ตอนที่ 3 ผู้หญิงของชีค
ชีคจาฟาร์ช้อนร่างบางขึ้น และพาก้าวลงไปในอ่างน้ำอีกครั้ง ร่างบางถูกจัดให้นั่งอยู่ด้านหน้า โดยมีร่างสูงนั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง มือหนาหยิบฟองน้ำมาถูตัวให้หญิงสาวอย่างเบามือ จนทั่วทั้งร่างกาย
พีรกานต์พิงตัวเองกับอกกว้าง เมื่อความร้อนในร่างกายยังไม่ดับลง มือบางจับมือใหญ่มาวางบนทรวงอกอวบนุ่มของตัวเอง ก่อนจะเลื่อนมือไต่อ้อมหลังไปบนต้นคอหนาของชีคหนุ่ม รั้งใบหน้าคมเข้มให้ต่ำลงมาใกล้อีกนิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปหา และริมฝีปากของคนทั้งคู่ก็บรรจบกัน
ริมฝีปากอิ่มเผยอออกยินยอมให้ปลายลิ้นสากอุ่นร้อนเข้าไปทักทายเรียวลิ้นเล็กๆ และควานหาความหวานล้ำในโพรงปากนุ่ม จาฟาร์ต้องครางออกมาอย่างยอมแพ้ต่อความยั่วยุจากร่างบาง ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการเธอ แต่เขาอยากจะให้หญิงสาวพร้อมมากกว่านี้ แต่คงรอไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
มือใหญ่เคล้นคลึงทรวงอกอวบนุ่มเบาๆ สลับกับหนักหน่วง ปลายนิ้วสะกิดยอดอกสีสวยไปมา มืออีกข้างลูบไล้ที่หน้าท้องแบนราบนวลเนียน ก่อนจะเลื่อนต่ำลงไปจนถึงความอวบอูมตรงซอกขาเรียวสวย ปลายนิ้วเรียวลากไล้ตามรอยแยก กรีดขึ้นลงเบาๆ ความเสียวซ่านทำให้หญิงสาวหนีบเรียวขาเข้าหากัน
“ฮันนี่…แยกขาออกจากกันเร็วเข้า” จาฟาร์ละริมฝีปากออกจากเรียวปากนุ่ม และกระซิบสั่งเบาๆ ที่ข้างใบหูเล็กๆ
พีรกานต์ทำตามที่ชายหนุ่มบอก เรียวขาเสลาแยกออกจากกัน ปลายนิ้วเรียวยาวก็ทำหน้าที่ของมันต่อ ด้วยการกรีดขึ้นลงและสะกิดปุ่มเกสรที่อวบอิ่ม
“ท่านชีค…” พีรกานต์ครางเสียงพร่า เมื่อความเสียวซ่านเล่นงานเธออย่างสาหัส มือใหญ่ที่เคล้นคลึงทรวงอกอวบ จับมือบางอ้อมมาด้านหลัง และสอดเข้าไปในกางเกงผ้าบางเบาของจาฟาร์
พีรกานต์ตาโตเมื่อรับรู้ถึงทุกสัดส่วนของความร้อนผ่าวและอวบใหญ่ในอุ้งมือเล็ก ความอยากรู้อยากลองทำให้มือเล็กขยับไปมา โดยไม่รู้เลยว่าการทำแบบนั้น สร้างความทรมานอันแสนหวานให้แก่จาฟาร์ จนชีคหนุ่มต้องคำรามออกมาลั่นห้อง
ใบหน้าหล่อเหลาเหยเกราวกับเจ็บปวด ดวงตาคมกริบหรี่ปรือจวนจะปิด แต่ปลายนิ้วเรียวยาวยังคงไม่หยุดยั้งการทำงาน เมื่อมีความชุ่มฉ่ำและลื่นไหลออกมาจากปากทาง นิ้วเรียวก็สอดเข้าไปในทางสวาทที่คับแคบ
“ท่านชีค…ท่านชีคขา…”
พีรกานต์ครวญครางอย่างรัญจวน ร่างบางแอ่นหยัดเข้าหาปลายนิ้วอันร้ายกาจอย่างไม่รู้ตัว ชีคหนุ่มสอดปลายนิ้วเข้าสลับกับถอนออกเบาๆ ปลายนิ้วหัวแม่มือก็สะกิดปุ่มสยิวไปมาพร้อมกัน จนกระทั่งร่างบางเกร็งกระตุกเฮือก บ่งบอกให้ชีคหนุ่มรู้ว่า เขาได้ทรมานเธอจนหญิงสาวก้าวพ้นขอบสวรรค์ไปเรียบร้อยแล้ว
จาฟาร์อุ้มหญิงสาวขึ้น ก่อนจะตวัดผ้าคลุมและเดินดุ่มๆ ไม่นำพากับร่างกายที่เปียกปอน ตรงเข้าไปในห้องที่จัดเตรียมเอาไว้สำหรับหญิงสาว
