บทที่ 125 น้อย
ทันใดนั้นร่างกายก็รู้สึกเย็น ผ้าห่มถูกเลิกขึ้น จากนั้นสืออวี่ไป๋ก็มุดเข้ามาข้างใน เสียงอุทานของฉือฮวนถูกระงับไว้สนิท
แล้วหญิงสาวก็คว้าผ้าปูที่นอนราบเรียบในตอนแรกไว้ทันที
…
เมื่อก้าวขึ้นรถไฟไปกวางตุ้งกับสืออวี่ไป๋ ฉือฮวนก็รู้สึกอ่อนเพลียไปทั้งตัว น่องเรียวของเธอยังคงสั่นเทา ความแข็งแกร่งในร่างกายก็ถูกเค้นออกมาใช้จนเกลี้ยง
เมื่อเทียบกับความยากลำบากของเธอแล้ว สืออวี่ไป๋ดูผ่อนคลายกว่ามาก
ดวงตาของชายหนุ่มที่ได้รับความพึงพอใจเต็มไปด้วยความสุข ดวงดาวที่แตกละเอียดเป็นเสี่ยง ๆ ในดวงตาเขาทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวราวกับว่ามีน้ำผึ้งแทรกซึมออกมาจากรอยแยกในหัวใจ
ฉือฮวนจ้องมองเขาอย่างนึกตำหนิ ในขณะที่สืออวี่ไป๋ถือโอกาสกอดเธอไว้แน่นในอ้อมแขน
ณ มณฑลกวางตุ้ง
ฉือฮวนและสืออวี่ไป๋ลงจากรถไฟและตรงไปที่โรงงานขนาดเล็กของจ้าวเจี้ยนกั๋วโดยอาศัยความจำ
เมื่อเข้ามาในลานบ้าน สิ่งแรกที่สะดุดตาคือภาพจักรเย็บผ้าที่ขยับเคลื่อนในซุ้มหลังคาโปร่ง คนงานหญิงกำลังยุ่งอยู่กับงานในมือ
หัวหน้าคนงานคนหนึ่งพาดผ้าเช็ดตัวไว้บนไหล่ เขาหยิบมันขึ้นมาเช็ดเหงื่อพร้อมกวาดตามองพวกเขาขึ้น ๆ ลง ๆ “พวกคุณคือ…”
“พวกเรามาหาเถ้าแก่จ้าวครับ” สืออวี่ไป๋กล่าว
ฉือฮวนกล่าวต่อ “ใช่ เรามีเสื้อผ้าจำนวนหนึ่งที่เราอยากให้เถ้าแก่จ้าวผลิต”
“อย่างนี้เอง ถ้าอย่างนั้นพวกคุณโปรดรอสักครู่”
หลังจากพูดจบ หัวหน้าคนงานก็นำเก้าอี้พลาสติกที่ไม่ได้ใช้สองตัวมา แล้วพูดว่า “พวกคุณนั่งพักก่อนเถอะ แล้วผมจะกลับมา”
“ครับ ขอบคุณ”
“รบกวนคุณหน่อยนะคะ”
ฉือฮวนเลื่อนเก้าอี้ให้สืออวี่ไป๋ แล้วทั้งสองก็นั่งลง ถัดจากพวกเขาคือคนงานหญิงที่กำลังเหยียบจักรเย็บผ้าส่งเสียงดัง
ผ้าที่ตัดไว้เรียบร้อยแล้วจะถูกวางไว้ใต้จักรเย็บ ออกแรงเพียงพริบตาเดียว ก็เดินจักรด้ายเส้นหนึ่งเสร็จ
ฉือฮวนเฝ้าดูอย่างตั้งใจ
เธอไม่รู้เรื่องการตัดเย็บมากนัก แต่ที่บ้านมีจักรอยู่เครื่องหนึ่ง ซึ่งแม่ของเธอมักจะใช้ตัดเย็บและซ่อมเสื้อผ้าที่บ้าน แต่ความเร็วเปรียบกับคนงานหญิงเหล่านี้ไม่ติดเลย
ดูอยู่ครู่หนึ่ง จ้าวเจี้ยนกั๋วและหัวหน้าคนงานก็รีบกลับมา
ฉือฮวนและสืออวี่ไป๋ต่างยืนขึ้นมา หลังจากทักทายกัน ฉือฮวนก็เข้าประเด็นและเผยเจตนาที่ต้องการจะร่วมงานกันทันที
“เถ้าแก่จ้าว เราวางแผนจะผลิตเสื้อผ้าจำนวนหนึ่ง ซึ่งอาจต้องติดต่อกับคุณในภายหลังเกี่ยวกับเนื้อผ้าและสไตล์เฉพาะตัว”
“ยินดีต้อนรับครับ ผมกำลังรอพวกคุณอยู่เลย”
“ตั้งแต่พวกคุณมาที่นี่ก็เกือบสองเดือนแล้ว ว่าแต่เสื้อผ้าล็อตนี้ที่คุณสั่งจะไปวางขายที่ไหนเหรอครับ? บอกรายละเอียดคร่าว ๆ ก็ได้”
จ้าวเจี้ยนกั๋วถาม
ฉือฮวนบอกจ้าวเจี้ยนกั๋วเกี่ยวกับนิทรรศการเมืองและชนบท
คิดไม่ถึงเลยว่า แม้จ้าวเจี้ยนกั๋วจะอยู่ที่เสินเจิ้น แต่เขาก็เข้าใจเรื่องต่าง ๆ ในภาคเหนือมากเช่นกัน “นี่เป็นเรื่องดี หากพวกคุณสามารถโปรโมตเสื้อผ้าในงานนิทรรศการได้ ยอดขายจะเพิ่มขึ้นมหาศาล”
“เอาอย่างนี้ หากพวกคุณยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องรูปแบบเสื้อผ้า พวกเราก็ยังไม่สามารถคุยรายละเอียดการร่วมงานกันได้ พวกคุณเลือกแบบและเนื้อผ้าก่อน เมื่อคุณตัดสินใจแล้ว พวกเราค่อยมาพูดถึงรายละเอียดของการร่วมงานดีกว่า ว่าไงครับ?”
