เคยมีคนกล่าวไว้ว่าความฝันคือการจัดเรียงความทรงจำของมนุษย์ และแม้ในปัจจุบันจะยังไม่มีทฤษฎีพิสูจน์ข้อสันนิษฐานนี้ ทำให้มันเป็นเพียงแค่ความเชื่อส่วนบุคคล
แต่ว่าอย่างน้อยในตอนนี้… มันก็กำลังเกิดขึ้นกับชิน
ตัวเขาที่ยังหนุ่มอายุแทบไม่ต่างจากตอนนี้ กำลังยืนตกตะลึงท่ามกลางเปลวเพลิงทั้งสองข้างทางของห้องโถง โดยมีโอลิเวียยืนอยู่ด้านหลังของเขาด้วยความสับสน
เสียงของเหล็กปะทะกันก้องไปทั่วทุกสารทิศ ทำเอาชินกับโอลิเวียหวาดผวาและตื่นตระหนก
ทุกคน… จะเป็นอะไรรึเปล่า
ชินภาวนาอย่างนั้นเพราะรู้สึกใจคอไม่ดี
แต่พอก้าวเท้าต่อไป ภาพของคนรู้จักก็ปรากฏขึ้นบนทางเดินที่เขากำลังก้าวไป เหล่าคนรู้จักที่สนิทชิดเชื้อทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพื่อนบ้านหรือคนสนิทคุ้นหน้า
ทุกคนต่างนอนบนพื้นที่เต็มไปด้วยเลือดของพวกเขาเองอย่างน่าเวทนา
ดวงตาของชินสั่วระรัวแทบไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองเห็น แม้แต่โอลิเวียที่มีสีหน้าเย็นชาเป็นปกติยังถึงกับยกมือขึ้นป้องปากด้วยความตกตะลึงหวาดผวา
นี่มัน… เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกัน!
ชินสบถในใจด้วยความหงุดหงิดและสับสนปนเปกัน เขาเริ่มกุมมือของโอลิเวียแน่นเพราะรู้สึกถึงความอันตราย
ทั้งสองวิ่งตรงต่อไปข้างหน้า ทำใจเมินศพของคนรู้จัก ความรู้สึกคับแน่นที่หน้าอกก่อตัวรุนแรงขึ้น แต่เขาก็ทนไว้ในขณะที่วิ่งต่อไปในแต่ละก้าว
ชินวิ่งไปจนถึงห้องนอนพ่อและแม่ของเขา ด้วยความรีบร้อน ชินไม่แม้แต่จะสังเกตประตูที่ถูกแง้มอยู่ก่อนแล้วเลยสักนิด
เขาออกแรงผลักประตู กระแสลมร้อนพัดออกมาจากห้องทันที
…นั่นเป็นพริบตาก่อนที่ภาพสะเทือนใจจะปรากฏเข้ามาในดวงตาของชินและโอลิเวีย
ภาพของชายวัยกลางคนผู้เป็นเจ้าของใบหน้าใจดีกับหญิงสาวผู้เป็นภรรยาแสนโอบอ้อมอารีย์ กำลังนอนหงายบนพื้นราวกับภาพประติมากรรมนูนสูง
แต่พื้นหลังของภาพวาดนั้นถูกอาบฉาบด้วยโลหิตสีแดงฉาน ทำเอาชินและโอลิเวียตะลึงกลัวจนแทบหยุดหายใจ
สายตาทั้งสองถูกเลื่อนไปมองจิตกรผู้สร้างภาพนั้นขึ้น… ฆาตกรผู้สังหารบิดาและมารดาของเขายืนสงบภายใต้เสื้อคลุมรัดกุม แถมยังสวมหน้ากากปิดบังใบหน้ารูปตัวตลกยิ้ม ปานจะเยาะเย้ยชินผู้มาไม่ทันการในช่วงวินาทีที่พ่อและแม่บังเกิดเกล้าสิ้นลม
มันหันใบหน้าตัวเองมาทางชินและโอลิเวียอย่างเชื่องช้าไร้ความยำเกรง สะบัดดาบอาบด้วยเลือดของเหล่าคนที่ชินรู้จัก เคารพและรักยิ่งฉาบลงบนพื้น
ทั้งยังเผยให้เห็นสิ่งที่ยืนยันตัวตนของมัน… รอยสักรูปมงกุฎตรงหลังมือของมัน
ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเปลวเพลิงที่ย้อมห้องนี้ หรือเป็นเพราะความทรงจำมันเรือนราง แต่ชินรู้สึกเหมือนกับรอยสักนั้นกำลังส่องแสงสีแดงออกมา
มันอาบสติของชิน
กลืนกินความรู้สึกของเขาให้เต็มไปด้วยความรุนแรง และเปลี่ยนความรู้สึกทั้งหมดของเขาให้กลายเป็นแรงแค้น ความรู้สึกสูญเสียก่อตัวขึ้นในอกจนแน่นทะลัก
จะฆ่า… ฉันจะฆ่าแกให้ได้!
