วันนี้ผมไม่ได้เข้าชมรม….คือว่าผมส่งข้อความไปยังกลุ่มแชทของชมรมวรรณกรรมก่อนจะเอนตัวจมลงไปในเบาะรถไฟหลังจากเหตุการณ์เมื่อวานที่เหมือนการไต่สวน ผมก็ตรงไปขึ้นรถไฟทันทีหลังเลิกเรียนโดยไม่แวะที่ห้องชมรมอย่าเข้าใจผิดล่ะ ไม่ได้หนีปัญหาหรืออะไรเลย ผมพยายามจะพูดกับยากิชิโอะแล้ว แต่สุดท้ายก็คลาดสายตาไป[ นึกว่าเธอขึ้นรถไฟขบวนนี้แล้วนะ… ]ขณะที่พยายามมองหายากิชิโอะ ประตูรถไฟก็ปิดลง พร้อมกับการสั่นเบาๆ ของรถไฟที่เริ่มเคลื่อนตัวรถไฟดูโล่งผิดปกติ ทำให้ผมสามารถนั่งตรงกลางที่นั่งยาวได้อย่างสบายๆ[ …เอาเถอะ ถ้าคลาดไปแล้วก็ช่วยไม่ได้ ]เมื่อมีเวลาว่างกว่าที่คาด ผมหยิบหนังสือเล่มเล็กออกมาจากกระเป๋าหนังสือเล่มนี้คือ <101 คนที่ย้ายโรงเรียนมาเล็งเป้ามาที่ผม> หรือชื่อย่อว่า < ZeroTen> ผมอ่านเล่มล่าสุดไปได้ครึ่งหนึ่งแล้วมันเป็นนิยายเลิฟคอมเมดี้เกี่ยวกับตัวเอกที่ต้องรับมือกับสาวสวยคนใหม่ที่ย้ายโรงเรียนมาเข้าหาเขาติดต่อกันถึง 101 วัน เนื้อเรื่องขึ้นชื่อเรื่องการแนะนำตัวละครที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละเล่มพูดถึงเล่มที่แล้ว มีนักเรียนย้ายเข้ามาใหม่ 27 คน และ 18 คนก็ออกจากโรงเรียนไปแล้วตัวละครที่หมดบทบาทก็จะค่อยๆ หายไป แต่พวกเขายังคงใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป เริ่มต้นวันใหม่ ไปโรงเรียน อ่านหนังสือ เล่นกับเพื่อน และบางครั้งก็ตกหลุมรักผมพยายามอ่านหนังสือ แต่ก็ไม่สามารถตั้งสมาธิได้ จึงปิดหนังสือลงยากิชิโอะเป็นดาวรุ่งของชมรมกรีฑา ถ้าเธอลงจากเวทีนี้แล้วจะมีบทบาทอะไรต่อไปกันนะ?ไม่ว่าจะเป็นอะไร เธอคงเผชิญหน้ามันด้วยรอยยิ้มสดใสราวกับแสงแดดฤดูร้อน…ระหว่างที่ผมจมอยู่ในความคิด มีใครบางคนมานั่งข้างๆรถไฟคงเริ่มแน่นขึ้นโดยไม่ทันสังเกตเหรอ ? ผมยกกระเป๋าขึ้นวางบนตักก่อนมองไปรอบๆ แต่รถไฟก็ยังคงโล่งอยู่…อะไรน่ะ?ผมหันไปมองคนข้างๆ พบว่าเป็นเด็กนักเรียนจากโรงเรียนซึวะบุกิที่ไม่คุ้นหน้า เธอกอดกระเป๋าไว้แน่นพลางพึมพำอะไรบางอย่างเบาๆ ดูน่าขนลุกผมลุกขึ้นย้ายไปนั่งที่อีกตู้รถไฟอย่างเงียบๆ…อะไรของเธอกัน?ผมเคยได้ยินเรื่องคนที่ชอบนั่งที่ประจำ แล้วรู้สึกกระวนกระวายถ้ามีใครมานั่งแทน บางทีที่นั่งที่ผมเลือกอาจจะเป็นที่ประจำของเธอก็ได้ ถือว่าได้ทำความดีแล้วกันเมื่อคิดได้แบบนั้น ผมก็รู้สึกพอใจ แต่ไม่นานก็มีคนมานั่งข้างๆผมอีกคราวนี้ก็เป็นผู้หญิงคนเดิมที่พึมพำอยู่ข้างๆ ผมอีกครั้งน่ากลัวจริงๆ หรือว่าเธอเป็นวิญญาณที่มีแต่ผมมองเห็นกันแน่?