ตอนที่ 6 ออกผจญภัยครั้งแรก
วันรุ่งขึ้นเลียมเตรียมอุปกรณ์มากมาย เขาสวมเกราะหนังที่พ่อของเขามีและทิ้งเอาไว้หลังจากเขาเสีย ส่วนดาบก็เป็นดาบสั้น ไม่ใช่ดาบยาว
ทำให้ตัวของเลียมที่ไม่ได้มีร่างกายที่กำยำแข็งแกร่งมากนักสามารถถือและกวัดแกว่งมันได้ การเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับตัวเองเป็นสิ่งที่พึงกระทำ
ด้านหลังของเขาสะพายเป้สีน้ำตาลใบหนึ่ง เป็นเป้ของพ่อของเขาเช่นกัน เขาไม่มีเงินพอที่จะซื้ออุปกรณ์ใหม่ๆ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้รังเกียจอุปกรณ์พวกนั้นถึงแม้ว่ามันจะเก่าแล้วก็ตาม
เพราะนั่นเป็นสิ่งที่พ่อเขาหลงเหลือเอาไว้ให้
เลียมเดินมาจนถึงจุดนัดหมาย เขาบอกกับอลิสว่าจะขอร่วมทางไปพร้อมกับปาตี้ของเธอด้วย ซึ่งปาตี้ของอลิสยินดีและรอเขามาร่วมปาตี้อยู่แล้วจึงไม่มีปัญหา
“ดูสดใสจังนะ ไอ้หนู”
ผู้ชายวัยรุ่นพูดทักเลียมอย่างคุ้นเคย มือนึงถือหอกเหล็กที่ดูท่าทางแล้วทนทาน
“ครับ วันนี้เป็นวันที่ข้ารอมานานแล้ว จะได้มีรายได้ไปเลี้ยงแม่ด้วย”
“เป็นเด็กที่กตัญญูดีนะ พอมองเจ้าแล้วก็ทำให้ให้ข้านึกถึงคุณอัลเลย”
คุณอัลที่หญิงสาววัยรุ่นพูดขึ้นหมายถึงพ่อของเลียมเอง ปาตี้นี้เคยมีคุณพ่อมาก่อน แต่เพราะพ่อช่วยเอาไว้ทำให้พวกเขารอดชีวิตมาได้จากการท้าทายดันเจี้ยนแห่งหนึ่ง
สมาชิกภายในปาตี้จึงค่อนข้างจะเอ็นดูเลียมเป็นพิเศษเพราะเขาเป็นลูกของผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้
“มาเร็วจัง สวัสดีค่ะคุณลาร่า คุณคริสส์”
อลิสเดินมาด้วยท่าทางยิ้มแย้ม เธอหอบสัมภาระมาพอประมาณ ไม่เยอะและไม่น้อยจนเกินไป สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเสบียงคือ น้ำ
คนที่เป็นนักผจญภัยจะมีกระติกน้ำเป็นของตัวเอง งานนักผจญภัยต้องอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย แถมยังต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้นน้ำจึงจำเป็นมาก ภายในป่าไม่เสมอไปว่าจะเจอน้ำจากธรรมชาติ พวกนักผจญภัยโดยทั่วไปจึงจะเข้าไปไม่ลึกและเมื่อตกเย็นก็จะกลับออกมา ไม่ได้อยู่ค้างภายในป่า
“เจ้าใช้เป็นมีดสั้นงั้นสิ ข้าเองก็ดาบสั้นคงไม่ต่างกันเท่าไหร่”
“ไม่ต่างอะไรกัน~ ข้าประสบการณ์เยอะกว่าเจ้าตั้งปีนึงเชียว”
อลิสพูดเสร็จก็หัวเราะคิกคัก เลียมหงุดหงิด ทั้งอลิสและเลียมเป็นเพื่อนสมัยเด็กกัน จึงเป็นปกติอยู่แล้วที่พวกเขาจะทะเลาะกันเป็นเด็กๆ
คริสส์มองดูเด็กทั้งสองคนหยอกกันไปหยอกกันมาด้วยรอยยิ้ม จากนั้นจึงพูดเตือนพวกเขา
“พอเข้าป่าแล้วก็อย่าทะเลาะกันบ่อยนักล่ะ”
“ไม่เห็นต้องบอกข้าเลยนี่! ข้ามีประสบการณ์เข้าป่าตั้งปีนึงแล้วนา”
