีเรื่องบางอย่างกัน แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเรื่องนี้!
เธอหัวเราะจนตัวโยน ดวงตาเป็นประกายด้วยเสียงหัวเราะ
ไม่เพียงแต่เธอเท่านั้นที่หัวเราะ กระทั่งฝูงชนที่มุงดูอยู่ก็เริ่มแอบหัวเราะกัน
หลายคนค่อนข้างมั่นอกมั่นใจในตอนแรก แต่เมื่อเสียงหัวเราะของฝูงชนดังขึ้นเรื่อย ๆ พวกเธอก็เริ่มตื่นตระหนก ยังไม่ทันพูดอะไร ใบหน้าก็แดงก่ำด้วยความอับอาย
“หัวเราะอะไรกัน? เขาไม่ควรขอโทษงั้นเหรอ?”
“หุบปากนะทุกคน หยุดหัวเราะได้แล้ว!”
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับฝูงชนที่ดูอยู่คือการได้มุงดูละครดี ๆ ฉากหนึ่ง แต่ทำให้เจ้าของเรื่องไม่พอใจก็ถือเป็นการสูญเสียที่ไม่คุ้มค่า ทุกคนรีบกลั้นเสียงหัวเราะและรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
เมื่อฝูงชนสงบลง ฉือฮวนจึงกล่าวว่า “สาวน้อย การหมายตาผู้ชายที่แต่งงานแล้วเป็นเรื่องที่บัดสีแค่ไหนคงไม่ต้องพูดถึง แต่การที่คุณขัดขวางธุรกิจของเรา หากเขาต้องการให้คุณออกไป ก็สามารถบอกคุณเช่นนั้นได้”
“ขอโทษนะ แต่ทำไมฉันต้องขอโทษพวกคุณด้วย?”
“พวกเธอไม่ได้รับการเอาใจใส่จากครอบครัวเหรอ? ถึงอยากจะเรียกร้องความสนใจจากนอกบ้านนัก?”
“พวกเธอหน้าไม่อายเอง แต่ไม่พอใจที่โดนฉันด่าเหรอ?”
“พอเถอะ ฉันมีเรื่องต้องทำที่บ้าน ไม่มีเวลามายุ่งกับพวกเธอ”
พูดจบฉือฮวนก็เดินฝ่าฝูงชนออกไป
เมื่อหวังชุ่ยผิงเห็นว่าไม่สามารถหยุดสืออวี่ไป๋ได้ ความหวังเธอก็สั่นคลอนอย่างรวดเร็ว และเมื่อเห็นว่าฉือฮวนกำลังจะจากไป เด็กสาวก็รู้สึกร้อนรนจึงวิ่งไล่ตามสืออวี่ไป๋ไปดื้อ ๆ เพื่อแก้แค้น
แต่ฉือฮวนจะให้โอกาสหวังชุ่ยผิงเหรอ?
นัยน์ตาเธอฉายแววกังวล ก่อนที่จะรีบตามหวังชุ่ยผิงไป
แม้เฉินเหยากับคนอื่น ๆ จะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พวกเธอก็รู้สึกว่าโดนฉือฮวนด่าทอจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน และต้องการสั่งสอนบทเรียนให้กับหญิงสาว
พวกเขามองตากันและตัดสินใจติดตามไป
หวังชุ่ยผิงวิ่งฝ่าฝูงชนไปอย่างรวดเร็วราวกับลมกระโชกแรงพัดผ่าน ฉือฮวนเหลือบมอง ตอนนี้สืออวี่ไป๋เพิ่งออกจากตลาดกลางคืน กำลังรีบไปที่บ้านของอาเฉิน
หญิงสาวไม่รู้ว่าเฉิงจื่อเฉียนติดสินบนหวังชุ่นผิงไปเท่าไร แต่เธอดูจะทุ่มสุดกำลังเพื่อทิ้งห่างฉือฮวนในระยะเวลาอันสั้น
ร่างกายของฉือฮวนในขณะนี้ยังไม่แข็งแรงพอ วิ่งไปได้สักพักก็หายใจเหมือนเป่าลม ลมที่สูดเข้าไปราวกับมีดแทงที่หลอดลม ปอดเจ็บปวดมากจนแทบจะระเบิด