“จริงๆ แล้วการร่วมรักในอ่างอาบน้ำ เป็นสิ่งที่น่าอภิรมย์นักและฉันก็ชื่นชอบด้วย แต่ครั้งแรกของเธอ ฉันอยากให้เกิดบนเตียงนอนนุ่มๆ มากกว่า แล้วครั้งต่อไป ฉันจะสอนให้เธอได้รู้ว่า ทุกที่กลายเป็นที่ที่น่าอภิรมย์ได้เสมอ” จาฟาร์บอก ยิ้มบางๆ ใส่ดวงตาคู่สวยที่หรี่ปรือเพราะความปรารถนายังไม่หมด
ชายหนุ่มวางร่างที่งดงามลงบนเตียงนุ่มขนาดคิงไซส์ทรงกลมที่ตั้งเด่นอยู่กลางห้อง รอบๆ เตียงมีผ้าโปร่งบางสีขาว คล้ายมุ้งห้อยตัวจากด้านบนลงมา
จาฟาร์ผละจากหญิงสาว เพื่อปลดสิ่งที่รัดรึงความร้อนผ่าวของตนออกอย่างรวดเร็ว จนร่างกำยำงดงามเปลือยเปล่า ชีคหนุ่มมองสบดวงตาหรี่ปรือที่มองมายังตนเงียบๆ
พีรกานต์เพิ่งจะเคยเห็นผู้ชายเปลือยกายเป็นครั้งแรก และไม่คิดว่าจะงดงามราวกับรูปปั้นของเทพบุตรกรีกที่เคยเห็นตามหน้านิตยสารต่างๆ แบบนี้จริงๆ ดวงตาคู่สวยไล่ตั้งแต่ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาหาตัวจับได้ยาก ดวงตาคมกริบสีนิลที่ตอนนี้เปล่งประกายแวววาวเพราะกำลังชื่นชมความงามของคนตรงหน้า ลำคอหนาตั้งตรง บ่ากว้างแข็งแกร่ง อกกว้างมีขนอุยเรียงเส้นสวยและหน้าท้องเต็มไปด้วยมัดกล้ามเป็นลอนสวยงามไม่ใช่อย่างพวกนักเพาะกาย เอวหนารับกับสะโพกสอบเพรียว ต้นขาแกร่งกำยำและหยุดที่ความเป็นชายแข็งชันชูช่อพุ่งตรงมายังเธอ ความอวบใหญ่ทำให้สาวน้อยลอบกลืนน้ำลาย ใบหน้าสวยหวานแดงก่ำ เมื่อเห็นแก่นกายผงกหัวทักทายเธอหงึกหงัก
“สำรวจฉันพอรึยังสาวน้อย”
เสียงนุ่มทุ้มที่ดังขึ้น ดึงภวังค์ความคิดของหญิงสาวให้กลับมา ดวงตาคู่สวยเลื่อนขึ้นสบตาคมกริบสีนิลเป็นประกายแวววาวอย่างล้อเลียน พีรกานต์เขินอายที่ถูกจับได้ จึงเบี่ยงหน้าหลบสายตาคู่นั้น
ชีคหนุ่มก้าวขึ้นเตียงนุ่ม ทอดร่างลงเคียงข้างร่างบาง ก่อนจุมพิตหน้าผากนูนสวย ไล้เลื่อนลงมายังแก้มนวลสีชมพูระเรื่อและหยุดลงที่ริมฝีปากอิ่มเนิ่นนาน
“ร่างกายของฉันเป็นของเธอแล้วสาวน้อย ถ้าอยากสำรวจให้มากกว่านี้ก็เชิญได้ตามสบาย” จาฟาร์เชิญชวนยิ้มๆ
มือหนาจับมือบางวางทาบลงบนอกแกร่ง และขยับไล้นำทางให้ก่อน สาวน้อยใคร่รู้ก็ตอบสนองด้วยการลูบไล้เบาๆ ปลายนิ้วเรียวเล็กสะกิดยอดทรวงบนอกแกร่ง อย่างที่เขาทำกับเธอบ้าง จาฟาห์กัดริมฝีปากกับความเสียวซ่านรัญจวนที่ได้รับจากสาวน้อยผู้ไร้ประสบการณ์ ความเงอะงะของหญิงสาวน่าพิศวาสนัก
พีรกานต์เลื่อนมือบางต่ำลงไปยังลอนหน้าท้องสวยงาม ลูบวนรอบๆ สะดือหลุมตื้นๆ และไล้เรื่อยไปตามไรขนนุ่มต่ำลงไป…ต่ำลงไป
“ฮันนี่…” จาฟาร์คำรามลั่น เมื่อในที่สุดมือเล็กก็แตะต้องสัดส่วนความเป็นชายชาตรีของเขา ความอวบหนานั้นสั่นเยือกทักทายมือน้อยๆ
พีรกานต์ยิ้มบางๆ ให้กับความน่ารักปนน่าหวาดกลัวของมัน ปลายนิ้วทั้ง 5 รวบความใหญ่โตเอาไว้ แต่ก็ต้องเบิกตาโตเมื่อมือน้อยๆ ของเธอไม่อาจรวบมันได้มิด
