ชูทาโร่ที่ฟังเรื่องราวทั้งหมดบ่นด้วยความผิดหวังว่า
“ผมนึกว่าจะพาทุกคนไปด้วยได้แล้วเชียว เป็นความผิดของผมเองที่คิดไม่รอบคอบขนาดนั้น…”
“พูดอะไรเช่นนั้นครับ? อันที่จริงผมคิดว่าการผสมผสานเข้ากับผู้เล่นคนอื่นๆ น่าจะเป็นผลดีมากกว่าด้วยซ้ำนะครับ”
เอลลอร์ดพูดเสริมพลางอธิบายเหตุผล
“ในช่วงเวลาที่นายท่านได้พบปะกับผู้เล่นคนอื่น จากที่ผมสังเกต ผู้เล่นที่จัดอยู่ในกลุ่มซัมมอนเนอร์หรือเทมเมอร์จากบนฟ้าแทบทั้งหมดล้วนใช้งาน ‘สัตว์อสูรร่างสัตว์’ ครับ อาจกล่าวได้ว่าสัตว์อสูรร่างมนุษย์นั้นอาจจะใช้งานได้ยาก และเนื่องจากเป้าหมายของเราคือการกลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อม จึงควรพิจารณาในจุดนี้ด้วยเช่นกันครับ”
การวิเคราะห์ของเอลลอร์ดค่อนข้างแม่นยำ
ก่อนอื่น วิธีการที่จอมอัญเชิญเรียกมอนสเตอร์นั้นมีอยู่สองประเภทหลักๆ คือ การอัญเชิญทั่วไป และ การอัญเชิญแบบสุ่ม
การอัญเชิญทั่วไปจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่เป็นสื่อกลางที่เหมาะสมกับประเภทของมอนสเตอร์ที่ต้องการเรียก
ตัวอย่างเช่น หากต้องการเรียกมอนสเตอร์ประเภทนก จะต้องใช้สื่ออัญเชิญอย่างขนหรือจะงอยปาก แม้ว่าประเภทที่ถูกเรียกจะหลากหลาย แต่จะไม่มีข้อยกเว้นที่จะถูกเรียกออกมาตามประเภทของสื่อกลางนั้นๆ
เหตุผลที่จอมอัญเชิญและผู้ฝึกสัตว์ส่วนใหญ่ในบริเวณอริสโทราสใช้งานมอนสเตอร์รูปร่างสัตว์ คือเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเป็นเกมมรณะทำให้จำเป็นต้องเพิ่มกำลังรบอย่างรวดเร็ว ผู้เล่นส่วนใหญ่จึงได้วื่ออัญเชิญจาก เดมิ-แรท (Demi-Rat) (เลเวล 1-3) ซึ่งเป็นมอนสเตอร์ระดับต่ำที่สุด หรือ เดมิ-วูล์ฟ (Demi-Wolf) (เลเวล 2-5) ที่อาศัยอยู่ในป่า แล้วจึงทำการอัญเชิญและใช้งานพวกมัน นี่คือสาเหตุเบื้องหลังของเรื่องราวนี้
ในทางตรงกันข้าม มอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์นั้นพบเห็นได้น้อย
ดังนั้นการได้รับสื่อกลางของพวกมันจึงเป็นเรื่องยาก
ก็อบลินยังจัดอยู่ในประเภทสัตว์เนื่องจากสติปัญญาต่ำ จึงไม่ถือเป็นสื่อกลางสำหรับมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์ กล่าวคือ ในช่วงแรก การใช้งานมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์นั้นแทบจะทำได้ด้วยการอัญเชิญแบบสุ่มเท่านั้น
การอัญเชิญแบบสุ่มจะใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า “หินเวท” เป็นสื่อกลาง และจะสุ่มเลือกมอนสเตอร์จากหลากหลายประเภทออกมาตามตัวอักษร
อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะได้มอนสเตอร์ที่มีความหายากสูงนั้นต่ำในทั้งสองวิธี วิธีแรกมีข้อดีคือสามารถเรียกประเภทที่แข็งแกร่งกว่าได้ง่ายกว่า เนื่องจากความหายากของอุปกรณ์จะเพิ่มโอกาส
อัตราการปรากฏตัวของมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์นั้นต่ำมาก
นั่นหมายความว่าพวกมันมีความหายากสูง
เป็นเพราะพวกมันมีข้อดีอย่างมากนอกเหนือจากการร่วมมือในการต่อสู้ได้ง่าย
นั่นคือ มีองค์ประกอบลับที่ว่าผู้เล่นที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปสามารถเลือกพวกมันเป็นคู่แต่งงานหรือคู่ครองได้
การมีอยู่ของ “ซ่องโสเภณี” ในแต่ละเมืองอาจทำให้บางคนตระหนักถึงความเป็นไปได้นี้
เรื่องเดียวกันนี้ก็ใช้ได้กับเทมเมอร์เช่นกัน แต่ในกรณีนี้บางครั้งเงื่อนไขก็สามารถผ่านได้ด้วยการโน้มน้าวใจเป็นเวลานานผ่านทักษะอาชีพ “ทักษะการเจรจา” การมอบทองคำหรือสิ่งของมีค่า หรือการจับกุม ทำให้เคยมีช่วงเวลาที่อลหม่านที่ซัมมอนเนอร์จำนวนมากเปลี่ยนไปเป็นเทมเมอร์เพื่อที่จะได้เป็นเพื่อนกับมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์
อย่างไรก็ตาม มอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์ส่วนใหญ่มีสติปัญญาสูง จึงไม่หลงกลผู้เล่นที่มีเจตนาร้าย
ท้ายที่สุดแล้ว ความสำเร็จในการฝึกฝนก็มีน้อยมาก และมีผู้เล่นที่ใช้งานมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์เพียงไม่กี่คนเท่านั้น
“การที่สามารถแบ่งหน้าที่กันได้อย่างชัดเจนนี่ไม่ใช่เรื่องดีหรอกหรือครับ? ผมกับบัมปี้ รวมถึงการารัส และเบอร์ทรานด์จะรับผิดชอบการคุ้มกันเมื่อนายท่าน ‘สวมชุดเกราะดำ’ ส่วนซิลเวีย และธีโอดอร์ พร้อมกับอาร์บีสสไลม์ ผมคิดว่าน่าจะเหมาะสมที่จะรับผิดชอบการคุ้มกันชั่วคราวครับ”
พูดง่ายๆ ก็คือ แยกเป็นรูปร่างมนุษย์กับรูปร่างสัตว์นั่นเอง เอลลอร์ดกล่าวเสริม
ชูทาโร่มองซิลเวีย จากนั้นมองธีโอดอร์ที่กลายเป็นมังกรดำตัวเล็กๆ แล้วคิดว่า “ซิลเวียก็เป็นแบบนั้นได้เหมือนกันเหรอ?”
“โถ่ ฉันก็ต้องอยู่เฝ้าอีกแล้วเหรอเนี่ย”
เบอร์ทรานด์พูดพลางประสานมือไว้ที่ท้ายทอยอย่างเบื่อหน่าย
“หากเรียนรู้สกิลการเปลี่ยนรูปร่างได้เหมือนสไลม์ก็คงไม่มีปัญหาครับ แต่ทำไมไม่ลองชักชวนผู้ที่มีสกิลเข้ามาในโลกของท่านดูเล่าครับ เหมือนบางคนน่ะ?”
เอลลอร์ดพูดพลางมองราชันปีศาจทั้งสองด้วยหางตา ราวกับกำลังย้ำเตือน
บัมปี้และการารัสแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“งั้นจะเลือกใครก่อนดีนะ…”
ผู้ที่สามารถเลือกได้คือปูเนียว ซิลเวีย และธีโอดอร์
ชูทาโร่มองไปรอบๆ พลางพูดว่า
“ขออภัยนายท่าน—!”
ราชันปีศาจคนหนึ่งลุกขึ้นยืน
==============================
จอมอัญเชิญ = ซัมมอนเนอร์
ผู้ฝึกสัตว์ = เทมเมอร์
ทักษะ = สกิล
*อาจจะมีบางตอนที่ผมพลาดไม่ได้แปลศัพท์เหล่านี้ ขออภัยด้วยนะครับ
MANGA DISCUSSION