ขณะที่กำลังตกใจ รถไฟก็เริ่มชะลอความเร็ว เรามาถึงสถานีชินโทโยฮาชิ ซึ่งเป็นปลายทางของสายอัตสึมิผมลงจากรถไฟพร้อมกับผู้โดยสารคนอื่นๆ แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ยังเดินตามมาใกล้ๆ ผมพยายามเก็บอาการอยากวิ่งหนีเอาไว้ แล้วรีบวิ่งผ่านประตูตรวจตั๋วทันทีที่ออกมาผมเป็นผู้ชาย เธอไม่น่าจะวิ่งตามทัน-[ เดี๋ยวก่อน! ]เธอตามผมทันอย่างรวดเร็ว เด็กสาวลึกลับจับแขนผมไว้ที่ลานทางใต้ใกล้สถานี[ ต้องการอะไร!? ผมไม่มีเงินหรอกนะ! ]เธอตะโกนลั่นในขณะที่ยังจับแขนผมอยู่[ ชา! ไปดื่มชากันเถอะ! ][ …หา? ]นี่มันเข้าข่ายการจีบแบบกลับด้านหรือเปล่า? ฉากคลาสสิกในนิยายโรแมนติกที่ผู้หญิงเข้ามาชวนผู้ชายแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ทำไมมันถึงต่างกันแบบนี้ล่ะ?[ ผมมีขวดน้ำอยู่แล้ว ไม่เป็นไรหรอก! ปล่อยผมไปเถอะ! ]ผมพยายามดึงตัวออกสุดกำลัง แต่สุดท้ายกลับโดนเธอลากไปแทน[ แค่ไปดื่มชาเอง! ฉันไม่ทำอะไรหรอก แค่อยู่เป็นเพื่อนกันสักพักก็พอ! ]นี่มันความรู้สึกที่ตัวเอกในนิยายโรแมนติกต้องเผชิญหรือเปล่า น่ากลัวเกินไปแล้ว ต่อไปนี้ผมจะอ่านแต่แนวต่างโลกเท่านั้นสุดท้าย ผมก็พยักหน้ารับอย่างจำนน พร้อมกับยอมรับชะตากรรมของตัวเอง…◇ผมถูกเด็กสาวปริศนาจากโรงเรียนซึวะบุกิจับไว้ที่ลานใต้ของสถานีโทโยฮาชิเรานั่งตรงข้ามกันในร้านกาแฟที่มองออกไปเห็นลานสถานีเหตุผลที่เลือกที่นี่ก็ง่ายมาก—มีสถานีตำรวจอยู่ติดกันผมจิบ “กาแฟประจำวัน” พลางลอบมองเธอด้วยหางตาเธอก้มหน้าอยู่ ทำให้ผมมองหน้าเธอชัดๆ ไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ คือผมไม่รู้จักเธอเธอมีใบหน้าที่เล็กกะทัดรัดและรูปร่างเพรียวบางคล้ายกับนักกีฬาเธอกำลังจิบเครื่องดื่มสตรอว์เบอร์รีกับโยเกิร์ตที่จัดเป็นชั้นๆเครื่องดื่มนี่ดูน่ารักเกินไปสำหรับคนที่หน้าตาเหมือนโจรป่านะ…[ เอ่อ… เราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าครับ? ]เด็กสาวโจรป่าสะดุ้งเฮือก[ น-นุคุมิซึชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอ!? ]คำถามช่างกะทันหัน และเธอรู้จักชื่อผมได้ยังไง?โจรป่าสาวเงยหน้าขึ้นมาครั้งแรกขณะที่ผมยังนั่งอึ้งอยู่ดวงตากลมโตของเธอคลอไปด้วยน้ำตา และริมฝีปากของเธอดูซีดเล็กน้อย[ ฉันถามว่าชอบผู้หญิงแบบไหน… ]ยังไม่พ้นเรื่องนี้อีกเหรอ ดูยังไงเธอก็ไม่ได้สนใจคำตอบของผมหรอก[ เอ่อ… ในเมื่อรู้จักชื่อผมแล้ว มีอะไรต้องการจากผมหรือเปล่าครับ? หรือว่ามีใครส่งคุณมา? ]ใช่เลย ถ้าเธอคิดจะกลั่นแกล้งผม ผมจะลากเธอไปสถานีตำรวจเดี๋ยวนี้ถ้าเป็นแค่การล้อเล่น—ตรงไปสถานีตำรวจซะ จงสรรเสริญสถานีตำรวจเด็กสาวที่เหมือนจะชะงักไปกับคำพูดของผม จู่ๆ ก็พูดเสียงดังพลางมองไปรอบๆ[ เห็นมั้ยล่ะ! ฉันบอกแล้วไงว่าฉันจีบเขาไม่ได้! ]ผมกำลังโดนจีบเหรอ? แล้วเธอพูดกับใครกันเมื่อกี้? ขณะที่ผมกำลังสงสัย ผู้คนราวสิบคนที่นั่งรอบๆ ก็ลุกขึ้นพร้อมกันอย่างกระตือรือร้น[ สู้ๆนะ กัปตัน! ] [ เขาเกือบจะติดกับแล้ว! ] [ แค่กระตุ้นอีกนิดเดียว! ]..เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย ?ขณะที่ผมยังอึ้ง เด็กสาวที่พวกเขาเรียกว่ากัปตันเกาหัวพลางส่งยิ้มแหยๆ[ ขอโทษนะ นุคุมิซึ ทุกคนตามฉันมาด้วย ][ …เอ่อ แล้วคุณคือ? ][ อ๋า ฉันรู้เลยว่าเธอจำฉันไม่ได้ รอแปปนะ ]เธอรีบรวบผมขึ้นเป็นหางม้าและติดกิ๊บยึดผมหน้าม้าไว้ ทำให้เธอดูสดใสและกระฉับกระเฉงขึ้นมาทันที[ แบบนี้จำฉันได้แล้วใช่มั้ย? ]ใคร ? ผมยังคงงุนงง ส่วนเด็กสาวหางม้าก็ยิ้มแหยหนักขึ้น[ เอาน่า เราเคยเจอกันในการประชุมประธานชมรม ฉันอยู่ชมรมกรีฑาหญิงชื่อคุราตะไง ]อ๋อ กัปตันปีสองของชมรมกรีฑาหญิง เคยเข้ามาทักผมบ้างอยู่สองสามครั้ง[ ไม่ได้เจอกันนานนะ แล้วพวกคนอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ… ]พวกสาวๆ พร้อมใจกันยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปผม[ อ่า นี่คือสมาชิกชมรมที่มารอจับตาคุณนอกใจน่ะ ][ …นอกใจ? หมายถึงอะไร? ]สาวๆ ชมรมกรีฑามองหน้ากัน ก่อนจะก้มโค้งพร้อมกัน[ ช่วยเลิกกับเลม่อนทีค่ะ! ]อะไรนะ!? เสียงของพวกเธอดังก้องไปทั่วร้านกลุ่มสาวๆ มาก้มให้ผมในร้านกาแฟใกล้สถานีตำรวจขนาดนี้…[ ช่วยเงยหน้าขึ้นเถอะ ! ก่อนจะพูดเรื่องเลิกกัน ยากิชิโอะกับผมยังไม่ได้คบกันเลยด้วยซ้ำ ]สาวๆ ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาเมื่อได้ยินคำตอบของผมดูเหมือนจะเข้าใจแล้ว? แต่ความโล่งอกของผมอยู่ได้ไม่นาน สาวๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างที่ฟังดูไม่ดี[ เล่นๆ เหรอ…] [ แย่ไปแล้ว] [ เหมือนแฟนเก่าของซาโตโกะเลย ] [ แต่ยังไม่ได้เป็นแฟนเก่ากันนี่? ]แย่ล่ะ ข่าวลือที่ไม่มีมูลกำลังวนเวียน ซ้ำยังได้ยินว่าซาโตโกะมีแฟนเก่าที่แย่สุดๆผมพยายามมองหาคนช่วย แต่ดันสบตากับกัปตันคุราตะที่มองผมอย่างจริงจัง[ พวกคุณสองคน—เล่นๆ กันอยู่เหรอ? ][ ไม่ใช่นะ ! ความสัมพันธ์ของเราไม่ใช่แบบนั้น! เราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น ]สาวๆ ในชมรมเงียบลงความตึงเครียดเพิ่มขึ้นจนเหมือนจะระเบิด แต่กัปตันคุราตะยกมือขึ้นเพื่อสงบทุกคน[ เชื่อได้มั้ย? ]จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ถึงผมกับยากิชิโอะจะเคยจับมือกัน