บทที่ 10 ฉันคือ…คนรักที่ยังไม่ได้หย่า!
ในการเกิดใหม่ครั้งนี้ เธออุตส่าห์ข้ามภูเขาข้ามทะเลมาอย่างไม่ท้อถอย แต่กลับต้องยอมจำนนต่อสืออวี่ไป๋!
หัวใจของฉือฮวนเจ็บปวด แต่ยังคงมองสืออวี่ไป๋อย่างดื้อรั้นทั้งน้ำตา
“คุณมาได้ยังไง?”
สืออวี่ไป๋เหลือบมองกระติกเก็บความร้อนที่ตกอยู่บนพื้น เขาก้มตัวหยิบมันขึ้นมา เม้มริมฝีปากแล้วมองไปยังฉือฮวน
หัวใจของฉือฮวนเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่การจ้องมองที่เย็นชาของสืออวี่ไป๋ทำให้เธอทรมาน จนอดไม่ได้ที่จะตอบโต้ “ดูเหมือนฉันมาผิดเวลาไปหน่อย”
เธอหยิบกระติกเก็บความร้อนขึ้น วางหัวของสือเยี่ยนบนบ่า และพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองว่า “ขอโทษที่รบกวน”
นับตั้งแต่เกิดใหม่ เธอมีความปรารถนาที่จะช่วยเหลือสืออวี่ไป๋ แต่ไม่เคยคิดเลยว่า สืออวี่ไป๋ยังต้องการเธออยู่หรือเปล่า
หญิงสาวจึงอดไม่ได้ที่จะถามอย่างโกรธเคืองใจ
ตอนนี้เขารู้สึกกับเธออย่างไร เขามองเธออย่างไร และเขามองความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาเป็นอะไรกันแน่?
แต่คำพูดเหล่านี้ล้วนติดอยู่ในลำคอ ทำให้ลำบากจนพูดไม่ออก
ฉือฮวนรีบเหลือบมองไปข้างหลังสืออวี่ไป๋ หลัวเชี่ยนสวมกระโปรงสีเขียวอ่อน สีผิวขาวสวย แม้ว่าจะไม่สวยเท่าเธอ แต่ก็มีคุณสมบัติที่ดีและดูเหมือนคนดีเมื่อมองแวบแรก
ก็ใช้ได้
ถ้าสืออวี่ไป๋ขอหย่า เขาจะมีชีวิตที่เจริญรุ่งเรืองแน่ด้วยการแต่งงานกับเธอ
สืออวี่ไป๋สังเกตเห็นการจ้องมองของฉือฮวน พลางเม้มริมฝีปากของเขาแน่นขึ้น เขาอธิบายด้วยดวงตาสีเข้มว่า “คุณเข้าใจผิดแล้ว เธอเป็นแค่เพื่อนร่วมงานของผม”
“…อ๋อ” เพื่อนร่วมงานที่กอดคอคลุกคลีกันน่ะสิ!
ดวงตาของฉือฮวนเจ็บและรู้สึกว่าบรรยากาศเงียบลงตามไปด้วย
“คุณมาที่นี่เพื่อส่งอาหารให้ผมเหรอ?” ดวงตาของสืออวี่ไป๋จ้องมองไปที่กระติกเก็บความร้อน สีหน้าของเขาดูสงบ แต่ดวงตาคล้ายจะมีคลื่นใต้น้ำ
ฉือฮวนจับกระติกเก็บน้ำร้อนแน่นขึ้น อารมณ์ร่าเริงแบบเดิมของเธอหายไป ถึงขั้นยังอยากทิ้งอาหารทั้งหมดอีกด้วย
“ของที่ฉันทำมันไม่อร่อยหรอก คุณไปกินที่โรงอาหารเถอะ”
อารมณ์ของฉือฮวนดิ่งถึงจุดต่ำสุด ทั้งคอและดวงตาของเธอก็เจ็บไปหมด
จากคำพูดของสือเยี่ยน หญิงสาวก็ได้รู้ว่าในช่วงเวลานี้สืออวี่ไป๋จะรับประทานอาหารอยู่ในโรงอาหาร
ในขณะนี้ หลัวเชี่ยนปรับอารมณ์ของตนเองอย่างรวดเร็วและพูดว่า “ใช่ โรงอาหารของรัฐกลางมีรสชาติดี มีสี กลิ่น และรสชาติที่ดี แม้ราคาจะแพงสักหน่อย”
“คุณคือฉือฮวน คนรักของสืออวี่ไป๋ใช่ไหมคะ?”
