ช่วงบ่ายวันเสาร์ อากาศแจ่มใสผมกับยานามิอยู่ที่สนามกีฬาใกล้บ้านในโทโยฮาชิการแข่งขัน 100 เมตรระหว่างผมกับยากิชิโอะ ที่จะตัดสินการลาออกจากชมรมของเรา มันถูกกำหนดไว้สำหรับสุดสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม วันนี้เรามาฝึกซ้อมพิเศษกันทันทีที่ร่างของผมวิ่งผ่านเส้นชัยหลังจากทุ่มเทสุดแรง ยานามิก็กดปุ่มจับเวลา[ …ดะ…ได้กี่วิ ? ]ผมถามยานามิพลางจับเข่าที่สั่นไปหมดครั้งนี้น่าจะวิ่งได้ดีพอสมควร อาจจะมีหวังทำเวลาเข้าเป้าในช่วง 14 วินาที[ อืม… 16.5 วินาที ]อะไรนะ!? ไม่มีทาง! แต่เมื่อเธอหันหน้าจอให้ดู ก็เป็นอย่างที่ว่า 16.5 วินาทีจริง ๆแย่กว่าที่คิดไว้อีก ยานามิถอนหายใจอย่างหมดศรัทธา[ นุคุมิซึคุง แน่ใจนะว่านี่โอเค? นายมีเวลาแค่สามอาทิตย์เองนะ ][ แต่มันมีแต้มต่ออยู่นะ แค่ต้องทำเวลาให้อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยก็พอ ]แต้มต่อนั้นง่ายมาก คือใช้เวลาวิ่งเฉลี่ยของนักเรียนชายปีหนึ่งโรงเรียนซึวะบุกิมาลบกับเวลาที่ดีที่สุดของยากิชิโอะ แล้วคำนวณเป็นช่วงเวลาที่ผมจะเริ่มก่อน[ แล้วในวันแข่งจริงจะเป็นยังไง? ][ ก็คือผมจะเริ่มก่อนยากิชิโอะ 2.5 วินาที ใครถึงเส้นชัยก่อนก็ชนะ ]ยานามิพยักหน้าเหมือนเข้าใจ[ แล้วเป้าหมายของนายล่ะ? ][ อืม… ก็น่าจะ 14.5 วิ เพราะมันคือค่าเฉลี่ยของนักเรียนปีหนึ่ง ]ยานามิเลิกคิ้วขึ้น[ แล้วเมื่อกี้นายวิ่งได้กี่วิ ? ][ …16.5 ][ ………. ]ผมกระแอมเบา ๆ พยายามกลบเกลื่อน[ แต่มันชัดแล้วว่าผมต้องลดเวลาให้ได้ 2 วิ ส่วนยากิชิโอะต้องทำลายสถิติตัวเอง ใครเข้าใกล้เป้าหมายมากกว่าชนะ โอเคมั้ย? ]ยานามิยักไหล่แล้วเท้าเอว[ ทำไมนายถึงยอมแข่ง ? ปกตินายน่ะไม่ใช่พวกบ้าพลังสักหน่อย ? ][ มันช่วยไม่ได้น่ะสิ ด้วยสถานการณ์ตอนนั้นน่ะ ถ้าไม่พูดอะไรเลยเธอจะลาออกจากชมรม ][ แต่ยังไง เวลานายก็ดูช้าไปอยู่ดี ถ้าเลม่อนจังทำลายสถิติตัวเองได้ ต่อให้ลดเวลาได้ 2 วิ ก็ไม่พอ ][ พัฒนาทีละเสี้ยววินาทีมันยากสำหรับคนที่เร็วอยู่แล้วอย่างยากิชิโอะ แต่ผมยังเหลือพื้นที่ให้พัฒนาอีกเยอะเพราะงั้น มีโอกาสแน่นอน ][ โอเค งั้นลองดูว่าพัฒนาขนาดไหน กลับไปจุดเริ่มต้นซะ ฉันจะจับเวลาให้อีกรอบ ]วิ่ง 100 เมตรซ้ำไปซ้ำมาจะทำให้เร็วขึ้นจริงเหรอ? แม้จะสงสัย แต่ก็ไม่มีใครให้คำตอบได้ตอนที่วิ่งครั้งที่สามและยานามิพลาดจับเวลา โคมาริก็มาถึงสนามพร้อมกระเป๋าใบใหญ่ เธอมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง[ โคมาริจัง ทางนี้! ] ยานามิเรียก [ นี่ นุคุมิซึคุง โบกมือให้เธอสิ ][ เหนื่อยเกินไปแล้ว—อ่ะ โอเค ได้เลย ]โคมาริวิ่งตรงมาหลังจากเห็นพวกเรา[ โคมาริจัง เอาของที่ว่ามามั้ย? ][ อะ-อืม เอามา ]ของที่ว่า?