“เจ้าทำร้ายตัวเจ้าเองนะ ไฮซาน” ชีคหนุ่มบอก ก่อนขยับตัวมายืนด้านข้าง และหวดแส้กลางอากาศสองที “เจ้าได้รับเกียรติจากข้า ที่ข้าจะเป็นคนเฆี่ยนเจ้าด้วยตัวเอง” จบคำเสียงแส้แหวกอากาศ ก่อนกระทบผิวกายกำยำ เล่นเอาทหารองครักษ์ที่ยืนอยู่แถวนั้นต้องคอย่นอย่างหวาดกลัว
ไฮซานไม่ปริปากร้องออกมาเลยสักนิด เขากัดริมฝีปากแน่น อดทนและอดกลั้นอย่างที่บอกจัสมิน มือของจาฟาร์สั่นทุกครั้งที่แส้ฟาดเข้ากับแผ่นหลังกว้าง ทั้งหวาดกลัว เป็นห่วง และโกรธแค้นปนเปกันไปหมด เขาอยากได้ยินเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของหัวหน้าองครักษ์หนุ่ม แต่ก็ไม่มีทางได้ยิน จาฟาร์รู้ดีว่าไฮซานจะไม่ร้องขอความเห็นใจใดๆ ทั้งสิ้น สหายของเขาคนนี้ ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี ความเจ็บปวดแค่นี้ไม่ทำให้ไฮซานหวาดกลัวแน่นอน
จัสมินนั่งร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่าอยู่ในห้อง จนกระทั่งเวลาล่วงเข้ายามเย็น ประตูห้องของเธอก็ถูกเคาะเบาๆ จัสมินหันไปมองประตูเพียงแว่บเดียว แล้วก็หันกลับมาทางเดิม เธอไม่สนใจเสียงเคาะประตูห้องเลย แต่จนแล้วจนรอด เสียงเคาะประตูก็ยังดังไม่หยุดหย่อน จนร่างบางผุดลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู และตั้งท่าจะต่อว่าคนที่มาเคาะอย่างฉุนๆ หากแต่เมื่อเปิดประตูออกไปแล้ว กลับทำให้จัสมินจนคำพูด
“องค์หญิง ขอฉันเข้าไปข้างในหน่อยได้มั้ยคะ” พีรกานต์นั่นเองที่เป็นคนเคาะประตู จัสมินมองหน้าสวยหวานนั้นนิ่ง ก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ และเปิดประตูกว้างขึ้นให้นางฮาเร็มคนโปรดของพี่ชายเข้าไป
“เชิญตามสบายนะคะ” จัสมินบอก
พีรกานต์เดินเข้าไปนั่งบนโซฟาสีฟ้าสด หญิงสาวยิ้มบางๆ ให้จัสมิน
“ที่ฉันเข้ามาหาคุณ ไม่ได้จะเข้ามาพูดปลอบใจคุณหรอกนะคะ แต่ฉันมีเรื่องอยากบอกให้คุณรู้” พีรกานต์เริ่มเรื่อง
“อะไรเหรอคะ” จัสมินถาม
“ตอนนี้คุณคงเสียใจ ที่จา…เอ่อ…ท่านชีคลงโทษหัวหน้าองครักษ์ และคงโกรธพี่ชายของคุณมากใช่มั้ยคะ”
“ค่ะ ฉันเบื่อขนบธรรมเนียมแบบนี้มานานแล้ว และไม่ต้องการเป็นองค์หญิง เป็นผู้หญิงสูงศักดิ์ที่ไม่มีสิทธิ์เลือกในความรัก”
“ฉันทราบค่ะ แต่คุณรู้มั้ยคะ ว่าพี่ชายของคุณก็รู้สึกไม่ต่างกับคุณ”