หลัวเชี่ยนมองฉือฮวนจากบนลงล่าง
แม้จะรู้ว่าฉือฮวนมีความงามที่ยากจะหาพบจากทั่วทุกมุมโลก แต่ดวงตาก็ยังคงส่องประกายเมื่อมองเธอ
วันนี้ฉือฮวนสวมชุดเดรสสีขาวนวล ทั้งเรียบง่ายและสง่างาม มีกิ๊บติดผมรูปผีเสื้อสีเขียวบนเส้นผมสีดำของเธอ และสวมรองเท้าบัลเลต์สีเขียว หญิงสาวมีรูปร่างเพรียวบางและมีใบหน้าที่สวยงาม ราวกับทั่วร่างส่องแสงเรือนรอง
เมื่อดวงตาเป็นประกายคู่นั้นมองผู้คนก็ราวกับว่าสามารถสื่อสารกับพวกเขาได้ ซึ่งมีรอยยิ้มที่ทำให้ประทับใจเป็นพิเศษ
เธอดูราวกับดาราภาพยนตร์ที่หลุดออกมาจากภาพโปสเตอร์ มองเธอเพียงครั้งเดียวก็ทำให้หลัวเชี่ยนรู้สึกละอายใจ
ก่อนที่พวกเขาจะพบกัน หลัวเชี่ยนคิดว่าฉือฮวนเป็นเพียงเศษขยะที่งดงาม
หลังจากพบกันแล้ว จึงรู้สึกว่าการที่สืออวี่ไป๋แต่งงานกับฉือฮวนนั้นสมเหตุสมผล
ความรู้สึกถึงภาวะวิกฤตของเธอเอ่อล้นออกมา จนอดไม่ได้ที่จะกังวล
“?” ฉือฮวนหันหน้าไปถามสืออวี่ไป๋ “อวี่ไป๋ นี่คือ…”
สืออวี่ไป๋กล่าว “นี่คือหลัวเชี่ยน”
หลัวเชี่ยนตอบคำของเขาโดยยื่นมือให้ฉือฮวน “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อหลัวเชี่ยนและเป็นเพื่อนร่วมงานของสืออวี่ไป๋”
ฉือฮวนแตะปลายนิ้วของหลัวเชี่ยน ปล่อยมืออย่างรวดเร็ว แล้วเลิกคิ้ว “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อฉือฮวน และฉันคือ… ภรรยาของสืออวี่ไป๋” เพราะเธอไม่ได้หย่ากับเขา
ความปรารถนาที่จะชนะทำให้ฉือฮวนไม่เต็มใจจะพ่ายแพ้
ในที่สุดเธอก็พบว่าหลัวเชี่ยนสนใจสืออวี่ไป๋
หลังจากที่เธอเข้าไปกอดสืออวี่ไป๋ หลัวเชี่ยนก็ตื่นตระหนกอยู่พักหนึ่งและแทบรอไม่ไหวที่จะประกาศความเป็นเจ้าของในตัวเขา
ช่างน่าเสียดายที่ฉือฮวนยังคงเป็นคุณนายสือ และจะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรบ้า ๆ ข้ามหัวเธอ
รอยยิ้มบนริมฝีปากของหลัวเชี่ยนแข็งทื่อ เธอก่นด่าอยู่ในใจ ‘ฉือฮวนคนนี้ช่างไร้ยางอาย ทั้งที่เธอนอกใจสืออวี่ไป๋แล้วยังกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นภรรยาของเขาอีก?!’
ฉือฮวนเผยยิ้มสดใสและเผชิญหน้ากับท่าทางเหยียดหยามของหลัวเชี่ยนตรง ๆ
มองอะไร ถ้าฉันไม่หย่า เธอก็ได้แต่มองเท่านั้นแหละ!