ชินตะโกนเช่นนั้นอย่างโกรธเกรี้ยว
บ้าน… เพื่อน… คนรู้จัก…
พ่อ… แม่… ประเทศ… วิถีชีวิต…
ความสุขของฉัน… แล้วก็ตัวฉัน…
แกแย่งมันไปจากฉันจนหมดไอ้สารเลวเอ้ย!
เสียงตะโกนในใจชินดังขึ้นอย่างร้อนรุ่มเคียดแค้น มีเพียงเขาเท่านั้นที่สัมผัสความอึดอัดรุนแรงในอกตัวเองได้ มันจึงยิ่งรุนแรงขึ้น เสมือนเทน้ำกรดราดลงคอโดยที่ไม่มีทางระบาย
หน้ากากของมันชัดขึ้นในสติของชิน ยิ่งย้ำเตือนถึงความรู้สึกที่ชินมีต่อมัน แต่พริบตานั้นมันก็หายไป สร้างความร้อนรนให้กับชินไปแทน
อยู่ไหน! แกคิดจะหนีฉันไปไหน!
ชินมองหาไปทั่วทุกทิศ แต่สิ่งที่เขาเห็นกลับเหลือเพียงแต่ความมืดมิด
ออกมา ออกมาซะ! ฉันจะฆ่าแก!
ฉันจะตามล่าแกไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน… ต่อให้อยู่สุดขอบขุมนรกหรือจะเป็นเทวทูตสถิตอยู่บนสวรรค์
ฉันก็จะลากแกลงมา… ขย้ำคอแล้วเหยียบย่ำแกให้คาเท้าจมโคลน! สังเวยกับทุกชีวิตที่แกช่วงชิงไปให้ได้!!!
ได้ยินไหมวะไอ้บัดซบ!!!!
เสียงตะโกนดังกึกก้องด้วยแรงแค้น นั่นไม่ช่วยบรรเทาความทุกข์ของเขาเลยซักนิด นอกเสียจากสุมไฟในอกให้ร้อนระอุขึ้น
…และมันก็ร้อนเกินกว่าห้วงภวังค์ของชินจะทนไหว
❖❖❖❖❖
ความร้อนรุ่มสุมอยู่ในอกปานจะทะลักออกมา มากเกินจนปลุกชินขึ้นจากความฝัน หรือเรียกอีกอย่างว่าเป็นม้วนความทรงจำก็คงไม่ผิด ความแสบร้อนนั่นทำให้ชินแทบจะอาเจียน
แต่ไม่ได้เกิดเรื่องอย่างนั้นขึ้น เพราะมีบางสิ่งเยียวยาความเจ็บปวดให้เขาในปริมาณที่พอกัน
“ชิน…”
มือของโอลิเวียกำลังกุมมือของชินไว้แน่น แน่นพอกับที่ชินกุมมือเธอกลับไปโดยไม่รู้ตัว
มือของเขาสั่นมาตลอดจนถึงตอนที่ค่อย ๆ ลืมตา จนสติระลึกได้ว่าล่าสุดเขาผลอยหลับไปขณะนอนหนุนตักของโอลิเวีย
เป็นจังหวะที่เธอเห็นดวงตาของชินแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง
“ชิน… ฝันร้ายอีกแล้วเหรอคะ?” โอลิเวียเดาได้ไม่ยาก จากการที่ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อเจ้าตัวเกิดอารมณ์อันรุนแรงขึ้น มันคือเอกลักษณ์เฉพาะของเผ่าพันธุ์ชิน
