ตอนที่ 6 จอมโจรซียาส
ร่างสูงตระหง่านที่ยืนกอดอกจังก้าเหม่อมองออกไปยังลอนทรายสูงต่ำเบื้องหน้า อากาศในยามดึกสงัดแบบนี้ช่างหนาวเหน็บแต่ไม่ทำให้ชายหนุ่มสะท้านเลยแม้แต่น้อย ดวงตาคมสีน้ำตาลทอดมองไปเบื้องหน้าอย่างครุ่นคิด
ซียาส อัลอิบรา ในวัย 34 ปี หัวหน้าเผ่าอิบรา ชนเผ่าเร่ร่อนที่อยู่ได้ด้วยการปล้นสะดม แต่เป็นการปล้นสะดมคนรวยที่หลงมัวเมาในอำนาจที่ได้มาในทางที่ผิดๆ ดั่งเช่นเจ้ามะมุดเศรษฐีวัยกลางคนผู้ที่ชอบหลอกลวงชาวบ้านในกองคาราวานที่ผ่านไปมา ว่าตนรู้จักโอเอซิสที่ไม่มีเจ้าของ โอเอซิสเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับชีวิตท่ามกลางทะเลอันเวิ้งว้าง เมื่อเจ้ามะมุดพูดเช่นนี้ทุกคนที่ได้ฟังก็มุ่งมั่นจะได้เป็นเจ้าของ เจ้ามะมุดแสนฉลาดเรียกร้องเงินทองเป็นจำนวนมาก เพื่อแลกกับที่ตั้งของโอเอซิสไร้เจ้าของ มันขี่ม้าพากองคาราวานไปยังโอเอซิสทางตอนใต้ และบอกว่าโอเอซิสแห่งนี้เป็นโอเอซิสไม่มีเจ้าของ พวกกองคาราวานก็เชื่อเพราะไม่เห็นมีสัญลักษณ์บ่งบอกว่าโอเอซิสนี้มีเจ้าของแล้ว แต่ความจริงแล้วธงสัญลักษณ์นั้นถูกเจ้ามะมุดเก็บไปซ่อนไว้หมด และมันก็ลอยนวลไปอย่างดาย ความฉลาดของมันทำให้มันเร่ร่อนไปเรื่อยอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง หลอกลวงผู้คนเพื่อแลกเงินทองมาใช้และซื้อความสุขจากเหล่าโสเภณีไม่ซ้ำหน้ากัน
แต่เจ้าคนที่คิดว่าตนฉลาดแล้วอย่างมะมุด ก็ยังถูกคนที่ฉลาดกว่าอย่างจอมโจรซียาสปล้นสะดมเงินทองไปอีกต่อ กองโจรอิบราติดตามมะมุดและเฝ้าดูความเฉลียวฉลาดของมันมานาน ก่อนซ้อนแผนทำเป็นกองคาราวานและให้มะมุดพาไปยังโอเอซิสที่ว่า จากนั้นก็จัดการปล้นเจ้ามะมุดจนเหลือแต่ตัว แถมยังได้โชคสองชั้น เมื่อได้โอเอซิสที่เจ้ามะมุดเป็นเจ้าของมาครอบครองอีกด้วย เวลานี้ชนเผ่าเร่ร่อนอิบรามีโอเอซิสอันอุดมสมบูรณ์เป็นของตัวเองแล้ว แม้จะเป็นเพียงโอเอซิสเล็กๆ แต่ก็ยังดีกว่าขาดแคลนแหล่งน้ำซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงชีพ จนกระทั่งทุกวันนี้ ชนเผ่าอิบราได้ครอบครองโอเอซิสที่ใหญ่กว่าเดิม ชื่อเสียงของกองโจรอิบราและจอมโจรซียาสดังแผ่ซ่านไปทั่วผืนทะเลทราย ไม่มีใครไม่รู้จักกองโจรอิบราที่มีจอมโจรซียาสเป็นหัวหน้า
“ท่านหัวหน้ากำลังคิดถึงนายหญิงอยู่รึขอรับ” คอลิดหนึ่งในสมุนผู้จงรักภักดีต่อซียาส เห็นผู้เป็นหัวหน้าของตนยืนเหม่อลอยอยู่นานแล้ว จึงเดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง
“คอลิด ข้าจะไปตามหาฟารีดา”
“ท่านหัวหน้ารู้แล้วหรือครับ ว่านายหญิงอยู่ไหน”
“ยัง แต่ข้า…คิดถึงนางเหลือเกินคอลิด ทำไมนางต้องจากข้าไปด้วย นางไม่รักข้าสักนิดเลยเหรอ” เสียงทุ้มของหัวหน้ากองโจรอิบราเบาหวิว ทำให้คอลิดรู้ว่าหัวหน้าของตนสะเทือนใจมากแค่ไหน แม้เวลาจะผ่านมานานหลายเดือนแล้ว แต่จอมโจรซียาสก็ยังตัดใจไม่ได้ เพราะความรักของเขานั้นมั่นคงเกินกว่าจะทำใจให้ลืมหญิงสาวอันเป็นที่รักได้ง่าย
“ท่านหัวหน้าขอรับ ข้าเชื่อว่านายหญิงรักท่านไม่น้อยไปกว่ากันเลย แต่ความคิดของผู้หญิงนั้นละเอียดอ่อนเกินกว่าผู้ชายอย่างเราๆ จะเข้าใจนะขอรับ อีกอย่างนายหญิงถูกยามิลาหลอก มิหนำซ้ำท่านหัวหน้าก็ยังถูกยามิลาหลอกเหมือนกัน ผู้หญิงหวั่นไหวต่อเรื่องทุกอย่างง่าย คำพูดเพียงเล็กน้อยก็สะกิดใจจนเป็นแผลเหวอะหวะได้นะขอรับ”
“คอลิด ข้าเสียใจเหลือเกิน ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ข้าจะไม่หลงเชื่อคนเจ้าเล่ห์อย่างยามิลาอีก”
