"ตั้งสมาธิ อย่าฟุ้งซ่าน!" อวี่เหวินฮ่าวกัดริมฝีปากของนาง
หยวนชิงหลิงส่งเสียงให้ความร่วมมือ และความคิดของนางค่อยๆถูกพัดปลิวไปด้วยความสุขของร่างกาย หลังจากทบทวนหลังจบภารกิจ อวี่เหวินฮ่าวรู้สึกว่าพักหลังหยวนชิงหลิงไม่ให้ความร่วมมือกับเรื่องบนเตียงนัก
หยวนชิงหลิงรู้สึกว่านางเห็นใจร่างกายของนาง แม้ว่านางจะยังเด็ก แต่นางก็ไม่สามารถหักโหมมันได้
การผจญศึกที่หนักหน่วง และผล็อยหลับไป!
วันรุ่งขึ้น อวี่เหวินฮ่าวถูกเรียกตัวเข้าวังแต่เช้าตรู่
หยวนชิงหลิงรู้ว่าวันนี้เป็นวันตัดสิน ดังนั้นหลังจากกลับจากจวนหวายอ๋องแล้ว นางรออย่างใจจดใจจ่อ
ตอนเที่ยงอวี่เหวินฮ่าวก้าวเข้าไปในบ้าน
หยวนชิงหลิงรีบออกไปต้อนรับและถามอย่างกังวล "เป็นอย่างไรบ้าง หยวนเจี๋ยไม่ถูกตัดสินโทษใช่หรือไม่?"
นางตั้งตารอความโชคร้ายของฉู่หมิงฉุ่ย แต่จริงๆแล้ว นางกังวลเรื่องของหยวนเจี๋ยจริงๆ
อวี่เหวินฮ่าวจับมือนางและพูดว่า "หยวนเจี๋ยมีคุณงามความดี ประทานรางวัลเงินหนึ่งร้อยตำลึง"
หัวใจของหยวนชิงหลิงคลายลงทันที "เช่นนั้นครั้งนี้นับว่าข้าไม่เสียแรง"
"ยิ่งไปกว่านั้น" อวี่เหวินฮ่าวพานางไปนั่งลง มองดูนางและพูดว่า "วันนี้พระชายาฉีอ๋องเข้าวังเพื่อสารภาพผิด และรับผิดชอบเรื่องที่เกิดในประตูเมือง นอกจากนี้ นางไม่ได้ตั้งครรภ์ แต่หมอวินิจฉัยผิด"
"ห๊ะ?" หยวนชิงหลิงไม่คาดคิดว่าฉู่หมิงฉุ่ยจะเข้าวังเพื่อสารภาพผิด น่าแปลกใจจริงๆ "แล้วเสด็จพ่อทรงจัดการอย่างไรเพคะ"
"ก็ไม่ได้ทำอะไร ตำหนินางและสั่งให้นางจ่ายเงินตนเองเพื่อปลอบใจผู้บาดเจ็บ"
หยวนชิงหลิงไม่กล้าถามมากเกินไป รู้สึกพอใจมากแล้ว ท้ายที่สุด ฉู่หมิงฉุ่ยสามารถหลีกเลี่ยงได้
นางพูดว่า "ฉีอ๋องต้องไปพร้อมพระชายาของเขาใช่หรือไม่"
อวี่เหวินฮ่าวส่ายหัว "ไม่ เขาไม่ได้ไปกับนาง พระชายาฉีอ๋องไปด้วยตัวเอง"
หยวนชิงหลิงประหลาดใจอีกครั้ง "เรื่องใหญ่นี้ จอมคลั่งฉีอ๋องที่เอาแต่คอยปกป้องพระชายาไม่ได้ไปกับนางหรือ เป็นไปแล้วหรือ?"
"ข้าก็คิดว่ามันแปลกเหมือนกัน กำลังคิดว่า ข้าควรไปที่จวนฉีอ๋องถามดีหรือไม่" ดวงตาของอวี่เหวินฮ่าวกลอกลงบนใบหน้าของนางและมองดูนางมีความขัดแย้งหรือไม่?