สีหน้าขณะพูดของโอลิเวียยังคงดูเรียบเฉยเย็นชา แต่หากสังเกตกล้ามเนื้อใบหน้าที่มีความต่างจากปกติเล็กน้อยนั่น คงมีเพียงชินเท่านั้นที่รู้ …ว่าโอลิเวียกำลังเป็นห่วงเขาสุด ๆ
มือของเธอกุมมือเขาแน่นขึ้นอีก ดวงตาสีโลหิตของชินจึงค่อยเปลี่ยนกลับเป็นสีดำ
ชินถอนหายใจออกมาอย่างแรงราวกับโล่งอก อย่างน้อยก็รู้สึกปลอดโปร่งจากความแสบร้อนในกระเพาะที่เกิดจากความเครียดแล้ว
“โทษทีนะ” ชินยันตัวเองขึ้นจากตักโอลิเวีย รู้สึกไม่ดีเท่าไรที่ให้เธอเห็นตัวเองในสภาพนี้
แต่ตอนที่ผละมือออกจากโอลิเวีย เธอก็รีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที
“ไม่ใช่ความผิดคุณสักหน่อยค่ะ ดิฉันแค่เป็นห่วงเท่านั้นเอง”
สีหน้าโอลิเวียโล่งอกอย่างชัดเจนที่ได้เห็นชินกลับมาสงบดังปกติ เธอถึงกับยกมือทาบอกถอนหายใจสบาย ท่าทางแบบนั้นไม่ได้เห็นบ่อย ๆ จากราชินีน้ำแข็งแน่
ทำเอารู้สึกไม่ดีอีกแล้วแฮะ
การทำให้โอลิเวียเป็นห่วงยิ่งทำชินกังวลด้วยความรู้สึกผิด
แต่หากจะพูดถึงเรื่องเดิมก็มีแต่จะทำให้โอลิเวียกังวลไม่จบสิ้นเสียเปล่า
“…ฉันหลับไปนานแค่ไหนเหรอ?” ชินจึงเปลี่ยนเรื่อง
เขาขยับตัวเข้าไปนั่งติดกับโต๊ะเล็กเหมือนเดิม เช่นเดียวกับโอลิเวียที่จัดท่าทางตัวเองเสียใหม่ เธอก้มดูภาพโฮโลแกรมจากโฮโลวอชตัวเอง ซึ่งตอนนี้เป็นภาพนาฬิกาจับเวลา
“4 ชั่วโมง 35 นาที 28 วินาทีค่ะ”
“ยังละเอียดเหมือนเดิมเลยนะ” ชินยิ้มแห้ง ทั้งดีใจและเกรงใจ
“ดิฉันต้องจับเวลาเพื่อให้รู้ว่าชินนอนหลับเพียงพอนี่คะ”
โอลิเวียเอียงคอกลับมา สีหน้าเธอสงสัยเหมือนอยากจะถามว่า “แปลกเหรอคะ?”
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่องอย่างนี้… โอลิเวียมักจะแสดงความเป็นห่วงเป็นใยเขามากผิดปกติเกินไปอยู่ทุกครั้ง
การมีสาวสวยมาให้ความสำคัญและเป็นห่วงคงปฏิเสธไม่ได้ว่าทำให้ชินดีใจ ยิ่งอีกฝ่ายเป็นโอลิเวียด้วยก็ยิ่งแล้วใหญ่ แต่ปัญหาคือมันทำให้เขาลำบากใจ
ส่วนสาเหตุที่ลำบากใจ ไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่ชอบ