สืออวี่ไป๋เมินการแข่งขันระหว่างผู้หญิงทั้งสองไป เขาหยิบกระติกเก็บน้ำร้อนจากมือของฉือฮวน ส่วนอีกมือจับสือเยี่ยนตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนอย่างชำนาญ
“ไปกันเถอะ”
พูดจบสืออวี่ไป๋ก็ก้าวขายาว กอดสือเยี่ยนตัวน้อย ตัดผ่านหน้าฉือฮวน เดินไปที่หอพัก
หอพักเจ้าหน้าที่ได้รับการจัดสรรโดยหน่วยงาน คนโสดสามารถเข้าพักได้ฟรี นอกจากนี้ยังมีหอพักสำหรับคนมีครอบครัวด้วย แต่จะใช้เฉพาะช่วงพักกลางวันเท่านั้น
ฉือฮวนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง จึงรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย
ท่าทางของสืออวี่ไป๋เย็นชาไม่น้อย แม้แต่อากาศก็ยังเย็นลงหลายองศา
เมื่อเห็นว่าฉือฮวนไม่ได้ตามมา สือเยี่ยนตัวน้อยก็โบกมือน้อย ๆ แล้วเรียกเธอว่า “แม่ มาเร็ว ๆ!”
ฉือฮวนยกยิ้มที่ริมฝีปาก พูดกับหลัวเชี่ยนที่มีใบหน้าน่าเกลียดว่า “หลัวเชี่ยน ฉันขอโทษนะคะ พวกเราสามคนต้องไปแล้วละ”
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ ฉือฮวนก็รู้สึกราวกับว่าเธอกลืนแมลงวันแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ยังไงก็ตาม ขอบคุณสำหรับความรักที่คุณมีต่อสืออวี่ไป๋ของเรา แต่น่าเสียดายที่เขามีครอบครัวแล้ว ถ้าคุณต้องการหาคู่ ฉันสามารถแนะนำคุณให้รู้จักได้นะ”
หลังพูดแบบนั้น ฉือฮวนก็หันหลังกลับและจากไป
หลัวเชี่ยนกระทืบเท้าด้วยความโกรธพลางกำหมัดอย่างแค้นเคือง
“ฉือฮวน คุณคิดว่าคุณเป็นใครกัน ถึงจะมาแนะนำการหาคู่ให้ฉัน!”
ฉือฮวนโบกมือจากด้านหลัง “ฉันไม่ได้หมายความไม่ดีจริง ๆ ฉันเป็นแค่คนรักของสืออวี่ไป๋เท่านั้นเอง”
คำพูดเหล่านี้ยิ่งทำให้หลัวเชี่ยนโกรธมากจนอดไม่ได้ที่จะกระทืบเท้าอย่างแรง
ฉือฮวนไล่ตามจังหวะก้าวเดินของสืออวี่ไป๋ไปอย่างรวดเร็ว
หอพักเดี่ยว
สืออวี่ไป๋วางเสี่ยวเยี่ยนลงที่เตียงและเปิดกระติกน้ำร้อนซึ่งมีรอยบุบตรงมุม
โจ๊กลูกเดือยเข้มข้นคายความร้อนออกมา เมื่อไอน้ำกระทบใบหน้าของเขา ดวงตาของสืออวี่ไป๋ก็เต็มไปด้วยความกังวลใจ
เนื่องจากมันถูกขว้างทิ้ง เมล็ดลูกเดือยในโจ๊กข้าวจึงติดอยู่ข้างกระติก และน้ำโจ๊กก็เปื้อนเป็นวงรอบ
นับตั้งแต่เขากับฉือฮวนแต่งงานกัน เขาก็ตั้งตารอคอยวันที่ฉือฮวนจะมาส่งอาหารให้เขา
เขารอคอยมัน แต่ในที่สุดก็ยอมแพ้และหมดหวัง
เมื่อเขาตัดสินใจหย่าแล้ว ช่วงเวลานี้ก็มาถึงในที่สุด
ชายหนุ่มเบะปากประชดและเปิดกล่องอาหารอีกกล่อง
