ตอนที่ 183 แม่แย่งผ้าห่มพ่อผมทำไม
“ความลำบากที่ควรได้รับก็ได้รับไปนานแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรกับเธอ” ตาเฒ่าจางมองไปรอบๆ ตอบกลับด้วยน้ำเสียงแฝงความผ่อนคลาย
หลินเจี้ยนเยี่ยมองผมหงอกขาวกับร่างกายที่งองุ้มของเขาแล้วก็ยิ่งทุกข์ใจ “คุณวางใจได้ พวกเราจะระวังแน่นอน”
ผู้เฒ่าจางถอนหายใจเบาๆ “ไม่ใช่เพราะฉันไม่อยากให้เธอมา แต่สถานะฉันมันพิเศษ ถ้าไอ้พวกสุนัขนั่นได้กลิ่นขึ้นมาจริงๆ เกรงว่าแม้แต่เธอก็จะเดือดร้อนไปด้วย”
“เธอกับฉันไม่เหมือนกัน ตอนนี้ฉันมันตัวคนเดียว เขาคิดจะทำยังไงกับฉันก็ได้หมด แต่เธอไม่ได้ เธอมีเมียมีลูก อาจารย์ดึงเธอมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้”
หลินเจี้ยนเยี่ยนิ่งเงียบสักพักแล้วพูดกับผู้เฒ่าจางว่า “อาจารย์พูดสายไปแล้ว ผมลงเรือลำนี้ไปแล้ว”
ผู้เฒ่าจางตะลึงงัน “ไอ้หมอนี่!”
“เธอหนีไปตั้งไกลแล้ว ยังจะกลับมากวนน้ำให้ขุ่นทำไม”
หลินเจี้ยนเยี่ยยิ้มให้ผู้เฒ่าจาง “ไม่มีทางเลือกนี่ อาจารย์กับรุ่นพี่อยู่ในน้ำกันหมด ผมเองก็เอาตัวออกห่างไม่ได้”
“คุณวางใจได้ ผมรู้ว่ามีคนจับตามองผมเยอะ ต่อไปนี้ผมคงมาไม่ได้ คนรักผมเป็นนักบัญชีในหมู่บ้าน การดูแลเวรยามฝั่งคุณอยู่ในหน้าที่ที่หล่อนเข้าร่วมทั้งหมด มีเรื่องอะไรคุณก็บอกหล่อนตรงๆได้เลย ไม่โดนคนสงสัยหรอก”
ผู้เฒ่าจางฟังจบก็ไม่ได้ปฏิเสธ สองสามปีมานี้เขาถูกคนตรวจสอบ ถูกคุมขัง สภาพจิตใจพังทลายไปตั้งนานแล้ว ในใจโหยหาความเป็นห่วงจากคนในครอบครัวมาก
ทั้งสองคนพูดคุยกันอีก ก็เห็นเวลาล่วงเลยแล้ว หลินเจี้ยนเยี่ยถึงได้จากไป กลับไปก็เห็นผ้าห่มที่เดิมทีวางไว้ด้านข้าง เวลานี้กลับถูกภรรยาเขาห่มอย่างแน่นหนา ด้านข้างมีเพียงพื้นที่ว่างเปล่า
หลินเจี้ยนเยี่ยถอดเสื้อผ้าเสร็จ ก็นอนที่ว่างบนเตียง ยื่นมือออกไปดึงผ้าห่มอย่างระมัดระวัง พึ่งจะดึงมุมหนึ่ง ผ่าห่มก็ถูกดึงกลับไป จะลองสักกี่ครั้งก็ไม่สำเร็จ
สุดท้ายยังทำภรรยาหัวเสีย ด่าเขาอย่างโกรธเคือง “ผ้าห่มของฉัน คุณจะแย่งไปทำไมอีก”
หลินเจี้ยนเยี่ย…..
