‘เวลา 01.56 น. ของคืนวันนี้… ผู้ก่อการร้ายที่ทำการระเบิดนิวเอจซิตี้เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. และทำการระเบิดตึกยูเนี่ยนทาวเวอร์เมื่อคืนวานได้ถูกจับกุมเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ…’
ชินฟังข่าวขณะเดินทางไปโรงเรียนด้วยรถไฟฟ้าตามเคย
เนื้อหานั่นมาจากหูฟังไร้สายที่ชินสวม ทำให้ดูเหมือนเชื่อมต่อกับโฮโลวอชแบบมาตรฐาน แต่แท้จริงแล้วรายการข่าวนั้นเชื่อมอยู่กับโฮโลวอชรูปปลากระเบนที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายต่างหาก (ส่วนสาเหตุที่ต้องทำแบบนั้น ก็เพื่อไม่ให้การดูข่าวอาชญากรรมถูกเก็บเป็นข้อมูล แม้จะดูเหมือนระแวดระวังเกินเหตุ แต่กันไว้ก่อนย่อมไม่เสียหาย)
ตอนนี้ชินกำลังโหนที่จับยืนบนรถไฟฟ้า เขากวาดสายตาไปรอบ เริ่มสังเกตว่าเช้านี้คนค่อนข้างโล่งเมื่อเทียบกับเวลาเดียวกันของเมื่อวานที่คนอัดแน่นเป็นปลากระป๋อง
แต่ชินก็ไม่ได้นั่งลงตรงที่ว่างอยู่ดี เพราะสถานีเป้าหมายอย่างโรงเรียนมัธยมปลายเซนต์ลอเรนซ์นั้นอยู่อีกไม่ไกล
ในความเป็นจริงก็มีนักเรียนชายหลายคนที่ไม่อยากจะนั่งเพราะเกรงว่าสถานีต่อไปจะมีผู้หญิง เด็กหรือคนแก่เข้ามาแล้วต้องสละที่นั่งให้จึงสู้ยืนไปตั้งแต่แรกเลยคงจะดีกว่า ซึ่งชินเองก็เป็นหนึ่งในคนที่คิดแบบนั้น แต่ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘ไม่อยากเป็นเป้าสายตา’ ตอนลุกหรือนั่งมากกว่า
แต่นั่นไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอีกแล้วเมื่อมีคนบนรถไฟฟ้าน้อยขนาดนี้
คงเพราะเรื่องเมื่อวานล่ะมั้ง
ชินยักไหล่ช่วยไม่ได้ เขาพอเดาออกว่าสาเหตุที่ไม่ค่อยมีคนก็เป็นเพราะเรื่องเดียวกับที่เขากำลังฟังจากข่าวนี่แล
‘…ผู้ร้ายคือนายเฮเดอร์ สมิธ ผู้ก่อการร้ายที่มีประกาศจับในหลายประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้… สิ่งที่เขาทำคือการปล้นธนาคารตั้งแต่ธนาคารท้องถิ่นไปจนถึงธนาคารรายใหญ่ มูลค่าความเสียหายรวมนั้นมากกว่า 18 ล้านเครดิตเลยทีเดียวค่ะ…’
ชินยังคงฟังข่าวต่อไป แต่ก็แค่แบบผ่าน ๆ เพราะเฮเดอร์ไม่เกี่ยวข้องกับเป้าหมาย จึงไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับชินแล้ว
ชินมองออกนอกหน้าต่างอย่างไม่สบอารมณ์ ถอนหายใจออกมาเบาๆ ไม่ให้ใครสังเกต แต่ก็จำเป็นต้องฟังข่าวต่อเผื่อว่ามีคนพูดถึงเขากับโกลเด้นด็อก
‘…และจากการสอบปากคำเบื้องต้น เฮเดอร์ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มนั้นไม่ได้มีกลุ่มย่อยหรือทำงานภายใต้คำสั่งของกลุ่มก่อการร้ายอื่นแต่อย่างใดค่ะ… แต่กระนั้นตำรวจก็ยังคงทำการสืบสวนต่อไป พร้อม ๆ กับความร่วมมือของหน่วยสืบสวนสอบสวนพิเศษอย่าง URI ที่เข้าควบคุมสถานการณ์เมื่อคืนด้วยหน่วยพิเศษ RC-Force ซึ่งเข้าจับกุมนายเฮเดอร์เมื่อวาน’