“ทำไมมันใหญ่โตขนาดนี้คะ ผู้ชายทุกคนเป็นแบบนี้เหมือนกันหมดหรือเปล่า” คำถามใสซื่อของสาวบริสุทธิ์ที่หลุดออกมาจากริมฝีปากอิ่มเต็ม ทำให้ชีคหนุ่มถึงกับอึ้งไปนิด ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ให้กับความไร้เดียงสาที่น่ารักนั้น
“ผู้ชายทุกคนเป็นแบบนี้หมดเวลาที่มีความต้องการทางเพศ แต่ขนาดอาจจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรูปร่างของแต่ละคนด้วย” เมื่อบอกไปแล้ว จาฟาร์ก็อยากจะบ้าที่ต้องมาอธิบายเรื่องแบบนี้ให้กับหญิงสาวไร้เดียงสาและเร่าร้อนอย่างพีรกานต์
“มันร้อนผ่าวเหมือนคนเป็นไข้ และมันดูสวยงามสะอาดน่ากิน” สาวน้อยบอกพึมพำ
“ถ้าน่ากิน…ก็กินซะสิ” จาฟาร์บอกเสียงพร่า มือหนากำแน่นอย่างรอคอยและไม่ต้องรอนาน เมื่อริมฝีปากอิ่มแตะลงบนยอดนวลเนียนสีชมพูระเรื่อ
ร่างกำยำกระตุกขึ้นทันทีอย่างเสียวซ่านมากจนอดกลั้นเอาไว้ไม่ได้ ริมฝีปากอิ่มเผยอออกก่อนจะงับปลายยอดเข้าไปอย่างเงอะงะ ปลายลิ้นตวัดที่ปลายยอดในอุ้งปากเบาๆ
ชีคหนุ่มทุบกำปั้นลงบนที่นอนรุนแรง และก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายทนไม่ได้เสียเอง จาฟาร์ก็เด้งตัวขึ้นฉุดร่างบางลงนอนราบกับเตียงนุ่ม และเป็นฝ่ายทาบทับร่างเธอเอาไว้เสียเอง
จาฟาร์จุมพิตเร่ารอนรุนแรงตามอารมณ์ใคร่ที่พุ่งทะยานขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ปลายลิ้นอุ่นร้อนกวาดไล้ความหวานล้ำในโพรงปากนุ่มเนิ่นนาน ก่อนจะผละออกเลื่อนปากและจมูกร้อนๆ ไปตามแก้มนุ่ม ซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่น ขบเม้มผิวเนื้อนวลเนียนจนเกิดรอยแดงๆ
มือใหญ่เคล้นคลึงทรวงอกอวบสวยหนักหน่วง ก่อนจะครอบครองยอดถันสีสวยด้วยริมฝีปากร้อนผ่าว ปลายลิ้นสากตวัดไล้เบาๆ ที่ปลายยอดถัน ดูดดึงราวทารกน้อยที่กระหายน้ำนมจากทรวงอกมารดา มือใหญ่เลื่อนลงไปที่หน้าท้องแบนราบ และต่ำลงไปที่ความเป็นหญิงอวบอูม ก่อนจะกรีดปลายนิ้วเรียวไปตามรอยแยกและสะกิดเกสรสวาทแสนสวยสีแดงสด ร่างบางส่ายไหวราวกิ่งไม้ที่ลู่ลมไปมา แอ่นหยัดเข้าหาร่างกำยำและปลายนิ้วร้ายกาจที่สร้างความรัญจวนให้ไม่หยุดหย่อน
จาฟาร์สอดปลายนิ้วเข้าไปในความคับแคบที่อบอุ่นนุ่มนิ่มสลับกับการถอนออกอย่างช้าๆ น้ำหวานที่รินอาบปลายนิ้วเรียวจนชุ่มฉ่ำ ทำให้จาฟาร์รู้ว่าหญิงสาวพร้อมพรักสำหรับเขาแล้ว
ชีคหนุ่มหยัดร่างขึ้น ก่อนก้มหน้าลงดื่มกินน้ำหวานจากกุหลาบดอกงาม โดยใช้มือใหญ่ช้อนสะโพกผายให้ลอยเด่น อำนวยความสะดวกให้แก่ตัวเอง
“คุณ…ท่านชีค…” พีรกานต์กรีดเสียงครวญครางออกมาไม่ได้ศัพท์ มือบางขยุ้มเส้นผมสลวยยาวระต้นคอหนาลงมาดึงทึ้งสลับกับกดแนบ
เมื่อชายหนุ่มดื่มกินน้ำหวานจนพอใจ ก็ทรงตัวขึ้นมอบความหวานที่ติดริมฝีปากและปลายลิ้นให้เจ้าของที่แท้จริงได้ดื่มกิน และรับรู้รสชาติของตัวเองบ้าง
จาฟาร์ละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง มือใหญ่จับความเป็นชายเคล้าคลึงกับกลีบกายสาวที่คับแน่นไปมา ก่อนจะค่อยๆ กดลงไปช้าๆ