แต่นั่นไม่ได้มีความหมายโรแมนติกเลยผมพยักหน้าอย่างหนักแน่น และกัปตันคุราตะก็ตอบด้วยการพยักหน้ากลับ[ ทุกคน นั่งลงเถอะ พวกเรารบกวนลูกค้าคนอื่นแล้ว ]แม้ว่าสาวๆ จะดูไม่ค่อยพอใจ แต่พวกเธอก็กลับไปที่ที่นั่งและเริ่มจิบเครื่องดื่มน่ารักๆ กันอีกครั้งกัปตันคุราตะละสายตาจากหลอดแล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงสงบ[ เลม่อนจังมีโอกาสที่จะได้แข่งอินเตอร์ไฮปีนี้ ถ้าเธอยังรักษาฟอร์มไว้ได้ มันสำคัญต่อการแนะนำตัวเพื่อเข้ามหาวิทยาลัย และพวกเราทุกคนสนับสนุนเธอ ]เธอมองเพื่อนร่วมทีมก่อนจะพูดต่อ[ พวกเราไม่ได้ขัดขวางที่เธออยู่ทั้งในชมรมวรรณกรรมและกรีฑา เพราะนั่นคือสิ่งที่เธอต้องการ แต่ถ้าคุณพยายามจะพาเธอออกจากเส้นทางจริงๆ เราไม่สามารถนิ่งดูดายได้ ][ เอ๊ะ? ผมไม่ได้พาเธอออกไปไหนเลยนะ- ]กัปตันคุราตะส่ายหน้าและพูดแทรก[ ชมรมเรามีนโยบายให้ฝึกเดี่ยวได้เมื่อขออนุญาต และเลม่อนจังก็ขอฝึกเดี่ยวไปช่วงหนึ่งแล้ว และอีกอย่าง— ]กัปตันคุราตะยิ้ม โดยที่มีชิ้นสตรอว์เบอร์รีติดอยู่ตรงริมฝีปาก[ ฉันได้ยินมาว่าบรรยากาศในชั้น 1-C ของเลม่อนจังกับใครบางคนดูแปลกๆ จริงมั้ย? ]เธอรู้เรื่องนี้ด้วย ผมมองไปรอบๆ พบว่ามีบางคนในชั้นของผมอยู่แถวนี้เหมือนกันดูเหมือนจะเลี่ยงตอบคำถามไม่ได้ แต่จะพูดเรื่องนี้ในที่สาธารณะ…ผมจิบกาแฟเย็นที่เหลือแล้ววางถ้วยลงบนจานรอง[ …รุ่นพี่ เราไปคุยกันสองคนได้มั้ย ? ][ เอ๊ะ แค่ฉันกับนายเหรอ? ]กัปตันคุราตะอึ้งไปทันที[ ผมอยากคุยกับตามลำพัง ในที่เงียบๆ หน่อย ถ้าเป็นไปได้ ][ …อ-อืม ถ้าแค่สักพัก ก็ได้ ]กัปตันคุราตะเริ่มหยิบมือถือมาดูอย่างกระสับกระส่าย และหลบสายตาผม[ คาลเมียมีร้านคาเฟ่ที่ดังเรื่องขนมมัทฉะ ถ้าเดินไปหน่อยก็มีคาราโอเกะ …อ้อ นายชอบดูหนังมั้ย? ช่วงนี้มีเทศกาลหนังสโลว์ทาวน์นะ ]…เดี๋ยว นี่เธอพูดอะไรอยู่? ขณะที่กัปตันคุราตะกำลังจิ้มสมาร์ทโฟน หนึ่งในสมาชิกชมรมกรีฑาก็แตะไหล่เธอ[ ไม่ใช่แบบนั้นนะ คุราจัง เขาแค่บอกว่าอยากคุยเรื่องของชมรมต่างหาก ][ …เอ๊ะ? ]คุราจัง หรือก็คือกัปตันคุราตะ จ้องหน้าผมด้วยความว่างเปล่าก่อนจะมองไปรอบๆสมาชิกชมรมกรีฑาพยายามหลบสายตา ส่วนผมเองก็รู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนกองเข็ม[ เอ่อ… ขอโทษนะ ผมแค่อยากคุยกันนิดหน่อย ][ ช-ช-ช-ใช่! เข้าใจแล้ว! งั้นเราออกไปเดินคุยกันเถอะ! ]กัปตันคุราตะรีบออกจากร้านโดยมีใบหน้าที่แดงก่ำผมวางแก้วกาแฟในที่วางแก้ว และโค้งให้สมาชิกชมรมกรีฑาก่อนจะตามเธอไป…นี่มันน่าอึดอัดจริงๆ
MANGA DISCUSSION