โคมาริเปิดกระเป๋าและหยิบขวดน้ำหลายขวดออกมา[ อุ-อืม ฉันทำเครื่องดื่มมา มีน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล เกลือ แล้วก็น้ำตาลผสมอยู่ ]โอ๊ะ เครื่องดื่มทำเองยานามิถือขวดขึ้นมาพร้อมท่าทางภูมิใจอย่างไร้เหตุผลในขณะที่ผมชม[ นุคุมิซึคุง ควรขอบคุณกับความใส่ใจของพวกเรานะ ][ แต่เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนี่? ][ ขวดน้ำพวกนี้มาจากที่ซื้อมาตอนจะเริ่มไดเอท แต่ก็ไม่ได้ใช้เลย ]ผมพยักหน้าเข้าใจ คนอย่างยานามิก็เป็นพวกเริ่มไดเอทด้วยอุปกรณ์สินะ[ อันนี้สีต่างจากพวก….มีอะไรพิเศษเหรอ? ][ อะ-อืม มันมีผงถั่วเหลืองคั่วผสมอยู่ ][ ผงถั่วเหลืองคั่ว? ][ ช-ใช่ มันมีโปรตีนเยอะ ดื่มหลังจากซ้อมจะดีมาก ]โอ๊ะ ดูใส่ใจดีขณะที่ผมยื่นมือไปหยิบขวดน้ำผสมถั่วเหลืองคั่ว โคมาริก็เอียงคอ[ ซ้อมเสร็จแล้วเหรอ? ][ เริ่มเหนื่อยแล้ว รองเท้าก็หลุดด้วย คิดว่าน่าจะพอแค่นี้ ]โคมาริคว้าขวดถั่วเหลืองคืนจากมือผม[ ว-วิ่งจนกว่าจะตายเลย ! หรือจะให้ดีก็ตายไปเลย! ][ หา? แต่ผมเหนื่อยแล้วจริง ๆ นะ ]ถึงจะมีมือสมัครเล่นสามคน แต่การฝึกผิด ๆ อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ขณะที่ผมพยายามจะเดินออกจากลู่ ยานามิก็ยืนขวางไว้[ นายหนีไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นแหละ นุคุมิซึคุง เข้าใจมั้ยว่าชมรมวรรณกรรมกำลังวิกฤติอยู่? ][ แค่จะพักนิดหน่อยเอง เธอเคยได้ยินเรื่องการฟื้นฟูแบบซูเปอร์คอมเพนเซชั่นมั้ยล่ะ? ]โคมาริจับเสื้อด้านหลังผมพลางพูดติดอ่าง[ ฉ-ฉันอยากให้นายลองใช้วะ-วิธีของยากิชิโอะ ที่เธอสอนมาก่อนหน้านี้ ]ไปลองเองเถอะ! วิธีเดียวของยากิชิโอะคือวิ่งเต็มที่แบบไม่สนอะไรเลย[ โอเค แต่ผมจะกลับบ้านหลังจากวิ่งอีกหน่อย พอดีมีนัดอยู่ ]ยานามิและโคมาริมองฉันด้วยสายตาสงสัย[ ผู้หญิงเหรอ? ][ ผ-ผู้หญิงเหรอ? ][ …ความลับ ผมก็มีเรื่องที่ต้องเก็บไว้บ้างเหมือนกัน ]ทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะยิ้มขำ[ เข้าใจละ นายแค่ทำตัวให้ดูเท่สินะ ][ ข-ขี้แอ็คจริง ๆ เลย น-นุคุมิซึ ]พวกเธอรู้ได้ไง?