อลิสทำแก้มป่องมองไปที่คริสส์ราวกับว่าเธอไม่ค่อยพอใจนักที่ยังทำเหมือนเธอเป็นเด็ก
“นั่นมันก่อนที่เลียมจะเข้ามานี่นา ตั้งแต่เลียมเข้ามาทุกอย่างก็ต้องเริ่มจากศูนย์ใหม่นั่นก็รวมถึงพวกข้าด้วยเช่นกัน”
การรู้ว่าแต่ละคนถนัดอะไรและไม่ถนัดอะไร นั่นเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกปาตี้ควรรู้ รู้แล้วก็จะสามารถวางแผนการต่อสู้ได้
ซึ่งตอนนี้พวกเขามีเลียมเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ ความรู้ของพวกเขาที่มีอยู่เต็มร้อยก็ลดลงจนหมด การไม่รู้ความสามารถของสมาชิกคนนึงมีผลถึงภาพรวมของปาตี้ขนาดนั้นเชียว
“ดังนั้นวันนี้จึงไม่ใช่วันที่เน้นไปที่การทำภารกิจ แต่จะเน้นที่การศึกษาเรียนรู้รูปแบบของปาตี้ให้เลียมพอจะรู้คร่าวๆ อลิสเองก็ต้องศึกษาการเคลื่อนไหว วิธีคิด และอุปนิสัยของเลียมเช่นกัน”
คริสส์พูดอธิบายและเน้นย้ำว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องจำเป็นในการทำงานร่วมกันเป็นปาตี้ ซึ่งจะส่งผลถึงอนาคตของพวกเขาด้วย
“ช่วงเช้านี้พวกเราจึงจะยังไม่รีบเข้าไปในป่า แต่จะอธิบายและวางตำแหน่งของสมาชิกแต่ละคนในปาตี้ใหม่อีกครั้ง”
เวลาผ่านไปอีกหลายชั่วโมงจนเกือบที่จะถึงช่วงเที่ยงวัน
สมาชิกคนหนึ่งของปาตี้ เขาสวมเกราะที่หนาและถือโล่และลูกตุ้มเดินนำหน้าเข้าไปภายในป่า เขาเป็นสมาชิกอีกคนของปาตี้ที่เลียมมาเข้าร่วม ชื่อว่า ฮานเนส
เขาเป็นตัวแทงค์ของทีม อุปกรณ์ส่วนใหญ่จึงจะเป็นเกราะและของหนักๆทั้งหลายที่สามารถป้องกันการโจมตีของมอนสเตอร์ได้อย่างหมดจด
ต่อมาของขบวนคือคริสส์ เขาเป็นตัวโจมตีของทีม สร้างความเสียหายในขณะที่ฮานเนสตั้งรับการโจมตีของมอนสเตอร์
ส่วนหลังของปาตี้มีเลียม อลิส และลาร่า
เลียมและอลิสยังเป็นเด็กอยู่ คริสส์จึงจับมายืนคุ้มกันแนวหลังอย่างลาร่าที่เป็นจอมเวทย์ของปาตี้ เธอถือคฑาไม้ที่มีอัญมณีเวทมนตร์ติดอยู่ด้านบนของคฑา
“ข้ากับเลียมไปเป็นแนวกลางก็ได้แท้ๆ”
อลิสบ่นออกมา แต่เลียมก็ไม่ได้ติดขัดอะไร เขารู้ว่าตนประสบการณ์น้อยที่สุดในปาตี้จึงไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ
“ชู่ว!…..”
วินาทีนั้นเองที่ฮานเนสและคริสส์หยุดฝีเท้าลง เลียม อลิส และลาร่าจึงเดินเข้าไปหาพวกเขาใกล้ๆเพื่อฟังแผน นั่นเป็นปฏิกิริยาเมื่อเจอกับมอนสเตอร์ที่ได้คุยกันไว้เมื่อเช้า
“ก็อปลินจำนวนสี่ตัว และอาจมีมากกว่านี้”
“จะทำการร่ายเดี๋ยวนี้แหละ”
“อืม ฝากด้วย”
ลาร่าที่อยู่แนวหลังเริ่มเอ่ยร่ายคาถาของเวทมนตร์ที่เธอต้องการจะใช้
“สายลมลวง เบาบางพาใจไหว ดวงตาหลงใหล มองไม่เห็นปลายทาง มัวเมาเงาแสง สะท้อนความฝัน——-หลับในภาพลวง!”