“ตกลงค่ะ”
กระบวนการติดต่อเป็นไปอย่างราบรื่นจนน่าประหลาดใจ
เมื่อบอกลาเถ้าแก่จ้าวแล้ว ฉือฮวนและสืออวี่ไป๋ก็ตรงไปที่ตลาดขายส่ง
หลังจากใช้ชีวิตมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉือฮวนจึงรู้ดีกว่าใครว่าตลาดขายส่งเป็นเครื่องบอกทิศทางลมที่พยากรณ์กระแสของปี ไม่มีใครคุ้นเคยว่าสินค้าตัวใดได้รับความนิยมที่สุดหรือขายดีที่สุดในตลาดขายส่งมากไปกว่าเจ้าของแผง
หลังจากสำรวจสินค้าและเลือกสไตล์เสื้อผ้าที่จะขายในครึ่งเช้าแล้ว ฉือฮวนก็ตัดสินใจเลือกรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมาสองสามแบบ
หากต้องการตอบสนองเรื่องความสวยความงามของคนส่วนใหญ่ ก็ทำได้เพียงตามกระแสเท่านั้น
เสื้อผ้าของนิทรรศการเมืองและชนบทจะไม่เหมือนกับที่จำหน่ายในร้านขายเสื้อผ้า
คนส่วนใหญ่ที่ไปร้านเสื้อผ้าชอบความงามและต้องการมีเอกลักษณ์โดดเด่น
แต่ผู้ชมนิทรรศการในเมืองและชนบทคือชาวบ้านที่ให้ความสำคัญกับเสื้อผ้าคุณภาพสูงและราคาถูกมากกว่า ส่วนรูปแบบเป็นเรื่องรอง
หลังจากตัดสินใจเลือกรูปแบบแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกเนื้อผ้า
เนื้อผ้ามีความสำคัญต่อเสื้อผ้ามาก ในที่สุดพวกเขาก็นั่งแท็กซี่ไปตลาดผ้าตามคำแนะนำของเฉินจี้เฉิง
เมื่อเข้าสู่ตลาดผ้า จะเห็นผ้าและอุปกรณ์เสริมเสื้อผ้านานาชนิดที่น่าตื่นตาตื่นใจ
หากพวกเขาไม่ได้มีเป้าหมายอยู่แล้ว ก็คงตาพร่าได้ง่าย ๆ
ด้วยเส้นสายธุรกิจของจ้าวเจี้ยนกั๋ว พวกเขาจึงเลือกเนื้อผ้าได้ โดยไม่จำเป็นต้องต่อรองกับเจ้าของแผงขายผ้าด้วยตนเอง
เนื่องจากจ้าวเจี้ยนกั๋วเป็นลูกค้าประจำ ราคาที่ได้จึงถูกกว่า
ด้วยคำแนะนำของสืออวี่ไป๋ ฉือฮวนจึงไม่รีบตัดสินใจ หลังจากเดินชมรอบอาณาจักรผ้าทั้งหมดอย่างช้า ๆ เธอก็เลือกผ้ามาสองสามชนิด
เพื่อความระมัดระวัง เธอจึงใช้ผ้าจำนวนน้อยชิ้นสำหรับเสื้อผ้าแต่ละสไตล์ แล้วนำแบบดังกล่าวมาทำตัวอย่างให้กับจ้าวเจี้ยนกั๋ว
หลังจากได้รับผ้าแล้ว จ้าวเจี้ยนกั๋วก็พูดอย่างสงสัยว่า “รูปแบบเสื้อผ้าทั่วไปจะใช้ผ้าหนึ่งหรือสองชิ้นก็พอแล้ว ทำไมพวกคุณถึงใช้ผ้ามากขนาดนี้มาทำแบบล่ะครับ?”
