“น… นั่นมัน…อาณาจักรแห่งเทพของอิกดราซิลเรอะ!”
เสียงพึมพำของอูลร์เต็มไปด้วยความฉงน สีหน้าฉายแววไม่แน่ใจขณะทอดสายตามองไปยังทิศเหนือที่ลำแสงศักดิ์สิทธิ์พุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้า
ทว่าหลังจากนั้นเพียงอึดใจ เขาก็พลันตระหนักถึงความจริงบางอย่าง ดวงตาเบิกโพลงขึ้น และสีหน้าก็แปรเปลี่ยนในทันที
อูลร์หันกลับมาอย่างฉับพลัน และในวินาทีนั้น เขาก็พบว่าเทพธิดาแห่งชีวิตกำลังจ้องมองมาทางเขาเช่นกัน…
รอยยิ้มบางเบาบนใบหน้าของอีฟ ไม่อาจเรียกได้ว่าอ่อนโยน หากแต่แฝงเร้นด้วยเจตนาอันลึกซึ้งกว่าคำพูดใดจะสื่อถึง และในสายตาคู่นั้น… ไม่ได้จ้องเขาโดยตรง หากแต่มองทะลุผ่านไปยัง มงกุฎแห่งธรรมชาติ ที่อยู่เบื้องหลังตัวเขา
“กล้าหลอกเราเหรอ?”
เสียงของอีฟดังขึ้นในห้วงอากาศ แม้ฟังดูสงบนิ่ง หากแต่ในความนิ่งนั้น กลับเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและการเย้ยหยัน ใบหน้าของอูลร์เผือดซีด และทันใดนั้น เสียงหนึ่งซึ่งเขาคุ้นเคยดี ก็พลันดังสะท้อนขึ้นจากส่วนลึกของวิญญาณ
“ไม่นึกเลยว่าอาณาจักรแห่งนั้น จะปรากฏขึ้นในดินแดนนี้จริง ๆ”
เสียงนั้นชราภาพ ลึกล้ำ และมั่นคง
“ที่แท้ข่าวลือนั้นก็เป็นจริง มงกุฎแห่งธรรมชาติ… คือเศษเสี้ยวของอาณาจักรเทพของอิกดราซิลจริง ๆ”
“เช่นนั้นแล้ว… ดูท่าผู้นั้นจะไม่ใช่อิกดราซิลอย่างที่เราคาดไว้ แต่คฃเป็นเทพองค์ใหม่ที่เติบโตเร็วเกินคาด ฃนี่คือศักยภาพของเผ่าเอลฟ์? หรือศรัทธาของพวกมันได้ก่อให้เกิดปาฏิหาริย์กันแน่?”
เสียงนั้นถอนหายใจแผ่วเบา ก่อนจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“อูลร์ กลับมาเถิด แผนถูกเปิดโปงแล้ว มงกุฎแห่งธรรมชาติกำลังหลุดจากการควบคุม ข้าไม่อาจใช้มันกดพลังของเทพธิดาแห่งชีวิตได้อีกต่อไป…”
“และยามนี้ เฮลาก็ยังแทรกแซงพลังของข้าอีกด้วย… สถานการณ์พลิกผันเกินกว่าที่เราจะต้านทานได้แล้ง”
“ร่างอวตารของเจ้า ไม่มีทางต้านเธอได้ และตอนนี้ เธอก็ไม่อาจเดินเข้ากับดักของเราได้อีก แผนสำรองทั้งหมดก็ไร้ความหมายแล้วเช่นกัน”
“ถอยเถิด พาเหล่าสาวกและผู้ติดตามของเจ้ากลับไป”
เสียงนั้นคือ เทพแห่งความมืดและเงา โฮลเดอร์…
เมื่อถ้อยคำสุดท้ายกระทบจิต อูลร์ก็รู้สึกราวกับทั้งสวรรค์ถล่มลงตรงหน้า สีหน้าของเขาค่อยหม่นหมอง ราวกับถูกดูดกลืนเข้าสู่ห้วงพ่ายแพ้อันมืดมิด
ข้าแพ้?