หยวนชิงหลิงกล่าวว่า "ไปสิเพคะ"
ช่างตรงไปตรงมานัก มันต้องมีกับดัก "ช่างเถอะ ไม่มีอะไรน่าไป"
หยวนชิงหลิงกล่าวว่า "ไปเถอะ!"
หยวนชิงหลิงไม่ได้คิดวางแผนใดๆ แค่สงสัยว่าทำไมฉู่หมิงฉุ่ยถึงไปสารภาพผิดด้วยตัวเอง มันยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่ ทำไมฉีอ๋องถึงไม่ไปกับเขา นางไม่สามารถควบคุมไฟอยากรู้อยากเห้นที่โหมกระหน่ำได้
อวี่เหวินฮ่าวหันกลับมา "ไม่ไป!"
ก็บอกว่าไม่ไปแล้ว แต่ยังคงวางกับดัก ช่างดูถูกคนเสียจริง
ในวันรุ่งขึ้นอวี่เหวินฮ่าวกลับไปที่กรม หยวนชิงหลิงไปที่จวนหวายอ๋องก่อนแล้วจึงไปที่จวนซุนอ๋อง
เนื่องจากนับตั้งแต่ซุนอ๋องได้รับบาดเจ็บ เขาไม่เคยไปที่จวนฉู่อ๋องอีก และหยวนชิงหลิงรู้สึกว่านางไร้มารยาทนักที่ไม่ได้ไปเยี่ยมเขา
ข้าไม่รู้ว่าเรื่องที่เขาแต่งชายารองเป็นอย่างไรบ้างแล้ว
ไปที่จวนซุนอ๋อง พระชายาซุนอ๋องออกมาต้อนรับ หยวนชิงหลิงถามว่า "พี่รองล่ะ"
พระชายาซุนอ๋องยิ้มและพูดว่า "วิ่งอยู่ในสวนดอกไม้น่ะ"
หยวนชิงหลิงประหลาดใจ "ลดน้ำหนัก?"
"ใช่แล้ว ตั้งแต่เกิดเหตุ เขาเอาแต่พูดว่าเพราะเขาอ้วน เขาจึงวิ่งไม่ทันในช่วงเวลาวิกฤติ มันช่างน่าอายจริงๆ ดังนั้น เขาจึงกระตือรือร้นขึ้นมา" พระชายาซุนอ๋องพูดด้วยรอยยิ้ม
"เช่นนั้นการถูกลอบสังหารเป็นสิ่งที่ดีสินะ" หยวนชิงหลิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
พระชายาซุนอ๋องไม่มองโลกในแง่ดีนัก "ดูซิว่าจะทนได้สักสองสามวันหรือไม่"
อย่างไรก็ตาม ความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักหลังจากถูกกระตุ้นแบบนี้ไม่ใช่ครั้งสองครั้ง หรือแปดครั้งสิบครั้งแล้ว ในทุกๆปี ก็สาบาน มีความมุ่งมั่นที่ยิ่งใหญ่ มีมั่นคงแต่ทนไม่ได้ครึ่งเดือน ก็ยอมจำนนอีกครั้ง
"เขาเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ และไม่ควรออกกำลังกายหักโหมเกินไป" หยวนชิงหลิงกล่าว
พระชายาซุนอ๋องลุกขึ้นยืน "หักโหมหรือ ไปดูกันเถอะ"
หยวนชิงหลิงเห็นว่าท่าทีของพระชายาซุนอ๋องดูแปลกๆ อยากจะหัวเราะและอยากจะโกรธจึงกล่าวว่า "ได้ ไปดูกันเถอะ"
ทั้งสองมาถึงที่สวนและนั่งลงบนม้านั่งหินในศาลา ก็เห็นซุนอ๋องวิ่งมาจากปลายอีกด้าน
หยวนชิงหลิงมองดู นับว่าเป็นการวิ่งจริงๆ
แต่ไม่รู้ว่าทำไม คนรับใช้ที่อยู่ข้างๆ เดินช้าๆ เพื่อตามเขามา แต่ทำไมเขาถึงได้นำหน้าเขาไปได้ล่ะ?