“ท่านชีค…เจ็บ…” พีรกานต์ร้องบอก มือบางผลักร่างกำยำออก แต่ก็เหมือนกับผลักหินผาไม่มีทีท่าว่าจะถอยห่างเลย
“ชูว์…สาวน้อยนิดเดียวนะคนดี ครั้งแรกก็ต้องเจ็บบ้าง แต่ฉันจะพยายามให้เธอเจ็บน้อยที่สุด” จาฟาร์พึมพำปลอบโยน ก่อนจะทาบปากลงกับริมฝีปากอิ่มอีกครั้ง ดึงความสนใจของหญิงสาวให้อยู่ที่เรียวลิ้นที่ตวัดดูดรัดลิ้นนุ่มในโพรงปากหวาน
ชีคหนุ่มกดความแข็งแกร่งลงไปอย่างรวดเร็ว เมื่อคิดว่ายิ่งช้าจะยิ่งทำให้เธอเจ็บ เขาดูดกลืนเสียงร้องของหญิงสาวเข้าไปจนหมด และชายหนุ่มก็ชะงักหยุดนิ่งอยู่ชั่วครู่ ให้เวลาหญิงสาวได้ปรับตัว
จาฟาร์ถอนริมฝีปากออก มือใหญ่ข้างหนึ่งลูบเส้นผมสลวยไปมา ปลายนิ้วเรียวของมืออีกข้างกรีดหยาดน้ำตาที่ซึมออกมาทางหางตา ด้วยความอ่อนโยนอย่างยิ่งยวดที่ไม่เคยมีให้กับหญิงใดมาก่อน
“ยังเจ็บอยู่อีกหรือเปล่าฮันนี่”
พีรกานต์ส่ายหน้าให้กับคำถามนั้น หญิงสาวไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอีกแล้ว รู้สึกแต่เพียงความตึงแน่นตรงใจกลางร่างสาวเท่านั้น
จาฟาร์จุมพิตริมฝีปากนุ่มอีกครั้งหนักๆ ก่อนขยับร่างไปมา พีรกานต์หลับตาพริ้มให้กับความเสียวซ่านยิ่งกว่าครั้งใดๆ ที่เคยได้รับจากเขา ขนในกายลุกชันและร่างบางนั้นสั่นสะท้าน และเริ่มเปลี่ยนเป็นหนักหน่วง เมื่อความต้องการจะปลดปล่อยทะยานขึ้นสูง
ชีคหนุ่มควบขับเร่งความเร็วยิ่งขึ้น แต่ยังคงความอ่อนโยนเอาไว้ ในที่สุดจาฟาร์ก็จูงมือเล็กของพีรกานต์ก้าวข้ามขอบสวรรค์ไปพร้อมๆ กัน สายธารความอบอุ่นถูกปล่อยทิ้งเอาไว้ในความนุ่มชุ่มฉ่ำใจกลางร่างสาว และนี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จาฟาร์เพิ่งเคยทำกับหญิงที่เขานอนด้วย
ชายหนุ่มทิ้งตัวลงทาบทับหญิงสาวด้วยความเหนื่อยอ่อน ก่อนจะพลิกตัวลงนอนหงายและดึงร่างบางขึ้นทาบทับร่างกำยำของตนแทน มือใหญ่ลูบไล้ไหล่เปลือยเปล่านวลเนียนไปมาอย่างขอบคุณและปลอบโยน
“เธอเป็นของฉันแล้ว รู้ใช่มั้ยฮันนี่” ชีคหนุ่มพึมพำถามกับเรือนผมสลวยที่เปียกชื้น
พีรกานต์พยักหน้าแทนการตอบรับ ลำแขนเรียววางพาดไปบนอกกว้างล่ำสันของจาฟาร์ พร้อมกับขาเรียวสวยที่ก่ายเกยบนท่อนขาแข็งแรงของชีคหนุ่ม ก่อนจะหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน
“ฮันนี่” จาฟาร์เรียกหญิงสาวในอ้อมกอดเสียงนุ่ม และเมื่อร่างในอ้อมแขนไม่ตอบรับ พร้อมกับเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอ ชีคหนุ่มก็ต้องถอนใจออกมาแรงๆ เพราะสัดส่วนของความเป็นชายเริ่มลุกฮือขึ้นอีกครั้ง แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ปลุกหญิงสาวที่หลับใหล เพราะพีรกานต์คงต้องการพัก เขาเลยต้องอดทนกับความต้องการที่ปวดร้าวอยู่เพียงลำพัง กว่าที่จาฟาร์จะหลับตาลงได้ก็ใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมงทีเดียว
เมื่อพีรกานต์ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนเช้า หญิงสาวก็ไม่เห็นชีคจาฟาร์อยู่บนเตียงนุ่มอีกแล้ว พีรกานต์รับไว้อย่างงงๆ และเบนสายตาไปยังสาวน้อยด้านหลังฮาดาเป็นเชิงถาม
“ชุดของคุณค่ะ”
พีรกานต์หลุบตาลงมองผ้าสีแดงในมือ ก่อนจะคลี่ออกและยกขึ้น ดวงตากลมโตมองผ่านผืนผ้าเนื้อบาง ออกไปเห็นฮาดาและสาวน้อยได้อย่างชัดเจน พีรกานต์รีบลดผ้าในมือลง
“บางเฉียบขนาดนี้จะใส่ไปได้ยังไงกัน” หญิงสาวถามอย่างสงสัย
“ต่อไปนี้คุณจะต้องใส่ชุดแบบนี้ทุกวันค่ะ แม้คุณจะไม่ได้อยู่ในฮาเร็มรวมกับคนอื่นๆ แต่การแต่งกายก็ยังคงเหมือนกันค่ะ” สาวน้อยคนนั้นตอบ
พีรกานต์ถึงกับทำหน้าไม่ถูกเลยทีเดียวกับคำตอบที่ได้รับ เธอเห็นนางฮาดาหันไปพูดบางอย่างกับสาวน้อยอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเดินออกไป
“คุณรีบอาบน้ำเถอะค่ะ เดี๋ยวต้องเข้าไปหาท่านชีคที่ห้องโถง”
“ห้องโถง นี่เธอกำลังจะบอกฉันว่า ให้ฉันแต่งชุดนี้ไปที่ห้องโถงงั้นเหรอ”
“ใช่ค่ะ ท่านชีคต้องการให้คุณร่วมรับประทานอาหารด้วยกันในตอนเช้า”
“เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหามันอยู่ที่ชุดนี่ บางขนาดนี้จะปิดบังอะไรได้ อ้อ…แล้วชุดชั้นในของฉันล่ะ มีมั้ย” พีรกานต์ถาม
“ไม่มีค่ะ ผู้หญิงของชีคจะไม่สวมชุดชั้นใน นอกจากจะต้องออกไปพ้นจากบริเวณวังนี้เท่านั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วก็ไม่มีใครได้ออกไปหรอกค่ะ”
“ขอถามชื่อเธอหน่อยเถอะ ฉันจะได้เรียกถูก”
“ฉันชื่อฟารีดาค่ะ” สาวน้อยตอบยิ้มๆ
“ฟารีดา ฉันคงจะแต่งตัวแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ ไม่มีชุดที่ปกปิดร่างกายมากกว่านี้หรอกเหรอ”
“ไม่มีค่ะ ผู้หญิงของชีคต้องแต่งชุดแบบนี้กันทุกคน คุณไม่ต้องอายหรอกค่ะ รูปร่างของคุณสวยออก ผิวพรรณก็ขาวเนียนไม่มีที่ติ คุณน่าจะภูมิใจที่มีของดีๆ แบบนี้นะคะ”
“ฟารีดา แต่ว่าฉันอยากจะแต่งตัวแบบเธอ ไม่ได้เหรอ” แต่งตัวแบบฟารีดานั้น ก็คือ แต่งด้วยชุดคลุมสีดำยาว หรือที่เรียกว่าอาบายะห์ปกปิดร่างกายได้มิดชิด เพราะเนื้อผ้าที่หนาพอสมควร อาจจะร้อนบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าสวมผ้าบางๆ ให้คนมองทะลุเข้าไปถึงข้างในได้
“ไม่ได้จริงๆ ค่ะ ฉันว่าคุณรีบอาบน้ำแต่งตัวก่อนที่คุณฮาดาจะเข้ามาอีกครั้งดีกว่านะคะ” ฟารีดาบอก
พีรกานต์เบ้ปาก เธอไม่ชอบหญิงชราที่ชื่อฮาดานี่เลยจริงๆ เพราะทุกครั้งที่ถูกหญิงชรามอง หญิงสาวมักจะเห็นประกายตาของความไม่พอใจเธออยู่เต็มเปี่ยม
หญิงสาวลุกขึ้นอย่างเซ็งๆ ร่างบางลืมตัวว่าไม่มีเสื้อผ้าติดกายอยู่ จึงอวดโฉมงามของตนให้ฟารีดาเห็นอย่างไม่ตั้งใจ
“อุ๊ย” เมื่อนึกขึ้นได้ พีรกานต์ก็ดึงผ้าห่มปิดร่างเปลือยเปล่าของตนเอาไว้ทันที
“บอกแล้วไงคะ ว่าอย่าอายรูปร่างที่งดงามของคุณ ขนาดฉันเป็นผู้หญิงด้วยกัน ยังอดชื่นชมคุณไม่ได้เลยนะคะ นางในฮาเร็มก็เห็นมาทุกคนแล้ว แต่ยังไม่มีใครสวยสู้คุณได้เลยนะคะ”