“ข้าถึงได้บอกว่าผู้หญิงละเอียดลออมากกว่าผู้ชายนัก เราตามความคิดของพวกนางไม่ทันหรอกขอรับ ท่านหัวหน้าอย่าโทษตัวเองเลยขอรับ”
“ขอบใจเจ้ามากคอลิดที่ปลอบใจข้า แต่ถึงยังไงข้าก็จะต้องพานางกลับมาเป็นนายหญิงของเจ้าต่อไปให้ได้”
“แต่เราเดินทางมายาวนาน ผ่านกองคาราวานและชนเผ่าต่างๆ มามาก เราก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเจอนายหญิงเลยนะขอรับ ยกเว้น…”
“ยกเว้นอะไรคอลิด”
“มีอยู่อีกที่หนึ่งที่เรายังไม่ได้แวะเวียนไป”
“หืม…ที่ไหนรึคอลิด”
“นครบาร์ยาเนีย ดินแดนแห่งมนตร์ขลังของอินทรีทะเลทราย ท่านชีคจาฟาร์ อับดุล บิน ฮัสซาร์”
“บาร์ยาเนีย…แคว้นเล็กๆ ที่ขยายอาณาเขตให้กว้างใหญ่จนเป็นนครอันอุดมสมบูรณ์ในเวลาไม่กี่ปีน่ะเหรอ”
“ใช่แล้วขอรับ แต่การที่เราจะเข้าไปบาร์ยาเนียนั้นเป็นการยาก เพราะทหารของบาร์ยาเนียแต่ละคนแข็งแกร่ง ยิ่งถ้าเราเข้าไปเป็นกองโจรแบบนี้ คงไม่มีทางผ่านเข้าไปง่ายๆ นอกจาก…”
“เจ้ากำลังจะบอกข้าว่า นอกจากจะปลอมตัวเข้าไปคนเดียวงั้นสิคอลิด”
“มันเป็นทางเดียวนะขอรับ แต่ท่านหัวหน้าคงต้องเสี่ยง เพราะชื่อเสียงของกองโจรเราเป็นที่เลื่องลือกล่าวขวัญกันมาก ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็คงไม่มีทางเข้าไปในนครบาร์ยาเนียได้แน่นะขอรับ”
“ถ้าข้าเสี่ยง แล้วได้ฟารีดากลับมาข้าก็ยอม เจ้าก็รู้นี่คอลิดว่าข้าไม่เคยกลัวตาย”
“ถ้าท่านคิดเช่นนั้น ข้าก็คงห้ามท่านไม่ได้ คงได้แต่บอกว่าขอให้ท่านระวังตัวด้วยก็แล้วกัน แล้วท่านจะไปเมื่อไหร่รึขอรับ”
“คอลิด ข้าฝากดูแลเผ่าเราด้วย ข้าจะรีบไปรีบกลับ คิดว่าคงเดินทางพรุ่งนี้เลย”
“ได้ขอรับ ท่านหัวหน้า” คอลิดผู้ซื่อสัตย์ต่อจอมโจรซียาสก้มหัวให้ และเดินจากไปทิ้งให้ซียาสจมอยู่กับความคิดของตนเพียงลำพัง
เหตุการณ์ในอดีตเมื่อหลายเดือนก่อน ซียาสยังจำได้ดี วันนั้นเป็นวันแต่งงานระหว่างเขากับฟารีดา ทั้งคู่มีความสุขด้วยกันมาก ใบหน้าของฟารีดาในวันนั้นสดใสเปล่งปลั่งไปด้วยเลือดฝาด ผิวแก้มนวลเนียนอมชมพูนั้นช่างน่ารักและน่าจูบในเวลาเดียวกัน
“ฟารีดา ข้ารักเจ้า” ซียาสบอกรักเมียสาวหมาดๆ ด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มนวลและอ่อนหวาน แววตาของเขาเป็นประกายแวววับด้วยความสมหวัง
“ข้าก็รักท่านพี่” ฟารีดาตอบด้วยน้ำเสียงหวานระรื่นหู และได้รับจูบที่พวงแก้มนุ่มเป็นรางวัลในความน่ารัก
“ท่านพี่ซียาส ท่านสัญญากับข้าอย่างหนึ่งได้มั้ยเจ้าคะ”
“อะไรรึ ข้าให้เจ้าได้ทุกอย่างอยู่แล้ว เพียงแต่บอกข้ามาเถอะ ว่าเจ้าอยากได้อะไร…ที่รักของข้า”
ฟารีดาผละห่างออกจากอ้อมกอดอบอุ่น และเดินออกไปนอกกระโจม อากาศในยามค่ำคืนกลางทะเลทรายช่างหนาวเหน็บ หญิงสาวกระชับเสื้อเข้าหากันและกอดอกให้ไออุ่นแก่ตัวเอง
จอมโจรหนุ่มผู้เป็นสามีหมาดๆ เดินเข้าไปหยุดยืนซ้อนหลัง และโอบกอดร่างแน่งน้อยไว้แนบอก มอบไออุ่นของตนเองส่งผ่านไปยังร่างบางที่สะท้านในยามที่มีลมพัดผ่านกระทบผิวกาย
“ท่านพี่ซียาส ข้าอยากให้ท่านเลิกปล้นสะดมซะที เผ่าอิบราตอนนี้ไม่ได้ยากจนข้นแค้นอีกต่อไปแล้ว หลายคนที่มีอาชีพค้าขายเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ ในเมื่อมีอาชีพสุจริตแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องปล้นอีกต่อไป”
“ข้ารู้…ที่รักของข้า ข้ากำลังจะเลิกหลังจากที่แต่งงานกับเจ้า”