กลับกัน… มันน่าจะใกล้เคียงกับความรู้สึกผิดมากกว่า เพราะชินเป็นคนดึงเธอเข้ามาพัวพันกับการล้างแค้นของตัวเอง แม้เจ้าตัวจะบอกว่าเต็มใจก็ตาม
โอลิเวียอยู่ด้วยกันกับฉันมานานมาก
เพราะงั้นถึงได้รู้… โอลิเวียน่ะ ให้ความสำคัญกับตัวเรามากกว่าตัวเธอเองซะอีก
ถ้าฉันเอ่ยปากสักคำล่ะก็ ต่อให้เป็นดวงจันทร์เธอก็จะเอามาให้ฉันได้แน่ ๆ
โอลิเวียเธอทำเพื่อฉันได้ถึงขนาดนั้น มากซะจนน่าเป็นห่วงเลยด้วยซ้ำ
…ซึ่งถ้าโอลิเวียเป็นคนเดียวที่รู้สึกแบบนั้น ฉันก็คงไม่ต้องมานั่งรู้สึกผิดแบบนี้หรอก
“เธอเองก็นอนพักบ้างเถอะ… ถือว่าเปลี่ยนกะกัน” ชินยื่นข้อเสนอ รู้สึกว่าคงไม่ยุติธรรมหากมีแค่เขาคนเดียวที่ได้พัก
…ทั้งที่เหตุผลจริง ๆ มันง่ายกว่านั้น
“…ทราบแล้วค่ะ ถ้าเป็นความต้องการของชิน ดิฉันจะทำตาม”
โอลิเวียนิ่งไปครู่นึงเหมือนครุ่นคิด เธอคงรู้ว่าจริง ๆ แล้วชินต้องการอะไรจึงทำตามแต่โดยดี
เธอลุกขึ้นแล้วเดินจ้ำเข้าหาเตียงของชินอย่างรวดเร็ว นั่งลงที่ขอบ แล้วลูบสัมผัสของผิวเตียงด้วยรอยยิ้ม
“มีกลิ่นของชินด้วย” เธอพึมพำแบบนั้นในลำคอ
และไม่รู้ว่าเป็นการจงใจหรือไม่ แต่คำพูดของเธอดังพอให้ชินได้ยินอยู่ ก่อนที่สาวน้อยนามโอลิเวียจะทิ้งตัวลงนอนเอาหน้าซุกเตียงที่ชินใช้นอนประจำอย่างซุกซน ทำเอาเตียงถึงกับสั่นเลยทีเดียว
เสียงหายใจเธอกระทบกับเตียงเพราะใบหน้าแนบกับหมอนที่ชินใช้หนุนทุกวัน เกิดเสียง ‘ฟรืด’ ยาว ๆ ที่เกิดจากการกระทำแปลก ๆ ของเธอ
มันทั้งดูน่าสงสัย น่าประหลาดใจ และน่าอัศจรรย์?
ถ้าพวกผู้ชายในโรงเรียนมาเห็น ‘ราชินีน้ำแข็ง’ ในสภาพนี้คงจะตกใจกันแน่ ๆ เลยแฮะ
ชินอมยิ้มมองภาพตรงหน้า อดคิดแบบนั้นไม่ได้เพราะมันช่างแตกต่างจากภาพลักษณ์ที่เธอแสดงออกในโลกภายนอกเป็นอย่างมาก
ชินเหม่อมองภาพโอลิเวียที่กำลังเข้าสู่ห้วงภวังค์และเริ่มปิดเปลือกตาลง เธอหันข้างคว้าหมอนของชินมากอดแทนที่จะใช้หนุนคอ
ราวกับโอลิเวียกำลังแสดงให้เห็นว่าทุกอย่างของชินล้วนน่าดึงดูดสำหรับเธอ
…และนั่นอดทำให้ชินรู้สึกอย่างเดียวกันไม่ได้ เขารู้สึกเหมือนถูกดึงดูดให้เข้าไปใกล้
ชิน?