ทางนั้นฉกผลงานไปอย่างที่คิดเลยแฮะ กลัวเสียหน้าขนาดนั้นเลยรึไงนะ
ชินได้แต่ยิ้มแห้ง ถึงเขาจะไม่ได้อยากสร้างผลงานในการจับโจร แต่ก็อดหงุดหงิดกับคำโกหกพวกนี้ไม่ได้อยู่ดี
อนึ่ง URI หรือ Union Regions of investigation คือหน่วยสอบสวนกลางที่ขึ้นตรงกับ UR (Union Regions) ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างเขตประเทศทุกประเทศบนโลกโดยตรง เป็นหน่วยสืบสวนใหญ่ที่รับหน้าที่จัดการปัญหาเล็กใหญ่และเน้นคดีพิเศษที่เกี่ยวข้องกับผู้ก่อการร้าย รวมถึงคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้มีพลังพิเศษจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ ที่ตำรวจท้องถิ่นไม่อาจปิดคดีเองได้
และ RC-Force ก็เป็นหน่วยปฏิบัติการที่ขึ้นตรงกับ URI อีกทอดหนึ่ง
‘สถานีต่อไป โรงเรียนมัธยมปลายเซนต์ลอเรนซ์…’
เสียงประกาศดังขึ้นดังเช่นทุกวันที่ผ่านมา เป็นดั่งคำเตือนว่าชีวิตปกติในเวลากลางวันได้เริ่มขึ้นแล้ว ชินถอดหูฟังไร้สายเก็บเข้ากระเป๋าพร้อมกับเดินออกจากรถไฟฟ้า
เอาเถอะ… ไม่ว่าเมื่อคืนจะเกิดอะไรขึ้น และไม่ว่าใครจะทำอะไรต่อจากนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องสนใจ
เพราะว่ามันไม่เกี่ยวกับเป้าหมายของฉัน
แล้วอีกอย่าง… ชีวิตตอนกลางวันของฉันได้เริ่มขึ้นแล้ว
เพราะงั้นลืมเรื่องชีวิตตอนกลางคืนไปก่อนคงจะดีกว่า
ชินปรับอารมณ์และความคิดตัวเองจาก ‘แองกริคราวน์’ เป็น ‘ชินยะ นัวรอย’
เขาเริ่มออกเดินลงจากบันไดดังเช่นทุกวัน เดินผ่านถนนสายเดิมดังเช่นยามเช้าของทุกวัน แม้จำนวนนักเรียนจะน้อยกว่าทุกวันจนแทบไม่มี แต่สาเหตุก็คงไม่พ้นเป็นเพราะเฮเดอร์ปล้นธนาคารเมื่อวาน
ชินจึงไม่ได้คิดอะไรมาก ตั้งใจทำหน้าที่ในฐานะนักเรียนไม่ให้ด่างพร้อยหรือน่าสงสัย เขาเดินต่อไปจนกระทั่งถึงประตูรั้วโรงเรียนเซนต์ลอเรนซ์… ที่ไม่ได้เปิดเหมือนทุกที
“หืม?”
ชินเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย มีนักเรียนจำนวนนึงทำหน้าสับสนแบบเดียวกับชิน
พวกเขามุงกันอยู่หน้าประตูรั้วโรงเรียนที่มีป้ายประกาศโฮโลแกรมติดอยู่ว่า
‘โรงเรียนจะปิดทำการ 1 วัน เนื่องด้วยความกังวลในความปลอดภัยของนักเรียน ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ด้วย’
ความดังกล่าวทิ้งท้ายไว้เช่นนั้น
เหล่านักเรียนที่ได้อ่านประกาศต่างตะโกนโอดครวญออกมาว่า “พลาดแล้ว! ไม่น่าปิดโฮโลวอชตอนเช้าเลยโว้ย!” ไม่ก็ “บ้าเอ้ย ทำไมไม่อ่านประกาศให้ดี ๆ ก่อนมากันนะ!”