นี่มันคือผ้าห่มของเขาชัดๆเลยไม่ใช่หรือไง
“ภรรยา?” หลินเจี้ยนเยี่ยตะโกนถามอย่างไม่ยอมแพ้
ใครจะรู้ว่าคนที่ยึดเอาผ้าห่มเขาไปไม่แม้แต่จะตอบรับเขา เมื่อไร้หนทาง หลินเจี้ยนเยี่ยจึงได้แต่ยืนขึ้น หอบหมอนไปด้านข้าง เห็นหลินเซียวที่นอนก้นกระดก ก็ฟาดลงไปอย่างไม่เกรงใจ “ไป ไปนอนกับน้องชายลูกไป”
หลินเซียวผู้น่าสงสารที่กำลังนอนฝันหวานถูกพ่อเขาตีอย่างไร้ปรานี เขาที่กำลังห่อตัวในผ้าห่มถามอย่างงุนงง “พ่อ พ่อมาได้ไง?”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ผ้าห่มโดนแม่ลูกแย่งไปแล้ว พ่อไม่มีห่ม ลูกไปหาน้องชายลูก เอาผืนนี้มาให้พ่อ”
แม้หลินเซียวจะอยากตอบไปสักประโยคอย่างมั่นใจว่า “ไม่ไป” แต่จะทำเช่นไรได้ในเมื่อกำลังไม่พอ จึงทำได้แค่โยนผ้าห่มทิ้งไปหาหลินฟาน โชคดีที่หลินฟานนอนหลับอย่างว่าง่าย หลินเซียวเลยแง้มผ้าห่มมุดลงไปได้
หลินเจี้ยนเยี่ยนอนที่ที่หลินเซียวนอน พอได้กลิ่นเท้าของเด็กสองคนก็อย่าว่าแต่จะรู้สึกหดหู่เลย ดีไม่ดีเขาอาจจะสลบเลยก็ได้
ตอนที่หลินเจี้ยนเยี่ยกำลังอารมณ์บูดอย่างมาก ก็เห็นหลินเซียวที่จู่ๆ พลิกตัวมา ทำให้หลินฟานที่อยู่ด้านข้างโดนเปิดโปงจนว่างเปล่า
หลินเจี้ยนเยี่ยปีนขึ้นมาจ้องหลินเซียวเขม็ง ก่อนเอื้อมมือไปกอดหลินฟาน สองพ่อลูกผู้น่าสงสารห่มผ้าแล้วหลับไปคืนหนึ่งทั้งอย่างนี้
คืนนี้ทั้งคืนหลินเจี้ยนเยี่ยนอนหลับไม่สนิท ตอนตื่นมาก็เจอหลินเจี้ยนจวินออกมาจากห้องด้านข้างพอดี
หลินเจี้ยนจวินถามอย่างแปลกใจ “พี่สาม พี่ไปหาเรื่องพี่สะใภ้แล้ว?”
หลินเจี้ยนเยี่ย “เปล่า อย่าเดามั่ว”
หลินเจี้ยนจวิน “ไม่ได้หาเรื่องพี่สะใภ้แล้วทำไมพี่ไม่นอนในห้อง พี่ต้องไปหาเรื่องพี่สะใภ้แน่ๆ”
หลินเจี้ยนเยี่ยมองหลินเจี้ยนจวินที่ซักไซ้จะให้ตนพูดให้ได้ จึงตำหนิด้วยใบหน้าบึ้งตึง “หาเรื่องพี่สะใภ้นายแล้วทำไม นายยังจะต่อยฉันได้?”
หลินเจี้ยนจวินมองหลินเจี้ยนเยี่ยตอบอย่างหนักแน่นว่า “ได้”
พี่ชาย พี่สะใภ้ในความคิดเขาสำคัญเหมือนกัน แต่เพราะพี่เป็นผู้ชาย พี่สะใภ้เลยสำคัญกว่านิดหน่อย ถึงอย่างไรคนที่พาหลุดพ้นจากทะเลแห่งความทุกข์ตรมในตอนแรกได้ก็คือพี่สะใภ้ มาถึงเรื่องนี้ไม่ต้องคิดอะไรมากเลยว่าคนที่เขาต้องดูแลก็คือพี่สะใภ้
เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ปกปิดล้วนเป็นของที่พี่สะใภ้เขาซื้อให้ เมื่อวานเข้าเมืองไปเจอคนหมู่บ้านเดียวกัน พวกเขาจำเขาแทบไม่ได้ บอกว่าตอนนี้เขาแต่งตัวอย่างกับหนุ่มในเมือง ไม่ใช่เหมือนชายผอมแห้งอย่างหนุ่มเสเพลที่สวมใส่เสื้อผ้าปะชุน
หลินเจี้ยนเยี่ยฟังจบก็หมดคำจะพูด “พี่สะใภ้นายใส่อะไรในน้ำให้กินล่ะ?”
หลินเจี้ยนจวิน “พี่สะใภ้เอาน้ำให้ฉันตั้งเยอะแยะ ผมจะไปรู้ได้ไง? พี่บอกมาสิว่าไปหาเรื่องพี่สะใภ้แล้ว?”