แผนที่วางไว้เนิ่นนานนับพันปี ได้พังครืนลงในชั่วพริบตา
เขาไม่อาจเชื่อว่า ทุกอย่างจะล่มสลายเพียงเพราะอาณาจักรเทพของต้นไม้โลกเผยโฉมขึ้นเพียงชั่วครู่ ทั้งที่อีกเพียงก้าวเดียว ทุกอย่างก็จะสำเร็จตามแผน หากสามารถผนึกเธอไว้ หากสามารถใช้มงกุฎแห่งธรรมชาติกดพลังของเทพธิดาองค์ใหม่นี้…
ต่อให้เธอเป็นเทพ เขาก็มั่นใจว่าเธอจะไม่ต้านทานศึกยืดเยื้อได้แน่!
และที่สำคัญ เขายังไม่ทันใช้แผนสำรองเลยด้วยซ้ำ! หากเพียงแค่เธอก้าวเข้าสู่กับดัก… ไม่ว่าจะเป็นเทพพลังขั้นต้นหรืออะไรก็ตาม เธอจะไม่มีทางหนีรอดได้แน่นอน!
แต่มันมีข้อแม้เพียงหนึ่งเดียว… เธอต้องก้าวเข้าไปก่อน
อูลร์เงยหน้าขึ้นสบตาอีฟอีกครั้ง และในแววตาคู่นั้น เขาเห็นทุกคำตอบ… ความโกรธแฝงไว้ด้วยการเย้ยหยัน และการระวังตัวอย่างถึงที่สุด
พวกเขาพ่ายแพ้โดยสมบูรณ์
ร่างของอูลร์สั่นไหว ดวงใจเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม เขาไม่อาจยอมแพ้ได้
เผ่าเอลฟ์เติบโตเร็วเกินไป เทพธิดาแห่งชีวิตเติบโตเร็วเกินไป และนี่คือโอกาสสุดท้ายของเขาแล้ว!
หากล้มเหลวในครั้งนี้ ก็ไม่มีครั้งหน้าอีกต่อไป!
ยิ่งกว่านั้น เขาจะสูญเสียทั้งตำแหน่งเทพ เขาจะถูกความพิโรธของเทพธิดาบดขยี้ และที่สำคัญ… เธอหาใช่เทพผู้อ่อนโยนเช่นพระมารดาแห่งปวงเทพไม่
เธอคือผู้ที่สามารถทำลายรากฐานพลังศรัทธาได้โดยไม่ลังเล กวาดล้างได้จนสิ้นเผ่า ไม่ต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ทะเลทรายมรณะในห้วงขณะนี่
ยิ่งไปกว่านั้น การที่เขาร่วมมือกับเทพมาร ก็ถือเป็นความผิดพลาดร้ายแรง จนเทพทั้งหลายไม่อาจยืนข้างเขาได้อีกต่อไป
แม้เขาอาจจะไม่ถึงขั้นดับสูญ… แต่อูลร์ก็มองเห็นชะตากรรมของตนได้ชัดเจน หากพ่ายแพ้ สาวกของเขาจะลดน้อยลงอย่างไม่อาจเลี่ยง พันธกิจที่เคยครอบครองจะถูกริบไปโดยอ้างสิทธิแห่งการคุ้มครองสายพันธุ์ฮาล์ฟออร์ค…
และเมื่อถึงตอนนั้น สิ่งที่หลงเหลือ อาจมีเพียงตำแหน่งอันว่างเปล่า เทพแห่งเหมันตฤดูและการล่าที่ไม่อาจปกป้องสิ่งใดได้อีกต่อไป
เขาจะกลายเป็นเพียงข้ารับใช้ ที่ต้องยอมก้มหัวขอเศษเสี้ยวแห่งพลังศักดิ์สิทธิ์ จากเทพแห่งสงคราม เพื่อคงอยู่ต่อไปอย่างไร้เกียรติ!
เช่นนั้นแล้ว… เขายังจะกล้าเรียกตนเองว่า เทพ ได้อีกหรือ?
หากในท้ายที่สุด ต้องตกอยู่ในสภาพที่ไม่ต่างจากหุ่นเชิดชั้นสูง เป็นเพียงเครื่องมือที่เหนือกว่านักรบกึ่งเทพเพียงนิดเดียว… หากถึงวันที่ต้องอ้อนวอนขอเศษพลังเพื่อดำรงตนเองไว้ใต้เงาของเทพองค์อื่น เช่นนั้นยังควรค่าแก่การดำรงอยู่หรือไม่?