เมื่อลาร่าร่ายเวทมนตร์เสร็จสิ้น ปฏิกิริยาที่ปลายคฑาของเธอก็ส่องแสงเรืองรองสีม่วง จากนั้นก็มีไอสีม่วงล่องลอยเข้าไปหาพวกก็อปลินสี่ตัวนั้น
ก็อปลินสี่ตัวที่สูดละอองสีม่วงนั้นเข้าไป ดวงตาของมันที่มีสีเหลืองก็เกิดฝ้าขุ่นมัวขึ้น ร่างมันโยกไปมาก่อนที่จะล้มลงกับพื้น
“ไม่มีเสียงจากรอบข้าง ก็อปลินมีแค่สี่ตัวนั้นเท่านั้น งานดีมากลาร่า”
ฮานเนสเดินนำหน้าไปอีกครั้งพร้อมทั้งคริสส์ เขาใช้หอกแทงไปที่ลำคอของก็อปลินทั้งสี่ตัว และเขาก็นำบัตรนักผจญภัยขึ้นมาดู
“อืม จัดการได้แล้ว”
เลียมเห็นว่าคริสส์นำบัตรนักผจญภัยขึ้นมาดู เขาจึงทำตามบ้าง ข้อมูลที่ปรากฏขึ้นบนบัตรนักผจญภัยคือ ตัวเลขมากมาย และมันยังระบุเลเวลของเขาอีกด้วย
เลเวลของเลียมเพิ่มขึ้นมาหนึ่งเลเวล ทำให้ตอนนี้ตัวเขามีเลเวลอยู่ที่สอง เขารู้สึกดีใจถึงแม้ว่าตนจะไม่ได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ก็ตาม
“พวกคุณคริสส์ดูเป็นมืออาชีพสุดๆเลย”
“ใช่ม้า~ ข้าเห็นมานักต่อแล้วล่ะ อึ้ฮึ้ม~”
อลิสแสดงท่าทางดีใจราวกับว่านั่นเป็นคำชมของเธอเอง เธอยืดอกรับราวกับเด็กที่ถูกชมว่าเก่งมากหลังจากพูดได้
“อย่างที่เจ้าเห็น การทำงานเป็นปาตี้จะมีลักษณะเช่นนี้ จะไม่มีการบุกเข้าไปเดี่ยวๆโดยไม่ดูหน้าดูหลัง เพราะเพียงพลาดนิดเดียวก็อาจส่งผลถึงชีวิตของสมาชิกทั้งหมดในปาตี้ได้”
เลียมพยักหน้าเป็นการเข้าใจ แต่คริสส์ยังพูดไม่หมดเขาสอนเลียมต่อไป
“ในงานของนักผจญภัย ความขี้ขลาดไม่ใช่เรื่องน่าอาย เล่นทีเผลอได้ก็เล่น ถ้าสู้ไม่ไหวก็หนี ทำทุกอย่างให้ปาตี้ของตัวเองปลอดภัยที่สุดเท่านั้นก็พอ”
“ครับ จะจำเอาไว้ให้ขึ้นใจเลย!”
เลียมพยักหน้าเป็นการเห็นพ้องแรงๆครั้งนึง คริสส์เห็นเช่นนั้นเขาก็ยิ้มอ่อน
เขาดีใจที่เลียมเป็นเด็กที่ยอมเชื่อฟังคำสอนของเขา ไม่ว่าใครก็คงจะดีใจถ้าอีกฝ่ายฟังคำพูดของตัวเองอย่างตั้งใจ
พวกเขาพักในจุดนั้น ตั้งเป็นแคมป์เล็กๆชั่วคราว ระหว่างนั้นคริสส์ ฮานเนส และลาร่าก็เกาะกลุ่มคุยหารือเรื่องแผนต่อไป
เลียมรู้สึกสงสัยจึงหันไปถามกับอลิสที่นั่งกินมาชเมลโล่อย่างเอร็ดอร่อยอยู่ข้างๆเขา
“พวกคุณคริสส์เอาจริงเอาจังตลอดแบบนั้นเลยหรอ?”