ปกติแล้ว มันควรจะมีประกาศแจ้งเตือนในระบบอัจฉริยะของห้องเรียนออนไลน์ ซึ่งเป็นแอพลิเคชันที่สร้างไว้สำหรับติดต่อ ส่งงาน รวมถึงสร้างคลาสเรียนออนไลน์ให้กับเหล่านักเรียนแบบไร้ค่าใช้จ่าย ทั้งหมดนั้นอยู่ในโฮโลวอชแบบมาตรฐานที่ทุกคนมี
ชินคิดแบบเดียวกับนักเรียนคนอื่น ยกโฮโลวอชบนข้อมือซ้ายขึ้นมาแล้วรีบเปิดกล่องจดหมาย
กระดานโฮโลแกรมฉายการแจ้งเตือนจดหมายขาเข้าเป็น 0 แต่จดหมายล่าสุดที่อ่านไปแล้วนั้นเป็นจดหมายแจ้งเตือนจากโรงเรียน
อย่าบอกนะว่า…
ชินขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดก่อนจะเปิดจดหมายนั้นขึ้นมา ภาพโฮโลแกรมฉายภาพกระดาษจดหมายสมัยก่อน เนื้อหาภายในแจ้งถึงนักเรียนทุกคนเนื่องด้วยวันที่ 5 มิถุนายน โรงเรียนจะยกเลิกการเรียนการสอนทุกคลาสอย่างไร้ข้อยกเว้น เพื่อให้นักเรียนอยู่บ้านในช่วงที่สถานการณ์การก่อการร้ายซึ่งมีไม่ค่อยบ่อยนี้ยังไม่สงบดี
จดหมายที่ว่าถูกส่งมาตอน 01.00 น. ของวันนี้ ซึ่งเป็นตอนที่ชินกลับจากยูเนี่ยนทาวเวอร์
ตอนนั้นมีจดหมายเข้ามาที่โฮโลวอชอันปกติที่ใช้ไปเรียน แล้วโกลเด้นด๊อกก็เป็นคนเปิดจดหมายนั้นจากโฮโลวอชของชินขึ้นอ่านให้เขาฟัง
“แค่จดหมายขยะน่ะค่ะมาสเตอร์”
ชินนึกถึงคำพูดน้ำเสียงยียวนของโกลเด้นด็อกเมื่อคืน ไม่สิ… เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว เขาก็รู้ตัวคนร้ายได้ในทันที
รู้แบบนั้นชินก็ได้แต่ยิ้มแห้งเพราะโดนเธอคนนั้นเล่นเข้าเสียแล้ว เรื่องนี้ทำคิ้วของชินกระตุกแรงอยู่พักนึง
เห็นชัดว่าต่อให้มนุษย์มีเทคโนโลยีล้ำเลิศแค่ไหน แต่หากผู้ใช้ยังคงซุ่มซ่ามไม่รอบคอบเช่นนี้ มนุษย์อย่างชินและเหล่านักเรียนก็เป็นอันต้องประสบโชคร้ายอยู่ร่ำไป
เย็นไว้… เย็นไว้…
ชินถอนหายใจออกอย่างแรงเพื่อปรับอารมณ์หงุดหงิด
ในตอนนั้นก็มีข้อความส่งเข้ามาพอดี เป็นแชทส่วนตัวมาจากเกวน
‘ชินไปโรงเรียนเหรอ? เป็นอะไรรึเปล่า?’ นั่นคือเนื้อความ แสดงถึงความเป็นห่วงเหมือนทุกที
อนึ่ง ในตัวโฮโลวอชนั้นสามารถเปิดระบบระบุตำแหน่งตัวเองได้ตามต้องการ ในยามปกติระบบแนะนำให้เปิดไว้เพื่อให้ติดต่อและไปมาหาสู่กับเพื่อนได้โดยง่าย ซึ่งชินเองก็ทำแบบนั้นยกเว้นเวลาหลังเลิกเรียนที่ต้องออกไปทำธุระส่วนตัว
‘อืม… ผิดพลาดนิดหน่อยน่ะ’ ชินส่งข้อความกลับไปทันที เช่นเดียวกับข้อความของเกวนที่ส่งกลับมาด้วยความไวแสง
‘ฮุฮุ… ชินเองก็มีจุดที่ซุ่มซ่ามอยู่เหมือนกันสินะเนี่ย’ เกวนส่งข้อความมาพร้อมสติ๊กเกอร์หัวเราะแบบผู้ดี ภาพของเกวนที่กำลังหัวเราะพลางยกมือขึ้นป้องปากเข้ามาในหัวชินโดยอัตโนมัติ เพราะเธอเป็นคนแบบนั้น
‘ขอทีเถอะน่า’ ชินยิ้มแห้ง ๆ ก่อนจะตอบกลับเกวนไปเช่นนั้น แล้วค่อยปิดโฮโลวอชของตัวเองลง
“เห้ย! ระวังหน่อยสิวะ!”