และต่อให้ลอยด์ไม่ถึงขั้นกดขี่เขาในทันที… ในวันที่พลังเวทในดินแดนซากัสฟื้นคืน ช่องทางระหว่างเขตแดนเปิดออกอีกครั้ง ตัวตนผู้ยิ่งใหญ่จากอดีตหวนคืนสู่โลกเบื้องบน… หากเขาถูกเทพธิดาแห่งชีวิตไล่ต้อนอย่างต่อเนื่อง จนไม่เหลือเสถียรภาพใดให้ยึดถือ ต่อให้ไม่พ่ายแพ้ในศึกนี้ ก็ย่อมพ่ายแพ้ในภาพรวมในไม่ช้า
และเทพผู้ไร้ศรัทธา มิใช่อะไรอื่น นอกจากผู้รอวันดับสูญ
อีฟไม่จำเป็นต้องลงมือสังหารเขาด้วยตนเอง เธอเพียงแค่อยู่ต่อไปด้วยพลังและความยิ่งใหญ่ที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง ก็เพียงพอต่อการบีบให้เขาถอยร่นไปสู่จุดสิ้นสุด
นี่คือโอกาสสุดท้ายของเขาแล้ว…
ก่อนศึกเริ่ม เขายังฝันว่าตนจะเอาชนะได้โดยง่าย แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอีฟและผู้ติดตามที่ทรงพลังเหลือเชื่อ ต้องเห็นกับตาว่าเธอเติบโตเร็วราวไฟป่า เขาก็รู้ทันทีว่า ศึกนี้ ไม่มีทางเลือกอื่นให้เขาอีกต่อไป
ทางรอดหนึ่งเดียว คือการคว้าชัยเท่านั้น
เทพโบราณอย่างโฮลเดอร์ อาจหลบเร้นอยู่ในปรโลกได้
ลูเรียและอลิซซา แม้ไร้ศรัทธาก็ยังดูดกลืนพลังจากห้วงลึกเพื่อยืนหยัดต่อไปได้
แต่เขา… อูลร์ผู้เป็นเทพแห่งศรัทธา ไม่อาจทำเช่นนั้นได้
แม้จะดูทรงอำนาจ แต่แท้จริงแล้ว เขาไม่มีทางถอย ไม่มีที่ให้ยืนอีกต่อไปแล้ว!
คิดถึงจุดนี้ ดวงหน้าของอูลร์ก็บิดเบี้ยวด้วยโทสะ ตาพร่าเรืองแสงด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์สีเงินหม่น แววแห่งความมุ่งมั่นปะทุขึ้นจนแทบล้นทะลัก!
เขากระชับขวานศักดิ์สิทธิ์แน่นในมือ สูดลมหายใจแรง แล้วตะโกนลั่นออกไปด้วยเสียงอันเกรี้ยวกราด
“อีฟ! ไม่เจ้าก็ข้า จักต้องดับสูญในวันนี้!”
คำประกาศศึกที่แท้จริงกึกก้องทั่วผืนเวหา และในพริบตานั้น เสาศักดิ์สิทธิ์สีเงินก็พวยพุ่งขึ้นจากร่างของเขา เปล่งประกายแสงเรืองรองทะลุฟ้า บดบังทุกสายตาด้วยความเจิดจ้า
มันทะยานผ่านวงเวทลึกลับนับไม่ถ้วน ซ้อนทับอย่างซับซ้อนพาดผ่านชั้นเมฆแห่งโลก ละลายแนวกั้นของเขตแดนจนร้าวแตกราวกับจะฉีกผืนฟ้าออกเป็นเสี่ยง!
ในเสี้ยววินาทีต่อมา… ดินแดนซากัสทั้งแผ่นดินก็สั่นสะเทือนเล็กน้อย
แรงกดดันมหาศาลประหนึ่งคลื่นทะเลลึกถาโถมจากฟากฟ้า กดทับลงบนโครงสร้างของโลกจนได้ยินเสียงแตกร้าว ผืนฟ้าเต็มไปด้วยรอยปริดั่งใยแมงมุมสีเงิน และภายในรอยร้าวนั้น… มีบางสิ่งที่กำลังหมุนวนอยู่… มันคือพายุแห่งความว่างเปล่าอันน่าสะพรึงกลัว!