สุดท้ายก็ต้องวิ่งจนขาแทบหมดแรง และเวลาดีที่สุดก็ไม่พัฒนาจากครั้งแรกเลย…◇หลังจากที่ได้รับการปลดปล่อยจากการฝึก ผมเดินขาลากเหมือนลูกกวางทอมป์สันแรกเกิด ใช้เวลาราว 15 นาทีจากสนามกีฬาไปยังร้านขนมญี่ปุ่นเก่าแก่ชื่อไทโชร้านนี้แม้ภายนอกจะดูเก่าแก่ แต่ก็สะอาดสะอ้านน่าชื่นชมขนมมิตาราชิดังโงะคือเมนูขึ้นชื่อของร้าน และที่หน้าร้านมีเครื่องปิ้งดังโงะหมุนวนอยู่ตลอดเวลาเครื่องนี้จุ่มดังโงะในซอสสองครั้งต่อการหมุนหนึ่งรอบ สร้างกลิ่นหอมและรสชาติอร่อยที่ยากจะบรรยายเป็นคำพูดได้ขณะที่ผมมองเครื่องผ่านกระจก ชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งก็ออกมาจากร้านเขาคือ อายาโนะ มิตสึกิ นักเรียนปีหนึ่งของโรงเรียนมัธยมปลายซึวะบุกิ และเป็นคู่สนทนาลับของผม[ มาตรงเวลาเป๊ะเลย มีอะไรเหรอ? อยู่ดีๆ ก็ชวนคุย ]อายาโนะยื่นไม้ดังโงะมิตาราชิให้ผม[ อ้อ ขอบคุณนะ ไม้นี้เท่าไหร่เหรอ? ][ วันนี้ฉันเลี้ยงเอง ครั้งหน้าค่อยเลี้ยงคืนก็แล้วกัน ]พวกเรากินดังโงะพร้อมกับมองเครื่องปิ้งหมุนวน แล้วจะเริ่มพูดจากตรงไหนดีล่ะ…[ เลม่อนทำอะไรนายหรือเปล่า? ][ อ๊ะ รู้ได้ไง? ][ พอนายบอกว่าอยากคุยแบบไม่ชวนจิฮายะมาด้วย ก็พอเดาได้ ]เขาทายถูกเป๊ะจนผมได้แต่ยอมรับและเล่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาให้อายาโนะฟัง เขาฟังอย่างตั้งใจ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสงบ[ …ร้านนี้น่ะ เลม่อนพาฉันมาหลายครั้งแล้วตอนที่เราอยู่ประถม ]เหมือนเป็นร้านขนมเด็กๆ สินะ แต่…[ นายสองคนอยู่โรงเรียนประถมอาโอกิใช่มั้ย? แถวนี้ไม่น่าจะอยู่ในเขตโรงเรียนของนายไม่ใช่เหรอ? ][ ใช่ เราข้ามเขตกันมาน่ะ ]อายาโนะหัวเราะในโทโยฮาชิ พื้นที่ที่นักเรียนประถมได้รับอนุญาตให้เดินทางไปได้จะเรียกว่า “เขตโรงเรียน” และการออกนอกเขตโดยไม่มีผู้ใหญ่จะเป็นเรื่องต้องห้ามการฝ่าฝืนนี้เรียกว่า “การข้ามเขต” และถ้าไม่ปฏิบัติตาม จะถูกตำหนิในที่ประชุมหลังเลิกเรียน ซึ่งมันน่ากลัวมาก[ น่าจะตอนเราปีสาม เลม่อนจู่ๆ ก็ชวนฉันไปหลังเลิกเรียน เธอเป็นหัวหน้าที่บังคับเก่งมาก ตอนนั้นฉันยังแอบกลัวเธออยู่ ]นึกภาพออกเลยว่าเลม่อนตอนประถมต้องเหมือนฮัสกี้ที่ถูกปล่อยตัวแน่ๆ[ เธอจะชวนเฉพาะตอนที่ทะเลาะกับเพื่อนหรือโดนพ่อแม่ดุเท่านั้น