แต่ในตอนที่กำลังใช้ความคิดหลังตอบแชท ชินก็เผลอไปขวางทางจนชนเข้ากับนักเรียนชายคนนึงที่สวมชุดคนละแบบกับของเขาเข้า
นักเรียนชายผมตั้งคนดังกล่าวตะโกนออกมาอย่างหงุดหงิด เริ่มมองชินด้วยสายตาโกรธอย่างจริงจัง
“ขอโทษด้วย ฉันไม่ระวังเอง” ชินก้มศีรษะให้ ชายที่เดินเข้ามาใกล้ราวกับจะหาเรื่องจึงได้หยุดเท้าลงเมื่อเห็นท่าทีสำนึกผิดของชิน
“ชิ! เดินดูทางหน่อยสิวะไอ้บ้าเอ้ย!”
ชายคนนั้นเดาะลิ้นเสียงดังอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะจากไป ชินเองก็ไม่อยากหาเรื่องหาราวจึงไม่ได้ติดใจอะไร แถมอยู่ตรงนี้นานไปก็ไม่มีประโยชน์อีก
…กลับก็ได้
ชินได้ข้อสรุปแล้วก็หายใจ ทั้งด้วยความเหนื่อยหน่ายและหงุดหงิดกับอะไรหลาย ๆ อย่างที่สะสมมา
❖❖❖❖❖
หากใช้ความสะดวกสบายของย่านที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงของเขต 66 แห่งนี้ จะสามารถแบ่งออกเป็นหลายโซน และแน่นอนว่าหากค่อนไปในตัวเมืองก็ย่อมเต็มไปด้วยที่ดี ๆ
แต่สำหรับโซนที่ห่างจากตัวเมืองไปพอสมควรอย่างย่านที่ชินอยู่นั้นไม่ได้เพียบพร้อม
ในส่วนของหอพักที่ชินอยู่นั้นเป็นหอพักระดับปานกลางเมื่อมองจากภายนอก แถมยังอยู่ในย่านนอกตัวเมืองใกล้กับตลาดสดท้องถิ่น กระนั้น ตัวตลาดสดท้องถิ่นที่ว่าก็อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้านี้เอง จึงพูดได้ว่าแม้ตัวหอพักจะไม่ดีมาก แต่การเดินทางนับว่าสะดวกใช้ได้
ชินเดินผ่านตลาดสดดังกล่าวพลางมองไปรอบ ๆ สังเกตชีวิตของผู้คนดังที่ทำเป็นกิจวัตร ย่านการค้าเล็ก ๆ ที่ดูครึกครื้นนั้นทำให้ชินรู้สึกดี
ไม่นานนักก็เข้ามาในส่วนอยู่อาศัย ชินเดินเลาะกำแพงบ้านไปราว 4 หลังคาเรือนก็พบกับหอพัก 2 ชั้นที่ทำจากไม้ทั้งหลัง มีระเบียงทางเดินติดกับฝั่งถนนทำให้คนนอกมองเห็นได้ง่าย ชินคิดว่าบางทีคงเป็นหลักการออกแบบเพื่อความปลอดภัย คนสัญจรจะได้ช่วยสอดส่องไม่ให้ใครทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ หน้าห้องของเจ้าของห้อง
ชินเริ่มขึ้นบันไดชั้นสอง เพราะห้องของเขาคือห้องที่สองนับจากด้านในสุด ซึ่งในเวลาเช่นนี้ตามปกติไม่ควรจะมีใครอยู่
