“แต่ว่าอะไรหรือเจ้าคะ”
“นางฮาเร็มคนโปรดของข้าล่ะ คงไม่เคยชินกับการเต้นระบำของบาร์ยาเนีย คงต้องมีคนช่วยสอนนางด้วย”
สายตาของนางฮาเร็มทุกคน จ้องมองมายังพีรกานต์เป็นจุดเดียว จนหญิงสาวอดหวาดหวั่นไม่ได้ พีรกานต์ไล่สายตามองไปที่ทุกคน แล้วต้องถอนใจยาวอย่างโล่งอก ที่เธอไม่เห็นแววตามุ่งร้ายมาที่เธอ หรือแววตาอิจฉาริษยา แต่หญิงสาวก็ยังคงต้องระวังตัวอยู่ดี การเป็นนางฮาเร็มคนโปรด ไม่มีทางที่ไม่มีคนอิจฉาริษยาเธอ ก็แหม…ท่านชีคก็ออกหล่อเหลาปานนี้ ใครบ้างไม่อยากจะแนบกาย หรือสนองอารมณ์ของเขากัน
“ข้าเองเจ้าค่ะท่านชีค ข้าจะเป็นคนสอนนางเอง” ฮาร่า ผู้หญิงที่มีผมสีน้ำตาลแดงบอก เธอยังส่งยิ้มหวานเลยมาให้พีรกานต์อีกด้วย
“ดีมากฮาร่า” จาฟาร์บอก และสายตาของเขาก็ไล่มองพวกเธอทุกคนอย่างสังเกตเหมือนกัน “ข้าบอกเอาไว้ก่อนนะ ว่าถ้าใครคิดจะทำร้ายฮันนี่ล่ะก็ คนนั้นจะต้องถูกลงโทษ และข้าจะไม่ปล่อยให้ลอยนวลเด็ดขาด” ชีคหนุ่มบอกเสียงกร้าว จนทุกคนในที่นั้นต้องคอย่นอย่างหวาดกลัว ทุกคนต่างรู้ดีว่า ถ้าทำให้ชีคจาฟาร์โกรธจะโดนลงโทษสถานใด
“ท่านพี่น่าจะบอกตั้งนานแล้ว ใกล้จวนเจียนแบบนี้ จะซักซ้อมกันทันการรึเปล่าไม่รู้” องค์หญิงผู้เป็นน้องบ่น ชีคหนุ่มผู้เป็นพี่ชาย
“ก็ข้าเพิ่งจะคิดได้นี่นา ว่าวังเราเงียบเหงามานานแล้ว ถ้ามีงานรื่นเริงบ้างก็น่าจะดี”
“ไม่ต้องห่วงนะเจ้าคะองค์หญิง เรื่องเต้นระบำนี่พวกเราถนัดอยู่แล้วเจ้าค่ะ แต่ว่า…นางฮาเร็มคนโปรดน่ะสิคะ จะเต้นได้รึเปล่า” ฮาร่าบอก
“เรื่องนั้นคงไม่น่าเป็นห่วงหรอกฮาร่า นางฮาเร็มคนโปรดของท่านชีค ต้องทำได้อยู่แล้ว เจ้าอย่าประมาทนางเกินไปน่ะฮาร่า” ประโยคนี้ไฮซานเป็นคนพูด เขาสบตากับชีคหนุ่มที่หันหน้ามามอง และยิ้มให้แก่กันอย่างรู้เรื่องราวทุกอย่างดี
“ถ้างั้น เราคงต้องเริ่มซ้อมกันตั้งแต่วันนี้เลยนะเจ้าคะ” ฮาร่าบอก
“ได้ แต่อย่าดึกนักก็แล้วกัน เพราะข้าไม่อยากรอนาน”
พีรกานต์เงยหน้าขึ้นมองชีคหนุ่ม อย่างรู้ถึงถ้อยคำกำกวมของเขาเป็นอย่างดี และได้เห็นแววตายิ้มได้อย่างน่าหมั่นไส้นัก เธอจึงขว้างค้อนคมให้จาฟาร์ไปหนึ่งวง