ทางโอลิเวียเริ่มรู้สึกตัว แต่เธอไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไร ได้แต่คอยลุ้นว่าชินจะทำอะไรกับร่างกายของเธออย่างใจจดใจจ่อ
หัวใจเธอเต้นรัวเมื่อชินนั่งลงตรงพื้นใกล้เตียงและเอื้อมมือเข้าหาเธอ
ทว่า… มือของชินไม่ได้ล่วงล้ำสิ่งใดของโอลิเวีย นอกจากสัมผัสเรือนผมของโอลิเวีย ลูบบางอย่างอ่อนโยน ปลอบประโลมเธอไปมา
ถึงจะแอบผิดหวังที่ไม่ใช่อย่างอื่น แต่ฝ่ามืออันอบอุ่นของชินทำให้โอลิเวียสบายจนยิ้มพริ้ม ดวงตาที่ปิดแน่นด้วยความตื่นเต้นจางคลายลง
แล้วสาวน้อยก็หลับไปโดยที่ตัวเองไม่ทันรู้ตัว ฮอร์โมนออกซิโทซินอันจะหลั่งก็ต่อเมื่ออยู่ในสภาวะที่ผ่อนคลาย สบายใจและไว้ใจทำให้เธอเข้าสู่สภาวะหลับไหล
ชินเห็นแล้วไม่ได้รู้สึกแค่เอ็นดู แต่ยังดีใจที่อย่างน้อยก็ยังมีคนที่เชื่อใจกันและกันได้จากใจเหลืออยู่
ไม่ใช่แค่โอลิเวียเท่านั้นที่ผ่อนคลาย ตัวชินเองก็เช่นเดียวกัน
คงมีแค่เวลาที่ได้อยู่กับโอลิเวียนี่แหละ ที่พอจะมีความสุขไปพร้อม ๆ กับมีความเป็นตัวเองไปด้วยได้
ชินเชยชมโอลิเวียแล้วเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
เขาย่องไปเปิดตู้เก็บของ ยกพัดลมออกมาวางไว้ แล้วเปิดให้มันโดนโอลิเวียด้วย
ประเทศเขต 66 เป็นเมืองร้อน (แบบสุด ๆ) เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเครื่องปรับอากาศจึงเป็นหนึ่งในสิ่งจำเป็นของแต่ละบ้าน แต่สำหรับร่างกายอันแข็งแกร่งทนทานเหนือมนุษย์มนาอย่างตนกับโอลิเวีย สิ่งเหล่านั้นจึงเกินความต้องการก็เลยใช้พัดลมแทน
ปล่อยให้โอลิเวียได้พักผ่อนเสียบ้าง ส่วนทางชินก็เปิดการบ้านที่ถูกป้อนมาให้ทำในวันหยุดด้วยโฮโลวอชแบบมาตรฐานของเขา ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็ทำเสร็จ
จะให้อ่านหนังสือต่อก็ได้อยู่หรอก
แต่ถ้าพูดถึงสิ่งที่มีประโยชน์สำหรับพวกเราแล้ว…
ชินไม่คอยท่า เปลี่ยนมาสวมโฮโลวอชรูปร่างกระเบนสีดำลายแดงแทน ตามด้วยการเข้าเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อตรวจสอบข่าวทั้งหมดทั่วโลกด้วยหน้าต่างกว่า 10 บานพร้อมกัน
และแน่นอนว่าเป้าหมายคือการตามหาเบาะแสของชายสวมหน้ากากตัวตลก
เขตที่ 1 ก็ยังคงมีปัญหากับเขต 7 อยู่ตลอดเลยแฮะ
การเมืองไม่ใช่เรื่องถนัดของเราจริง ๆ นั่นแหละ ถึงจะชอบอ่านก็เถอะ
ชินถอนหายใจเพราะรู้สึกยุ่งยากน่ารำคาญกับระบบการเมืองดังกล่าว
เขาเลื่อนหน้าต่างไปเรื่อย ควานหาข่าวเกี่ยวกับอาชญากรรมทั้งในประเทศและนอกประเทศ
พวกผู้ก่อการร้ายตัวเป้ง ๆ นี่ก็ยังเคลื่อนไหวเหมือนเดิมไม่ผิด น่ากลัวเสียจริง
แต่เราจะเข้าหาพวกนั้นสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เราเลือกเหยื่อที่ไม่ใหญ่มาก