เรากินดังโงะแล้วก็มองเครื่องปิ้งนี้ เธอเล่าเรื่องที่ฉันไม่ค่อยเข้าใจให้ฟัง ]ผมกัดดังโงะขณะฟัง เนื้อดังโงะนุ่มลิ้น ซอสหวานเค็มกำลังดีซึมซาบในปากอายาโนะกับเลม่อน สองคนนี้ตอนประถมคงนั่งเคียงข้างกันลิ้มรสชาติแบบเดียวกันและพูดคุยกันแบบนี้สินะ[ พอเราโตขึ้น เธอก็หยุดชวนฉัน แต่ครั้งหนึ่งในมัธยมต้นเธอก็พาฉันมาที่นี่อีก ][ …เกิดอะไรขึ้นล่ะ? ]อายาโนะเหมือนกำลังระลึกถึงเหตุการณ์นั้น เขาเลือกคำพูดอย่างระมัดระวังก่อนจะพูดช้าๆ[ ตอนมัธยมต้นปีหนึ่ง ความเร็วของเลม่อนกลายเป็นที่เลื่องลือ โค้ชแนะนำให้เธอเข้าร่วมเกือบทุกประเภทการแข่งขัน ][ แบบนั้นเป็นไปได้ด้วยเหรอ? หมายถึง มันต้องมีเรื่องความถนัดด้วยไม่ใช่เหรอ ? ][ แน่นอน แต่ว่าเรามาจากโรงเรียนธรรมดาๆ นักเรียนก็เหมือนกัน เลม่อนคือคนที่เก่งที่สุดในชมรมกรีฑา เธอสนุกกับการวิ่งไปทั่ว เก็บรางวัลกับเหรียญรางวัลมากมาย แต่สิ่งนั้นทำให้รุ่นพี่คนหนึ่งที่สนิทกับเธอต้องออกจากชมรมเพราะแข่งอะไรไม่เคยชนะเลย ]อายาโนะกินดังโงะคำสุดท้ายจนหมด[ ตั้งแต่นั้นมา เลม่อนก็ลงแข่งแค่ 100 เมตรเท่านั้น ]…อย่างงี้นี่เองแน่นอนว่าผมไม่รู้ว่ามันเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ตอนนี้หรือเปล่าแต่มันคล้ายกันเกินไปจนปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่เกี่ยวข้อง[ นุคุมิซึ ฉันถามอะไรนายหน่อยสิ ทำไมถึงตัดสินใจแข่งกับเลม่อนล่ะ? ][ ไม่รู้เหมือนกัน จริงๆก็ไม่มีคำตอบเลย ]อายาโนะเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ได้แค่พึมพำหลังจากเว้นช่วงไปนาน[ …ก็เป็นเลม่อนนี่นะ ]เขาเข้าใจนายเลยจริงๆผมจ้องมองไม้ดังโงะเปล่า พลางถามข้อสงสัยออกมา[ การวิ่งอาจจะตัดสินผู้ชนะระหว่างผมกับยากิชิโอะได้ แต่ปัญหาก็ไม่ได้ถูกแก้ใช่มั้ย? เลยสงสัยว่าควรจะคิดยังไงกับการแข่งครั้งนี้ดี ][ แต่มันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นก็ได้นะ ]อายาโนะพูดอย่างมั่นใจ จากนั้นเขาก็วางมือลงบนไหล่ของผม[ ไม่รู้ว่าควรพูดหรือเปล่า แต่บางทีเธออาจจะกำลังมองหาวิธีตัดสินใจหรือแรงผลักดันผ่านการแข่งครั้งนี้ก็ได้นะ ][ แน่นอน มันว่าเป็นภาระที่หนักมากเลยล่ะ ก็เพราะเป็นเรื่องของชีวิตนี่นะ ]อายาโนะหัวเราะขณะพูดแบบนั้น[ นายพูดเหมือนเป็นปัญหาของคนอื่นเลยนะ ][ อย่าจริงจังเกินไปเลย