ตอนที่124 : ทะเล แสงแดด และรีสอร์ทสุดหรู (12)
“เรย์ยะคุงไม่ได้แค่ทำงานร้านอาหารนะ ยังอยู่คนเดียวอีกต่างหาก! ถ้าเรื่องทำอาหารล่ะก็ ถามอะไรเขาก็ได้เลย!”
ในขณะที่ผมกำลังถูกสาว ๆ รุมถามสารพัดคำถามจนตามไม่ทัน ฮิคารุก็หยุดการแล่เนื้อที่เขาหิ้วมาเอง แล้วแทรกเข้ามาในวงสนทนา
“เอ๊ะ!? คาเงยามะคุงอยู่คนเดียวเหรอ!?”
“อะ…อืม ก็มีเหตุผลบางอย่างเกี่ยวกับครอบครัวน่ะ…”
“เห~ เก่งจังเลย…! งั้นปกติก็คงทำอาหารกินเองที่บ้านสินะ…”
“เปล่าหรอก ไม่ถึงขนาดนั้น――”
“ใช่เลย! ฝีมือทำอาหารของเขาน่ะระดับโปรแล้ว!”
“เดี๋ยวสิ…ฮิคารุ เธอพูดอะไร――”
“ก่อนหน้านี้เคยทำแกงกะหรี่ให้กิน อร่อยมากเลยนะ!”
ฮิคารุพูดแทรกผมถึงสองรอบ แล้วยังโม้จนเรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่
ก็ใช่…ก่อนหน้านี้ผมเคยทำแกงกะหรี่ให้กิน แต่ก็แค่เอาแกงกะหรี่กึ่งสำเร็จรูปมาปรุงรสนิดหน่อย ยังไงก็ไม่ถึงขั้นเรียกว่าทำอาหารได้เลย
ผมพอมีความรู้เรื่องอาหารบ้าง ก็เพราะเคยช่วยงานอิจิรุซัง ไม่ใช่เพราะผมทำอาหารเองเป็นประจำ ที่บ้านผมก็กินแต่ข้าวกล่องหรือกับข้าวจากซูเปอร์มาร์เก็ต ถ้าทำกับข้าวบ้างก็แค่เวฟของแช่แข็งหรืออุ่นอาหารสำเร็จรูปเท่านั้นเอง――
“ผู้ชายที่ทำอาหารเป็นนี่มันดีจังเนอะ~”
“ใช่เลย ดูเป็นคนพึ่งพาตัวเองได้ คะแนนเพิ่มเพียบ~”
“จริง~ เป็นผู้ชายยุคใหม่เลยล่ะ!”
ผมยังไม่ทันจะได้แย้งอะไร คะแนนความนิยมของผมก็พุ่งขึ้นแบบไม่มีมูลจากคำชมล้นฟ้าของพวกผู้หญิง
แต่พอเห็นฮิคารุซังยิ้มอย่างภูมิใจ ผมก็พูดอะไรไม่ออก
ทั้งๆที่โดยปกติสถานการณ์แบบนี้เธอควรจะรู้สึกหึงแท้ๆแต่คราวนี้กลับดีใจที่ผมถูกชมมากกว่า
“คาเงปี้~ ช่วยฉันด้วยสิ~! เนื้อชิ้นนี้ควรจะหั่นยังไงเหรอ~?”
ทาคาซากิซังถือเนื้อที่ตัวเองได้รับมอบหมายให้หั่นขึ้นมาวางบนเขียง แล้วเดินมาหาผม
ผมแอบเหลือบมองฮิคารุซังเพื่อขอความเห็น――
‘แสดงฝีมือของนายให้เห็นเลย’
เขาพยักหน้าอย่างจริงจังราวกับจะบอกแบบนั้น
“เอ่อ…เนื้อแบบนี้ต้องดูเส้นใยจากด้านบน แล้วหั่นตัดขวางเส้น… จากนั้นก็ผ่าตรงเส้นใยเบาๆอีกที จะได้ไม่งอเวลาเอาไปย่าง ทำให้ความร้อนกระจายสม่ำเสมอแล้วก็เคี้ยวง่าย…มั้งนะ”
ผมหั่นเนื้อไปพร้อมกับอธิบายไปด้วยตามที่เคยฟังจากอิจิรุซังมา
ทันใดนั้น ก็มีเสียง “โอ้~” “เห~” ดังขึ้นรอบตัว
ผมก็แค่หั่นเนื้อเท่านั้นเองนะ? จริงจังเลยนะ…
“ว้าว~ คาเงปี้ไม่ใช่แค่ผักนะ เนื้อก็หั่นเก่งด้วย~”
“ไม่ๆก็แค่หั่นธรรมดาเอง…”
“ฉันชอบกินเนื้อมากเลย~ รอไม่ไหวแล้ว~! คาเงปี้ก็ชอบเนื้อมั้ย~?”