ก็ไม่ใช่ว่ากลัวความเสี่ยงหรืออะไร เพียงแต่ข้อมูลของศัตรูมีน้อยเกินไปต่างหาก
เพราะงั้นถึงต้องค่อย ๆ ดำเนินการไล่ล่าอย่างรัดกุม แม้จะใช้เวลานานขึ้นแต่เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับเรากับโอลิเวียขนาดนั้น
สำหรับเธอ… เราต้องคำนึงถึงความเสี่ยงเป็นตัวแปรหลักก่อน
ชินเผลอทำสีหน้าจริงจัง เหลือบมองใบหน้ายามหลับของโอลิเวีย
แม้แต่ยามหลับเธอยังไม่พ้นต้องหันหน้ามายังจุดที่ชินอยู่… จะเรียกว่าสมกับเป็นข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ก็คงได้ แต่นั่นแหละที่ทำให้ชินกังวลมาตลอด
ตัวเขาจะเผชิญหน้าอันตรายขนาดไหนก็ไม่หวั่นเพราะนี่เป็นเรื่องของเขาเอง แต่ไม่ใช่สำหรับโอลิเวียที่ไม่ได้มีผลประโยชน์กับเรื่องนี้โดยตรง
ให้ตายสิ…
ชินบ่นอุบตัวเอง ส่ายหน้าเบา ๆ ทีนึงเพื่อดึงสมาธิกลับมาอ่านข่าวต่อ
แต่จนกระทั่งหมดหัวข้อข่าวก็ยังไม่มีจุดที่น่าสนใจ ชินจึงเลือกที่จะปิดมันลงแล้วหันไปอ่านเว็บบอร์ดชื่อดังของแต่ละประเทศแทน
ข่าวสารว่าเป็นตัวหลักในการค้นหาความจริงแล้ว แต่ ‘ข่าวลือ’ นี่แหละคืออีกเครื่องมือนึงที่น่าสนใจยิ่งกว่า
เพราะมันไวยิ่งกว่าข่าวจริง (ข่าวจริงต้องผ่านการกรองก่อนนี่นะ) และแม้ว่าส่วนใหญ่ข่าวลืออาจจะไร้ซึ่งมูล แต่มันก็มีบ้างที่สาวไปถึงเหตุการณ์อันคาดไม่ถึง
แต่ก็นะ… ถึงจะบอกว่าข่าวลือส่วนใหญ่ไม่มีมูลก็เถอะ แต่ส่วนใหญ่ความน่าจะเป็นที่มันจะเป็นเรื่องจริงดันสูงพอ ๆ กันเสียอย่างงั้น
ไม่มีไฟก็ไม่มีควัน… เพราะงั้นแหล่งข่าวอีกอย่างที่สำคัญก็คือข่าวลือนี่เอง
ถ้าไม่นับข่าวที่ขายกันในตลาดมืดล่ะก็นะ
…แต่ว่ากันตามตรง นั่นเป็นที่ที่ดีที่สุดที่ใช้หาข้อมูลดี ๆ เลยล่ะ
แต่เพราะช่วง 3-4 ปีก่อน พวกเราต้องการทุนในการสร้างฐานทัพลับและสะสมอาวุธ เลยจัดการล่าค่าหัวไปด้วยตามหาเจ้าตัวตลกไปด้วยพร้อมกัน
ถึงนั่นจะทำให้ได้เงินทุนมหาศาล แต่ก็ทำให้พวกใต้ดินเองก็จับตาดูเรามากขึ้นตาม ซึ่งส่วนใหญ่ก็เพราะยำเกรงหวาดกลัวพวกเรานั่นแหละ
ถ้าเกิดซื้อข่าวแบบหว่านแหไปทั่ว อาจถูกสงสัยจนสร้างศัตรูขึ้นโดยไม่รู้ตัวแน่นอน
แต่ขนาดตอนนี้ที่พวกเราไม่ได้ล่าค่าหัวอีกแล้ว พวก ‘Singularity’ ยังมองพวกเราเป็น ‘นักล่าค่าหัวที่อันตรายเป็นอันดับต้น ๆ’ อยู่เลย
ชินย้ำเตือนตัวเอง เพิ่มความระมัดระวังขณะเลื่อนอ่านเว็บบอร์ดไปเรื่อย
เขาสะสมข่าวลือให้มากที่สุดแล้วกั่นกรองจัดอันดับสิ่งที่มีมูลที่สุด เพื่อให้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ชินหามากที่สุดแล้วจัดเป็นลิสต์ตามลำดับ
แน่นอนว่าอันดับหนึ่งก็คือการใช้คีย์เวิร์ดคำว่า ‘รอยสัก’ กับ ‘มงกุฎ’ เป็นคำค้นหา