“ตอนนี้เราแต่งงานกันแล้ว ท่านพี่ก็เลิกได้แล้วสินะเจ้าคะ” ฟารีดาพลิกตัวหัวหน้าเข้าหาร่างสูงตระหง่าน เธอต้องแหงนหน้าจนคอตั้งบ่า เพื่อสบตากับคนรักที่มีรูปร่างสูงใหญ่กว่าเธอมากนัก หญิงสาวยกมือบางแนบแก้มสากของซียาส และลูบไล้เบาๆ ด้วยความรักและความเสน่หาทั้งหมดที่มี
“ข้าตั้งใจไว้แล้วฟารีดา ข้าทำให้เจ้าได้เสมอ แต่…”
“แต่อะไรรึเจ้าคะ”
“แต่เจ้าต้องมอบลูกชายให้กับข้า”
“ท่านพี่ขี้โกงข้า ถ้าข้าไม่มีลูกชายให้ท่าน ท่านก็ไม่เลิกปล้นสินะ” มือบางที่ลูบไล้แก้มสากหยุดชะงัก เมื่อได้คำตอบที่ไม่น่าพอใจ
“ฟารีดา ข้าไม่ได้โกงเจ้าเลยสักนิด ข้าสัญญากับเจ้าแล้วว่าจะเลิกปล้น แต่เจ้าต้องมอบลูกชายให้ข้า ไม่ได้หมายถึงว่าข้าจะไม่เลิกปล้น ถ้าลูกของเราเป็นผู้หญิง แต่ข้า…” ซียาสกระชับอ้อมแขนของตนให้แน่นขึ้น “จะทำให้เจ้ามีลูกชายให้ได้ เจ้าต้องตามใจข้าทุกครั้งนะที่รัก”
คำกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูนั้นและลมหายใจที่เป่ารดต้นคอ ทำให้ฟารีดาขนลุกซู่ร่างของเธอสะท้านขึ้นเล็กน้อย ต่อมาก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ จากร่างสูง ซียาสรู้ดีว่าฟารีดาบ้าจี้แค่ไหน เพียงแค่หายใจรดต้นคอหรือแกล้งเป่าลมหายใจใส่ใบหู เธอก็สะท้านไปทั้งตัวแล้ว ยิ่งแผ่นหลังยิ่งแตะไม่ได้เลย แตะเมื่อไหร่ร่างบางจะดิ้นพรวดพราดและหวีดร้องดังลั่นเสมอ แต่นั่นเป็นสิ่งที่ซียาสชื่นชอบ การได้กลั่นแกล้งหญิงสาวจนหายใจหายคอแทบไม่ทัน เป็นสิ่งที่ซียาสโปรดปราน และหลังจากนั้นตามต้นคอ บ่า และแก้มสากจะปรากฎรอยเล็บที่นางเสือสาวฝากไว้เสมอ
“ปล่อยข้า ข้าไม่ชอบแบบนี้ อุ๊ย…ว้าย…ฮิ ฮิ ท่านพี่…ปล่อยข้านะ ฮิ ฮิ” เสียงหวีดร้องปนเสียงร้องห้ามปรามที่ติดๆ ขัดๆ หายไปเป็นช่วงๆ สลับกับเสียงหัวเราะ และร่างของฟารีดาที่ส่ายไปมาเป็นงูเลื้อย
“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ เจ้าไม่ชอบ แต่ข้าชอบนี่นา” ซียาสไต่ปลายนิ้วจี้ไปที่เอวคอดกิ่ว ที่เจ้าของเบี่ยงหนีอย่างทุรนทุราย
“ท่านพี่…อ๊าย…ปล่อยข้านะ ฮิ ฮิ ปล่อยสิเจ้าคะ ฮิ ฮิ” ฟารีดาร้องขอด้วยน้ำตาคลอ เพราะความบ้าจี้ของเธอ “ข้าหายใจไม่ทันแล้ว” ร่างบางหอบแฮ่กๆ ไล่จับมือซนที่ไต่และจิ้มหนักๆ เข้าที่เอวบาง
“ก็ได้ๆ ฟารีดารีบบอก เพื่อให้ปลายนิ้วซนๆ นั้นหยุดทรมานเธอ
ซียาสกอดฟารีดาแนบอกแรงๆ อย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนใช้มือรองต้นคอระหง แล้วริมฝีปากรุมร้อนก็ประทับลงบนกลีบปากอิ่ม บดคลึงเบาๆ ก่อนกดหนักๆ และสอดเรียวลิ้นเข้าดูดดื่มความหวานล้ำในโพรงปากนุ่ม
สองร่างที่แนบสนิทกำลังตกเป็นเป้าสายตาอาฆาตคู่หนึ่ง ยามีลาแฝงกายหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ จ้องมองร่างสองร่างที่กอดกระชับและจุมพิตตอบโต้กันอย่างเร่าร้อน
ยามีลาหลงรักหัวหน้ากองโจรมานาน แต่สิ่งที่เขามอบให้ก็คือเห็นเธอเป็นเพียงแค่นางโสเภณีขายร่างแลกเงินเท่านั้น ถึงยามีลาจะเป็นโสเภณีและติดตามชนเผ่าอิบรามานาน แต่เธอไม่เคยได้หัวใจของซียาส แม้เศษเสี้ยวสักนิดก็ไม่เคยได้รับ ซียาสเรียกหาเธอในเวลาที่เกิดความกำหนัด ยิ่งเขาได้เจอฟารีดาและรู้ตัวว่ารักหญิงสาวมากแค่ไหน ซียาสก็แทบไม่แยแสยามีลาเลย สร้างความคับแค้นใจให้กับยามีลายิ่งนัก
“รักกันเข้าไป อย่าให้ข้ามีโอกาสเมื่อไหร่ เจ้าได้กระเด็นออกไปจากชีวิตของท่านซียาสแน่ ฟารีดา” ยามีลาพึมพำด้วยความคับแค้นใจ ในหัวของเธอวาดแผนการอันแยบยลเอาไว้แล้ว เพียงแต่รอโอกาสเหมาะๆ เท่านั้น
ซียาสพาฟารีดาเข้าไปในกระโจม