สิ่งสำคัญสำหรับเลม่อนคือนายช่วยแบ่งเบาภาระนี้ไปกับเธอ ][…แล้วทำไมนายไม่ใช่คนที่ทำล่ะ? ]อายาโนะยิ้มขำก่อนจะกระทุ้งข้อศอกใส่ผม[ ใครจะรู้ล่ะ ฉันเองก็อิจฉานิดหน่อยนะ ][ เดี๋ยวจะฟ้องอาซากุโมะซังนะ…]นี่ขนาดมีแฟนแล้วนะ อายาโนะหยิบโทรศัพท์ออกมาในขณะที่ผมส่ายหัวอย่างหมดศรัทธา[ พูดถึงจิฮายะ เธอทักมาถามว่านายอยากจะไปดื่มชาด้วยกันมั้ย? เธออยู่ใกล้ๆ นี่เอง ]อ้อ งั้นเหรอ? แต่ผมไม่อยากเป็นตัวเกะกะ งั้นไปก่อนดีกว่า— เดี๋ยวนะ เธออยู่ใกล้ๆ ?[ นายบอกอาซากุโมะซังหรือเปล่าว่ามาที่นี่? ][ เปล่า ฉันแค่บอกว่าจะมาเจอนาย ]อายาโนะพิมพ์ข้อความตอบกลับด้วยท่าทีร่าเริงถ้างั้นเธอรู้ได้ยังไงว่าเราอยู่ที่นี่…? ทำไมนะ…?[ เรื่องแบบนี้เกิดบ่อยมั้ย? ]ผมถามเบาๆ[ เรื่องแบบไหน? ][ อย่างเช่น นายบังเอิญเจอยากิชิโอะหรือสาวๆ คนอื่นระหว่างทางไปโรงเรียนหรือในห้องเรียน แล้วอาซากุโมะซังส่งข้อความหานายได้จังหวะพอดีตอนนายกำลังคุยกับพวกเธอ…? ]อายาโนะหยุดพิมพ์[ พอคิดดูแล้ว เรื่องแบบนี้ก็เกิดบ่อยเหมือนกันนะ สงสัยจังว่าทำไม ]อย่างนี้นี่เอง อาซากุโมะซังเธอคงจะ…[ อายาโนะ อย่าโกรธนะ แต่อาซากุโมะซังอาจจะติดเครื่องดักฟัง— ]อายาโนะตัดบทผมด้วยการตบไหล่พร้อมยิ้มสดใส[ ใช่เลย จิฮายะกับฉันน่ะ… ][ …ถูกลิขิตมาเพื่อกันและกันค่ะ ]เสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง ผมหันไปมองและพบหน้าผากประกายแวววาวกับรอยยิ้มสดใส นั่นคือ อาซากุโมะ จิฮายะผมยิ้มตอบและรีบหาทางชิ่งออกจากที่นั่นหลังจากทักทายอย่างรวดเร็ว◇ยานามิกับผมกำลังดูการซ้อมของชมรมกรีฑาในบ่ายวันจันทร์หลังวันหยุดสุดสัปดาห์หลังจากวอร์มอัพเสร็จ สมาชิกทีมก็แยกย้ายกันไปฝึกซ้อมในประเภทของตัวเองตามคาด ยากิชิโอะไม่อยู่ที่นี่[ เฮ้ นั่นการฝึกวิ่งระยะสั้นใช่มั้ย? ดูเหมือนพวกเขากำลังฝึกความแข็งแรงอยู่นะ ]ยานามิเพ่งตามองกลุ่มคนที่อยู่อีกฟากหนึ่งของสนาม[ ใช่ ดูต่างจากสไตล์ของยากิชิโอะมาก แบบนี้แหละที่เรียกว่าการฝึกซ้อมจริงๆ ]แน่นอนว่าผมไม่ได้อู้งาน การรวบรวมข้อมูลก็เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน ไม่ใช่เพราะขาผมปวดจนยืนไม่ไหวแน่นอน จริงๆ นะ[ ให้ฉันลองถามเพื่อนในชมรมกรีฑาให้มั้ย? ]ยานามิพูดขณะเปิดบางอย่างที่ยาวและบางในมือ[ เธอเล่นกระโดดสูงน่ะ นายอาจจะกระโดดได้ 30 เมตรจากพื้นเลยก็ได้นะ นุคุมิซึคุง ][ ไม่หรอก… ]…ผมแทบไม่ได้ฟังที่ยานามิพูดเลยเพราะสิ่งที่เธอกำลังเปิดออกมาคือโยกังแท่งยาวเต็มมือ(ขนมญี่ปุ่นที่ทำจากวุ้นและถั่วแดงบด)เธอกำลังแกะมันออกเหมือนแกะกล้วย อย่าบอกนะว่าเธอจะกินมันทั้งแท่งแบบนั้น…[ นุคุมิซึคุง ฉันว่ามันน่าจะเหมาะกับนายนะ นายตัวเบานิ ]งั่ม เธอกินมันเข้าไปจริงๆ[ จริงดิ…!? ][ อะไร? แปลกใจที่รู้ว่าฉันมีเพื่อนในชมรมกรีฑาเหรอ? ][ เปล่า แปลกใจที่เธอกินโยกังทั้งแท่งต่างหาก ][ มีร้านขนมที่ขายโกฟุกุอยู่แถวนี้ใช่มั้ยล่ะ ? ฉันเพิ่งได้โยกังแท่งนี้มาจากที่นั่นแหละ ]งั่ม เธอกัดอีกคำ ผมไม่ได้ถามว่ามันมาจากไหน…[ เธอไม่ได้เพิ่งเริ่มไดเอทเหรอ? กินทั้งแท่งแบบนี้จะไหวเหรอ? ]ผมพยายามห้ามพฤติกรรมแปลกๆ ของยานามิ แต่เธอกลับยิ้มอย่างภูมิใจตอบกลับมา[ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันไปซ้อมกับนายมาใช่มั้ย ? นั่นก็เหมือนฉันซ้อมไปด้วยแล้ว ไดเอทของฉันเลยไม่มีปัญหาอะไร ]เหมือนในเกมที่ถ้าคนในปาร์ตี้คนหนึ่งเอาชนะศัตรูได้ทุกคนก็จะได้ค่าEXPร่วมกันงั้นแคลอรี่จากโยกังของยานามิก็นับรวมกับผมด้วยหรือเปล่า? แบบนี้ผมอาจจะต้องเตะเธอออกจากปาร์ตี้แล้วล่ะพวกเรายังคงดูการซ้อมของชมรมกรีฑา โดยมีเสียงกินโยกังเป็นดนตรีประกอบดูเหมือนว่าการวิ่ง 100 เมตรจะไม่ได้เป็นแค่การวิ่งตะบี้ตะบัน พวกเขาตรวจสอบท่าวิ่ง เปลี่ยนจังหวะการวิ่งในระยะสั้น และมีเมนูการฝึกซ้อมที่หลากหลายกว่าที่ฉันจินตนาการไว้มากหลังจากสังเกตการณ์มาสักพัก ผมก็ปิดสมุดจดบันทึกเนื้อหาการฝึกซ้อม[ ได้ข้อมูลมาพอสมควรเลย… เอ๊ะ ยานามิซัง เป็นอะไรหรือเปล่า? ]ยานามิหน้าซีด เธอยืนนิ่งอยู่กับที่[ ไม่เป็นอะไรแน่นะ? สีหน้าดูไม่ดีเลย ][ …ไม่ได้แย่ขนาดนั้น จริงๆ นายควรบอกว่าหน้าฉันเหมือนสายรุ้งต่างหาก ]อาการแบบนี้คงต้องให้ไปโรงพยาบาลแล้วยานามิเอามือปิดปาก ก่อนจะยื่นโยกังที่เหลืออยู่ให้ผม[ …ฉันยกนี่ให้นาย นุคุมิซึคุง ]นี่ ผมไม่ได้อยากได้นะ มันมีรอยกัดด้วย อีกอย่าง ถ้ายานามิกินไม่หมด มันต้องแย่มากแน่ๆ[ ให้พาไปห้องพยาบาลมั้ย? หรือจะให้เรียกรถพยาบาล? ]ยานามิส่ายหน้าแรงๆ ตอบกลับความเป็นห่วงของผม[ ไม่เป็นไร แค่ต้องการชาสักหน่อย…แบบอู่หลงดำ ]ชาอู่หลงดำไม่ใช่ยาวิเศษนะ[ เข้าใจแล้ว จะไปซื้อให้ รออยู่ตรงนี้แหละ ][ เดี๋ยวก่อน นุคุมิซึคุง! ]ยานามิเรียกผมเสียงดังขณะผมกำลังจะวิ่งไป[ มีอะไรเหรอ? ถ้าจะอ้วก