ชินเลื่อนหน้าต่างไปเรื่อยโดยไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์ใด ๆ เหมือนทุกที เพราะเคยเห็นอาชญากรมีรอยสักรูปมงกุฎมาหลายครั้ง แต่น่าเสียดายที่ทั้งหมดเป็นคนละแบบกับของเจ้าตัวตลก
จะว่าไป… เพราะว่าฝันเมื่อกี้เลยทำให้จำได้
รอยสักของไอ้เวรนั่นมันเรืองแสงได้ด้วยสินะ… เป็นสีแดงฉานอันน่ารังเกียจที่ทำเอานึกถึงเลือดของทุกคนที่เสียไปในวันนั้น
ความโกรธกริ้วของชินเพิ่มขึ้นทำดวงตาเป็นสีแดงกะพริบ เพราะเขาเรียกสติตัวเองกลับมาทันที
ชินเพิ่มคำค้นหาคำว่า ‘เรืองแสง’ เข้าไปและค้นหาต่อเหมือนกับทุกทีแล้วค้นหาตามบอร์ดต่อไป
…จนกระทั่งสายตาถูกหยุดไว้ที่หัวกระทู้หนึ่งเข้า
พบแสงประหลาดแถวชายแดนระหว่างเขต 66 และเขต 855… ประเทศคัมบาช่างั้นเหรอ
ชินกดเข้าไปอ่านด้วยความสนใจเล็กน้อย ภายในบรรจุด้วยความเห็นมากกว่า 500 ความเห็น จากการที่กระทู้นี้ถูกตั้งมาเกือบ 1 สัปดาห์
ชินไล่อ่านความเห็นทั้งหมดตั้งแต่แรกสุด
กระต่ายขี้กลัว (เจ้าของกระทู้) : มีแสงสีแดงสว่างวาบในหลายพื้นที่ปรากฏขึ้นในตอนกลางคืนแถว ๆ ชายแดนด้วยครับ น่ากลัวเหลือหลาย แถมยังได้ยินเสียงเหล็กกระแทกกันบ้าง เสียงเหมือนกับคนยิงปืนบ้างด้วย
ชินมาหยุดตรงความเห็นดังกล่าว คำว่าแสงสีแดงกระตุ้นเร่งเร้าให้ชินอ่านคอมเมนต์ต่อไป
เกิร์ลน้อย : ฉันก็ได้ยินค่ะ ๆ แถวเดียวกันเลยด้วย
นักสู้พันธุ์ข้าวเจ้า : แถวชายแดนของเขต 66 ฝั่งตะวันออกงั้นสินะครับ ใกล้ ๆ บ้านผมเลยนะเนี่ย //กลัว
อ่านความเห็นมาถึงตรงนี้ชินก็ถอนหายใจอย่างหน่าย ๆ คิดว่ามันอาจจะเป็นแค่ปรากฏการณ์ธรรมชาติบางอย่างหรือไม่ก็มีคนเล่นพิเรนทร์ก็ได้
ดยุคแว่น : เอ… ผมเองก็เห็นเหมือนกันเลยครับ ผมเห็นจากที่ไกล ๆ เหมือนว่าจะเห็นกลุ่มคนสู้กันด้วยครับ
ชินอ่านต่อไปอย่างไม่คาดหวัง
ทว่า…
ดยุคแว่น : แล้วกลุ่มคนพวกนั้น เหมือนจะมีรอยสักเรืองแสงสีแดงด้วยแหละครับ
“!!!?”
ความเห็นนี้ทำให้ชินถึงกับเบิกตาโพลงรู้สึกขนลุกไปทั่วทั้งตัว
รอยสักเรืองแสงงั้นเหรอ?
ชินเร่งความเร็วในการอ่านคอมเมนต์มากขึ้น โดยเน้นคอมเมนต์ของคนที่ชื่อดยุคแว่นเป็นหลัก
อะรู้มิไร : สู้กันเหรอ? น่ากลัวจังเลย!
กระต่ายขี้กลัว(เจ้าของกระทู้) : พอมานึกดู ก็ได้ยินเสียงแบบนั้นจริง ๆ นั่นแหละนะครับ
โรงนาพิฆาต : เมื่อวานฉันเองก็ได้ยินเหมือนกัน นึกว่าคิดไปเองนะเนี่ย
ดยุคแว่น : โอ้… มีคนมาช่วยยืนยันแบบนี้ผมคงไม่ถูกหาว่าบ้าแล้วสินะ 555+
นักสู้พันธุ์ข้าวเจ้า : พอลองถามเพื่อนผมดู เหมือนว่าจะมีเสียงแบบนั้นทุกวันเลยแฮะ เกิดอะไรขึ้นเนี่ย อย่าบอกนะว่าทหารของเขต 66 แอบรุกล้ำเข้ามาในเขต 855 ?