ฉือฮวนอธิบายว่า “เนื่องจากเราจำหน่ายในงานนิทรรศการเมืองและชนบท จึงต้องรับประกันคุณภาพของผ้า แล้วคุณภาพที่สูงกับราคาถูกจะช่วยเสริมชื่อเสียงให้แก่เราได้ค่ะ”
“การบอกปากต่อปาก จะทำให้ธุรกิจสามารถคงอยู่ได้ยาวนานในอนาคต”
ใช่แล้ว ฉือฮวนวางแผนที่จะดำเนินธุรกิจในงานนิทรรศการเมืองและชนบทต่อไปอีกนานในอนาคต
หลังจากฟังคำพูดของฉือฮวนแล้ว จ้าวเจี้ยนกั๋วก็มั่นใจขึ้นและอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วให้เธอ “ผมเชื่อมั่นในตัวคุณ เถ้าแก่เนี้ยฉือ เรื่องงานคุณวางใจได้ ผมจะทำอย่างไร้ที่ติแน่นอน”
“ไม่ว่ายังไงผมก็หวังว่าจะได้ทำธุรกิจร่วมกับคุณไปอีกนาน”
ฉือฮวนพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม
ดวงอาทิตย์ส่องแสงลงมาตามซุ้มหลังคาโปร่ง ใบหน้าครึ่งหนึ่งของฉือฮวนอาบแสงแดด และอีกครึ่งซ่อนอยู่ในเงา ทำให้ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือนั้นดูอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด แต่ประกายแสงที่ปรากฏในดวงตาคู่งามกลับฉายชัดเป็นพิเศษ
เธอมีรูปร่างเพรียวและไหล่บาง เมื่อพูดถึงเสื้อผ้า ท่าทีของเธอก็เปล่งประกายขึ้นมา
มีรายละเอียดมากมายที่เขาไม่มีเวลาพิจารณาด้วยซ้ำ แต่เธอกลับคิดถึงมันไว้นานแล้ว
ดวงตาของสืออวี่ไป๋ตกสู่ภวังค์ความคิด
ไม่รู้ว่าใครเคยบอกว่าผู้ชายจะมีเสน่ห์ในที่ทำงาน แต่เขารู้สึกว่ากลิ่นอายที่แผ่ออกมาของฉือฮวนไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ชายเลย
ตอนนั้นเอง จ้าวเจี้ยนกั๋วก็กล่าวขึ้น “เสื้อผ้าตัวอย่างจะออกมาภายในวันมะรืน คุณสามารถมารับได้วันนั้น”
“ตกลงค่ะ”
หลังออกจากโรงงานขนาดเล็ก ฉือฮวนก็สูดหายใจลึก ๆ ด้วยความโล่งอก
ตอนมาที่กว่างโจวครั้งแรก ฉือฮวนรู้สึกราวกับมีหินก้อนใหญ่ถ่วงอยู่ในใจ กระทั่งไม่กล้าแม้แต่จะผ่อนคลายเลยตอนเลือกแบบและเนื้อผ้า
เมื่อทำเรื่องเหล่านี้เสร็จแล้ว หญิงสาวจึงผ่อนคลายได้ในที่สุด
เธอบิดขี้เกียจภายใต้แสงแดดของกว่างโจว
ทันทีที่เธอชูมือขึ้น เสื้อยืดสีขาวบนตัวก็ร่นขึ้น เผยเอวเพรียวบางขาวราวหิมะ แต่สาวเจ้ากลับไม่รู้ตัวสักนิด
ทันใดนั้น ฉือฮวนก็รู้สึกร้อนผ่าวที่เอว
ฝ่ามือใหญ่ของสืออวี่ไป๋จับชายเสื้อยืดของเธอไว้และปิดช่วงเอวขาวอย่างมิดชิด
ฉือฮวนมองคิ้วหม่นเศร้าเล็กน้อยของเขาด้วยความสับสน จากนั้นก้มมองหลังมือซึ่งสามารถมองเห็นเส้นเลือดสีเขียวได้จาง ๆ เนื่องจากอาการเกร็ง
“มีอะไรเหรอคะ?”
สัญชาตญาณบอกฉือฮวนว่าชายหนุ่มกำลังโกรธ แต่ทำไมถึงโกรธ ทำให้เธองุนงงอยู่หน่อย ๆ
MANGA DISCUSSION