ใช้ขวดพลาสติกตรงนั้นก็ได้— ][ คือว่า เก็บโยกังที่เหลือไว้ให้หน่อย เดี๋ยวฉันจะกลับมากินต่อ ]ดูเหมือนเธอจะไม่เป็นอะไรมากแบบที่คิด ผมพยักหน้าแล้วมุ่งหน้าไปที่ตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติ◇ยานามิมีอาการไม่สบายหลังจากกินโยกังทั้งแท่งนี่คือ “การค้นพบ” สำคัญสำหรับวันนี้ผมหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาตรงหน้าตู้ขายเครื่องดื่ม แล้วเริ่มเลือกดูตัวเลือกที่มี[ อืม… อู่หลงดำแพงแฮะ เอาเป็นชาเขียวก็พอ…] กึก ผมหยิบชาเขียวจากตู้ขายเครื่องดื่ม แล้วทันใดนั้น—[ อ้าว นุคุมิซึคุง อยู่ตรงนี้เองเหรอ ]ผมได้ยินเสียงคุ้นเคยจากข้างหลังเมื่อหันไป ฉันก็เห็นเด็กสาวผมหางม้าพร้อมรอยยิ้มสดใส เธอคือกัปตันคุราตะจากชมรมกรีฑาหญิง[ อ๊ะ สวัสดีครับ ] [ ได้ยินมาว่านายจะแข่งกับเลม่อนใช่มั้ย ? ฉันช่วยได้นะ ][ รู้ได้ยังไงครับ? ]กัปตันคุราตะยิ้มและขำเล็กน้อย[ บอกแหล่งข่าวไม่ได้หรอก มันมีค่าถึงสองโยกังเลยนะ ]โอเครู้แหล่งข่าวแล้ว โยกังที่ยานามิกินไปต้องเป็นแท่งที่สอง ไม่แปลกใจเลยที่เธอรู้สึกไม่สบาย[ อย่าบอกคนอื่นนะครับ เอาล่ะ ผมต้องรีบไปแล้ว เจอกันครับ ]ตอนที่ผมพยายามเดินออกมาพร้อมชา กัปตันคุราตะก็คว้าแขนผมไว้[ หา? เดี๋ยวก่อน ฉันไม่ได้บอกเหรอว่าฉันจะช่วยนาย? ]…จริงสิ เธอพูดไว้อย่างนั้น แต่สมองผมอาจเลือกจะลืมเพราะมันยุ่งยากเกินไป[ ก็พูดไว้อยู่ เอ่อ หมายถึงช่วยยังไง ? ][ นายต้องชนะเลม่อนในการวิ่ง 100 เมตรใช่มั้ย? ฉันมีประสบการณ์วิ่งระยะสั้นอยู่ คิดว่าจะช่วยฝึกให้นายได้ ]หา? เธออาสาสอนวิ่งงั้นเหรอ? ผมอยากจะขอบคุณเธอ แต่ก็ลังเล[ เอ่อ ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ แต่ผมอยากแก้ปัญหานี้เองมากกว่า ][ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันได้เลย ฉันจะช่วยให้นาย— หา!? นายปฏิเสธเหรอ!? ]เหมือนฉากเตรียมปล่อยมุขเลย คนคนนี้ทำให้ผมรู้สึกหมดพลัง…ผมตอบพลางเกาศีรษะอย่างอึดอัด[ ถ้าผมขอความช่วยเหลือรุ่นพี่ รุ่นพี่ก็จะกลายเป็นศัตรูกับยากิชิโอะสิ แบบนั้นเธอคงไม่อยากกลับมาแน่ๆ ใช่มั้ยล่ะครับ? ][ อืม ก็จริงนะ เลม่อน…คงแคร์เรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ]ดูเหมือนเธอจะเข้าใจ[ เพราะงั้น ผมหวังว่ารุ่นพี่จะช่วยสนับสนุนเธอตอนเธอกลับมานะครับ ผมฝากด้วย ]กัปตันคุราตะพยักหน้า แต่เธอก็ยังจับแขนผมอยู่[ นาย— เอ่อ ใช้คำว่าอะไรดีล่ะ? ใช่ นั่นแหละ ][ หา? อะไรนะ? ]รู้สึกว่าช่วงนี้มีแต่คนพูดแบบนี้กับผม กัปตันคุราตะตบไหล่ผม[ เข้าใจแล้วล่ะ เลม่อนของพวกเราก็เป็น ‘แบบนั้น’ เหมือนกัน ดูแลเธอให้ดีล่ะ ]เธอเดินจากไปหลังจากพูดทิ้งท้ายไว้ เอ๊ะ ยากิชิโอะก็เป็น ‘แบบนั้น’ ด้วยเหรอ?