“เฮ้อ…เธอชมฉันจนฉันจะลอยได้อยู่แล้วนะฟารีดา ตกลงว่าต่อไปนี้ ฉันคงต้องทำหน้าให้ด้านมากที่สุด เพื่อจะได้ไม่อายเวลาที่อยู่ต่อหน้าคนอื่นในชุด เอ่อ…วาบหวิวแบบนี้” พีรกานต์โครงศีรษะไปมา ก่อนจะชี้นิ้วไปยังชุดสีแดงที่วางอยู่บนเตียง
“ใช่ค่ะ” ฟารีดาตอบสั้นๆ และยิ้มกว้างให้พีรกานต์
พีรกานต์ถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะปล่อยมือจากผ้าห่ม และหันหลังเดินเข้าไปในส่วนที่จัดไว้เป็นห้องอาบน้ำที่ซ่อนอยู่ด้านใน
ในอ่างน้ำมีน้ำเตรียมพร้อมอยู่เต็มอ่าง พีรกานต์หันไปมองฟารีดาที่เดินตามเข้ามาเรื่อยๆ นิดหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องถาม เธอก็รู้ว่าคงจะเป็นฟารีดานั่นเอง ที่เตรียมน้ำให้เธอ
พีรกานต์ก้าวลงไปแช่น้ำในอ่างอาบน้ำ กลิ่นหอมอ่อนๆ ในสายน้ำทำให้สมองและจิตใจของหญิงสาวปลอดโปร่ง โล่งสบายอย่างบอกไม่ถูก
“หอมจัง กลิ่นพวกนี้มาจากไหนกันนะฟารีดา” พีรกานต์หลับตาลง สูดความหอมเข้าไปในปอดและถามฟารีดาถึงสิ่งที่อยากรู้
“มนตร์เสน่ห์ของบาร์ยาเนียค่ะ บางกลิ่นก็ทำให้ผ่อนคลาย บางกลิ่นก็ทำให้เคลิบเคลิ้ม และบางกลิ่นก็เป็นอันตรายหากต้องสูดดมเข้าไป”
พีรกานต์ลืมตาขึ้นทันทีเมื่อได้ยิน
“อันตรายงั้นเหรอ ถ้าเรารู้ว่าอันตรายแล้วจะทำให้มีกลิ่นนั้นทำไมล่ะ” หญิงสาวถามอย่างกังขา
“กลิ่นที่ทำให้เคลิบเคลิ้มและกลิ่นที่ทำอันตราย จะมีเพียงคนเดียวที่ทำให้ได้กลิ่นได้ คนนั้นก็คือท่านชีคจาฟาร์ค่ะ” ฟารีดาตอบ ยื่นมือบางออกไปขัดถูเบาๆ ที่ร่างเปลือยเปล่าของพีรกานต์
“เอ๊ะ…เหรอจ๊ะ”
“ค่ะ”
พีรกานต์ก็นิ่งคิดอยู่นาน จนกระทั่งได้ยินเสียงใสๆ บอกว่า
“เสร็จแล้วค่ะ แต่งตัวได้แล้ว ป่านนี้ชีคคงรอแย่แล้ว”
ชีคจาฟาร์ที่ทอดกายกึ่งนั่งกึ่งนอนตะแคง พิงลำตัวด้านข้างกับหมอนอิงใบหนา เท้าแขนคร่อมหมอนเอาไว้ ด้วยท่วงท่าสบายๆ ชายหนุ่มผู้ปกครองนครบาร์ยาเนีย และเป็นผู้กุมอำนาจกฎหมายไว้ในมือทั้งหมด กำลังรอคอยการมาเยือนของสาวงามต่างแดน ที่ถูกตาต้องใจตั้งแต่แรกพบ และอุตส่าห์นำพาหรือจะเรียกว่าลักพาตัวกลับมาที่นครบาร์ยาเนียแห่งนี้
แล้วชีคหนุ่มก็ต้องทรงตัวขึ้นนั่งช้าๆ เมื่อร่างของสาวงามค่อยๆ ปรากฏกายให้เห็น ดวงตาคมกริบราวมีดโกนชั้นดีหรี่ตาลงมองร่างระหงงดงาม ในชุดสีแดงเพลิงแยกชิ้นเป็นเสื้อตัวยาวและมีเข็มขัดคาดเอวบางสีทอง กับกางเกงขายาวจั๊มที่ปลายขา ข้อเท้าเรียวประดับด้วยกำไลทองที่มีกระพรวนเล็กติดอยู่ยามที่หญิงสาวก้าวย่างกายเข้ามาจะได้ยินเสียง “กรุ๊ง กริ๊ง” ราวกับเสียงของเครื่องดนตรีไพเราะน่าฟัง ตัวเสื้อมีแขนยาวลงแค่ข้อศอก และที่ข้อมือบางทั้งสองข้างประดับไว้ด้วยกำไลทองวงเล็กๆ ซ้อนกันหลายวง
ดวงตาคมกวาดไล้ไปทั่วร่างเปลือยเปล่า ชีคหนุ่มสามารถมองผ่านเนื้อผ้าบางเบาได้อย่างชัดเจน จาฟาร์รู้สึกคอแห้งผากขึ้นมา จนต้องกลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่ เมื่อมองเห็นทรวงอกอวบอิ่มที่ประดับด้วยยอดเชอร์รี่สีสวย อกอวบนั้นเต่งตึงดันเนื้อผ้าออกมา พีรกานต์ในตอนนี้แม้ว่าจะสวมเสื้อผ้า แต่ก็ไม่ต่างอะไรกับการเปลือยเปล่าดีๆ นี่เอง