“เจ้าเรียกข้าทำไมคอลิด” ซียาสถามคอลิด เมื่อออกมาอีกครั้ง
“เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ เจ้ายะห์ยาและบาร็อคถูกพวกริดวานจับตัวไปขอรับ”
“ว่าอะไรนะ ยะห์ยากับบาร็อคถูกจอมโจรริดวานจับตัวไปงั้นเหรอ ทำไมกัน”
“สุไลมานที่หนีมาได้บอกข้าว่า พวกมันไปขโมยทองจากเผ่าฮาซิมขอรับ และจอมโจรริดวานจับได้ สุไลมานยังบอกอีกว่า สองคนนั้นกำลังจะถูกริดวานฆ่านะขอรับ”
“บัดซบ ทำไมมันเป็นอย่างนี้ พวกมันอดอยากมากนักรึไงคอลิด ทำไมมันทำแบบนี้ เจ้าริดวานมันโหดเหี้ยมแค่ไหน พวกมันไม่รู้รึไง”
“รู้ขอรับ แต่…ความโลภของมันนะขอรับ”
“ข้าคงต้องไปช่วยมันสินะ บ้าฉิบ! น่าจะปล่อยให้พวกมันตายๆ ไปให้รู้แล้วรู้รอด ข้าปล้นมาก็แบ่งให้ทุกคนเท่าเทียมกัน ทำไมมันถึงยังอยากได้อะไรอีก”
“เอ่อ…แล้วตกลง ท่านหัวหน้าจะไปช่วยพวกมันมั้ยขอรับ”
ซียาสหันกลับไปมองกระโจมของตน เรื่องนี้จะบอกให้คนที่อยู่ข้างในรู้ไม่ได้ กองโจรปะทะกับกองโจร ฟารีดาต้องไม่ชอบใจและเป็นห่วงเขามาก ยิ่งถ้ารู้ว่าเขาไปช่วยคนทำผิด เธอก็จะยิ่งโกรธกรุ่น แต่เขาก็ละทิ้งลูกน้องไม่ได้ ความโลภมันทำให้พวกนั้นขาดสติ และตอนนี้พวกมันก็กำลังรอให้เขาไปช่วย ถ้าช้าเจ้ายะห์ยากับเจ้าบาร็อคอาจจะถูกฆ่าตายเสียก่อน
“ไปสิ ถ้าข้าไม่ไปช่วยมัน ข้าคงเป็นหัวหน้าใครไม่ได้” ซียาสตอบ ก่อนเดินนำหน้าไปที่ม้าของตน พร้อมลูกน้อยที่เดินตามอย่างรู้หน้าที่อีก 5 คน ทิ้งเมียรักเอาไว้ในกระโจมเพียงลำพัง
ฟารีดานั่งรอนอนรออยู่นานก็ไม่เห็นร่างสูงเดินกลับเข้ามาเสียที เธอจึงผุดลุกขึ้นและเดินออกไปดูนอกกระโจม แต่ก็ไร้เงาของร่างสูงที่คุ้นตาและคุ้นใจยืนอยู่บริเวณนั้น
“ไง…หาผัวเจ้าไม่เจอล่ะสิ”
ฟารีดาหันไปมองต้นเสียง และเห็นร่างอวบของยามีลาเดินออกมาจากมุมมืด
“เจ้า…เห็นท่านพี่ซียาสบ้างมั้ย”
“อ๋อ…เห็นสิ เห็นชัดเต็มสองตาเชียวล่ะ”
“ห๊า…จริงเหรอ แล้วท่านพี่ไปไหนซะล่ะ”
ยามีลาขยับเข้ามาใกล้แล้วกอดอก ดวงตาของเธอมองจ้องฟารีดาราวจะเยาะหยันอะไรบางอย่าง ที่ฟารีดาไม่เข้าใจ ร่างอวบอิ่มเดินวนรอบๆ ฟารีดา พร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะของยามีลาทำให้ฟารีดารู้สึกงงงวยยิ่งกว่าเดิม
“ผัวของเจ้า…ออกไปปล้น”
“ว่ายังไงนะ ท่านพี่น่ะเหรอออกไปปล้น”
“ใช่ เจ้าคิดว่าข้าโกหกเหรอ ข้าได้ยินกับหูและเห็นกับตา ว่าท่านซียาสออกไปปล้นกับพวกคอลิดและลูกน้อง เห็นว่าคราวนี้คงได้ทองเยอะด้วยสิ”
“ไม่จริง ท่านพี่สัญญากับข้าแล้ว ว่าจะเลิกปล้นสะดมอีก” ฟารีดารู้สึกว่าเสียงของเธอที่เปล่งออกมานั้นดังแหบโหย หัวใจที่ชุ่มฉ่ำเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว ตอนนี้กลับแห้งโรยเหมือนใบไม้แห้งที่ร่วงจากต้น และถูกเหยียบดังก๊อบแก๊บ
“เจ้ามันโง่ สัจจะไม่มีในหมู่โจร เจ้าไม่เคยได้ยินรึไง ถ้าท่านซียาสไม่ปล้น แล้วจะเอาอะไรหาเลี้ยงพวกเราทั้งหมดในเผ่าล่ะ”
“ไม่จริง เจ้าโกหก” น้ำตาของฟารีดาค่อยๆ ไหลออกมาอาบสองแก้มนวล
“ข้าไม่ได้โกหก อ้อ…ข้ายังได้ยินอีกนะ ว่าท่านซียาสจะออกไปหาโสเภณีนอนกอดเล่นสักคน หลังจากปล้นเสร็จแล้ว ข้าได้ยินยังโกรธแทนเจ้า มีอย่างที่ไหนที่นี่ก็มีข้าอยู่ทั้งคน ของมันเคยๆ ก็ยังอยากไปหาของใหม่” เห็นหน้าที่ซีดเผือดของฟารีดาแล้ว ยามีลาก็ยิ่งใส่ไฟให้ลุกพรึบขึ้นไปอีก
“จะ…เจ้าว่าอะไรนะ” เสียงของฟารีดาขาดห้วงเหมือนคนใกล้ขาดใจยังไงยังงั้น