หลินเจี้ยนเยี่ยเห็นเขายังถามไม่จบไม่สิ้นก็ตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์ “ไม่ได้หาเรื่อง ถ้านายไม่เชื่อก็รอหล่อนตื่นแล้วไปถามเอา”
หลินเจี้ยนจวินเห็นพี่ชายเขาพูดแบบนี้ถึงได้วางใจ ถือเชือกจากห้องเก็บของเดินออกไปด้านนอก หลินเจี้ยนเยี่ย “นายจะไปทำอะไร”
หลินเจี้ยนจวิน “ผมจะไปเก็บฟืนสักหน่อย”
ตอนที่สวี่ม่ายซุ่ยเดินหาวออกมาจากห้อง ก็เห็นทั้งสามคนบนโต๊ะมองเธอด้วยสีหน้าขมขื่น “พวกคุณมองฉันขนาดนี้ทำไม?”
สวี่ม่ายซุ่ยยังนึกว่าบนหน้ามีอะไรติดเลยใช้มือเช็ด ก็ได้ยินหลินเซียวพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “เมื่อคืนแม่แย่งผ้าห่มพ่อผมทำไม?”
สวี่ม่ายซุ่ยตะลึงงัน “แม่แย่งผ้าห่มเขาเหรอ?”
หลินเซียว “พ่อบอกว่าแม่แย่ง”
สวี่ม่ายซุ่ย “ลูกรู้เปล่าว่าลูกเองก็แย่งผ้าห่มหลินฟาน?”
หลินเซียวส่ายหัว “ไม่รู้”
สวี่ม่ายซุ่ย “แล้วลูกยังจะถามแม่อีกนะ”
“ลูกจะปิดเทอมช่วงสองสามวันนี้ใช่หรือเปล่า?”
หลินเซียว “อืม”
“ลูกตั้งใจสอบ สอบเสร็จแม่จะพาพวกลูกไปค้างบ้านยายสองสามวัน” สวี่ม่ายซุ่ยพูดพลางเดินไปด้านนอก
หลินเซียวได้ฟังจึงถามเสียงสูง “แม่~แม่พูดจริงเหรอ?”
สวี่ม่ายซุ่ย “อืม”
หลินเซียวได้ฟังก็กระโดดลงมาจากเก้าอีทันที หยิบกระเป๋าข้างโต๊ะขึ้นมาสะพาย หยิบต้านปิ่งขึ้นมาวิ่งไปด้านนอก”
หลินเจี้ยนจวินเห็นก็รีบตะโกน “เธอช้าหน่อย ทำไมไม่กินข้าวเสร็จแล้วค่อยไป?”
หลินเซียว “ไม่กินแล้ว ผมต้องฮึกเหิมเพื่อความสำเร็จ”
สวี่ม่ายซุ่ย….
หลังกินข้าวแล้วหลินเจี้ยนจวินก็พาหลินฟานออกไปสหกรณ์ เพราะต้องไปทำงานที่นั่น หลินเจี้ยนจวินก็เลยจะไปให้เร็วหน่อยเพื่อทำความคุ้นเคย
ด้านสวี่ม่ายซุ่ยล้างจานอยู่บ้านคนเดียว เพิ่งจะหอบผ้าห่มออกมาขึงเชือก หลี่ต้านีก็มาแล้ว “ม่ายซุ่ย”
สวี่ม่ายซุ่ย “อยู่บ้านน่ะ เข้ามาได้เลย”
จากนั้นก็เห็นหลี่ต้านีพาสาวน้อยเข้ามาคนหนึ่ง สาวน้อยพูดคุยกับหลี่ต้านีพอประมาณ ตอนคนที่ทั้งผิวเหลืองซ่านทั้งผอมมองมา สายตาคู่นั้นก็เต็มไปด้วยความขลาดกลัว
“นี่คือเหม่ยฟาง”
หลี่ต้านีพยักหน้า “รีบเรียกอาเร็วเข้า”
“คุณอา” จ้าวเหม่ยฟางมองสวี่ม่ายซุ่ย แล้วทักทายด้วยเสียงแผ่วเบา
สวี่ม่ายซุ่ยพยักหน้า พูดกับหลี่ต้านีว่า “พี่สะใภ้ พวกพี่นั่งก่อน ฉันจะเอาผ้าห่มนี้ไปตาก”
“เธอดูยุ่งเหลือเกินนะ” หลี่ต้านีพูดพลางเดินเข้าไปที่ทางเข้าครัว หยิบเก้าอี้สองตัว ให้ตนหนึ่งตัว ให้ลูกสาวหนึ่งตัว
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
สงสารพี่เยี่ยจังเลย กลับมาก็โดนเมียยึดเตียงยึดผ้าห่ม
ลูกสาวที่พลัดพรากไปของต้านีหรือเปล่าหนอ
ชิวเฟิง
MANGA DISCUSSION