“ไม่จริงหรอกค่ะ ท่านพี่ยึดมั่นกับธรรมเนียมดั้งเดิมมากเกินไป จนตัวเองไม่มีความสุข และยังพาให้น้องไม่มีความสุขไปด้วย” จัสมินกล่าวกลั้นเสียงสะอื้นอย่างน่าสงสาร แต่เธอไม่อาจกลั้นหยาดน้ำตาที่ไหลลงมาตามแก้มนวลได้
“แสดงว่าคุณยังไม่รู้จักพี่ชายของคุณดีพอ รู้มั้ยคะ ว่าท่านชีครักคุณและหัวหน้าองครักษ์มากแค่ไหน นี่ก็น้องสาว นั่นก็เพื่อนรัก ท่านชีคเจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าคุณเลย และอาจเจ็บปวดมากกว่าคุณด้วยซ้ำไป เพราะภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ ทำให้ความสุขที่ควรมีลดลงไปกว่าครึ่ง แต่ที่ต้องจำยอม เพราะประชาชนในนครบาร์ยาเนียทุกคนต่างหาก คุณอยากให้ท่านพี่ของคุณ ถูกตราหน้าว่าเป็นชีคที่หลงลืมประเพณีดั้งเดิมรึไงคะ ถึงจะนำพาบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองได้มากแค่ไหน แต่ก็ต้องไม่ละทิ้งขนบธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนาน”
จัสมินมองพีรกานต์อย่างใคร่รู้ และคิดตามคำพูดของพีรกานต์ไปด้วย
“ถ้าไฮซานไม่ได้เป็นองครักษ์ ท่านพี่ของคุณคงไม่ห้ามปราม แต่คงจับคุณแต่งงานกับไฮซานไปแล้ว ฉันพูดในฐานะผู้หญิงต่างศาสนาที่รักชายสูงศักดิ์คนหนึ่ง ฉันถูกเขาจับตัวมาบำเรอความสุข แต่ดันไปหลงรักเขาเข้า แต่ฉันจะไม่ดึงคนรักให้ลงมาต่ำหรอกนะคะ ความรักของฉันจะอยู่ได้ก็ต่อเมื่อ ได้เห็นคนที่รักมีความสุข”
“ทั้งๆ ที่คุณอาจจะไม่มีความสุขงั้นเหรอคะ”
“ใครว่าล่ะคะ ฉันมีความสุขมากต่างหากล่ะ สุขที่ได้เห็นคนรักมีความสุข ถ้าการที่ได้อยู่ด้วยกัน รักกันปานจะกลืนกิน แต่ไม่มีความสุข เพราะขัดต่ออะไรหลายๆ อย่างแบบนี้ ไม่รักเสียเลยจะดีกว่าค่ะ” พีรกานต์ให้เหตุผล
จัสมินเองก็ต้องอึ้งกับเหตุผลของพีรกานต์ ผู้หญิงไทยร่างเล็กบางตรงหน้า มีหัวใจแกร่งกว่าผู้ชายบางคนเสียอีก จัสมินรู้สึกทึ่งในความเข้มแข็งของพีรกานต์ เธอไม่รู้ว่าพีรกานต์ผ่านอะไรมาบ้าง แต่ยอมรับในความเข้มแข็งของเธอยิ่งนัก
“ฮันนี่ ฉัน…อิจฉาคุณจริงๆ ที่คุณทำใจได้ขนาดนี้ แต่ว่า…ฉันคงทำแบบคุณไม่ได้”