“ก็…ก็ชอบในระดับปกติล่ะนะ…”
“งืม~ ชอบเนื้อสินะ~”
พูดไปก็ยื่นหน้าอกเข้ามาใกล้แบบตั้งใจสุดๆผมเลยต้องถอยหนีจากทาคาซากิซัง
แต่แล้ว――
“นี่ คาเงยามะคุง… สอนฉันใช้มีดหน่อยได้มั้ย…?”
คราวนี้ฟุจิโมโตะซัง แฟนของโคมิยะคุงก็เข้ามาอีกคน
“นะ…นะ ขอร้องล่ะ… อยากเอาคืนชูคุงให้ได้…! ต้องถือแบบนี้เหรอ? หรือว่าแบบนี้?”
ถือมีดแบบกลับด้านเหมือนถือมีดสั้นอย่างกับตัวละครในเกมบู๊แล้วเดินเข้ามาใกล้
“จะ…จะสอนให้ครับ แต่ก่อนอื่นวางมีดแบบนั้นลงก่อนเถอะ… อันตรายจริงๆ…”
นี่ไม่ใช่ บา◯โอภาค 4 ของค◯เซอร์ หรือ เม◯ทัลเกียร์ของส◯เนค นะ…
“งั้น…ควรถือยังไงเหรอ?”
“เอ่อ…ไม่ใช่จับแน่นๆทั้งห้านิ้ว แต่ให้วางนิ้วชี้บนสันมีด… นิ้วโป้งวางตรงด้าม แล้วใช้อีกสามนิ้วที่เหลือจับเบาๆ…”
ผมสาธิตบนเขียงเหมือนกำลังหั่นผักในอากาศ
“…แบบนี้?”
“ใช่ๆ…แบบนั้นแหละ แล้วก็แค่ดึงเข้าหาตัวเวลาหั่น…”
“…ทำได้แล้ว! คาเงยามะคุงเก่งจัง…! อัจฉริยะเรื่องมีดเลย…!”
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก…”
ฟุจิโมโตะซังดีใจเหมือนเด็กประถมที่เพิ่งได้ใช้มีดหั่นผักครั้งแรก
ผมมักจะเป็นฝ่ายถูกสอนเรื่องทำอาหาร พอมาสอนคนอื่นบ้างเลยรู้สึกอบอุ่นใจยังไงไม่รู้
หลังจากนั้นตอนเตรียมของ ทุกคนก็เอาแต่ถามความคิดเห็นผมตลอด
“คาเงยามะคุง ข้าวโพดนี่เอาไปย่างเลยดีมั้ย หรือว่า――”
“คาเงยามะคุง จะทำแกงกะหรี่ด้วย มีอะไรเป็นเคล็ดลับไหม――”
“คาเงยามะคุง ลองผสมซอสเนื้อกับน้ำปลาดู ช่วยชิมหน่อย――”
“คาเงยามะคุง”
“คาเงยามะคุง”
“คาเงยามะคุง”
“คาเงยามะคุง”
“คาเงยามะคุง”
ผมว่าแค่วันนี้วันเดียว ผมก็ถูกเรียกชื่อโดยผู้หญิงมากพอสำหรับทั้งชีวิตแล้วล่ะ
แน่นอนว่าการถูกพึ่งพาก็ไม่ได้รู้สึกแย่หรอก แต่ก็เหนื่อยมาก
“ทุกคน…จะพึ่งพาก็ได้นะ แต่ช่วยอย่าเข้ามาใกล้กันขนาดนี้ได้มั้ย…!?”
สุดท้ายฮิคารุซังก็ทนไม่ไหว ระเบิดความหึงออกมากลางคันจนได้
MANGA DISCUSSION