แต่ตอนนี้ หน้าประตูห้องของชินกลับมีเด็กสาวคนนึงยืนอยู่ และทันทีที่เธอรู้ตัวว่าชินเดินขึ้นบันไดมา เธอก็หันใบหน้างามชดช้อยของเธอมองตรงมายังเขาทันที
ผมสีเงินยาวสลวย ดวงตาสีเขียวใบไม้สด ใบหน้างดงามราวกับออกมาจากภาพวาด พร้อมด้วยส่วนโค้งเว้าที่ผู้หญิงทุกคนยังต้องอิจฉา แต่จุดเด่นที่สำคัญกว่านั้น คือใบหูยาวกว่าปกติอันเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเธอคือเอลฟ์
ใช่… ที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องของชิน คือเพื่อนร่วมระดับชั้นที่อยู่คนละห้อง
คือสาวงามเผ่าเอลฟ์ประจำโรงเรียนของชิน… โอลิเวียที่อยู่ห้อง ม. 5/1 นั่นเอง เธอกำลังสวมชุดลำลองด้วยเสื้อเดรสสีขาวคอกลมเปิดไหล่ ส่วนกระโปรงสั้นเสมอเข่า
ดวงตาอันประดับด้วยขนตายาวงามงอนนั้นจดจ้องมาที่ชินเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้
“ไปโรงเรียนสนุกไหมคะมาสเตอร์?” โอลิเวียยิ้มกริ่มด้วยใบหน้าที่ดูสูงศักดิ์และคงรอยยิ้มอ่อนหวานไว้ ทว่าแฝงความขี้เล่นไว้เต็มเปี่ยม แต่ในจุดนั้นคงมีแต่ชินเท่านั้นที่มองออก
ราวกับสัมผัสความขี้เล่นนั้นได้ (เหมือนทุกที) ชินจึงถอนหายใจออกเสียยืดยาว
“ล้อเล่นไม่ขำเลยนะโกลเด้นด็อก”
เห็นชินตอบกลับอย่างหน่าย ๆ โอลิเวียก็เผยรอยยิ้มอ่อนหวานอีกครั้ง ทว่าเป็นรอยยิ้มที่เจิดจ้ากว่าเมื่อครู่ ราวกับเด็กที่กำลังดีใจ
ใบหน้าเธอ แม้จะแฝงไว้ด้วยความเฉยชาราวกับหิมะยามค่ำคืน แต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเจิดจ้าแตกต่างจากยามปกติที่ผู้คนได้เห็น
รอยยิ้มเช่นนั้นไม่มีให้เห็นในสถานที่อื่น… นอกเสียจากต่อหน้าชินเพียงคนเดียวเท่านั้น
❖❖❖❖❖
ห้องของชินมีขนาด 15×10 เมตร เฟอร์นิเจอร์เป็นแบบทั่วไปที่เน้นใช้งานมากกว่าความสวยงาม ประกอบด้วยเตียงนอน เคาน์เตอร์ทำครัว กระจกบานใหญ่ใช้แต่งตัว โต๊ะสำหรับวางคอมพิวเตอร์ ชั้นวางหนังสือและโต๊ะอ่านหนังสือ กลางห้องมีโต๊ะเล็กสำหรับใช้นั่งติว ลึกเข้าไปมีห้องน้ำในตัว ซึ่งเป็นห้องน้ำแบบอาบด้วยฝักบัวพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น
ในห้องนั้นไม่มีเฟอร์นิเจอร์ฟุ่มเฟือย หากไม่นับเครื่องใช้ไฟฟ้าจำพวกเครื่องซักผ้า ตู้เย็นและเตาไมโครเวฟ นี่ถือเป็นห้องของนักเรียน ม.ปลายที่มีของครบถ้วนความจำเป็น