พีรกานต์ต้องตามฮาร่าเข้าไปซ้อมเต้นระบำบาร์ยาเนียในฮาเร็ม เธอมองฮาเร็มอย่างตื่นตา ภายในนี้ตกแต่งได้อย่างงดงามไม่แพ้ภายนอก จากที่เคยคิดว่านางฮาเร็มจะอยู่กันอย่างลำบาก หรืออยู่เยี่ยงทาส พีรกานต์ต้องเปลี่ยนความคิดไปทันที ห้องนี้กว้างขวางมากนัก กว้างกว่าห้องที่เธออยู่หลายเท่า อาจเป็นเพราะต้องรองรับเหล่านางฮาเร็มหลายชีวิตก็เป็นได้ พื้นห้องถูกปูด้วยพรมเนื้อหนานุ่มเท้า มองจากประตูที่เธอเดินผ่านเข้ามาจะเป็นเหมือนห้องโถงตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ ผนังห้องด้านหนึ่งเป็นกระจกทั้งด้าน จนหญิงสาวสงสัยว่าพวกเธอไม่อายบ้างหรือ ถ้าต้องแต่งกายด้วยเสื้อผ้าบางเบาๆ มองเห็นหมดทุกสัดส่วนความเป็นหญิง
“ฮาร่า…เอ่อ…ขอโทษนะ เธอจะฟังที่ฉันพูดรู้เรื่องมั้ยนี่” พีรกานต์ต้องถามออกไปอย่างไม่แน่ใจ
“ฮาร่าน่ะฟังเธอไม่รู้เรื่องหรอก แต่ฉันฟังเธอรู้เรื่อง แล้วฉันจะช่วยเป็นล่ามให้เธอเอง” สาวผมยาวเหยียดตรงถึงกลางหลัง ผมของเธอเป็นสีดำสนิทเงางามเป็นคนบอกพีรกานต์ “ฉันชื่อนาดา และที่ฉันพูดภาษาไทยได้ เพราะก่อนหน้านี้ ฉันเคยทำงานกับคนไทย แต่ก็พูดได้ไม่ดีนักหรอกนะ”
พีรกานต์ยิ้มหวานให้นาดาอย่างดีใจ ที่เธอจะมีเพื่อนเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง
“ดีใจจัง ยินดีที่ได้รู้จักนะนาดา เรียกฉันว่าฮันนี่ก็ได้ จริงๆ น่ะฉันชื่อน้ำหวาน แต่จา…เอ๊ย…ท่านชีคเรียกน้ำหวานไม่ถนัด ก็เลยเรียกว่าฮันนี่แทน เธอก็เรียกฉันแบบนี้ก็แล้วกันนะ”
“ได้สิฮันนี่ เดี๋ยวฉันจะแนะนำให้เธอรู้จักทุกคนนะ” แล้วนาดาก็เริ่มแนะนำให้พีรกานต์รู้จักกับนางฮาเร็มทุกคน หญิงสาวรู้สึกผิดคาด เพราะทุกคนในที่นั้นต่างส่งยิ้มมีไมตรีให้เธอกันทุกคน
พีรกานต์รู้สึกว่าตัวเองไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป ตอนนี้เธอมีเพื่อนสาว แม้จะพูดกันไม่ค่อยรู้เรื่องนัก แต่เธอก็ยังมีนาดาที่ช่วยเป็นล่ามให้
“นาดา เวลาที่พวกเธอแต่งตัว…เอ่อ…โป๊ จนเกือบเปลือย พวกเธอไม่อายมั่งเหรอ ถ้ามีคนมาแอบมองทางกระจกนั่น” พีรกานต์ถามนาดา เมื่อมีโอกาส
“อ๋อ…กระจกนั่นเรามองออกไปเห็นข้างนอกชัดเจน แต่คนข้างนอกมองเข้ามาไม่เห็นหรอก เมื่อก่อนนี้ห้องนี้เป็นห้องทึบๆ แต่พอมาสมัยท่านชีคจาฟาร์ ก็เปลี่ยนเป็นกระจกแทน ท่านชีคบอกว่า พวกเราจะได้ไม่อึดอัดจนเกินไปนัก ไม่มีอิสรภาพ และยังไม่เห็นโลกภายนอกอีก ท่านชีคจาฟาร์น่ะใจดีมากเลยนะ แถมยังรูปงามกว่าชีคคนก่อนๆ นี้อีก”
“เหรอ”
“ใช่สิ ตอนนี้เธอเป็นคนโปรด เธออยู่ใกล้ชิดท่านชีคมากที่สุด เธอน่าจะรู้ดีกว่าใครๆ นะ” นาดาว่า
MANGA DISCUSSION