ซาลาเปาสีขาวนุ่มฟู เบคอนกับมันฝรั่งชิ้นผัดซอส กลิ่นของอาหารกระทบปลายจมูกอย่างจัง และในขณะเดียวกัน ร่างเพรียวของฉือฮวนก็ปรากฏตัวที่ประตู
ชุดเดรสสีขาวนวลทำให้รูปร่างเพรียวของเธอดูโดดเด่น ใบหน้าที่สวยงามของหญิงสาวยังคงน่าทึ่ง แต่ก็ไม่เหลือเวทมนตร์ที่ทำให้หัวใจของสืออวี่ไป๋เต้นอีกแล้ว
“ขอบคุณที่มาส่งอาหารนะ”
ตอนที่เขาเห็นเธอและสือเยี่ยนปรากฏตัวพร้อมกัน ความหลงใหลที่ติดอยู่ในใจของสืออวี่ไป๋ก็ถูกปลดปล่อยทันที
เมื่อฉือฮวนได้ยินสิ่งนี้ ใจของเธอก็ดิ่งวูบ
“อวี่ไป๋ เราเป็นสามีภรรยากัน ฉันเอาอาหารมาให้คุณ ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก”
เธออดทนต่อความเจ็บปวดที่ราวกับเข็มทิ่มและฝืนยิ้ม
“ต้องพูดสิ”
เมื่อสืออวี่ไป๋พูดคำนี้ เขาก็มองสือเยี่ยนตัวน้อยด้วยแววตากังวล
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นไปเปิดโทรทัศน์ขาวดำในห้อง เปิดการ์ตูนและลูบหัวของสือเยี่ยนตัวน้อย
“สือเยี่ยน ดูการ์ตูนที่นี่ อย่าวิ่งพล่าน พ่อกับแม่จะออกไปคุยกันข้างนอก”
“ได้เลย!”
ตัวการ์ตูนที่อยู่ข้างในโทรทัศน์ดึงดูดความสนใจของเด็กน้อยไปโดยปริยาย ดวงตาไข่มุกบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ก่อนที่หนูน้อยจะปรบมือ
สืออวี่ไป๋ปิดประตูห้อง เดินตรงไปยังสุดทางเดินแล้วเปิดหน้าต่าง
สายลมเย็น ๆ โชยเข้ามาจากหน้าต่าง พัดเสื้อเชิ้ตสีขาวของสืออวี่ไป๋และผมสั้นที่ตัดแต่งอย่างเรียบร้อย ขณะที่มองอย่างลุ่มลึก หัวใจของฉือฮวนก็เต้นรัวราวกับจะหลุดออกจากลำคอ
เมื่อสบตากับสืออวี่ไป๋ด้วยสายตาเย็นชา ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะกล่าวอะไร ฉือฮวนก็พูดต่ออย่างรวดเร็วว่า “ถ้าคุณต้องการหย่ากับฉัน ฉันแนะนำให้คุณเลิกพูด เพราะฉันไม่เห็นด้วย”
ความปรารถนาชัยชนะอันแรงกล้าของเธอทำให้ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายอย่างน่าประหลาดใจ “โดยไม่สำคัญว่าตอนนี้คุณจะตกหลุมรักเพื่อนร่วมงานหญิงคนนั้นหรือไม่”
สืออวี่ไป๋หัวเราะ แสงสีเข้มวาบผ่านนัยน์ตาเขา ปลายลิ้นเรียวไล้แตะแก้ม เขามองเธอผ่านขนตาหนาที่หรี่ปรือ “ใครบอกว่าผมชอบเธอ?”
จู่ ๆ หัวใจของฉือฮวนก็เต้นรัวราวกับกลอง!
“คุณไม่ได้ชอบเธอเหรอ?” เธอระงับความปีติยินดีในใจแล้วถามอีกครั้ง “แล้วคุณจะหย่ากับฉันไหม”
ความจริงเธออยากถามมากกว่า ว่ายังต้องการฉันไหม?
MANGA DISCUSSION