ชีคจาฟาร์เลื่อนสายตาขึ้นไปตามลำคอระหง ใบหน้างดงามไม่มีที่ตินั้นถูกแต่งแต้มเพียงบางเบา แต่ที่เห็นเด่นชัดก็คงเป็นริมฝีปากอิ่มถูกทาด้วยขี้ผึ้งสีแดงระเรื่อ ติ่งหูเล็กๆ ทั้งสองข้าง มีต่างหูทองห้อยระย้าลงมางดงาม เส้นผมสลวยถูกปล่อยทิ้งตัวลงมา หากก็มีผ้าคลุมสีแดงที่ร้อยเลื่อมและลูกปัดทองติดอยู่คลุมทับเอาไว้อีกที
พีรกานต์ขาแทบขวิดเมื่อเห็นสายตาแสดงความชื่นชมและความปรารถนาออกมาชัดเจนของชีคจาฟาร์ หญิงสาวค่อยๆ สาวเท้าตามนางฮาดาเข้าไปใกล้ๆ ชีคหนุ่ม
“นั่งลง” นางฮาดาหันมาบอกพีรกานต์ เมื่อนำพาเธอมาหยุดอยู่ตรงหน้าชีคหนุ่ม
พีรกานต์หันซ้ายหันขวาหาที่นั่งของเธอ แต่ก็ไม่เห็นว่าในห้องนี้จะมีเก้าอี้ให้เธอนั่งเลยสักตัว
“นั่งที่พื้นนั่นล่ะ” นางฮาดาบอก เหมือนจะอ่านใจของพีรกานต์ออก
หญิงสาวหันไปมองหน้านางฮาดาอยู่ชั่วครู่ และเกือบจะถามออกไปว่า ‘ไม่มีเก้าอี้ให้นั่งเลยสักตัวเหรอ’ แต่แล้ว พีรกานต์ก็ต้องเปลี่ยนใจไม่ถาม เมื่อคิดได้ว่า ธรรมเนียมของที่นี่ คงไม่มีใครได้นั่งเสมอท่านชีค นอกจากแขกผู้มาเยือนที่มีศักดิ์เท่าเทียมกัน หรือสหายที่ใกล้ชิดกัน พีรกานต์ค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งพับเพียบบนพรมนุ่มลวดลายงดงาม
“ฮาดา เดี๋ยวเจ้าไปบอกให้ใครหาเก้าอี้เข้ามาให้ข้าสักตัว ข้าไม่อยากให้นางเห็นว่าบ้านเมืองของเรา ยังคงความป่าเถื่อนเอาไว้อยู่อีก” จาฟาร์บอกกับนางฮาดา
“แต่ว่า…ท่านชีคเจ้าคะ ธรรมเนียมของชนเผ่าเรา ได้ปฏิบัติกันมาเช่นนี้หลายชั่วอายุคนแล้วนะเจ้าคะ” นางฮาดาคัดค้าน
“เผ่าบาร์ยาเนียเจริญเติบโต และมั่งคั่งกว่าเผ่าอื่นๆ ดินแดนที่เป็นของเผ่าบาร์ยาเนียก็กว้างไกลจนเปลี่ยนเป็นแคว้นหรือนครบาร์ยาเนียไปแล้ว รวมทั้งความเจริญอื่นๆ ทุกด้าน เช่น ด้านการศึกษา การค้าขาย ก็ก้าวไกลล้ำหน้าเผ่าอื่นๆ อยู่มากมาย ทุกอย่างไม่ใช่เพราะข้าหรอกหรือ ที่ทำให้ทุกคนอยู่ดีมีสุขมากขึ้นกว่าเดิม แล้วทำไมข้าจะเปลี่ยนแปลงขนบธรรมเนียมประเพณีบางอย่างไม่ได้ ในเมื่อข้าเป็นผู้กุมอำนาจกฎหมายของนครบาร์ยาเนียทั้งหมด” น้ำเสียงกร้าวกังวาน เอื้อนเอ่ยออกมาดังไปทั่วห้องโถง
“ข้าแค่หวังดีต่อท่านชีค แต่ในเมื่อท่านพอใจจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ข้าก็คงขัดใจท่านไม่ได้อยู่แล้วเจ้าค่ะ ถ้างั้นข้าขอตัวก่อน จะต้องไปบอกให้ทหารนำเก้าอี้มาให้ตามคำบัญชาของท่าน” นางฮาดาบอก ก่อนจะก้มศีรษะลงทำความเคารพ และถอยฉากออกไป
ชีคจาฟาร์ถอนลมหายใจออกมาแรงๆ จนพีรกานต์ได้ยิน หญิงสาวเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าคมเข้ม ที่มีสีหน้าไม่พอใจเต็มเปี่ยม จาฟาร์เบนสายตาจากนางฮาดามามองที่พีรกานต์ ดวงตาคมกริบสบกับดวงตาคู่สวยนิ่งๆ ก่อนจะพยักหน้าให้เธอ
