บทที่ 124 ลูก
สืออวี่ไป๋ยิ้มและไม่พูดอะไร ฉือฮวนอาจหงุดหงิดหากไม่ได้เข้าใจนิสัยของเขา เพราะผู้ชายคนนี้ไม่ค่อยเก่งเรื่องพูดจาหวาน ๆ เท่าไร
แต่หลังจากได้รับประสบการณ์ในชาติที่แล้ว ฉือฮวนก็ตระหนักได้อย่างลึกซึ้งว่าผู้ชายที่หวานเหมือนอ้อยนั้นไม่น่าเชื่อถือ เฉิงจื่อเฉียนก็พูดคำหวานได้ แต่หลังจากความหวานหมดลง มันก็จะกลายเป็นเศษซากที่ไม่เหลือเค้าเดิม
เมื่อกลับมาที่อำเภอ ท้องฟ้าก็ใกล้มืด ฉือฮวนไปที่ร้านขายเสื้อผ้า แม่ฉือส่งบัญชียอดขายของวันนั้นให้ฉือฮวน และถามถึงความคืบหน้าจากการเข้าไปในตัวเมือง
ฉือฮวนขยิบตาเจ้าเล่ห์ทีหนึ่ง “ทุกอย่างราบรื่น และผ่านไปด้วยดีจนน่าประหลาดใจเลยค่ะ”
“แม่กับพี่สะใภ้รองอาจต้องดูแลกิจการมากขึ้นในช่วงนี้ เพราะพวกหนูต้องไปซื้อเสื้อผ้าที่กว่างโจวอีก”
ฉือฮวนคิดเรื่องนี้มาดีแล้ว เธอจะต้องเริ่มไปสำรวจสินค้าที่ตลาดขายส่ง แล้วนำรูปแบบที่พวกเธอถูกใจส่งให้กับโรงงานขนาดเล็กที่พวกเธอไปเยี่ยมชมเมื่อครั้งก่อน
ในเมื่อตอนนี้ยังไม่สามารถร่วมมือกับโรงงานขนาดเล็ก เพื่อผลิตสินค้าล็อตใหญ่ได้ พวกเธอก็ต้องเริ่มจากสินค้าล็อตเล็กก่อน
“ไม่มีปัญหา พี่สะใภ้รองของลูกขายเสื้อผ้าได้ไม่เลว ส่วนแม่ดูแลเรื่องเงินเอง จะได้ไม่เกิดข้อผิดพลาด ลูกกับอวี่ไป๋วางใจได้”
เมื่อถึงจุดนี้แม่ฉือก็หยุดเอ่ย หันมองสืออวี่ไป๋แล้วพูดว่า “เธออยากจะบอกแม่ว่ากำลังจะไปกวางตุ้งไหม? เหมือนหล่อนจะเคยพูดว่าอีกสองวันจะกลับแล้ว”
“นาน ๆ ทีแม่ลูกจะได้กลับมาเจอกันอีก ไม่อย่างนั้นอีกสองวันค่อยไปกวางตุ้งก็ได้นะ”
สืออวี่ไป๋ปฏิเสธ “ไม่ได้ครับ เรื่องนิทรรศการเป็นเรื่องเร่งด่วนกว่า ถ้ามีโอกาส แม่และผมอีกไม่นานก็คงได้เจอกัน ไม่ต้องรีบพบภายในสองวันนี้หรอกครับ”
แม่ฉือแปลกใจที่สืออวี่ไป๋เก่งทุกอย่าง แต่ปฏิสัมพันธ์ของเขากับผู้คนกลับเฉยชา ราวกับเป็นหุ่นยนต์ไร้อารมณ์
เธออดไม่ได้ที่จะกังวลว่าหากสืออวี่ไป๋เมินคนในครอบครัว ในอนาคตเขาอาจจะทำตัวห่างเหินกับฉือฮวนก็ได้
แต่เธอไม่ได้แสดงท่าทีอะไร เพียงพยักหน้าอย่างแข็งขัน
เมื่อฉือฮวนกับสืออวี่ไป๋เดินออกไป เธอก็มองตามพวกเขาอยู่นาน
“คุณจะมอบสินค้าล็อตนี้ให้กับโรงงานเล็ก ๆ ที่ไปดูไว้ก่อนหน้านี้หรือเปล่าครับ?”