“เจ้าได้ยินที่ข้าพูดแล้วล่ะฟารีดา ข้าไม่อยากพูดซ้ำอีก ยังเจ็บใจไม่หายที่ท่านซียาสคิดออกไปหาหญิงอื่น หลงลืมข้ากับเจ้าที่เฝ้ารออยู่ที่นี่” คนที่บอกไม่อยากพูด แต่กลับพูดย้ำให้คำพูดของตนเป็นเข็มทิ่มแทงใจของฟารีดาผู้บริสุทธิ์
ฟารีดาผลุนผลันวิ่งไปที่ม้า เธอกระโดดขึ้นหลังม้าด้วยความชำนาญ ก่อนควบออกไปทางทิศใต้ ไม่สนใจว่าเป็นเวลาใด จะดึกดื่นแค่ไหนหรือลมพายุจะเกิดขึ้นหรือไม่ หญิงสาวรู้แต่เพียงว่าเธอต้องไปให้พ้นจากคนใจร้าย คนที่เธอรักและเพิ่งแต่งงานยังไม่ทันข้ามวันเลยด้วยซ้ำ คนที่โกหกเธอและทอดทิ้งเธอไปเหมือนไม่รัก หัวใจของฟารีดาทุกระทมเมื่อคิดว่า ซียาสอาจไม่ได้รักเธอเหมือนที่พูดจริงๆ
ยามีลามองตามม้าของฟารีดาที่วิ่งจากไปอย่างพอใจ
“นังโง่ เจ้ามันโง่นักฟารีดา คนโง่อย่างเจ้าไม่คู่ควรกับท่านซียาสหรอก ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ”
“อะไรนะ เจ้าว่าอะไรนะยามีลา”
เมื่อซียาสกลับมาในช่วงเย็นของวันต่อมา โชคดีที่เขาและจอมโจรริดวานตกลงกันได้ ไม่ต้องปะทะหรือเสียเลือดเนื้อแต่อย่างใด และซียาสก็เพิ่งรู้ว่าความจริงแล้ว จอมโจรริดวานก็ทำการปล้นสะดมคนรวยเหมือนเผ่าอิบราเช่นกัน จอมโจรหนุ่มก็ถามหาเมียรักทันทีที่ไม่เจอเธอในกระโจม และยามีลาก็รีบเข้าไปรายงานด้วยท่าทางสะดีดสะดิ้งว่าเมียรักของจอมโจรหนุ่มที่เพิ่งแต่งงานกันยังไม่ทันข้ามวันหนีไปแล้ว
“จริงๆ นะเจ้าคะ ข้าอธิบายให้นางฟังแล้ว แต่นางก็ไม่เชื่อ นางหาว่าท่านไปปล้นสะดมและไปนอนกับโสเภณีที่อื่น ขนาดข้าช่วยแก้ต่างให้ท่านแล้ว แต่นางก็ไม่เชื่อ”
“ฟารีดา…ทำไมเจ้าไม่เชื่อคำพูดของข้าบ้าง” ซียาสรำพึงรำพันกับตัวเองเบาๆ
“นางยังบอกอีกนะเจ้าคะ ว่าถ้าท่านไม่ยึดมั่นสัญญาแบบนี้ นางคงต้องตัดใจจากท่านเจ้าค่ะ”
ซียาสได้ยินดังนั้น เขาก็เตะข้าวของที่ตั้งอยู่บริเวณนั้นล้มกระจาย และตะโกนลั่นเรียกชื่อฟารีดาราวกับคนบ้าคลั่ง ซียาสกำลังบ้าคลั่งจริงๆ บ้าที่ถูกคนรักไม่ไว้วางใจ ไม่เชื่อใจ แถมยังปรักปรำว่าเขาจะไปนอนกับผู้หญิงอื่น ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วชายหนุ่มละทิ้งทั้งหมดแล้ว และตั้งใจว่าจะรักเธอและหยุดลงที่เธอคนเดียว เขาจะเลิกปล้นเพื่อเธอ แต่เธอกลับมองข้ามสัญญาที่เขาให้ไว้เพียงแค่เวลาไม่ทันข้ามคืน
ร่างสูงเดินเข้าไปในกระโจมและทุ่มข้าวของทุกอย่างจนพังเสียหาย แทบจะพังกระโจมเลยทีเดียว ยามีลายิ้มสะใจกับภาพตรงหน้า ผู้ชายที่เธอหวังจะครอบครองและหว่านเสน่ห์ให้เขาหลงรัก ตอนนี้กำลังต้องการคนปลอบใจ และเธอจะเป็นคนเข้าไปปลอบใจเขาเอง
เมื่อเสียงอาละวาดเงียบลงแล้ว ร่างอวบอิ่มก็เดินนวยนาดเข้าไปในกระโจมใหญ่ของหัวหน้าเผ่า ยามีลายิ้มกริ่มเมื่อเห็นท่าทีของซียาสที่กำลังนั่งกอดเข่าเศร้าซึมอยู่บนฟูกนุ่ม
“ท่านซียาส ข้าว่าท่านอย่าไปเสียใจให้กับคนที่เค้าไม่รักดีกว่า นางไม่เชื่อใจท่านเพราะนางไม่ได้รักท่าน”
ซียาสยังคงนิ่งเงียบไม่โต้ตอบเธอเช่นเดิม ยามีลาเดินเข้าไปทรุดกายนั่งข้างๆ ร่างสูงของคนที่เธอหลงรัก มือนุ่มวางทับมือหนาและลูบไล้ขึ้นลงช้าๆ อย่างยั่วยวน
“ท่านทำใจให้สบายเถอะ ข้าจะช่วยคลายความเศร้าให้กับท่านเองเจ้าค่ะ”
วาฮับเห็นคอลิดกำลังนั่งเงียบอย่างใช้ความคิด หลายวันแล้วที่หัวหน้ากองโจรหนุ่มเอาแต่เศร้าหมอง และยามีลาก็คอยปลอบใจอยู่ข้างๆ อีกทั้งคอลิดซึ่งโทษว่าเป็นความผิดของตนก็เงียบขรึมลงไปมาก ทำให้เพื่อนอย่างวาฮับทอดถอนใจอย่างหนักอก ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาคอลิด และยกมือข้างหนึ่งตบบ่ากว้างของเพื่อนเบาๆ