แต่หากจะหาจุดแตกต่างของหอพักนักเรียนทั่วไป คือราคาของที่นี่ค่อนข้างต่ำ แต่เหมาะสมกับการใช้งานแล้ว
ห้องของชินเรียบง่าย ไร้ของตกแต่งใดๆ เพราะเอาไว้ใช้บังหน้า นอนพักและเป็นที่รวมตัวชั่วคราวของชินกับโอลิเวียเท่านั้น นาน ๆ ทีก็เอาไว้ให้เพื่อนร่วมห้องมาติวหนังสือเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต นั่นคือหน้าที่เกือบทั้งหมดของห้องนี้
“กาแฟได้แล้วค่ะชิน”
โอลิเวียเดินเข้าหาชิน ตอนนี้เขากำลังนั่งกับพื้นตรงโต๊ะติวเล็กกลางห้อง
ในมือเธอพร้อมด้วยกาแฟสองแก้ว โอลิเวียนั่งคุกเข่าลงอย่างเรียบร้อย วางแก้วกาแฟลงกับโต๊ะก่อนจะจัดท่าทางอย่างเรียบร้อย แล้วจึงค่อยนั่งลงข้างชิน
“ขอบใจ” ชินรับกาแฟมาดื่มเรียกสติ โอลิเวียจ้องชินตาเป็นมันในจังหวะนั้นเหมือนกับทุกที
“อร่อยมาก”
“ด้วยความยินดีค่ะ” พอชินยิ้มตอบอย่างพอใจ โอลิเวียก็ยิ้มกลับอย่างเป็นสุข
นั่นคือทั้งหมดที่เธอต้องการ หลังบรรลุหน้าที่ตัวเองแล้ว โอลิเวียจึงค่อยดื่มส่วนของตัวเองบ้าง
“แล้ว… เรื่องเมื่อเช้าหมายความว่ายังไงโอลิเวีย?” พอได้ยินคำถามจี้ตรงจุดจากชิน ไหล่ของโอลิเวียก็กระตุกเล็กน้อย หากไม่ใช่ชินที่อยู่ด้วยกันมานานคงไม่มีทางสังเกตเห็น
“พูดเรื่องอะไรกันเหรอคะมาสเตอร์?” โอลิเวียเปลี่ยนสีหน้ายิ้มแย้มปิติยินดีเมื่อครู่เป็นเย็นชากว่าทุกที
เธอค่อย ๆ หันมามองชินช้า ๆ จนกลับกลายเป็นชินเองที่ต้องขมวดคิ้วกังวล
อนึ่ง หากนอกเหนือจากเวลาออกลุยแล้ว ชินจะเรียกโอลิเวียด้วยชื่อจริง เช่นเดียวกับโอลิเวียเองก็จะเรียกชินด้วยชื่อจริงเช่นกัน
นอกเสียจากเวลาที่จะแกล้งกัน กระแนะกระแหน หรือเวลาที่งอนตุ๊บป่องด้วยสาเหตุบางอย่าง
“นี่ฉันไปทำอะไรให้เธอโกรธรึไงเนี่ย?” นั่นเป็นเหตุผลที่ชินเข้าใจสาเหตุการแกล้งของโอลิเวียเมื่อเช้า
เขาครุ่นคิดมาตลอดการเดินทางกลับหอพัก ว่าตัวเขาทำอะไรให้เธอไม่พอใจไปเมื่อคืน แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบที่มั่นใจ
เพราะปล่อยให้สู้กับหุ่นรบ 4 ตัวคนเดียว? หรือเพราะไม่ยอมให้สู้กับตัวหลักอย่างเฮเดอร์?