เกิร์ลน้อย : แบบนั้นต้องเป็นข่าวไปแล้วล่ะค่ะ ฉันว่าน่าจะเป็นแก๊งผิดกฎหมายในประเทศมากกว่า แถวนั้นเป็นพื้นที่สีแดงด้วยไม่ใช่เหรอ?
เรดสปอต : แถวนั้นมีพื้นที่สีแดงด้วยเหรอ? เช็คแปป…
ชินอ่านคอมเมนต์ไปตามลำดับอย่างรีบร้อนเพราะความอยากรู้อยากเห็น
แต่การคาดการณ์ของทุกคอมเมนต์กลับไปคนละทางตามความคิดเห็นของตนจากข่าวลือเพียงแค่อย่างเดียว
แบบนี้ก็ไม่แปลกหรอกนะที่ข่าวลือจะเป็นจริงได้ยาก
ก็เพราะถูกแต่งแต้มก่อนจะไปบอกต่ออย่างที่คนพวกนี้ทำนี่ไง
แต่ไอ้ที่เป็นจริงแน่ ๆ ก็คงจะเป็นเรื่องต้นฉบับที่เอามาเริ่มเรื่อง… อันนั้นน่าจะมีโอกาสเป็นเรื่องจริงมากที่สุด
ชินลองเดิมพันเพราะคิดว่าไม่เสียหายอะไร แต่เขาก็เลื่อนอ่านคอมเมนต์แบบผ่าๆ ไปแล้ว เพราะเนื้อหาคอมเมนต์หลังจากนั้นมีแต่การคาดการณ์แบบส่งเดชไร้หลักฐานรองรับทิ้งสิ้น
ดยุคแว่น : พวกคุณนี่คาดการณ์ได้น่าสนุกดีนะครับเนี่ย! แต่รู้ไหม ความจริงแล้วทุกอย่างมันอาจจะเหนือยิ่งกว่าที่พวกคุณคิดก็ได้นา
ชินอ่านคอมเมนต์แบบผ่าน ๆ จนแทบจะปิดหน้าต่างหนี ความไร้สาระมีแต่จะเพิ่มขึ้นราวกับกำลังดูนักแต่งนิยายโต้เถียงกัน
ตอนนี้เนื้อหาแรกสุดที่บอกว่ามีรอยสักเรืองแสงไม่มีใครพูดถึงแล้วด้วยซ้ำ
ดยุคแว่น : ความจริงแล้วสถานการณ์เป็นยังไงน่ะเหรอครับ? นั่นสินะ
ที่ทำให้ชินทนอ่านต่อไปได้ก็เพราะยังมีตัวต้นเรื่องอย่างคนที่ชื่อ ‘ดยุคแว่น’ พิมพ์ตอบอยู่เท่านั้น
ดยุคแว่น : ยกตัวอย่างเช่น… มีคนกลุ่มนึงในโลกเบื้องหลัง กำลังต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงสิทธิ์ในการปกครองโลกอยู่โดยที่ไม่มีใครรู้… อะไรแบบนั้นน่ะ!
ชินอ่านมาถึงตรงนี้ก็ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ปิดหน้าต่างบอร์ดทั้งหมดลงในทันทีอย่างไร้ความลังเล
ทั้งเพราะได้เป้าหมายของคืนนี้แล้ว และเพราะเนื้อหาเริ่มออกทะเลเกินกว่าจะเก็บข้อมูลด้วย
เพ้อเจ้อใหญ่แล้ว… เจ้าหมอนี่น่าจะไปแต่งนิยายนะ
ชินเริ่มหน่ายใจ แม้จะรู้สึกว่าคนต้นเรื่องอาจจะสติไม่ดีหรือช่างจินตนาการ แต่ตอนนี้เขาไม่มีอะไรจะเสียแล้ว เบาะแสเล็กน้อยแค่ไหนเขาก็อยากจะคว้าเอาไว้
ชินจึงเปลี่ยนไปตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายระหว่างรอให้โอลิเวียตื่น
เพื่อแผนการลอบเข้าประเทศเขต 855 ในคืนนี้
❖❖❖❖❖
MANGA DISCUSSION