“มานั่งใกล้ๆ ข้าสิฮันนี่”
พีรกานต์เขยิบร่างขึ้นไปนั่งบนพื้นที่ยกขึ้นสูงกว่าพื้นห้องที่เธอนั่งอยู่ชั่วครู่ ร่างบางอยู่ห่างจากร่างสูงเพียงแค่เอื้อม หญิงสาวช้อนดวงตากลมโตขึ้นมองชีคหนุ่มรูปงาม วันนี้จาฟาร์แต่งกายดูแปลกตาไปจากที่เธอเคยเห็น
เสื้อตัวยาวสีขาวปักดิ้นทองงดงามทิ้งตัวยาวลงมา และมีผ้าคาดเอวสีทองคาดทับเป็นเข็มขัด สาปเสื้อด้านบนเปิดกว้างแค่เพียงจาฟาร์ขยับกาย เห็นขนอ่อนรำไรน่าลูบไล้ และสวมกางเกงขายาวสีขาวเข้าชุดกัน
“ก่อนอื่นเลย ข้าจะขอเจ้าเรื่องหนึ่ง คิดว่าเจ้าคงจะรับได้” ชีคหนุ่มเปิดฉากคำพูด
“ฉันเจอเรื่องที่ยุ่งยากใจนัก เมื่อต้องลืมตาตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ ยังจะมีเรื่องอะไรที่ยุ่งยากใจมากกว่าเรื่องนั้นอีกล่ะคะ” พีรกานต์ถาม
จาฟาร์กระตุกมุมปากขึ้นยิ้มอย่างขำๆ
“เรื่องที่ข้าจะพูดกับเจ้าไม่ยุ่งยากเท่าเรื่องเมื่อวานนี้หรอก”
“อะไรหรือคะ”
“ข้าจะขอใช้คำพูดที่เรียกกันระหว่างเราแบบที่พูดกับคนอื่น เพราะเมื่ออยู่ที่นี่ ข้าไม่ชอบพูดว่าฉันและเธอ อย่างที่เวลาไปต่างประเทศหรือในเมืองไทย แต่จะขอเรียกเธอว่า “เจ้า” และเรียกแทนฉันว่า “ข้า” จะได้ไหม” จาฟาร์บอก
“ได้สิคะ แต่ฉันคงไม่เปลี่ยนแปลงในคำเรียกอย่างคุณหรอกนะ เพราะถนัดเรียกแบบนี้มากกว่า อีกอย่างฉันไม่ใช่คนที่นี่” พีรกานต์บอก
“ไม่มีปัญหา และอยากจะบอกให้รู้ว่า ขนบธรรมเนียมประเพณีของเรายังคงล้าหลังหลักสากลอีกเยอะ แม้ว่าข้าจะพยายามเปลี่ยนแปลงแล้วก็ตาม อย่างที่เจ้าเห็น แค่สิ่งที่ควรทำเพียงเล็กน้อย ความคิดของข้าก็ถูกคัดค้านเสียแล้ว แต่โชคดีที่ข้าเป็นชีค เลยไม่มีใครกล้าปฏิเสธ”
“ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องขนบธรรมเนียมแบบนี้เท่าไหร่หรอกค่ะ แต่ในเมื่อคิดจะอยู่ที่นี่กับคุณแล้ว ก็คงต้องทำตามขนบธรรมเนียมของที่นี่ อย่างที่สุภาษิตไทยได้กล่าวไว้ว่า เข้าเมืองตาหลิ่วให้หลิ่วตาตาม”
เมื่อได้ยินคำกล่าวอย่างยินดีทำตามของพีรกานต์ จาฟาร์ก็หัวเราะร่วนอย่างชอบใจ
“ข้าชอบเจ้าจริงๆ ฮันนี่ เจ้า…” ดวงตาคมหลุบลงมองทรวงอกอวบอิ่ม “ช่างงดงาม น่ารัก น่าปรารถนากว่าหญิงอื่นที่ข้าเคยเจอมา”
“ฉันยินดีจะทำตามที่คุณขอทุกอย่าง แต่คุณเองก็อย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้กับฉันแล้วกัน ว่าจะไม่ส่งฉันเข้าไปรวมอยู่ในฮาเร็มของคุณเด็ดขาด”
“ไม่ ข้าไม่ลืมแน่นอน บอกตรงๆ ข้าเองก็ไม่ได้เข้าไปใช้บริการของสาวๆ ในนั้น มานานแล้ว และยิ่งได้เจ้ามาอยู่ด้วยแบบนี้ ข้าคงไม่มีวันเข้าไปหาของเก่าอีก ในเมื่อมีของสด ใหม่ และหอมหวานนักอยู่ใกล้ๆ แบบนี้ แต่ก็อย่าลืมว่าเจ้าก็เป็นผู้หญิงของข้าคนหนึ่ง เช่นเดียวกับหญิงสาวที่อยู่ในฮาเร็ม”
วาจาที่เปล่งออกมาของชีคหนุ่ม ทำให้ใบหน้านวลนั้นเปลี่ยนสีลงไปนิด เมื่อถูกตอกย้ำให้รู้ฐานะของตน
MANGA DISCUSSION