“คอลิด มันไม่ใช่ความผิดของเจ้า เจ้าอย่าโทษตัวเองเลย”
“มันเป็นความผิดของข้าสิวาฮับ ถ้าข้าไม่มาตามให้ท่านหัวหน้าออกไปช่วยยะห์ยากับบาร็อค ท่านหัวหน้าก็คงมีความสุขกับนายหญิงแล้ว”
“แต่ถ้าเจ้าไม่มาตามท่านหัวหน้า ป่านนี้เจ้ายะห์ยาและเจ้าบาร็อคก็คงถูกจอมโจรริดวานฆ่าไปแล้วล่ะ”
“พวกมันอยากทำผิดคิดชั่วเอง ทำไมต้องเอาชีวิตของมันมาแลกกับความสุขของท่านหัวหน้าด้วยล่ะ ข้าน่าจะคิดแบบนี้ตั้งแต่ทีแรก ไม่น่าเป็นห่วงพวกมันเลย”
“คอลิดเจ้าทำถูกแล้วนะเพื่อน เฮ้อ…ถ้าไม่มียามีลา เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นหรอกมั้ง” วาฮับพึมพำในตอนท้าย
“ยามีลามาเกี่ยวอะไรด้วยวาฮับ เจ้ารู้อะไรมาวาฮับ” คอลิดเงยหน้ามองเพื่อนและถามอย่างร้อนรนระคนไคร่รู้
“เอ่อ…ข้าไม่รู้หรอก แต่ข้าเห็น…”
“เห็นอะไรวาฮับ เจ้าเห็นอะไรบอกข้า ถ้าสิ่งที่เจ้าเห็นจะช่วยให้ท่านหัวหน้ามีความสุขขึ้นมาบ้าง” คอลิดจับต้นแขนของวาฮับ และมองเข้าไปในดวงตาของเพื่อนสนิท คอลิดกำลังคิดว่าวาฮับต้องมีข้อมูลบางอย่างที่เป็นสาเหตุให้นายหญิงฟารีดาหนีไป และถ้าเดาไม่ผิดมันต้องเกี่ยวข้องกับยามีลาแน่ๆ
“ข้า…ข้าเห็นยามีลาคุยกับนายหญิง ตอนที่ท่านหัวหน้าไปช่วยเจ้ายะห์ยากับเจ้าบาร็อค แต่…แต่ข้าไม่ได้ยินชัดเจนหรอกนะว่านางพูดอะไรกัน ที่ข้าเห็นก็คือนายหญิงร้องไห้ ข้ากำลังจะเดินเข้าไปถามว่าเกิดเรื่องอะไรกัน แต่เจ้ายะฟัดก็เรียกข้าซะก่อน ข้าหันหลังไปคุยกับยะฟัดแป๊บเดียวหันกลับมาอีกครั้ง ก็ไม่เห็นทั้งนายหญิงและยามีลาอีกแล้ว ข้าก็คิดว่านายหญิงคงเข้าไปนอนในกระโจมแล้วจึงไม่ได้ใส่ใจ”
“นายหญิงร้องไห้กับยามีลางั้นรึ ข้าว่าสาเหตุที่นายหญิงหนีไป ต้องมาจากยามีลาแน่นอน วาฮับ…เจ้าจะต้องช่วยข้าแล้วล่ะงานนี้”
คอลิดและวาฮับมารอซียาสอยู่ที่หน้ากระโจม ทั้งสองรออยู่ไม่นานร่างสูงสง่าของหัวหน้าเผ่าอิบราก็เดินออกมาจากกระโจมใหญ่
“อ้าว…คอลิด วาฮับ พวกเจ้ามีเรื่องอะไรกับข้ารึเปล่า”
“เอ่อ…ข้ามีเรื่องจะเรียนท่านหัวหน้าขอรับ” คอลิดบอก และหยุดคำพูดต่อไปเมื่อร่างอวบอิ่มของยามีลาเดินออกมาจากกระโจมของซียาส ใบหน้าของเธอยิ้มกริ่มดูมีความสุขนักหนา ไม่ต้องบอกทั้งคู่ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในกระโจมก่อนหน้านี้
“ท่านซียาส”
“ยามีลา หมดหน้าที่ของเจ้าแล้ว กลับไปยังกระโจมของเจ้าซะ” ซียาสไล่ ยังไงซะยามีลาก็เป็นได้แค่ที่ระบายอารมณ์ของจอมโจรหนุ่มเท่านั้น ไม่มีอะไรเปลี่ยนใจซียาสให้หันไปหายามีลาได้ หัวหน้ากองโจรหนุ่มรูปงามไม่มีทางลืมเมียรักที่หนีหาย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม ฟารีดาจะยังอยู่ในหัวใจของซียาสเสมอ
“แต่ว่า…” ยามีลาอิดออด
“ข้าสั่งให้เจ้าไปก็ไปสิ ข้าไม่ชอบผู้หญิงเรื่องมาก…รำคาญ”
เมื่อโดนไล่ซ้ำอย่างไม่ไว้หน้า ยามีลาก็หน้างอง้ำอย่างขัดใจ ก่อนสะบัดหน้าเดินย่ำเท้าจากไปอย่างหงุดหงิดและโกรธกรุ่น
“พวกเจ้ามีอะไรก็ว่ามา”
แล้วคอลิดกับวาฮับก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างฟารีดาและยามีลาให้ซียาสฟัง สีหน้าของจอมโจรหนุ่มเปลี่ยนไปตามคำบอกกล่าว ก่อนหยุดลงด้วยใบหน้าแดงก่ำ มือหนากำหมัดแน่นจนข้อนิ้วขาวซีด สันกรามของซียาสกระตุกและดวงตาสีน้ำตาลนั้นแดงก่ำ ราวกับมีกองเพลิงสุมอยู่ในนั้นสักสิบกอง
ซียาสย่ำเท้าด้วยอารมณ์โกรธสุดขีดตรงไปที่กระโจมของยามีลา และกระชากผ้าม่านที่ปิดกั้นตรงทางเข้าออกจนขาดวิ่น ยามีลาเห็นร่างสูงเดินเข้ามาหาก็ดีใจ รีบลุกขึ้นจากฟูกและปรี่เข้าไปเกาะแขนกำยำ
“ท่านซียาส ในที่สุดท่านก็เข้ามาหาข้าถึงในกระโจม”
ซียาสสะบัดท่อนแขนออกจากมือบางเต็มแรงอย่างรังเกียจ และผลักร่างอิ่มจนกระเด็น ยามีลาเสียหลักล้มลงก้นจ้ำเบ้ากับพื้น ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างอย่างตกใจและสงสัย แต่เมื่อเห็นแววตาวาวโรจน์ของซียาสแล้ว ยามีลาก็ตัวสั่นเทิ้มอย่างหวาดกลัว
“นิ…นี่มันอะไรกันเจ้าคะ จู่ๆ ท่านผลักข้าทำไม”
“นังโสเภณีน่ารังเกียจเช่นเจ้า ควรจะโดนมากกว่านี้อีก” ซียาสบอกเสียงกร้าว และย่างสามขุมเข้าไปหาร่างที่นั่งอยู่กับพื้น
ยามีลากระถดตัวถอยหนีอย่างรวดเร็ว แต่ช้ากว่ามือหนาที่เอื้อมมากระชากต้นแขนเรียวขึ้น และเหวี่ยงลงพื้นอีกครั้งอย่างรุนแรง ยามีลาเจ็บและจุกไปหมด เธอร้องถามซียาสอย่างหวาดหวั่น
“ท่านซียาส ข้า…ข้าไปทำอะไรให้ท่านรังเกียจแบบนี้”
“ข้ารู้เรื่องทุกอย่างแล้ว เจ้าโกหกข้าเรื่องฟารีดา เจ้าทำให้ฟารีดาหนีข้าไป”
“อะ…อะไรนะ ข้าไม่ได้ทำนะ ท่านอย่ากล่าวหาข้าแบบนี้สิ”
“แล้วเจ้าคุยอะไรกับฟารีดาตอนที่ข้าไม่อยู่” ซียาสตะคอกถาม และจับต้นแขนบางยกขึ้น ก่อนเขย่ายามีลาจนหัวสั่นหัวคลอน
“ข้า…ข้าบอกนางว่าท่านไม่ได้ไปปล้นไง แต่นางไม่เชื่อข้าสักนิด” ยามีลายังไม่ยอมรับ เพราะคิดว่าตัวเองยังไม่จนมุม เมื่อไม่มีหลักฐาน ซียาสก็กล่าวหาเธอลอยๆ ไม่ได้
“ข้าไม่เชื่อ ฟารีดาร้องไห้ตอนที่คุยกับเจ้า เจ้าโกหกข้ามาตลอด นังคนชั่ว” ซียาสเหวี่ยงยามีลาอีกลงพื้นอีกครั้ง
“โอ๊ย! ข้าไม่ได้โกหก ข้าพูดความจริง ถ้าท่านไม่มีหลักฐานก็อย่ากล่าวหาข้าแบบนี้สิ” ยามีลาบอก
“วาฮับ” ซียาสตะโกนเรียกบุคคลที่เห็นเหตุการณ์
วาฮับเข้ามาในกระโจม แล้วมองหน้ายามีลานิ่ง
“เจ้าบอกนางไป ว่าเจ้าเห็นอะไรมั่ง”
“ยามีลา ข้าเห็นเจ้าคุยกับนายหญิง เห็นเจ้าเดินวนรอบตัวนายหญิง และนายหญิงก็ร้องไห้”
“แล้วไง ข้าคุยกับนางแล้วผิดด้วยเหรอ”
“ไม่ผิด ถ้าเจ้าไม่ทำให้ฟารีดาร้องไห้ และหนีข้าไป” ซียาสตะคอกเสียงดัง
“กะ…ก็ข้าบอกแล้ว ว่าข้าไม่ได้ทำอะไรนางเลย เจ้าได้ยินข้าพูดกับนางรึเปล่าล่ะวาฮับ ถึงได้บอกว่าข้าทำให้นางเสียใจ จนหนีท่านซียาสไป”
วาฮับนิ่งไปนาน จนยามีลายิ้มเย็นเพราะคิดว่าในที่สุดเธอก็เป็นผู้ชนะ แต่ยามีลาคิดถึง เมื่อจู่ๆ วาฮับก็บอกว่า
“อ้อ…ข้าได้ยินเจ้าบอกนายหญิงว่า ท่านหัวหน้าไม่สนใจเจ้าแล้วออกไปหาโสเภณีที่อื่น” คำพูดของวาฮับทำให้ยามีลาแทบช็อก
“ไม่จริงนะ จะ…เจ้าโกหก เจ้าใส่ร้ายข้า” ยามีลารีบปฏิเสธ แล้วคลานเข้าไปกอดขาซียาสแน่น “ท่านซียาส อย่าไปเชื่อวาฮับนะเจ้าคะ ข้าไม่ได้พูดแบบนั้นจริงๆ”
“หึ บังเอิญว่าข้าเชื่อวาฮับมากกว่าเจ้า เพราะวาฮับอยู่กับข้ามานาน แต่เจ้าเป็นแค่โสเภณีที่เข้ามาขายร่างกาย และยึดเผ่าอิบราเป็นที่อยู่อาศัย”
“ข้า…”
“ออกไปซะยามีลา ก่อนที่ข้าจะฆ่าเจ้าทิ้ง”
“ไม่นะเจ้าคะ ข้าไม่ได้ทำผิด ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น” ยามีลาอ้อนวอน และตีหน้าเศร้าบีบน้ำตาเรียกร้องความเห็นใจจากซียาส
ซียาสสะบัดขาเต็มแรงไล่ร่างอิ่มที่เกาะติด แต่ยามีลาก็ยังหน้าด้านหน้าทนไม่ยอมปล่อยมือออกจากท่อนขากำยำ จนซียาสทนไม่ไหวต้องก้มลงจับร่างอิ่มเหวี่ยงทิ้งอีกครั้ง ยามีลาเป็นผู้หญิงคนแรกที่ถูกซียาสทำร้ายร่างกายแบบนี้ ชายหนุ่มไม่เคยคิดจะทำร้ายผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้เลย แต่กับคนชั่วร้ายอย่างยามีลา ซียาสอดใจไม่ไหวเลยจริงๆ
“โอ๊ย!”