ไม่น่าใช่… แต่ก็นึกเหตุผลอื่นไม่ออกเลยแฮะ
ชินไม่คิดว่าตัวเองต้องมาปวดหัวกับอะไรแบบนี้
…แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขารู้ตัวเลยสักนิด ว่าการที่ตัวเองคิดเรื่องของโอลิเวียอย่างจริงจัง ก็เป็นเพราะชินแคร์โอลิเวีย มากพอ ๆ กับที่โอลิเวียแคร์ชินนั่นแหละ
ในระหว่างที่ชินกำลังคิดจนหัวแทบหลุด โอลิเวียก็ค่อย ๆ เปิดปากด้วยสีหน้าจริงจัง
“เพราะไม่ยอมให้ดิฉันช่วยเปลี่ยนชุดยังไงล่ะคะ”
“เพราะเรื่องนั้นหรอกเหรอ”
ชินเดาผิดไปไกล แต่คำตอบของโอลิเวียก็ยังน่าปวดหัว ชินยกมือขึ้นกุมขมับไปเองก่อนจะถอนหายใจ
กลับกัน… โอลิเวียที่พูดแบบนั้นออกมาด้วยสีหน้าจริงจังไม่ได้มีท่าทีล้อเล่นเลยสักนิดนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าอีก
จริง ๆ การถูกเธอพยายามเข้ามาใกล้ชิดมันก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดีหรอกนะ
แต่มันก็… ทุกอย่างมันก็มีความเหมาะสมของมันอยู่
“อย่างน้อยก็แยกเวลาหน่อยเถอะ”
“…ทราบแล้วค่ะ”
ชินตอบกลับไปแบบแอบหวั่นใจ ทางโอลิเวียก็ตอบกลับอย่างไม่เต็มใจนัก แก้มเธอเริ่มป่องแดงระเรื่อออกมาอย่างน่ารักน่าชังแม้ใบหน้าจะดูเฉยชา
นั่นเป็นเสน่ห์อย่างนึงของเธอที่ไม่มีใครเคยเห็นนอกจากชิน
…และการรู้แบบนั้นยิ่งทำให้เขาใจอ่อน
ผู้หญิงนี่เอาใจยากซะจริงนะ… ช่วยไม่ได้
“เข้าใจแล้ว ฉันขอโทษ… อยากให้ฉันทำอะไรไถ่โทษล่ะ”
ชินเปิดปากยอมรับความผิดแต่โดยดี
และทันทีที่ได้ยินข้อเสนอ ใบหูยาว ๆ ของโอลิเวียก็ส่ายขึ้นลงอย่างร่าเริงทันที จนชินเหมือนเห็นภาพสมมติว่าโอลิเวียมีหูสุนัขตั้งชี้ขึ้น พร้อมกับหางสุนัขแกว่งไกวในพริบตาที่ชินบอกเป็นเชิงว่า “จะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เธอยกโทษให้”
“ทุกอย่างเลยสินะคะ” โอลิเวียถามย้ำด้วยสีหน้าจริงจัง ภาพเสมือนที่โอลิเวียมีหูและหางของสุนัขโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ปรารถนาจะคลอเคลียเจ้านายเริ่มเด่นชัดขึ้นทุกทีๆ
“อะ อา…” ชินมีแต่ต้องตอบกลับไปแบบนั้น เขาเองก็รู้สึกว่าใบหน้าตัวเองร้อนผ่าวขึ้นนิดหน่อย
แย่ล่ะสิ… ยัยโอลิเวีย คงไม่ถึงขั้นขออะไรแปลก ๆ หรอกใช่ไหม?
ชินเองก็เป็นผู้ชาย หากบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยกับสถานการณ์ที่อยู่กับสาวสวยสองต่อสองอย่างใกล้ชิดขนาดนี้ก็คงจะโกหก ความงดงามนั้นไม่อาจขัดขืนได้แม้จะเป็นชิน
ไม่สิ… บางที หากไม่ใช่เธอคนนี้ ชินอาจจะไม่รู้สึกแบบนี้ก็เป็นได้
ราวกับตกเป็นเบี้ยล่างของราชินีหิมะที่ทุกคนโจษจันไปแล้วอย่างไรอย่างนั้น
ในสภาพเช่นนี้ คงไม่มีใครดูออกแล้วว่าใครเป็นข้ารับใช้ ใครเป็นเจ้านาย
แต่ถึงจะบอกว่าทุกอย่างก็เถอะ…
ชินแอบกังวล และรู้สึกว่าตนอาจเสียใจทีหลัง
ยิ่งได้เห็นโอลิเวียขยับตัวออกจากโต๊ะเล็กแล้วเปลี่ยนมานั่งพับเพียบแทน เธอเลื่อนกระโปรงของตัวเองขึ้น เผยให้เห็นขาอ่อนอันอวบอิ่มขาวนวล แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็น แต่บอกตามตรงว่านั่นทำให้ชินใจสั่นทุกครั้ง
