ตอนที่ 9 เปิดหูเปิดตา
รุ่งเช้าชีคจาฟาร์ให้ฟารีดาจัดเครื่องแต่งกายให้พีรกานต์ เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางไปเขตชายแดน หญิงสาวตื่นเต้นมาก เมื่อรู้ว่าจะได้ออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอก
“ข้างนอกนั่นมีแต่ทะเลทรายที่ร้อนระอุ การแต่งกายต้องพร้อมและปกปิดร่างกายให้มิดชิด ยิ่งถ้าเจอพายุทะเลทรายด้วยล่ะก็ ยิ่งต้องรัดกุมมากขึ้นกว่าเดิม เสื้อผ้าบางๆ อย่างที่คุณใส่ตอนอยู่ในนี้ ใส่ไม่ได้เด็ดขาด” ฟารีดาบอก
“ฉันก็ไม่คิดจะใส่มันออกไปข้างนอกอยู่แล้วล่ะ ชุดแต่ละชุดบางเจี๊ยบเห็นเข้าไปถึงไหนๆ”
“ฮิ ฮิ ก็นั่นสำหรับใส่ให้ท่านชีคดูคนเดียวนี่นา ขืนคุณออกไปทั้งชุดแบบนั้น ท่านชีคคงได้ลงโทษเหล่าทหารและองครักษ์ทุกคนที่ได้เห็นคุณแน่ๆ”
“ฉันไม่มีความสำคัญมากขนาดนั้นหรอก ฉันก็เป็นแค่นางฮาเร็มคนนึงเท่านั้น” น้ำเสียงของพีรกานต์นั้นเศร้าสร้อย จนฟารีดาต้องลูบหลังมือนุ่มเป็นการปลอบใจ
“ท่านชีคไม่เคยต้องแยกนางฮาเร็มออกมาต่างหากแบบคุณ แสดงว่าคุณก็ต้องมีความสำคัญสำหรับท่านชีคคนหนึ่ง”
“เธออย่าปลอบใจฉันเลยฟารีดา ฉันรู้ตัวดีว่าอยู่ในฐานะอะไร”
“อย่าคิดมากเลยค่ะ ถ้าอยู่ที่นี่แล้วคิดมาก คุณจะไม่มีความสุขนะคะ”
“ขอบใจเธอมากนะฟารีดา แล้วเธอล่ะอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขรึเปล่า”
ฟารีดายิ้มน้อยๆ แต่ดูเหมือนจะเป็นการฝืนยิ้มมากกว่า
“มีความสุขสิคะ ฉันเป็นหญิงรับใช้ แค่ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดไปวันๆ เรื่องอื่นไม่มีอะไรมาก”
“แต่ฉันว่าเธอมีบางอย่างอยู่ในใจ ถ้าเธอไม่รู้จะระบายให้ใครฟัง ก็เล่าให้ฉันฟังบ้างก็ได้ นอกจากท่านชีคแล้ว ฉันก็คุยกับเธอได้อยู่คนเดียวเท่านั้น”
“ยังมีคนที่คุณคุยด้วยได้อีกนะคะ”
“ใครเหรอ” พีรกานต์ถามอย่างใคร่รู้
“องค์หญิงจัสมิน และท่านหัวหน้าองครักษ์ไฮซานไงคะ” ฟารีดาตอบยิ้มๆ
“หัวหน้าองครักษ์ไฮซานเหรอ ใช่คนที่ไปเมืองไทยกับท่านชีครึเปล่า”
“ใช่แล้วค่ะ ส่วนองค์หญิงจัสมินก็เป็นน้องสาวคนเดียวของท่านชีค”
พีรกานต์เบิกตากลมโตกว้างขึ้นและลุกขึ้นยืน เมื่อฟารีดาจัดการสวมรองเท้าและผูกเชือกที่ข้อเท้าให้เสร็จแล้ว ก่อนลองก้าวเดินช้าๆ เพื่อวัดขนาดความพอดีของเชือกที่ผูก
“ท่านชีคมีน้องสาวด้วยเหรอ”
“ใช่ค่ะ สวยพอๆ กับคุณนี่ล่ะค่ะ คงรุ่นราวคราวเดียวกับคุณด้วย แต่องค์หญิงน่ะแก่นแก้ว ไม่เรียบร้อยแบบคุณหรอกค่ะ”
“เหรอจ๊ะ”
