สาวใช้ตัวป่วนของท่านแม่ทัพ - ตอนที่ 36
มันเป็นเรื่องที่ทำให้เหม่ยหวาเศร้าใจที่สุดตั้งแต่เข้ามาเป็นสาวใช้ในจวนแห่งนี้ นางถูกท่านแม่ทัพหยางผลักไสให้ออกไปจากจวน ด้วยเหตุผลกลัวว่าที่เจ้าสาวจะไม่พอใจหากมีนางอยู่ในจวน กลัวจะทำให้งานแต่งเป็นอันต้องล้มเลิก นั่นยิ่งทำให้เหม่ยหวารู้สึกแย่กับตัวท่านแม่ทัพหยางเข้าไปใหญ่ นางเสียตัวให้เขาไปแล้วเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น จึงไม่อาจคิดเป็นอย่างอื่นได้นอกจากว่านายท่านเบื่อแล้วโดนเฉดหัวทิ้ง
นางเก็บของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นใส่ห่อผ้า เดินเข้ามาร่ำลาฮูหยินและคุณหนูในรุ่งเช้าของวันใหม่หลังจากผ่านการร้องไห้มาตลอดทั้งคืน เมื่อคืนนี้พี่อาเฟยที่นอนอยู่ข้างกันได้สอบถามว่าเป็นอะไร นางบอกตามความจริงว่าโดนนายท่านไล่ให้กลับบ้าน อาเฟยบอกว่าจะช่วยแจ้งฮูหยินให้ไปคุยกับท่านแม่ทัพ แต่นางบอกไม่เป็นไร เพราะมันก็ดีเหมือนกันที่จะได้กลับไปช่วยบิดามารดาทำไร่ทำสวน
“คารวะฮูหยินเจ้าค่ะ” เหม่ยหวาเดินถือห่อผ้ามานั่งคุกเข่าลงตรงหน้าหยางฮูหยิน ก้มหน้าอันเศร้าสร้อยลงมองที่พื้น เพราะไม่อยากให้ท่านเห็นร่องรอยของการร้องไห้
“อ้าว! เจ้าจะไปที่ไหนหรือเหม่ยเหมย ถึงได้นำห่อผ้าติดตัวมาด้วย”
“นั่นสิ เจ้าจะไปไหนงั้นหรือ” ซินอวี่กล่าวถามอีกเสียง
“บ่าวจะมาลาเจ้าค่ะ”
“ลาไปไหน!” หยางฮูหยินขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่านางร้องไห้ รู้สึกใจคอไม่ดีเอาเสียเลย เมื่อวานนี้จางหมิงซวนมาหาบุตรชายที่จวน หรือว่ามันจะเป็นเพราะเรื่องนี้
“บ่าวจะลากลับบ้านเจ้าค่ะ บ่าวคงไม่ได้กลับเข้ามาในจวนนี้อีกแล้วเจ้าค่ะ ฮึก…นายท่านปล่อยบ่าวให้เป็นอิสระแล้ว”
“เป็นไปได้อย่างไรกัน ในเมื่อพวกเจ้าสองคนรักกัน แล้วทำไมจื่อถงถึงยอมปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ มันจะต้องมีอะไรที่มากกว่านี้” กล่าวแล้วก็หันไปเอ่ยกับอาเฟย “อาเฟยเรียกจื่อถงมาพบข้าเดี๋ยวนี้!”