ไม่สิ ไม่ใช่แค่ชิน… ทางโอลิเวียที่เป็นผู้เริ่มเรื่องเอง ตอนนี้ใบหน้าไปจนถึงใบหูของเธอกำลังแดงเสียยิ่งกว่าเนื้อแตงโมเสียอีก
ลมหายใจของเธอถูกเร่งรัวขึ้น ร้อนผ่าวจนมีไอ ประหนึ่งความรู้สึกงุ่นง่านในอกของเธอกำลังปะทุขึ้นเพื่อเชื้อเชิญเขาให้มาแนบชิด
แต่ก่อนที่ชินจะจินตนาการไปไกลกว่านี้ โอลิเวียก็ใช้มือซ้ายตบขาอ่อนตัวเองเบา ๆ สองที
“งั้น… กรุณานอนหนุนตักดิฉันด้วยนะคะ”
โอลิเวียเอ่ยขณะใบหน้าแดงก่ำ ทำเอาชินกะพริบตาปริบ ๆ ทั้งรู้สึกโล่งอกและเสียดายในเวลาเดียวกัน
แต่รอยยิ้มของชินเผยตามมาหลังจากนั้น
โอลิเวียมักจะ ‘เข้าหา’ ชินเป็นปกติอยู่แล้ว ความปรารถนาที่อยากจะใกล้ชิดชินนั้นเขาเองก็รู้ดี
ชินไม่ได้ซื่อบื้อถึงขนาดนั้น แต่หากพูดถึงความเคยชินก็เป็นอย่างที่เห็น… โอลิเวียเองก็เป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาทั่วไป
เป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาที่อยากจะทลายกำแพงลงทีละชั้น เพื่อเข้าใกล้ชินให้มากยิ่งขึ้น
…เธอก็แค่อยากจะใกล้ชิดผู้ชายที่เธอตกหลุมรักเท่านั้นเอง
รู้แบบนั้น แล้วฉันจะปฏิเสธได้ยังไงเล่า
“เข้าใจแล้ว”
ชินขยับเข้าไปใกล้โอลิเวียก่อนจะค่อย ๆ เอนตัวลง เอาหัวหนุนกับขาอ่อนของโอลิเวียตามที่เจ้าตัวต้องการ
สีหน้าของเธอยังคงแดงก่ำ และแม้จะไม่เท่ากับโอลิเวียแต่ใบหน้าชินเองก็แดงระเรื่อไม่ต่างกันนัก
“เวลาแบบนี้ไม่ค่อยมีนะคะ… พักผ่อนเท่าที่ทำได้เถอะค่ะชิน”
โอลิเวียลูบเส้นผมของชินอย่างอ่อนโยนประหนึ่งปลอบประโลม ใบหน้าเธออ่อนหวานและปิติยินดีดังเช่นทุกที
คำพูดเช่นนั้นทำเอาชินเบิกตาโพลง แต่ก็ทำให้เขาเข้าใจความรู้สึกของโอลิเวียแล้ว
งั้นเหรอ… ไม่ว่าจะตอนไหนเธอก็คิดถึงเราก่อนตลอดเลยสิ
“ขอบใจนะ” ชินได้แต่ตอบกลับไปด้วยความดีใจ
หลังสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนจากโอลิเวีย สีหน้าของชินอ่อนโยนลงเสียยิ่งกว่าทุกครั้ง เป็นสีหน้าที่แสดงให้เห็นเฉพาะโอลิเวียเท่านั้น
สุดท้ายก็เพราะเป็นห่วงเราล่ะสินะ
ชินคิดเช่นนั้นก็เข้าใจได้ง่าย ๆ
บางทีโอลิเวียอาจจะแค่หาเรื่องให้ชินได้ผ่อนคลาย เพราะอย่างไรเสียทุกอย่างที่เธอทำก็เพื่อความสุขของชินมาตลอดอยู่แล้ว ถึงนั่นจะทำให้ชินรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยก็ตาม
ความอ่อนโยนจากฝ่ามือของเธอช่วยเยียวยาความเหนื่อยล้า จากทั้งความเจ็บปวดในอดีตและจากการต่อสู้เมื่อวาน นั่นทำให้ชินเข้าสู่ภวังค์แห่งการหลับใหลอย่างง่ายดาย ด้วยความรู้สึกขอบคุณโอลิเวียจากใจ
“ด้วยความยินดีค่ะ… ชินของฉัน”
โอลิเวียกล่าวอย่างแผ่วเบาหลังจากที่ชินผล็อยหลับ ก่อนจะก้มมองชิน จ้องใบหน้ายามหลับของชายที่ตัวเองรักด้วยสีหน้าแห่งความสุขราวกับต้องมนตร์
❖❖❖❖❖
MANGA DISCUSSION