“ข้าบอกให้ออกไปไง หรือเจ้าอยากตายอยู่ที่นี่”
“ท่านก็โง่ไม่ต่างอะไรกับฟารีดาหรอก นางหูเบาขนาดนั้น ท่านก็ยังหลงรักนางจนโงหัวไม่ขึ้น ถ้านางรักท่านจริง นางต้องเชื่อใจท่านสิ ไม่ใช่ถูกข้ายุแหย่เข้าหน่อยก็ทนไม่ได้แล้วหนีท่านไปแบบนี้” ความในใจของยามีลาถูกเปิดเผยจากปากของเธอเอง เวลานี้ซียาสหูตาสว่างโล่งมองออกได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ยามีลาตรงหน้าเขาไม่ใช่ผู้หญิงหากินธรรมดาอีกต่อไป แต่เธอเป็นอสรพิษร้ายที่จ้องทำร้ายทุกคนที่ขวางหน้า
“ยามีลา ออกไป!”
“ข้าต่างหากที่รักท่านจริง ข้าไม่เคยคิดทอดทิ้งท่านเหมือนนาง ทำไมท่านไม่หันมามองข้าบ้าง”
ซียาสไม่ฟังคำพูดของยามีลาอีกแล้ว มีดสั้นที่เหน็บเอวตลอดเวลานั้นถูกตวัดขึ้น ก่อนสะบัดมันออกไป เสียงโลหะแหวกอากาศดังเสียดแก้วหูในความรู้สึกของยามีลา เธอหลับตาปี๋อย่างหวาดกลัวจนลมหายใจขาดห้วง แต่แล้วก็ต้องลืมตาขึ้นเมื่อไม่รู้สึกเจ็บที่ส่วนใดของร่างกาย หางตาของยามีลาเหลือบเห็นด้ามมีดที่ปักค้างอยู่ที่หมอนข้างๆ ลำตัว เธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ที่มีดไม่ปักเข้าที่หัวใจของเธอ
“ออกไป ข้าไม่อยากได้ขึ้นชื่อว่าฆ่าผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้อย่างเจ้า แม้ข้าจะอยากฆ่าเจ้ามากก็ตาม” ซียาสคำรามลั่น “วาฮับ จับนางโยนออกไปข้างนอก และไล่นางไปให้พ้นจากเขตแดนของเผ่าอิบรา ถ้านางกลับมาคราวนี้ฆ่านางทิ้งทันที” เสียงประกาศิตของหัวหน้าเผ่าดังก้องไปทั่วอาณาบริเวณ จนทุกคนที่ได้ยินต่างก็ทำคอหดอย่างหวาดกลัว เพราะรู้ดีว่าถ้าซียาสโกรธมากๆ แล้ว ความตายต้องมาเยือนผู้ที่ทำให้โกรธ ซียาสไม่ได้โหดขนาดฆ่าคนเหมือนผักเหมือนปลา แต่เขาจะฆ่าคนที่ทำร้ายเขา และถ้ายามีลาไม่ใช่ผู้หญิง นางคงตายตั้งแต่วาฮับเล่าเรื่องฟารีดาให้ซียาสฟังแล้ว
“กรี๊ด” ยามีลาหวีดร้อง เมื่อร่างของเธอถูกวาฮับลากออกไปนอกกระโจม และจับทุ่มลงบนพื้นทราย ยามีลาเจ็บจนพูดไม่ออก แต่แล้วก็ลนลานลุกขึ้นและถอยห่าง เมื่อซียาสถือมีดสั้นเดินตามออกมา ใบหน้าคมคายนั้นเหมือนใบหน้าของปีศาจร้ายที่พร้อมจะปลิดวิญญาณของคนที่เข้าใกล้
“ไป!”
ไม่ต้องรอให้ซียาสไล่อีกครั้ง เพราะถ้ายังรั้งรอคราวนี้ มีดสั้นที่อยู่ในมือคงไม่พลาดปักเข้าหัวใจของเธอ และเธอก็คงจบชีวิตอยู่แค่นี้แน่นอน ยามีลาวิ่งหนีกระเซอะกระเซิงออกไปท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ ไม่มีจุดหมายและไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดไปถึงเมื่อไหร่ ถ้าโชคดีเธออาจเจอกองคาราวานและอาศัยไปกับกองคาราวานนั้น แต่ถ้าโชคร้ายเธอก็คงตายอยู่ท่ามกลางผืนทรายอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
เหตุการณ์ในตอนนั้นซียาสไม่มีวันลืม และสัญญากับตัวเองว่าจะไม่หลงเชื่อผู้หญิงคนไหนง่ายๆ อีกแล้ว ถ้าตอนนั้นหลังจากที่เขากลับมาไม่เจอฟารีดา แล้วออกตามหาเธอทันทีก็คงจะตามหาเธอเจอ แต่ตอนนั้นเขามัวแต่เจ็บปวดและหลงเชื่อคำพูดของยามีลามากเกินไป ทำให้ซียาสไม่มีกระจิตกระใจจะออกตามหาเมียรักในเวลานั้น แต่หลังจากไล่ยามีลาไป จอมโจรหนุ่มก็ออกตามหาเมียรักมาตลอดจนถึงทุกวันนี้
“นครบาร์ยาเนีย…ขอให้ข้าได้พบเจ้าที่นั่นเถอะนะ ฟารีดา”
MANGA DISCUSSION