อีฟชะงัก ดวงตาเบิกกว้าง
ในขณะเดียวกัน เธอก็สัมผัสได้ว่า สายตานับสิบคู่จากทั่วทุกสารทิศกำลังจ้องมายังสมรภูมิแห่งนี้…
บางดวงตามาจากปรโลก
บางดวงตามาจากแดนสวรรค์
บางดวงตาซ่อนอยู่ในแดนสนธยาและรอยแยกลับเร้นทั่วดินแดนซากัส
และบางดวงตา เฝ้าดูอยู่จากห้วงลึกอันไร้ก้นบึ้ง
ทั้งหมดนั้นคือ ตัวตนเก่าแก่ในตำนาน!
การปะทะกันระหว่างเทพทั้งสอง ได้ดึงดูดสายตาของตัวตนระดับสูงสุดให้จับจ้องมายังที่แห่งนี้แล้วโดยสมบูรณ์
เสียงตวาดโกรธแค้นพลันดังขึ้นในจิตของอูลร์
“อูลร์! เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ?! หยุดเดี๋ยวนี้! เจ้าไม่มีพลังมากพอจะเขย่าช่องทางของเขตแดน! หากฝืนต่อไป เจ้าจะดับสูญแน่นอน!”
นั่นคือเสียงของเทพแห่งความมืดและเงา โฮลเดอร์ ก้องสะท้อนอยู่ในจิต
แต่อูลร์เพียงแค่นหัวเราะราวไร้แยแส จากนั้นก็ตัดการเชื่อมต่อกับโฮลเดอร์อย่างไม่ลังเล
“ดับสูญ?”
เขาแสยะยิ้มเย้ยหยัน
“ท่านกลัวว่าข้าจะละเมิดพันธสัญญา แล้วท่านจะโดนลูกหลงไปด้วยล่ะสิ…”
เสียงของเขาเย็นเยียบ ดั่งคมมีดเฉือนผ่านจิต
“ไม่ต้องห่วง… ข้ายังไม่โง่พอจะฝืนเปิดช่องทางเขตแดนเต็มรูปแบบ และก็ไม่มีพลังมากพอจะทำลายมันอยู่แล้ว…”
เมื่อสิ้นคำ พลังศักดิ์สิทธิ์ก็ระเบิดออกจากกายอีกครั้ง เสาศักดิ์สิทธิ์สายใหม่พุ่งจากฟากฟ้า ลงกระแทกสู่ร่างของเขาโดยตรง
พลังของอูลร์เพิ่มพูนขึ้นอีกระดับ!
สีหน้าของอีฟพลันเคร่งเครียด เธอยกหัวใจแห่งความร่วงโรยขึ้น ปล่อยเส้นแสงสีแดงเข้มโดยไม่รีรอ!
แสงสีแดงหม่นพวยพุ่งจากศาสตราเทพ พุ่งเข้าปะทะเทพแห่งเหมันตฤดูและการล่า ทว่ามันกลับไร้ซึ่งผลโดยสิ้นเชิง!
เมื่อเห็นเช่นนั้น อีฟขมวดคิ้ว เธอก้มมองศาสตราในมือด้วยความไม่เข้าใจ ทันใดนั้น อูลร์ก็หัวเราะเย็นเยียบ พลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“อีฟ… เจ้าว่าข้าจะไม่ระวังศาสตราเทพชิ้นนั้นรึไง? พื้นที่แห่งนี้… ไม่ได้มีไว้จัดการเจ้าเพียงผู้เดียวหรอกนะ!”
เขาปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง ร่างกายสว่างวาบ และในขณะเดียวกัน วงเวททองคำขนาดมหึมาก็ปรากฏขึ้นใต้ฝ่าเท้าของเขา ราวกับแผ่นตราพิธีกรรมระดับสูง…
เมื่อเห็นลวดลายบนวงเวทนั้น อีฟถึงกับเบิกตากว้าง
“สลับร่างต้นกับอวตาร?!”
อูลร์เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยเสียงเย้ยหยันที่กรีดลึกเข้าไปถึงขั้วหัวใจ
“เทพมือใหม่อย่างเจ้า… ดูทันโลกไม่น้อยเลยนี่นา”
เมื่อถ้อยคำยืนยันจากปากของอูลร์ดังขึ้น อีฟก็พลันชักสีหน้าทันทึ
นี่คือมหาเวทซึ่งใช้สลับตำแหน่งระหว่างร่างแท้ กับอวตารได้ในพริบตาเดียว!