ซุนอ๋องหอบเหมือนวัว เหงื่อออกมาก ราวกับว่าเขากำลังจะขาดอากาศหายใจ ดวงตาของเขากรอกขึ้นลงเป็นบางครั้ง ลิ้นของเขายื่นออกมา และเมื่อเขาวิ่งได้สักพัก เนื้อบนใบหน้าของเขาก็สั่น และร่างกายของเขาก็เหมือนกับคลื่น คลื่นที่ไม่สงบนิ่ง
หยวนชิงหลิงรู้สึกแย่มาก "ตอนที่ตัวเป่าของข้าวิ่ง มันก็ยื่นลิ้นออกมา เขาวิ่งเร็วกว่านี้ไม่ได้หรือ?"
พระชายาซุนอ๋องยิ้มและพูดว่า "ได้!"
นางตะโกนออกไปด้านนอก "เร็วอีกนิดเพคะ เช่นนี้มันไม่มีผล"
ซุนอ๋องได้ยินเช่นนี้ ชูคอขึ้น สะบัดมือไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว และพระชายาซุนอ๋องปิดตาของนาง
หยวนชิงหลิงประหลาดใจ และเห็นเขาโซเซ ทับไปที่คนรับใช้ที่อยู่ข้างหน้าเขาโดยตรง และเสียงกรีดร้องของคนรับใช้ดังก้องอยู่ในจวนซุนอ๋อง
หยวนชิงหลิงหัวเราะออกมา และนางก็เข้าใจแล้วว่า มือและเท้าของซุนอ๋องนั้นไม่สามารถควบคู่ไปกันได้ และเขาไม่สามารถเร็วได้ ในใจของเขาต้องการที่จะเร็วกว่านี้ แต่มือและเท้าของเขาไม่สามารถจะทำตามได้ และพลังของเขาก็ไม่เพียงพอ สำหรับคนเช่นนี้ เป็นเรื่องยากมากที่จะลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกาย
หยวนชิงหลิงกล่าวว่า "ช่างเถอะ บอกพี่รองให้หยุดวิ่งได้แล้ว ว่ายน้ำเถอะ ว่ายน้ำในตอนเช้าและตอนเย็น และในขณะเดียวกันก็เตรียมอาหารลดน้ำหนักให้เขาด้วย"
หลังจากที่ซุนอ๋องอาบน้ำ เขาก็แต่งตัวเรียบร้อยแล้วออกมา อันที่จริง เขาก็ลดได้นิดหน่อย อาจจะเห็นว่ามันลดลง และนั่นนับว่าไม่ธรรมดาเลย
"พี่รองมีความพากเพียรยิ่งนัก" หยวนชิงหลิงให้กำลังใจ
ซุนหวางโบกมือ "ฝึกฝนไว้ก็ดี ประเดี๋ยวยังต้องฝึกกระบี่"
หยวนชิงประหลาดใจ "ฝึกกระบี่? เช่นนั้นพี่รองก็ออกกำลังกายค่อนข้างมากเลยสินะเพคะ ถึงว่าแลดูจะผอมลงเล็กน้อย"
"ในการฝึกกระบี่ วรยุทธจะต้องมีความเพียร" ซุนหวางกล่าวโดยไม่อาย "ข้ายังสามารถฝึกฝนได้ ไม่นับว่าเป็นยอดฝีมือ แต่เมื่อเทียบกับเจ้าห้า ก็ไม่ต่างกันมากนัก"
พระชายาซุนอ๋องสำลักน้ำชาออกมา
หยวนชิงหลิงเหลือบมองที่พระชายาซุนอ๋องและพบว่านางมีกที่จะหักหน้าซุนอ๋องเสียนัก วรยุทธของอวี่เหวินฮ่าวดีแค่ไหน หยวนชิงหลิงไม่รู้เลย และนางไม่เคยเห็นมันจริงๆ แต่เมื่อดูปฏิกิริยาของพระชายาซุนอ๋องแล้ว วรยุทธของเจ้าห้าน่าจะดีมาก
"เจ้าหัวเราะอะไร หรือว่าข้าไม่เก่งเท่าเจ้าห้าหรอกหรือ?" ซุนอ๋องจ้องไปที่พระชายาซุนอ๋องอย่างโกรธเคือง
"มิใช่เพคะ ทำไมจะเทียบไม่ได้ล่ะเพคะ ถ้าสู้กันจริงๆ เจ้าห้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของท่าน ท่านแค่นั่งทับ เขาก็ตายได้แล้ว" พระชายาซุนอ๋องพูดอย่างจริงจัง
ซุนอ๋องหันหลังกลับจากไปอย่างโกรธเคือง
หยวนชิงหลิงมองไปที่พระชายาซุนอ๋อง "พี่สะใภ้รอง เหตุใดเจ้าชอบขุดหลุมฝังเขาล่ะ การที่เขามีความมุ่งมั่นเยี่ยงนี้หาได้ยากนัก"
พรชายาซุนอ๋องถอนหายใจเบาๆ "เขามีความมุ่งมั่นมันหาได้ยาก? ถ้าเขามีความมุ่งมั่นจริงๆ ข้าจะไม่พูดแบบนั้นกับเขา แต่เขาไม่มี เขาแค่พยายามแสร้งทำเป็นลดน้ำหนัก แต่คนข้างนอกจะไม่คิดกับเขาเยี่ยงนั้น"
หยวนชิงตกใจ "หมายความว่าอะไรรึ?"