“ใช่ค่ะ แบบนั้นจะสามารถลดต้นทุนได้มากขึ้น และผลกำไรของเราย่อมสูงขึ้น ถ้าพวกเราจัดนิทรรศการจะเจอลูกค้าจากชนบท ซึ่งให้ความสำคัญกับของคุณภาพดีราคาถูกมากกว่ารูปแบบเสื้อผ้าละนะ”
ฉือฮวนครุ่นคิด “ในเมื่อเราต้องการร่วมมือกับโรงงาน เสื้อผ้าล็อตเล็กแบบนี้จึงเหมาะสมที่สุด”
“ความคิดคุณดีจริง ๆ”
สืออวี่ไป๋ไม่ได้คิดถึงขั้นนี้ด้วยซ้ำ เมื่อนึกถึงตรงนี้ เขาจึงมองไปที่ฉือฮวนด้วยความชื่นชมและล้ำลึก
“เป็นไงล่ะ ฉันเก่งไหมคะ”
ฉือฮวนอดไม่ได้ที่จะออดอ้อน เมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย
“เก่งจริง ๆ”
สืออวี่ไป๋เชยคางเธอขึ้น พร้อมก้มลงจูบบนเปลือกตา
ขณะชายหนุ่มโน้มเข้าใกล้ เปลือกตาของฉือฮวนก็ปิดลง ขนตาที่หนาและยาวกำลังหยอกเย้ากับริมฝีปากของสืออวี่ไป๋
สายตาของเขาลุ่มลึกขึ้น และริมฝีปากก็เคลื่อนลงมาประกบกลีบปากสีแดงของเธอ
ลมหายใจของฉือฮวนสะดุด
ทุกการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ ของริมฝีปากของอวี่ไป๋ขยายออกไปอย่างชัดเจนที่ประสาทสัมผัส การพลิก การเกี่ยวกระหวัด และความยืดหยุ่นในทุกสัมผัสดูจะมีผลโดยตรงต่อการหายใจของเธอ
บรรยากาศสงัดเงียบจนสามารถได้ยินเสียงเข็มหล่นในห้องขนาดใหญ่
ลมหายติดขัดเริ่มชัดเจนยิ่งขึ้น และที่แย่กว่านั้นคือความรู้สึกเหมือนมีกระต่ายตัวน้อยเต้นอยู่ในอกของเธอ จนเกิดเสียง ‘ตึก ๆ ๆ’ คล้ายจะกระโดดออกจากลำคอ
นิ้วยาวเรียวของเขาแหวกปกเสื้อของเธอออกและพรมจูบที่ไหปลาร้า ทุกครั้งที่เขาขยับ กระแสไฟฟ้าจะแล่นตรงสู่หัวใจเธอ
“ขอผมดูหน่อยว่า เถ้าแก่เนี้ยฉือเก่งเรื่องอื่นหรือเปล่า”
“ระ…เรื่องอะไรล่ะ?”
เสียงของฉือฮวนสั่น
จากนั้นหญิงสาวก็เห็นดวงตาสีเข้มลึกของสืออวี่ไป๋ ซึ่งแฝงไว้ด้วยความใคร่และความยับยั้งชั่งใจ จนเธอรู้สึกชาวาบ
“…คุณคิดยังไง?”
ลูกกระเดือกของเขาขยับเล็กน้อย และดูจะมีแววล้อเลียนอยู่บนคิ้ว
เลือดในร่างกายของฉือฮวนร้อนขึ้น จิตใต้สำนึกต้องการจะตอบโต้ แต่พอริมฝีปากสีแดงเผยอขึ้น สืออวี่ไป๋ก็สะกดมันไว้อีกครั้ง
ลมหายใจของร่างบางติดขัด ทุกสิ่งที่ตามมาเกินการควบคุมของเธอ
เมื่อดวงจันทร์แขวนอยู่เหนือยอดไม้ ชั้นเมฆสีดำก็ค่อย ๆ เคลื่อนลงมาปกคลุมความหวานชื่นที่อยู่เบื้องหน้า
……
ฉือฮวนที่ไม่ต้องตื่นแต่เช้ามาจัดการเรื่องที่ร้านเสื้อผ้า จึงนอนหลับสบายเป็นพิเศษ เธอยืดตัวลุกขึ้นยืน สิ่งแรกที่สะดุดตาคือภาพชายหนุ่มรูปงามนอนหลับอย่างอิ่มเอมใจ
ขนตาเรียวยาวของสืออวี่ไป๋ปรือปิดเล็กน้อย จนเกิดเป็นเงาแสงใต้เปลือกตา สันจมูกโด่งทำให้เธอนึกสนุกขึ้นมา
ฉือฮวนอดไม่ได้ที่จะบีบจมูกของสืออวี่ไป๋ เฝ้ามองใบหน้าเรียวของชายตรงหน้าที่มีรอยย่นคล้ายรอยขยำกระดาษ คิ้วและดวงตาของเขาโค้งด้วยความเบิกบาน
เมื่อสืออวี่ไป๋ลืมตาก็เห็นเธอซุกซนอยู่ จึงเอื้อมโอบเธอไว้ด้วยแขนยาวของเขา
การพลิกตัวกะทันหัน ทำให้ฉือฮวนเปลี่ยนจากการนอนตะแคงเป็นนอนหงาย เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นสืออวี่ไป๋มองลงมาจากด้านบน น้ำหนักของเขากดลงมาเต็มที่
อากาศในอกของฉือฮวนถูกบีบเค้น หัวใจเธอเต้นรัว ขนตายาวสั่นระริก “ทำอะไรน่ะคะ”
“ผมจะลงโทษคนแกล้งสามียังไงดีนะ?”