ขณะที่วิ่ง กล้ามเนื้อต้นขาและน่องรู้สึกปวดราวกับจะฉีกออกจากกัน เหงื่อไหลย้อยลงมาตามใบหน้า และกระโปรงก็เปียกชุ่มหลังออกแรงได้ไม่นาน
เธอถึงขั้นอยากจะนอนราบ ขอแค่สักวินาทีเดียวก็ยังดี
แต่วินาทีต่อมา ภาพชีวิตในอดีตทุกฉากทุกตอนก็ปรากฏขึ้นในความทรงจำ
ดวงตาคู่นั้นของสืออวี่ไป๋ที่มองเธออย่างเคร่งเครียดก่อนที่เขาจะถูกคุมขัง ใบหน้าที่หดหู่เศร้าโศกของสือเยี่ยนที่มีปัญหาจากภาวะซึมเศร้าและขังตัวอยู่ในห้องเล็ก ๆ ดวงตาของสืออวี่ไป๋ที่มองรูปถ่ายของเธอทั้งน้ำตาก่อนที่เขาจะเสียชีวิต แล้วสือเยี่ยนจะตัดสินใจฆ่าตัวตายในที่สุด นอนอยู่คนเดียวในอ่างอาบน้ำสีแดงฉานอย่างโดดเดี่ยว เธอถูกเฉิงจื่อเฉียนและมารดาเขาทรมาน ต้องเจ็บปวดจากการถูกเฉิงจื่อเฉียนทรยศ ความเกลียดชังที่ถูกยุแหย่โดยเย่หมิงจู…
อารมณ์ทั้งหมดปะทุออกมาในทันที
ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับว่าพลังอันแข็งแกร่งพุ่งออกมาจากส่วนลึกในร่างกาย ผลักดันให้เธอวิ่งเข้าใกล้หวังชุ่ยผิงทีละขั้น
ในเวลานี้ หวังชุ่ยผิงใกล้จะไล่ตามสืออวี่ไป๋ทัน เธอพลันมองเห็นเงินยี่สิบหยวนกวักมือเรียกอยู่ตรงหน้า
เด็กสาวยิ้มกว้าง พร้อมคว้าจักรยานของสืออวี่ไป๋ไว้
หากสืออวี่ไป๋ถูกรั้งไว้ เธอจะได้รับเงินยี่สิบหยวน!
ทว่า…
พลังอันแข็งแกร่งกลับเข้ามาคว้าแขนของหวังชุ่ยผิงไว้
ทันทีที่หวังชุ่ยผิงหันกลับมา เท้าก็สะดุด และเธอก็เสียหลักล้มไปอีกทางอย่างควบคุมไม่ได้
เธอกำลังจะพุ่งเข้าอ้อมแขนของคนคนนั้น แต่อีกฝ่ายกลับหลบ ทำให้เธอล้มกลิ้งลงบนพื้น
เมื่อหวังชุ่ยผิงลุกขึ้น ก็เห็นแผ่นหลังของฉือฮวน
“คุณวิ่งมาเหรอ?”
สืออวี่ไป๋มองใบหน้าที่แดงชื้นด้วยเหงื่อของเธอและถามด้วยความประหลาดใจ
ฉือฮวนยกแขนเสื้อขึ้นเพื่อเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้า พร้อมส่งยิ้มให้สืออวี่ไป๋อย่างเบิกบานไม่รู้ไม่ชี้
“อื้อ ไม่เป็นไร เราไปกันเถอะ อย่ามัวรอช้า”
เธอยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา “จะสามทุ่มแล้ว วางของลงแล้วไปเที่ยวตลาดกลางคืนกัน”
สืออวี่ไป๋หรี่ตา ไม่รู้เพราะอะไร พอเห็นฉือฮวนในสภาพนี้ หัวใจที่ผิดหวังและเงียบงันในอกของเขาก็ดูจะเริงร่าขึ้นในทันที ไม่เพียงเท่านั้น มันยังเต้นแรงอีกด้วย
เสียง ‘ตึกตัก’ ‘ตึกตัก’ ทุกเสียงล้วนบ่งบอกถึงความหวั่นไหวในใจเขา
MANGA DISCUSSION