จาฟาร์เดินเข้ามาขัดจังหวะการสนทนาของคนทั้งคู่ ชายหนุ่มในชุดสีดำสนิทเฉกเช่นเดียวกับชุดที่เหล่าองครักษ์สวมใส่ ต่างกันที่ผ้าโพกศีรษะจะมีขลิบชายสีทอง และมีแถบสีทองที่แขนเสื้อ เขาดูสง่างามน่าเกรงขามยิ่งกว่าครั้งใดที่เคยเห็น
ชีคหนุ่มมองร่างบางที่ดูสวยแปลกตากว่าทุกวัน พีรกานต์ในชุดสีเทาดำ มีผ้าโพกศีรษะและปิดบังใบหน้าเหลือไว้แค่ดวงตากลมโต แปลก…ทั้งที่เธออยู่ในชุดปกปิดมิดชิดเช่นนี้ แต่จาฟาร์กลับมองว่าเธอน่าปรารถนาไม่เสื่อมคลาย เสื้อผ้าสีมอๆ นั้นไม่ได้ทำให้ความงามของเธอลดลงเลย
“เสร็จแล้วใช่มั้ย ฟารีดา” ชีคหนุ่มหันไปถามฟารีดา
“เจ้าค่ะ” ฟารีดาพยักหน้า สบตาพีรกานต์ชั่วแว่บ แล้วค้อมหลังเดินผ่านจาฟาร์ไป
“ขนาดแต่งตัวมิดชิดแบบนี้ เจ้ายังดูงดงามได้อีกนะ” จาฟาร์เอ่ยชม
พีรกานต์ยิ้มหวาน ทั้งที่มีผ้าปิดริมฝีปาก แต่ชายหนุ่มก็รับรู้ได้จากดวงตาที่หยีลง
“ไปกันเถอะ” ชีคหนุ่มจูงมือนุ่มพาเดินออกไปนอกวัง
เป็นครั้งแรกที่พีรกานต์ได้ออกมานอกวัง หญิงสาวมองรอบๆ บริเวณอย่างตื่นตาตื่นใจกับความยิ่งใหญ่ เธอมองเห็นทหารที่สวมชุดแบบเดียวกับจาฟาร์เดินวนไปเวียนมามากมาย หญิงสาวเดินไปตามแรงจูงจากร่างสูง จนถึงม้าอาหรับสีขาวดำ มีชายร่างสูงยืนอยู่ใกล้ๆ และมีทหารอีกประมาณ 10 คน ยืนอยู่รายรอบ
“ไฮซาน เจ้าดูแลจัสมินให้ดี และดูแลความเรียบร้อยในวังด้วยนะ” ชีคหนุ่มบอกไฮซาน พีรกานต์จึงลอบมองร่างสูงของคนที่ร่วมมือกับจาฟาร์จับตัวเธอมาที่นี่
“ท่านพี่เจ้าคะ” เสียงหวานใสของจัสมินดังขึ้น ก่อนที่ร่างบางระหงจะเดินเข้ามาหาผู้เป็นพี่ชาย
“ว่ายังไงจัสมิน”
“เอ…ท่านพี่จะพานางไปด้วยเหรอเจ้าคะ” จัสมินถาม เพราะไม่เคยเห็นจาฟาร์จะพาผู้หญิงไปด้วย ในยามที่ออกไปราชการเช่นนี้ ที่สำคัญนางไม่ใช่ชีคคา คนที่ได้เคียงคู่ชีคหนุ่มเวลาที่เดินทางไปราชการ จัสมินสงสัยว่า นางฮาดาจะรู้ไหมนะ ว่าพี่ชายของเธอจะพานางฮาเร็มคนใหม่ไปด้วย แต่องค์หญิงแสนสวยก็ไม่ได้ซักถามพี่ชายให้มากความ เพราะหากพี่ชายจะเปลี่ยนแปลง หรือฝืนกฎไปบ้างก็คงจะดีกว่าอยู่ในกรอบอย่างที่เป็นมาตลอด
“ใช่ พี่จะพานางไปเปิดหูเปิดตา นางอุตส่าห์จากบ้านจากเมืองมาไกล เราเป็นเจ้าบ้าน ก็ต้องต้อนรับนางให้ดีหน่อย”
“ฮิ ฮิ น้องไม่ได้ว่าท่านพี่หรอกเจ้าค่ะ ดีซะอีก ท่านพี่จะได้ไม่ต้องนอนเหงาเปล่าเปลี่ยวเดียวดายอยู่ตามลำพัง” จัสมินหัวเราะเบาๆ และหลุบตาลงมองมือของพี่ชายที่กุมมือบางของนางฮาเร็มแน่น
“อ้อ…ข้ายังไม่ได้แนะนำให้เจ้ารู้จัก” จาฟาร์ก้มหน้าลงบอกพีรกานต์ “นี่…องค์หญิงจัสมิน อับดุล บิน ฮัสซาร์ เป็นน้องสาวคนเดียวของข้า”
MANGA DISCUSSION