“ฉันไม่ได้หวังให้คุณทำแบบฉันนะคะ แต่ฉันอยากบอกคุณว่า ฉันเชื่อว่าไฮซานและคุณ จะต้องได้อยู่ร่วมกัน แต่ต้องรอเวลาอีกสักนิด เชื่อฉันนะคะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่คุณจะมานั่งเสียใจ คุณต้องเชื่อมั่นในตัวพี่ชายและคนรักของคุณ เขาเป็นเพื่อนรักกันมานาน จะต้องรู้ใจกันดีกว่าเราเป็นไหนๆ เชื่อฉันเถอะค่ะ ว่าเพื่อนกันยังไงก็ตัดไม่ขาด”
พีรกานต์บอก และบีบมือนุ่มให้กำลังใจจัสมิน
“ขอบคุณนะคะที่มาบอกเรื่องดีๆ ให้ฉันฟัง ถ้าฉันได้คุณเป็นพี่สะใภ้ก็คงจะดีไม่น้อย”
“ฮิ ฮิ ขอฉันเป็นนางฮาเร็มคนโปรดแบบนี้ดีกว่าค่ะ”
“แม้จะอดคิดไม่ได้ว่าคุณเป็นคนแปลก แต่ฉันก็ทึ่งในความเป็นคุณจริงๆ ค่ะ” จัสมินวางมืออีกข้างทับมือบางของพีรกานต์ “ตอนนี้ฉันคงไม่คิดมากแล้ว แต่จะไม่ให้ห่วงเลยคงเป็นไปไม่ได้ และดีใจที่ได้คุยกับคุณค่ะ ฮันนี่”
พีรกานต์ยิ้มกว้าง เมื่อเห็นใบหน้านวลโศกเศร้าเมื่อครู่ ดูแจ่มใสขึ้นมาเล็กน้อย
“องค์หญิงคะ ตอนนี้คงเป็นหน้าที่ของเรา ที่เราจะต้องช่วยกัน ฟังฉันนะคะ คุณอย่าออกไปหาไฮซาน แล้วฉันจะช่วยเกลี้ยงกล่อมให้ท่านชีคปล่อยตัวไฮซานเอง แต่ถ้าคุณยังออกไปหาไฮซานอยู่แบบนี้ ท่านชีคจะยิ่งไม่พอใจไฮซานมากขึ้นไปอีก”
“ตกลงค่ะ ท่านพี่รักคุณ ฉันเชื่อว่าคุณต้องทำได้” จัสมินเชื่อมั่นในความรักของจาฟาร์ที่มีต่อพีรกานต์ และเชื่อว่าพีรกานต์จะต้องช่วยไฮซานได้
พีรกานต์ลุกขึ้น พร้อมกับฉุดมือบางของจัสมินให้ลุกขึ้นตาม หญิงสาวสองคนงดงามไม่แพ้กัน เรือนร่างบอบบางสัดส่วนใกล้เคียงกัน โผเข้ากอดซึ่งกันและกัน พีรกานต์ยกมือขึ้นลูบหลังบอบบางของจัสมิน ก่อนดันตัวออกห่าง
“ฉันต้องไปแล้ว ถ้าท่านชีคกลับห้องไปแล้วไม่เห็นฉัน เดี๋ยวจะเป็นเรื่องอีก พี่ชายของคุณเอาแต่ใจตัวเองอย่างร้าย ฉันยังไม่อยากหมดแรงบนเตียงนอนในตอนนี้ เอ…แต่ถ้าจำเป็นเพราะต้องช่วยไฮซาน คุณก็เข้าไปเยี่ยมฉันในห้องบ้างนะคะ”
“ฮิ ฮิ ฮันนี่ คุณนี่น่ารักจริงๆ นะ พูดจาแบบนี้ก็เป็นด้วย ขอบคุณจริงๆ นะคะ” จัสมินบอกขอบคุณอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันยินดีช่วย ฉันต้องไปแล้วค่ะ” พีรกานต์บอกก่อนส่งยิ้มหวานให้จัสมิน และเดินออกจากห้องไปเงียบๆ
“ไฮซาน ข้าจะรอเจ้าออกมาจากกรงขัง ออกมาเป็นสามีของข้าอย่างเต็มภาคภูมิ” จัสมินบอกกับตัวเองเบาๆ ก่อนล้มตัวลงนอน และหลับลงไปอย่างรวดเร็ว เพราะเพลียจากการไม่ได้พักผ่อนตั้งแต่เมื่อคืนนี้
MANGA DISCUSSION