ถึงแม้ว่าเขาจะถูกย้ำอยู่เสมอว่าห้ามประมาท แต่ตัวเขาก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ถึงความอันตรายภายในป่าแห่งนี้
อลิสทำน่าจริงจังขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำถามของเลียม
“ใช่ เป็นแบบนั้นตลอด ถ้าเข้ามาในป่าล่ะก็นะ”
เธอหันซ้ายหันขวามองไปทางที่พวกคริสส์ก็เห็นว่าพวกเขากำลังตั้งใจวางแผนกันอยู่ อลิสจึงเอ้ามือป้องปากขยับเข้าไปใกล้ๆกระซิบข้างหูของเลียม
“ข้าก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์หรอกนะ แต่ได้ยินมาว่าปาตี้ของคริสส์เคยเสียชีวิตกันทั้งหมดเหลือเพียงแต่เขาที่รอดมาได้น่ะ ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องจริงมั้ยข้าได้ยินมาจากกิลด์นักผจญภัยอีกที แต่ถ้าเป็นความจริงคุณคริสส์ก็น่าสงสารมากเลย”
“งั้นหรอ…..นั่นสินะ ไม่ควรพูดจะดีกว่า”
พูดไปก็มีแต่ทำให้คริสส์ย้อนนึกไปถึงอดีตอันโหดร้ายและน่าเศร้า เมื่อยังไม่รู้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ก็ไม่ควรที่จะพูดออกไปมั่วๆซั่วๆ เลียมคิดเช่นนั้นและหันมาสนใจกับมาชเมลโล่ของตน
“ข้ายังไม่ได้ออกโรงเลยวันนี้ รู้สึกเซ็งสุดๆ”
“เอาน่า เดี๋ยวก็คงได้ลงมือสักอย่างเองล่ะมั้ง?”
เลียมพอใจแล้วเพราะเลเวลของเขาเพิ่มขึ้น แต่ดูเหมือนว่าอลิสจะยังมีความต้องการต่อสู้
เขาเองก็แอบรู้สึกคันไม้คันมือเหมือนกัน แต่วันนี้คงจะยากแล้วที่เขาจะได้ลงมือ
จากนั้นเขาและอลิสก็ไม่ได้ลงมืออะไรจริงๆ เป็นการเรียนรู้จากคริสส์และฝึกซ้อมร่างกายตามมาตรฐานเท่านั้น
และการผจญภัยครั้งแรกของเลียมก็จบลง โดยที่จะเรียกว่าผจญภัยก็พูดไม่ได้เต็มปากเต็มคำ ควรจะเรียกว่า อารัมภบทก่อนการผจญภัยของจริงจะเริ่มมากกว่า
Chapters
Comments
- ตอนที่ 14 ฟาร์มพ้อยต์ มิถุนายน 12, 2025
- ตอนที่ 13 การทดลองที่จะเกิดขึ้น มิถุนายน 12, 2025
- ตอนที่ 12 การต่อสู้กับวอเตอร์สไลม์ มิถุนายน 11, 2025
- ตอนที่ 11 มอนสเตอร์ปริศนา มิถุนายน 11, 2025
- ตอนที่ 10 ป่าเฟลรูดและโซนสอง มิถุนายน 11, 2025
- ตอนที่ 9 ยอมรับหัวใจตนเอง มิถุนายน 11, 2025
- ตอนที่ 8 สมุนไพร เฟย์วาน่า มิถุนายน 11, 2025
- ตอนที่ 7 ความสัมพันธ์แน่นแฟ้น มิถุนายน 10, 2025
- ตอนที่ 6 ออกผจญภัยครั้งแรก มิถุนายน 10, 2025
- ตอนที่ 5 ความฝันของเด็กหนุ่ม (เริ่มบทที่1) มิถุนายน 10, 2025
- ตอนที่ 4 เสาะหาวิธีการ (จบบทนำ) มิถุนายน 10, 2025
- ตอนที่ 3 หนทางในการเอาชนะและก่อนรุ่งอรุณย์ มิถุนายน 10, 2025
- ตอนที่ 2 เผชิญหน้าศัตรูโดยธรรมชาติ มิถุนายน 10, 2025
- ตอนที่ 1 ดันเจี้ยนมาสเตอร์และความสามารถ มิถุนายน 10, 2025
MANGA DISCUSSION