พระชายาซุนอ๋องถอนหายใจเบาๆ "ทุกย่างก้าวในจวนอ๋องที่มากมายนั้น ล้วนมีคนคอยจับตามอง เขาหลงไหลอาหารและเกียจคร้านมาตลอด หลังจากถูกลอบสังหาร จู่ๆ เขาก็มุ่งมั่นขึ้นมา ทั้งฝึกฝนและเรียนวิชากระบี่ เจ้าคิดว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร มันจะดีกว่าถ้าเจ้ามีความกระตือรือร้นจริงๆ แต่ข้ารู้ว่าไม่ใช่"
หยวนชิงหลิงไม่คิดว่าพระชายาซุนอ๋องจะละเอียดและพิจารณาประเด็นต่างๆ เป็นอย่างดี
นางกระซิบ "เหตุใดพี่รองถึงไม่มีความฮึกเหิมได้นะ"
"เขาขี้ขลาด" พระชายาซุนอ๋องพูดจริงจัง "พูดง่ายๆก็คือ เขากลัวตาย"
"ข้าไม่เห็นด้วย ข้าคิดว่าพี่รองเป็นคนฉลาดแสร้งโง่เขลา เขามิได้กลัวความตาย มิเช่นนั้น เขาจะไม่ปกป้องข้าด้วยชีวิตของเขาตอนที่ข้าถูกลอบสังหาร"
พระชาซุนอ๋องตกใจ "ข้าไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย"
หยวนชิงหลิงกล่าวว่า "ครั้งนี้พี่รองคงจะจริงจังแล้วจริงๆ เพียงแต่เจ้าก็บอกเองว่าตอนนี้มีคนจ้องมองทุกย่างก้าวในจวน เขากำลังวิ่ง ฝึกวิชากระบี่ ก็จะแสดงออกมาด้วยความตลกต่างๆนาๆ หลังจากสองสามวันคนที่คอยจับตาดูเขาจะหยุดเฝ้าดูไป เมื่อถึงเวลานั้น เจ้าจค่อยดูว่าพี่รองมีปฏิกิริยาเช่นไร"
หยวนชิงหลิงรู้จักซุนอ๋อง และเคยพูดคุยสนทนากันหลายครั้ง การจัดการเรื่องต่างๆของเขานั้นง่ายมาก เขาไม่สร้างศัตรู คนเดียวที่ทำให้เขาขุ่นเคือง คือจี้อ๋อง หรือว่าคือความบุ่มบ่าม เขาไม่ว่าการที่ทำให้จี้อ๋องขุ่นเคืองจะก่อหายนะให้ตัวเองงั้นหรือ อย่างไรก็ตาม ในสายตาของจี้อ๋องไม่มีเขาเลย การลอบสังหารครั้งก่อน ก็เพราะนางเช่นกัน ไม่ใช่มุ่งเป้าไปที่ซุนอ๋อง
MANGA DISCUSSION