สำหรับสงครามระหว่างเทพ ที่ทุกสิ่งล้วนพร่าเลือนระหว่างจริงกับลวง เวทมนตร์บทนี้นับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทรงอานุภาพที่สุดของตัวตนในตำนาน โดยเฉพาะเทพที่มีอวตารกระจายอยู่ตามดินแดนต่าง ๆ เพื่อใช้ควบคุมศรัทธาและติดตามศึกสำคัญ
อูลร์หาได้ต้องการเปิดช่องทางเขตแดนของดินแดนซากัสอย่างเต็มรูปแบบไม่ แต่เขาเพียงฉีกแหวกพรมแดนให้เกิดรอยร้าวชั่วคราวด้วยพลังมหาศาล และในช่วงเสี้ยววินาทีก่อนที่รอยร้าวนั้นจะสมานกลับ… เขาก็จะใช้เวทนี้เชื่อมโยงและสลับร่าง ระหว่างอวตารกับร่างแท้ทันที!
ครั้งหนึ่ง การฝืนเปิดรอยแยกในเขตแดนที่ถูกเทพชั้นสูงผนึกไว้เช่นนี้ เคยเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับเทพพลังระดับก่อนขั้นต้นอย่างเขา…
แต่ตอนนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว
พลังเวทในดินแดนซากัสได้ฟื้นคืนขึ้นมากกว่าที่เคย แม้ผนึกเทพจะยังคงอยู่ แต่ก็ไม่อาจป้องกันรอยรั่วเล็ก ๆ ได้อีกต่อไป และช่องว่างนั้นก็เพียงพอให้เวทนี้ทำงานได้!
ในพริบตา อีฟก็ตระหนักถึงเป้าหมายของเขา อูลร์ต้องการเรียกร่างแท้ของตนลงมา เพื่อสังหารเธอด้วยตัวเอง!
ทว่าในใจของอีฟก็ยังเต็มไปด้วยความลังเล
เพราะเวทนี้ แม้จะร้ายกาจเพียงใด แต่ก็มีเงื่อนไขหนึ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง…
สถานที่ที่ใช้สลับร่าง จะต้องสามารถรองรับการปรากฏของร่างแท้ได้!
ในขณะนี้ พลังเวทของดินแดนซากัสยังไม่ฟื้นถึงจุดนั้น หากฝืนใช้เวทนี้ แรงสะท้อนจากพลังศักดิ์สิทธิ์ รวมถึง กฎของเขตแดน อาจย้อนกลับมาทำลายผู้ใช้จนแหลกสลาย!
แม้จะยังสงสัยในใจ แต่สีหน้าของอีฟกลับยังคงสงบนิ่ง ราวกับผืนน้ำไร้คลื่น
และไม่นานนัก คำตอบของทุกอย่างก็เผยออกต่อหน้าเธอ
สายโซ่สีทองนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นรอบร่างของอูลร์ หมุนวนรัดพันรอบตัวเขาอย่างเงียบงัน ราวกับพันธนาการแห่งสวรรค์
บนสายโซ่เหล่านั้น อักขระโบราณปรากฏขึ้นทีละชุด ล่องลอยหมุนวนรอบตัวเขา แล้วค่อย ๆ ซึมซาบเข้าสู่ร่างกายทีละน้อย… ทีละน้อย…
เมื่ออักขระสุดท้ายหลอมรวมเข้ากับร่างของเขา พลังศักดิ์สิทธิ์ที่เคยไหลบ่าอย่างรุนแรงก็หยุดนิ่งลงในพริบตา
ระดับพลังที่เกือบจะทะลุเข้าสู่ความเป็นกึ่งเทพ… ถูกจำกัดลงจนหยุดอยู่ที่ขีดสูงสุดของระดับนั้นอย่างแม่นยำ!
“…ผนึก?”
อูลร์ ผนึกพลังของร่างแท้ตนเองด้วยมือของตนเอง!
เขาจงใจลดทอนพลังของตนลง จนอยู่ในระดับที่โลกแห่งนี้สามารถรองรับได้ ด้วยวิธีนี้ เขาหลบเลี่ยงกลไกของพลังต้นกำเนิดและผนึกที่ยังหลงเหลืออยู่
ทันใดนั้น ร่างของอูลร์ก็สว่างวาบ แสงศักดิ์สิทธิ์เจิดจ้าปะทุขึ้นทั่วร่าง เงาเลือนรางพลันรวมเป็นรูปร่างอันมั่นคง รูปธรรมอันแท้จริงของเทพแห่งเหมันตฤดูและการล่าได้ลงสู่สนามรบ!
