เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 294 หลัวชิงซานไปหาเหอซานไ
บทที่ 294 หลัวชิงซานไปหาเหอซานไห่
ขณะที่เจียงหว่านกำลังสับสนและสิ้นหวังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี หลี่ป้านเซี่ยก็พูดขึ้น
“แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธี”
ใจของเจียงหว่านทะยานขึ้นอีกครั้งราวกับรถไฟเหาะ
เธอเงยหน้ามองหลี่ป้านเซี่ย ก็เห็นว่าตอนนี้เธอกำลังกลั้นยิ้ม และรอยยิ้มจาง ๆ ซ่อนอยู่ในดวงตาด้วย
เจียงหว่านจึงรู้ตัวขึ้นมาในฉับพลัน!
“คุณตั้งใจหลอกฉัน!” เธอกำหนัดแน่น และจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ
หลี่ป้านเซี่ยส่ายหัว “ไม่ใช่สักหน่อย ฉันแค่พูดความจริง”
“คุณต้องรู้สิ ถ้าผ่าตัดบาดแผลแล้วทายา ยาจะทำให้เกิดการติดเชื้อ และก่อให้เกิดภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด”
“ภายในไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง เขาก็จะตาย!”
สีหน้าของเจียงหว่านจริงจังขึ้นมา… ใช่ เธอเองก็กังวลข้อนี้ที่สุด
ภาวะการติดเชื้อในกระแสเลือดน่ากลัวมาก แม้แต่วงการแพทย์ในอีกหลายทศวรรษข้างหน้าก็ยังไม่ประสบความสำเร็จในการรักษา
ไม่ต้องพูดถึงยุค 80 ที่การรักษาโรคและยารักษายังไม่พัฒนาแบบนี้เลย
หากติดเชื้อในกระแสเลือดก็เหมือนกับการถูกโทษประหารชีวิต
หลี่ป้านเซี่ยพูดต่อ “ไม่มีใครยอมเสี่ยงทำลายอนาคตตัวเอง และไม่มีใครอยากจะเอาตัวเองไปเสี่ยงคุกเสี่ยงตารางหรอก”
เจียงหว่านขมวดคิ้วมุ่น “แล้วคุณจะพูดว่ามีความหวังทำไม หรือถ้ามีวิธีอะไรอีกจริง ๆ ก็รีบบอกมาสิ!”
หลี่ป้านเซี่ยหัวเราะ “ฉันเห็นว่าคุณเป็นสาวน้อยใจกล้านี่นา ทำไมไม่ทำเองล่ะ!?”
เจียงหว่านตกใจ “ฉะ ฉันไม่ใช่หมอ ทำไม่ได้หรอก!”
หลี่ป้านเซี่ยพูด “ก็ถ้าผ่าตัดเส้นประสาท คุณทำไม่ได้แน่นอน! แต่ถ้าแค่กรีดเปิดแผล แค่มีมีดก็ทำได้แล้ว”
“วิธีของลุงฝูไม่จำเป็นต้องใช้ยาทาที่เส้นประสาทโดยตรง เพียงแค่ผ่ากรีดผิวแล้วใส่ยาที่มัดกล้ามเนื้อก็พอ!”
“และไม่ต้องเย็บปากแผลด้วย!”
เจียงหว่านประหลาดใจ ผู้หญิงคนนี้พูดเรื่องซับซ้อนแบบนั้น ออกมาจากปากของเธออย่างง่ายดายเลย
หลี่ป้านเซี่ยเห็นเธอนิ่งเงียบไปก็ไม่ได้บีบบังคับ “เรื่องอย่างนี้ต้องพิจารณาด้วยตัวเอง ตัดสินใจลงมือทำด้วยตัวเอง! ถ้าคุณจะทำ อีกไม่กี่วันฉันจะฝึกให้คุณ”
“ขอแค่คุณอดทนฝึกสักสามถึงห้าวัน การผ่าตัดครั้งนี้ก็ไม่น่ามีปัญหา”
หลังจากนั้นเธอก็ไม่พูดอะไร และหลับตาลง พักสมองต่อ
เจียงหว่านรู้สึกไม่สบายใจ เธอมองมือของตัวเองพักใหญ่ แล้วก็มองไปแขนของเฉียวเหลียนเฉิง ตอนนี้ในหัวของเธอเต็มไปด้วยความลังเล
เฉียวเหลียนเฉิงมองออกถึงความอึดอัดของภรรยา เขาจึงยื่นมือไปกุมมือเธอไว้ และกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง ทว่าตอนนั้นเอง รถม้าก็หยุดลง
ชายชราที่ขับรถม้าพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ล้อรถติดหล่ม พวกเธอรีบมาช่วยฉันดันหน่อยสิ!”