พอเขาเปิดปาก เสียงแหบแห้งก็พานทำให้หน้าอกเธอเต้นไม่เป็นส่ำอีกครั้ง
ดวงตาที่มีคลื่นใต้น้ำของเขาจ้องมองเธอ
ว่ากันว่ามีดวงดาวซ่อนอยู่ในดวงตาของคู่รัก และสืออวี่ไป๋ก็เป็นเช่นนั้น ความหวานล้ำและความเอาใจใส่ทำให้เธอรู้สึกหลงใหล
ริมฝีปากสีแดงของเธอขยับเล็กน้อย เกือบจะยอมแพ้
ทันใดนั้น แผงหน้าอกของสืออวี่ไป๋ที่อยู่ด้านบนก็ทิ้งน้ำหนักลงมา ซุกหัวไว้ที่ซอกคอเนียนของเธอ สูดดมอย่างลึกซึ้งและเปี่ยมด้วยความรักราวกับลูกสุนัข
สันจมูกโด่งของเขากดลงบนผิวหนังของเธอ ลมหายใจทั้งหมดสัมผัสทุกรูขุมขน
แนวกระดูกสันหลังของเธอสั่นไหวเล็กน้อย เส้นเสียงของเธอสั่นเครือ ยากจะหายใจได้อย่างสม่ำเสมอ
“เพื่อเป็นการลงโทษ วันนี้ผมไม่อนุญาตให้คุณออกไปข้างนอก”
พูดจบ เขาก็กดสันจมูกลง ประกบริมฝีปากกับผิวหนังที่ต้นคอโดยไม่ลังเล
อวี่ไป๋เริ่มดูดเม้มมันเหมือนลูกหมาจริง ๆ
ร่างกายบอบบางของฉือฮวนสั่นเทา การดูดเม้มของเขาราวจะสูบวิญญาณเธอออกไป จนเธอแทบจะกรีดร้อง
โชคดีที่สืออวี่ไป๋ปล่อยเธอไปอย่างรวดเร็ว
เขาจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง ใบหน้าเล็กมนพลันปกคลุมด้วยชั้นสีชมพูบาง ๆ เพราะความละอาย ดวงตาสะท้อนกับแสงเล็กน้อย นอนหงายทับเส้นผมสีดำที่สยาย แสดงเสน่ห์ที่วันปกติพบเห็นได้ไม่บ่อยนัก
“คุณมองอะไรครับ?”
ฉือฮวนกัดริมฝีปาก รู้สึกละอายใจอย่างยิ่ง นิ้วเท้าใต้ผ้าห่มจิกเข้าหากันแน่น
“คุณบอกว่าจะลงโทษฉันด้วยการไม่ออกจากบ้าน นั่นไม่ได้…”
เธอต้องการคำอธิบาย
ทว่าสืออวี่ไป๋โน้มตัวมาประกบจูบและสกัดคำอธิบายที่เหลือของเธอ
ในห้องนอนใหญ่ไม่ได้ยินเสียงใดอีก เหลือเพียงเสียงน้ำใสระหว่างริมฝีปากและฟันเท่านั้น
จูบนี้ดูดดื่มและยาวนาน
เมื่อสืออวี่ไป๋ปล่อยเธอ ฉือฮวนก็ยืดคอเรียวขึ้น หายใจเข้าออก โดยมีกลิ่นหอมกล้วยไม้อบอวลอยู่รอบตัวทั้งสอง
ฉือฮวนไม่เข้าใจว่าเรื่องราวมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
ทั้งที่เธอแค่อยากจะแกล้งเขา
สุดท้ายคนที่ถูกแกล้งกลับกลายเป็นเธอเอง
สืออวี่ไป๋ฉวยโอกาสตอนที่เธอฟุ้งซ่าน ถอดชุดนอนผ้าฝ้ายสีขาวเพียงตัวเดียวที่เหลืออยู่บนร่างกายของเธอออก
MANGA DISCUSSION