ทั่วทั้งพหุจักรวาลอันกว้างใหญ่ มีดวงดาวนับไม่ถ้วนกระจัดกระจายอยู่ในห้วงอวกาศอันเวิ้งว้าง และในบรรดาดาวเคราะห์เหล่านั้น มีดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่ถูกเรียกว่า — สเตลล่า

สเตลล่าเป็นดาวเคราะห์ขนาดมหึมา มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่าสองแสนกิโลเมตร ผืนแผ่นดินกว้างใหญ่ไพศาล และมีประชากรร่วมหลายร้อยล้านชีวิตอาศัยอยู่

สิ่งมีชีวิตบนโลกเเห่งนี้ เเตกต่างจากมนุษย์บนดาวเคราะห์โลกอย่างสิ้นเชิง 

พวกเขาทุกคนล้วนเเล้วเเต่มีพลังเวท เเละพลังธาตุสถิตอยู่ภายในร่างกายตั้งเเต่กำเนิด อีกทั้งธรรมชาติบนดาวเคราะเเห่งนี้ก็อุดมสมบูรณ์เป็นที่สุด เนื่องจากได้รับการปกปักษ์รักษาจากเหล่าภูติศักดิ์สิทธิ์

อีกทั้งโลกสเตลล่าเเห่งนี้ ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าเทคโนโลยี มาช่วยอำนวยความสะดวกสบายเหมือนกับดาวเคราะห์โลก 

เเต่นั่น ก็ไม่ใช่ปัญหาเเต่อย่างใด

นั่นก็เพราะว่า โลกสเตลล่าเเห่งนี้ มีสิ่งที่เรียกว่า — เวทมนตร์เเละธาตุอันบริสุทธิ์

ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดเหล่านี้ จึงทำให้โลกเเห่งนี้ เป็นโลกที่สงบสุขมาเป็นเวลานานนับหมื่นปี

เเต่เรื่องราวที่กล่าวมาข้างต้น คือเรื่องราวในอดีตที่ไกลเเสนไกล เพราะตอนนี้โลกสเตลล่าต่างเต็มไปด้วยความขัดเเย้ง เเละไฟสงครามที่พร้อมจะปะทุขึ้นทุกเมื่อ

ซึ่งในอดีต โลกเเห่งนี้เคยรุ่งเรืองเเละสงบสุข เผ่าพันธุ์ต่างๆอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล 

เเต่บัดนี้ ทุกหนทุกเเห่งล้วนเต็มไปด้วยการกดขี่ข่มเหง เเละความเหลื่อมลํ้าทางชนชั้น 

เผ่าพันธุ์ต่างๆเริ่มเข่นฆ่ากันเอง ไม่ว่าจะเป็นศัตรูหรือเผ่าพันธุ์เดียวกัน ล้วนต่างเเย่งชิงอำนาจโดยไม่สนว่าใครจะเดือดร้อน ราชอาณาจักรทั้งหลายต่างเเข่งขันกันเเผ่อำนาจเหนือดินเเเดนอื่น โดยไม่ใส่ใจว่าประชาชนจะถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องมากเพียงใด

ระบบศักดินาที่เเบ่งเเยกชนชั้น ระหว่างขุนนางกับสามัญชน ก็เป็นอีกปัญหาที่คอยกัดกินสังคม 

เเละท้ายที่สุด โลกเเห่งนี้ก็ได้ให้กำเนิดระบบอันโหดร้ายเเละน่ารังเกียจมากที่สุดขึ้นมา

นั่นก็คือ — ระบบทาส

โดยผู้ที่อ่อนเเอกว่า ก็จะถูกบดขยี้โดยผู้เเข็งเเกร่ง พร้อมกับถูกขายเป็นสิ้นค้า ราวกับพวกเขาไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเเต่เป็นเพียงวัตถุไร้ชีวิต

ไม่มีทางปฎิเสธข้อเท็จจริงนี้ได้ว่า โลกที่เคยสงบสุขเเห่งนี้ได้แปรเปลี่ยนไปหมดเเล้ว

ถ้าหากถามว่าทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้ คำตอบก็คือ — มหาสงครามเมื่อ 700 ปีก่อน

มหาสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างเผ่าพันธุ์มนุษย์ เเละเผ่าพันธุ์ปีศาจ ซึ่งเป็นสงครามที่ดึงเผ่าพันธุ์ทั่วทั้งโลกเข้ามามีส่วนร่วม ด้วยเหตุนี้ จึึงทำให้สมดุลของอำนาจถูกทำลายไปตลอดกลาย

เเละตั้งเเต่นั้นเป็นต้นมา โลกเเห่งนี้ก็ไม่เคยสงบสุขอีกเลย

                                                                                                                                        ★★★

ก่อนที่เลโอจะถูกพามายังโลกเเห่งนี้

“ไม่มีทาง! ฉันไม่ยอมรับเรื่องนี้เด็ดขาด!!”

ชายชราคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาเสียงดัง ด้วยอารมณ์โกรธพร้อมเอามือทุบโต๊ะกลางที่ประชุม 

เป็นชายชราที่มีดวงตาสีฟ้าสวยงายราวกับอัญมนีเเละมีผมสีฟ้าราวกับเกล็ดหิมะ โดยเขาสวมชุดที่ดูหรูหราอีกทั้งยังมีออร่าที่ต่างจากคนทั่วไป อีกทั้งหน้าตาสมเป็นชายชาตรี ที่ยังคงมีร่างกายที่เเข็งเเรงเเม้จะอายุเยอะเเล้วก็ตาม 

“ใจเย็นก่อน องค์จักพรรดิ์เรดิออส เรื่องนี้เราตกลงกันในที่ประชุมได้เเล้วไม่ใช่รึไง”

คนที่ตะโกนคือ เรดิออส เดอ มิล เฟานัส องค์จักพรรดิ์เเห่งจักวรรดิเฟานัส 1 ใน 5 ประเทศที่มีขนาดใหญ่เเละทรงอำนาจมากที่สุดในโลก 

ส่วนคนที่ห้ามองค์จักพรรดิ์คือ ชายที่มีผมสีนํ้าตาล หน้าตาดูเรียบร้อยเเต่มีรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ร่างกายดูผอมเเห้ง เขาคือ กุสตาฟ โอเนีย เเกรนด์ ราชาเเห่งอาณาจักรเเห่งลมเเกรนด์  1 ใน 5 ประเทศที่ทรงอำนาจมากที่สุดเช่นเดียวกัน

“ใจเย็นงั้นรึ! นี้มันเรื่องเป็นตายของลูกสาวข้าเลยนะ!”

เรดิออสกัดฟันแน่น ดวงตาสีฟ้าฉายแววคุกรุ่นไปด้วยโทสะ

“หัวข้อที่เราหารือในตอนนี้คือเรื่อง ‘การอัญเชิญผู้กล้า’ โดยจะหาว่าใครจะเป็นคนอัญเชิญ อีกทั้งผู้ที่จะมารับหน้าที่อัญเชิญนั้น จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือต้องเป็นคนของราชวงศ์ที่มีสายเลือดบริสุทธิ์เเละมีปริมาณพลังเวทที่มหาศาล”

กุสตาฟกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น

“เเละจากเงื่อนไขเหล่านี้ บุคคลที่เหมาะสมมากที่สุดในตอนนี้ ก็คือลูกสาวของท่านไม่ใช่รึไง”

สิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ คือการประชุมโลก 

โดยการที่จะจัดตั้งการประชุมนี้ได้ ต้องเป็นสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธ์ของมนุษย์ชาติ หรือเป็นการเคลียปัญหาระหว่างประเทศมหาอำนาจ โดยผู้ที่สามารถเข้าร่วมได้จะต้องเป็นราชาของเเต่ละประเทศเท่านั้น

อีกทั้งยังมีกฎที่ว่า จะต้องมีราชาในเเต่ละประเทศมาเข้าร่วมการประชุมมากกว่า 10 ประเทศ จึงจะสามารถเปิดการประชุมได้ 

โดยครั้งนี้เป็นครั้งเเรกในรอบ 100 ปีหลังสุด ที่มีการจัดตั้งการประชุมโลกขึ้นมา เพราะสถานการณ์ในตอนนี้ร้ายเเรงถึงขนาดนั้นนั่นเอง ซึ่งในครั้งนี้มีประเทศที่เข้าร่วมการประชุมทั้งหมด 21 ประเทศ 

โดยหัวข้อหลักจริงๆ ของการประชุมโลกในครั้งนี้คือ ‘การปลดผนึกของราชาปีศาจ’

ซึ่งตามที่ปราญในตำนาน ได้กล่าวไว้ว่าในอนาคตอีก 700 ปีหรือก็คือในช่วงเวลานี้ ผนึกของราชาปีศาจจะคลายลงสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายที่สุดในโลกจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง 

มหาสงครามที่เลวร้ายในอดีต จะปะทุขึ้นอีกครั้งเเละในครั้งนี้จะมีความรุนเเรงกว่าครั้งก่อนหลายเท่า จนอาจจะทำให้โลกเเห่งนี้ล่มสลายก็เป็นไปได้ 

เนื่องจากเป็นเรื่องในอดีต ที่ผ่านมาหลายร้อยปีเเล้วนั้น จึงทำให้ผู้คนในโลกนี้คิดว่า เป็นเพียงเเค่เรื่องในตำนานไม่ใช่เรื่องจริง 

เเต่เมื่อไม่นานนี้ิ สตรีศักดิ์สิทธิ์ดาร์เล่เน่ หนึ่งในสองฝาเเฝดสตรีศักดิ์ิสิทธิ์ ผู้ที่เปรียบเสมือนเป็นราชินีของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ไอรีน 1 ใน 5 ประเทศมหาอำนาจของโลก

โดยเธอได้บอกคำทำนาย ที่ได้รับมาจากเทพธิดาเเห่งโชคชะตา 

โดยเนื้อหาในคำทำนายคือ ผนึกที่คอยพันธกาลราชาปีศาจมาตลอด 700 ปี กำลังจะคลายออกในเวลาอันใกล้นี้ 

เพราะเเบบนั้น จึงทำให้ทั่วโลกตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก เพราะการทำนายนั้นไม่เคยผิดพลาดเเม้เเต่ครั้งเดียว

คำทำนายได้บอกไว้อีกว่า ผู้ที่สามารถยุติเรื่องทั้งหมดนี้ได้ มีเพียงผู้กล้าคนเดียวเท่านั้น