เฉียวเหลียนเฉิงกับเจียงหว่านลงจากรถ
ตอนนี้ยังมีฝนตกลงมาอยู่เรื่อย ๆ ก่อนเจียงหว่านลงจากรถ เธอเลยเอาไม้กระดานในมือยื่นให้กับหลี่ป้านเซี่ย
“คุณบังตัวเองไว้หน่อย อย่าให้น้ำสาดโดนบาดแผลล่ะ”
หลี่ป้านเซี่ยส่งเสียงฮึมฮัม “ฉันเป็นหมอ ฉันรู้!”
ถนนเส้นนี้ไม่ใช่ถนนปูนซีเมนต์อะไร ก็แค่ถนนดินในชนบท
ปกติใช้สัญจรไปมาได้ แต่ถ้าช่วงไปนฝนตกก็จะเฉอะแฉะไปด้วยโคลน
ตอนนี้ล้อข้างหนึ่งของรถม้าติดหล่ม
เฉียวเหลียนเฉิงมองไปทั่วสารทิศ ก็เห็นว่าริมถนนมีก้อนหินใหญ่อยู่ไม่ไกล
เขาเดินไปหยิบก้อนหินใหญ่มาหนึ่งก้อน
เจียงหว่านหันไปมองทางหลี่ป้านเซี่ย “เราน่าจะต้องใช้ไม้กระดาน คุณใช้เสื้อบังฝนไปก่อนนะ”
หลี่ป้านเซี่ยรีบส่งไม้กระดานให้ จากนั้นพวกเขาก็เอาไม้กระดานมาทำเป็นสะพานวางระหว่างก้อนหินกับล้อรถ
เฉียวเหลียนเฉิงเห็นว่าดีแล้ว จึงตะโกนบอกชายชรา “ได้แล้ว คุณขับรถเดี๋ยวพวกเราดันให้!”
ชายชราตอบรับ พร้อมฟาดแส้
หลังจากทำแค่ไม่กี่ครั้งรถม้าก็หลุดจากหล่มได้
ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
เจียงหว่านยื่นไม้กระดานให้หลี่ป้านเซี่ยอีกครั้ง
และเฉียวเหลียนเฉิงก็ให้สัญญาณว่า ให้เจียงหว่านขึ้นรถก่อน
เจียงหว่านจับขอบรถม้าปีนขึ้นไป ทันใดก็มีรถตู้คันหนึ่งขับมาด้วยความเร็ว
ความเร็วของรถตู้เร็วมาก และรถตู้ก็ขับผ่านพวกเขาไป
และเพราะความเร็ว เมื่อล้อรถผ่านแอ่งโคลน ก็ทำให้โคลนกระเด็นใส่เจียงหว่านกับเฉียวเหลียนเฉิงเต็มหน้าเต็มตัวไปหมด
เจียงหว่านโกรธมากจนเกือบสาปแช่งออกมาแล้ว เธอเช็ดหน้าและมองไปทางรถตู้คันนั้นอย่างโกรธ ๆ ทันใดก็มองเห็นตัวอักษรสี่ตัวที่กระจกหลังรถ ‘การค้าเฉิงเฉิง’
“เฮ้ย นี่คนขับใช่ไหมเนี่ย?!”
คนขับรถม้าที่ถูกน้ำกระเด็นใส่ ถอนหายใจหนัก ๆ
“ไปเถอะ พวกคนรวยขับรถยนต์ ส่วนพวกเราแค่มีชีวิตก็ลำบากแล้ว นั่งได้แค่รถม้านี่แหละ!”
เจียงหว่านเงียบไป ก่อนจะพูดว่า “คุณโชคดียังมีรถม้านะ พวกเรามีแค่จักรยานด้วยซ้ำ!”
พอเธอพูดแบบนี้ ชายชราที่ขับรถม้าก็ถึงกับหัวเราะ
ทั้งสองคนขึ้นนั่งบนรถ และทันใด หลี่ป้านเซี่ยก็พูดเสียงอ่อนขึ้นมา “ถนนเส้นนี้ไปหมู่บ้านเหอ ไม่ใช่เข้าเมือง!”
เจียงหว่านเบิกตากว้าง “ซวยล่ะ หลัวชิงซานคงไม่ไปหาเหอซานไห่หรอกใช่ไหม!”