[ แล้ว ‘แบบนั้น’ มันคืออะไร… ]ผมเปิดขวดชาแล้วดื่มอึกใหญ่ชาเขียวเย็นๆ ทำให้ความสงสัยที่คลุมเคลือในใจถูกล้างออกไป พร้อมทั้งทำให้ลำคอสดชื่น…รู้สึกเหมือนลืมอะไรบางอย่างไป แต่ลืมอะไรนะ?[ อ๊ะ นุคุมิซึคุง อยู่ที่นี่เอง ]ผมลืมเธอไปเลยยานามิที่ผมลืมไป ตอนนี้ดูสดใสราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นยานามิหยิบชาเขียวของผมไปโดยไม่ถาม แล้วดื่มครึ่งขวดในรวดเดียว[ เฮ้อ สำหรับคนญี่ปุ่นอย่างพวกเรา ชาเขียวมันดีจริงๆ ][ อ่า งั้นตอนนี้เธอดีขึ้นแล้วเหรอ? ][ อื้ม รู้สึกดีขึ้นมากเลย ครั้งนี้ฉันก็แย่เหมือนกันนะเนี่ย ]ยานามิหัวเราะอย่างร่าเริง[ ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย? ถ้ามีคนเห็นจะรู้สึกแย่เอานะ ][ ฉันทำความสะอาดห้องน้ำไปแล้ว— ไม่ใช่สิ ฉันไม่ได้อ้วกนะ! ]เอาล่ะ ถ้าเธอพูดอย่างนั้น ผมจะไม่ซักไซ้อะไรต่อยานามิจิบชาคำนึง แล้วมองไปทางที่กัปตันคุราตะเดินจากไป[ นี่ เด็กผู้หญิงคนนั้นมาจากชมรมกรีฑาเหรอ? ][ ใช่ เธอคือกัปตันคุราตะ เธออาสาฝึกให้ผม แต่… ]ยานามิเอียงคอเล็กน้อยเมื่อผมพูดไม่จบ[ นายปฏิเสธเธอเหรอ? ][ หา รู้ได้ไง? ]ผมถามด้วยความประหลาดใจ และยานามิก็ยิ้มอย่างพอใจ[ เพราะเป็นนายไง นุคุมิซึคุง นายอยากทำด้วยตัวเองใช่มั้ยล่ะ? ]เปล่าเลย มันไม่ใช่แบบนั้นเลยสักนิด แต่จะคาดหวังอะไรจากยานามิก็คงจะใจร้ายเกินไป[ แค่คิดว่าถ้าขอความช่วยเหลือจากชมรมกรีฑาอาจไม่ใช่ความคิดที่ดี ก็แค่นั้นแหละ ]— ยากิชิโอะไม่ได้ไปปรึกษาเพื่อนในชมรมกรีฑาหรือยานามิ แต่กลับมาปรึกษาผมเหตุผลที่ผมถูกเลือก อาจเป็นสิ่งที่ยากิชิโอะเองก็คงไม่เข้าใจเหมือนกับคนอื่นๆมันเป็นเพียงความบังเอิญที่ผมอยู่ปลายทางของความรู้สึกที่เธอพยายามไขว่คว้าเท่านั้นยานามิจ้องหน้าผมอย่างตั้งใจ[ อะไร จ้องหน้าผมทำไม? ][ ก็รู้นี่นา ]ยานามิกระซิบพร้อมรอยยิ้ม[ นายยังมีโยกังเหลืออยู่ใช่มั้ย? ]ผมยื่นซองโยกังที่เหลือให้เธอโดยไม่พูดอะไร ยานามิรับไปพร้อมรอยยิ้มสดใส
MANGA DISCUSSION