“เจ้าค่ะฮูหยิน”
“เจ้ามีเรื่องอะไรผิดใจกับท่านพี่หรือเหม่ยเหมย”
“ไม่มีเจ้าค่ะ แค่คิดว่าบางทีนายท่านอาจจะเบื่อบ่าวแล้วก็เป็นได้”
“ไม่ต้องร้องนะ ข้ากับท่านแม่จะช่วยเจ้าเอง” ซินอวี่เดินเข้าไปนั่งข้างสาวใช้ โอบกอดเพื่อปลอบประโลมใจให้หายดี แม้รู้ว่าคงช่วยอะไรได้ไม่มากก็ตามที
“ท่านแม่ทัพมาแล้วเจ้าค่ะ”
“คารวะท่านแม่” หยางจื่อถงยืนค้อมตัวประสานมือคารวะมารดา ในขณะนั้นก็ชายตามองสาวใช้ที่นั่งร้องไห้อยู่โดยมีน้องสาวของตนกำลังปลอบใจ แม้จะเจ็บปวดมากแค่ไหนแต่ก็ต้องทำเป็นไม่สนใจ
“มาแล้วหรือไอ้ลูกชายตัวดี เจ้าอธิบายให้แม่เข้าใจได้หรือไม่ ว่าไล่เหม่ยเหมยกลับบ้านเพราะสาเหตุใด”
“ข้าเบื่อนางแล้ว ไม่มีเหตุอันใดจะต้องให้อยู่ในจวน เพราะในอีกไม่ช้าข้าก็จะแต่งงานกับแม่นางหมิงซวนแล้วขอรับ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นหยางฮูหยินก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินเข้ามาง้างมือฟาดเข้าไปที่ใบหน้าลูกชายด้วยความโมโห
“เจ้ามันไม่ใช่ลูกผู้ชาย ทำกับนางเช่นนี้ได้อย่างไร ข้าสอนให้เจ้าเห็นแก่ตัวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“ข้าต้องอภัยหากทำให้ท่านแม่ไม่พอใจ แต่ข้าไม่อยากให้ว่าที่เจ้าสาวของข้าไม่สบายใจ นางได้เป็นอิสระได้เงินกลับบ้านก็ดีแล้วไม่ใช่หรือขอรับท่านแม่ ข้าถือว่ามันยุติธรรมที่สุดแล้ว หากไม่มีอะไรแล้วข้าขอตัว”
“ช้าก่อน คนที่เจ้าต้องขอโทษหาใช่แม่แต่เป็นนางต่างหากเล่า แม่จะไม่ยอมให้นางออกไปจากจวนเด็ดขาด จะให้นางมารับใช้แม่ นับจากนี้ไปเจ้าจะไม่มีสิทธิ์ในตัวนางอีก”
“ฮูหยินเจ้าคะ ในเมื่อนายท่านพูดถึงขนาดนี้แล้ว บ่าวก็ไม่มีหน้าจะอยู่ที่นี่อีกต่อไป ขอให้บ่าวได้กลับบ้านเถอะเจ้าค่ะ บ่าวไม่อาจทนอยู่เห็นหน้าใครบางคนที่นี่ต่อไปได้แล้ว ฮือ…” กล่าวจบแล้วนางก็หลั่งน้ำตาออกมาอย่างหนักหน่วง มองหน้านายท่านผ่านม่านน้ำตา แต่ได้รับเพียงความเฉยเมยเหมือนครั้งแรกที่เจอกัน
“เห็นหรือไม่ว่าเจ้าทำร้ายจิตใจนางแค่ไหน”
หยางจื่อถงไม่อาจทนเห็นนางร้องไห้ได้ต่อไป เขาจึงสาวเท้าเดินออกไปโดยทันที ไม่เช่นนั้นเขาเองคงจะต้องหลั่งน้ำตาของลูกผู้ชายออกมาเช่นกัน
หยางฮูหยินได้แต่ส่ายหน้าพลางถอนหายใจเมื่อเห็นความเย็นชาของบุตรชาย นางคงทำอะไรไม่ได้นอกจากให้กำลังเหม่ยหวา และส่งนางกลับไปถึงบ้านอย่างปลอดภัยเท่านั้น
“ข้าต้องขอโทษแทนลูกชายตัวดีของข้าด้วย ข้าเสียใจที่ทำให้เจ้าต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ หากเป็นความต้องการของเจ้าข้าก็ไม่ขัด ข้าจะให้คนขับรถม้าไปส่งพร้อมกับของตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ ชดเชยกับสิ่งที่ลูกชายข้าทำกับเจ้า”
“ขอบพระคุณฮูหยินเจ้าค่ะ บ่าวไม่ต้องการสิ่งใดนอกเหนือจากการได้กลับไปพักใจที่บ้าน ไปใช้ชีวิตเป็นเด็กบ้านนอกเหมือนเช่นเดิมเจ้าค่ะ”
“ข้าเข้าใจเจ้านะ แต่โปรดรับของพวกนี้ไว้เถิด เพราะมันเองก็จะทำให้ข้ารู้สึกสบายใจขึ้นเช่นกัน เจ้าคือหนึ่งในสาวใช้ที่ดีที่สุดในจวนหลังนี้ หากมีบุญวาสนาต่อกันหวังว่าเจ้าจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้งนะเหม่ยเหมย”