เฉียงเหลียวเฉิงคิดตาม ก่อนจะพยักหน้า “อาจจะใช่ หลิวเชี่ยนเชี่ยนถูกกู้ซานเยี่ยพาไป หลัวชิงซานที่เพิ่งปีนออกมาจากหลุมได้คงไม่รู้แน่ชัด”
เจียงหว่านกังวลเกี่ยวกับรถตู้ที่เพิ่งจากไป
“แย่แล้ว รีบไปกันเถอะ เหอซานไห่สู้คนเหล่านั้นไม่ได้แน่นอน”
“ลุงรีบหน่อย!”
ชายขับรถม้ารีบฟาดแส้ และม้าก็พุ่งทะยานไปข้างหน้ามุ่งสู่หมู่บ้านเหอทันที!
ตอนมาถึงทางเข้าหมู่บ้านเหอ เจียงหว่านถามหลี่ป้านเซี่ยว่า “หลัวชิงซานรู้จักคุณไหม?”
หลี่ป้านเซี่ยส่ายหน้า “หลัวชิงซานมีชื่อเสียงมาก เพราะงั้นตอนมีเรื่องเขาก็มักจะให้ลูกน้องออกหน้าแทน”
“ตอนฉันอยู่ที่หมู่บ้านเป็นผู้ช่วยพยาบาล เขาไม่รู้จักฉัน แต่คนรอบตัวเขาไม่แน่”
เธอพูดจบก็มองเจียงหว่านอย่างสงสัย “คุณถามทำไม?”
ตอนนี้เธอเห็นเฉียวเหลียนเฉิงกับเจียงหว่านหยุดเดิน และทั้งคู่ก็มองไปที่ใต้ต้นไม้ข้าง ๆ
เธอจึงมองไปอย่างอยากรู้อยากเห็น ก่อนจะเห็นใต้ต้นไม้มีรถตู้ของการค้าเฉิงเฉิงจอดอยู่
ใบหน้าของหลี่ป้านเซี่ยซีดลง
พวกเขาอยู่ที่นี่จริง ๆ
เจียงหว่านกระซิบ “ลานข้างหน้าเหมือนจะไม่มีคนอยู่ ฉันได้ยินเหอซานไห่พูดว่าคนที่อยู่ตรงลานนั้นย้ายออกไปแล้ว คุณไปซ่อนในลานนั้นก่อน”
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นห้ามออกมา รอจนกว่าจะปลอดภัย แล้วเดี๋ยวฉันจะเรียกคุณเอง!”
หลี่ป้านเซี่ยรีบพยักหน้า
เมื่อเห็นเธอซ่อนดีแล้ว เจียงหว่านกับเฉียวเหลียนเฉิงก้าวเข้าไปในลานบ้านเหอซานไห่
บริเวณลานบ้านไม่มีคน แต่พวกเขาก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงดังออกมาจากในตัวบ้าน
ทั้งสองคนเข้าไปอย่างเบาที่สุด แอบอยู่ริมหน้าต่าง และมองเข้าไปด้านใน
โอ้!
นึกไม่ถึงว่าในห้องเล็ก ๆ ไม่กี่ตารางเมตรของเหอซานไห่ จะมีคนซ่อนตัวเบียดเสียดกันอยู่ถึงสิบกว่าคน
หลัวชิงซานนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ตรงกลาง ข้างหน้าของเขาคือเหอซานไห่ที่ถูกกดให้คุกเข่าลงกับพื้น
เพราะอยู่ริมหน้าต่างเจียงหว่านจึงมองเห็นสีหน้าไม่ชัด
แต่ตอนนี้หลัวชิงซานถ่มน้ำลายใส่เหอซานไห่
“เฮ้ย! เหล่าเหอ แกไม่ต้องอายหรอก เงยหน้าขึ้นซะ แล้วพาหลิวเชี่ยนเชี่ยนออกมา ไม่อย่างนั้นวันนี้ฉันจะเอาแกตายแน่!”
เหอซานไห่ยืดหลังตรง ก่อนจะหัวเราะเยาะ “ดีสิ ถ้ามีความสามารถนัก อยากฆ่าก็ฆ่าฉันเลย”
“หลัวชิงซาน ถ้าวันนี้แกไม่ฆ่าฉัน แกมันก็เป็นไเ้แค่ไอ้กระจอก!”
“มาเลย มาฆ่าฉันสิ!”
เหอซานไห่แผดเสียงใส่ จนหลัวชิงซานต้องยกมือตบหน้าเขา
ตบเสร็จก็สะบัดมือ และกลับไปนั่งบนเก้าอี้อีกครั้ง
“ถ้าฆ่าแก มือของฉันก็สกปรกสิวะ!”