“ก็จริงหรอกนะ แต่นี่…นาดา ฉันถามอะไรหน่อยสิ ท่านชีคเข้ามาใช้บริการพวกเธอบ่อยรึเปล่า” พีรกานต์ไม่รั้งรอถามในสิ่งที่อยากรู้
“เมื่อก่อนนะ เข้ามาบ่อยอยู่เหมือนกัน อาทิตย์หนึ่งเข้ามาสักสามครั้งเห็นจะได้ แต่หลังๆ มานี่ ไม่เคยเข้ามาเลย จะมีก็แต่ท่านไฮซาน หัวหน้าองครักษ์และคนสนิทของท่านชีคที่เข้ามา เชื่อมั้ยฮันนี่ พวกเราบางคน ยังไม่เคยได้รับใช้ท่านชีคเลยนะ เพราะท่านชีคน่ะเลือกมาก”
“เอ๋…เลือกมากเหรอ” พีรกานต์เอียงคอถามอย่างสงสัย เพราะเธอไม่เห็นว่าจาฟาร์จะเลือกมากตรงไหนเลย
“ใช่ ท่านจะเลือกแต่คนที่ท่านชอบ หรือบริการท่านได้ถึงใจ ท่านไม่ได้เลือกที่ความเป็นสาวพรหมจารีย์หรอกนะ ไม่เหมือนชีคคนก่อน ท่านจะโปรดแต่สาวพรหมจารีย์”
“ท่านชีคคนก่อน เป็นใครเหรอนาดา”
“ก็เป็นพ่อของชีคจาฟาร์ไงล่ะ โอ๊ย…ไม่เอาแล้ว ฉันพูดมากเกินไปแล้ว ท่านชีคไม่ชอบให้ใครพูดถึงชีคคนก่อนในแง่ไม่ดี ถ้ารู้ไปถึงหูท่านชีคจาฟาร์เข้าล่ะก็ ฉันมีหวัง…เธออย่าเอาไปบอกท่านชีคล่ะ รู้มั้ยฮันนี่” นาดาบอกด้วยสีหน้าจริงจังจนเกินเหตุ ในความคิดของพีรกานต์ หญิงสาวหัวเราะขำท่าทางของนาดา ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย พีรกานต์ไม่คิดจะถามหรืออยากรู้อยากเห็นเรื่องของชีคหนุ่มมากนัก เพราะเธอคิดว่า บางอย่างไม่รู้คงดีกว่ารู้
พีรกานต์ซ้อมเต้นระบำอย่างสนุกสนาน เธอเรียนรู้ได้รวดเร็ว เพราะมีพื้นฐานด้านการเต้นดีอยู่แล้ว เพื่อนๆ ทุกคนในฮาเร็ม เป็นคนน่ารัก ไม่มีใครอิจฉาริษยาเธอเลยแม้แต่คนเดียว หญิงสาวอดแปลกใจไม่ได้ จนต้องลองเกริ่นถามนาดาดูบ้าง
“นาดา พวกเธออยู่แบบนี้มีความสุขดีเหรอ เธอไม่คิดอยากมีคู่ มีครอบครัว หรือออกไปอยู่ภายนอกบ้างเหรอ”
“คิดสิ ทำไมจะไม่คิดล่ะ แต่เราออกไปไหนไม่ได้ ถ้าชีคไม่อนุญาต เธอไม่ต้องเป็นห่วงพวกเราหรอก เพราะถึงเราไม่ได้ออกไปมีชีวิตเหมือนคนปกติ แต่อยู่ที่นี่เราก็สบาย ดูสิ ที่นี่น่าอยู่ขนาดไหน งานก็ไม่ต้องทำ ข้าวก็มีให้กินครบทุกมื้อ”
“ใช่ แต่ถ้าเป็นฉันนะ ให้ฉันอยู่เฉยๆ แบบนี้คงเป็นไปไม่ได้” พีรกานต์บอก
“เธอมาจากเมืองไทยใช่มั้ย แล้วที่นั่นเป็นยังไงบ้าง” มูนา หนึ่งในนางฮาเร็มเป็นคนถาม โดยให้นาดาเป็นคนแปลให้พีรกานต์ฟัง
“ที่นั่นเป็นเมืองแห่งความศิวิไลซ์ แออัดไปด้วยผู้คน แถมยังขึ้นชื่อเรื่องรถติดอีกด้วย แต่เมืองไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย คนไทยเป็นคนจิตใจดี มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แต่ก็อย่างว่า ทุกประเทศย่อมมีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนกันไป ถ้าพวกเธอมีโอกาสได้ไปเที่ยวเมืองไทยสักครั้งก็คงดี”
“รู้มั้ย ว่าพวกเราวาดภาพเธอผิดไปถนัด” มูนาบอก และนาดาก็เป็นคนแปลอีกเช่นเคย
“หืม…”
“พวกเราคิดว่า นางฮาเร็มคนใหม่ และยังเป็นคนโปรดของท่านชีค จะต้องเย่อหยิ่งจองหอง เพราะถือว่าตัวเองเป็นคนโปรด แต่เธอไม่ใช่ เราดีใจที่ได้รู้จักเธอนะฮันนี่” ประโยคนี้ ฮาร่าเป็นคนพูด
“ฉันก็ดีใจที่ได้รู้จักกับพวกเธอเหมือนกัน อยู่ห้องโน้น ฉันก็เห็นแต่หน้าท่านชีคและฟารีดา อ้อ…ยังมีคุณฮาดาอีกคน” พีรกานต์บอก
ทุกคนเงียบกริบไปชั่วครู่ ต่างคนจ้องหน้าพีรกานต์ตาแป๋ว จนหญิงสาวเริ่มรู้สึกอึดอัด เมื่อทนให้มองอยู่เฉยๆ ไม่ได้ หญิงสาวก็ต้องถาม
“ทำไมเหรอ ทำไมทุกคนมองฉันกันอย่างนั้นล่ะ”
“ฮิ ฮิ พวกเราอยากรู้น่ะสิ ว่าเธอได้ปรนนิบัติท่านชีคทุกวันเลยรึเปล่า” นาดาตอบยิ้มๆ
พีรกานต์กวาดตามองทุกคน หญิงสาวลอบกลืนน้ำลาย เมื่อเห็นสายตาอยากรู้จากทุกคน
“ก็…” นางฮาเร็มคนโปรดหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก ก่อนแก้เขินด้วยการบิดตัวไปมา “ทุกวัน” เธอไขข้อข้องใจของทุกคนเบาๆ แต่ก็ทำให้ดวงตาทุกคู่นั้นเบิกกว้าง แล้วเสียงโห่ร้องก็ดังขึ้น
“ว้าว…เยี่ยมเลยฮันนี่ พวกเรานะแอบอิจฉาเธอเล็กน้อย ทุกคนหวังจะได้ปรนนิบัติท่านชีค แต่…ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่อิจฉาเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้คิดอะไรมากหรอก”
พีรกานต์ยิ้มบางๆ ให้ทุกคน ก่อนขอเดินดูรอบๆ ห้อง เธอเปิดประตูด้านขวามือเข้าไป ก็พบว่ามันเป็นห้องนอน มีเตียงตั้งเรียงเป็นแถว ความเป็นอยู่ของทุกคนในนี้ ดูแล้วน่าสบายจริงอย่างที่นาดาบอก จนกระทั่งสายตาไปสะดุดลงที่โหลใบหนึ่ง หญิงสาวเดินเข้าไปหามันทันที ก่อนเปิดโหลใบนั้นออกดูสิ่งที่อยู่ข้างใน
ภายในโหลบรรจุน้ำสีแปลกๆ พีรกานต์สูดดมกลิ่นของมัน เพราะคิดว่าคงเป็นสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่แล้วก็ต้องทำหน้าแปลกใจระคนสงสัย เมื่อกลิ่นนั้นไม่ใช่กลิ่นของแอลกอฮอล์ แต่เป็นกลิ่นแปลกๆ พีรกานต์ถือขวดโหลเดินไปหานาดา
“นาดา นี่มันขวดอะไรเหรอ” พีรกานต์ถามนาดา
“อ้าว…นี่เธอไม่รู้หรอกเหรอ นี่มันขวดยาคุมกำเนิด อ้อ…ที่เมืองไทยไม่มีแบบนี้สิท่า ยาคุมของที่นี่เป็นแบบชนิดน้ำจ้ะ สกัดมาจากสมุนไพร แต่อย่าถามนะว่าอะไร เพราะฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าคุณฮาดาเป็นคนสกัด พวกเราจะต้องดื่มหนึ่งแก้ว หลังจากปรนนิบัติท่านชีค หรือแม้แต่ท่านไฮซาน เพราะนางฮาเร็มท้องไม่ได้” นาดาอธิบายยืดยาว
MANGA DISCUSSION