วงเวทเบื้องล่างค่อย ๆ สลายไป กลิ่นอายของพลังศักดิ์สิทธิ์รอบตัวเขาเปี่ยมไปด้วยความลุ่มลึก น่าเกรงขาม และหนักแน่นยิ่งกว่าเดิม
เสียงสวดภาวนาลึกลับ ราวกับเสียงประกาศศึกจากแดนน้ำแข็ง พลันแผ่ออกมาจากบรรยากาศรอบกายเขา
อูลร์ลืมตาขึ้น
ดวงตาสีเงินของเขาลุกโชนด้วยเพลิงศักดิ์สิทธิ์สีทอง บรรยากาศรอบกายส่องประกายพลังอันเกรียงไกร
เกราะหนังอันเรียบง่ายที่เคยสวมอยู่ บัดนี้ถูกแทนที่ด้วยชุดศึกศักดิ์สิทธิ์อันสง่างาม ผ้าคลุมสีเงินหม่นพลิ้วไหวเบื้องหลังดั่งสายลมพายุ
อูลร์ยืดอกอย่างสง่าผ่าเผย ยกแขนทั้งสองข้างขึ้น และเอ่ยด้วยเสียงต่ำทรงพลัง
“มาเถิด… อาณาจักรของข้า!”
เมื่อเสียงสิ้นสุด แสงศักดิ์สิทธิ์สีเงินก็พลันสาดส่องออกจากร่างของเขาอีกครั้ง!
แรงกดดันมหาศาลแผ่ขยายออกจากศูนย์กลาง เปี่ยมด้วยพลังอันสูงส่งและเกินจะต่อต้านได้ พื้นดินโดยรอบเริ่มสั่นสะเทือน เสียงแตกปริปรากฏเป็นระลอก
และแล้ว พลังศักดิ์สิทธิ์สีเงินก็ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง กลืนกินทุกสิ่งรอบกายราวกับหิมะถล่ม!
เทือกเขาน้ำแข็งตระหง่านเหนือชั้นเมฆปรากฏขึ้นเหนือท้องฟ้า ต่อหน้าสายตาคลั่งไคล้ของเหล่าฮาล์ฟออร์ค ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้เล่น และภายใต้การเฝ้ามองของตัวตนระดับตำนานนับสิบ
เหล่าสัตว์ร้ายและสัตว์ศักดิ์สิทธิ์แห่งหิมะนับร้อยนับพัน ลอยวนกลางเวหา บ้างแยกตัวสลายไปเป็นหิมะ แล้วกลับมารวมกันใหม่อย่างไม่มีที่สิ้นสุด…
เทือกเขาก่อรูปขึ้น จนกระทั่งปิดล้อมพื้นที่ที่อูลร์และอีฟยืนอยู่ ตัดขาดจากสายตาทุกชีวิตโดยสมบูรณ์
ดวงตาของผู้สังเกตการณ์ระดับตำนานพลันแสดงความผิดหวัง พวกเขาละสายตาไป เหลือเพียงเงาแห่งความเงียบงัน
นี่คืออำนาจสูงสุดของอูลร์!
อาณาจักรของเทพแห่งเหมันตฤดูและการล่า ทุ่งน้ำแข็งสีเงิน!
ในแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ อูลร์คือผู้บัญญัติกฎ อูลร์คือผู้ปกครองสูงสุดของทุกสรรพสิ่งใต้ผืนฟ้าเหนือแผ่นดิน!
ในอาณาจักรแห่งเทพของเขา ขวานและคันธนูศักดิ์สิทธิ์ในมือเรืองแสงวาบ ดวงตาเย็นเยือกแน่วแน่จับจ้องมายังอีฟ… ผู้ที่ยังคงยืนหยัดอยู่ท่ามกลางเทือกเขาน้ำแข็งอันลึกลับนั้น พร้อมคำถามมากมายในแววตา
อูลร์แสยะยิ้มเย็น ริมฝีปากยกขึ้นเผยความเหี้ยมเกรียมที่มิได้ปิดบังแม้แต่น้อย ก่อนเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ
“อีฟ… ข้ายอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่ง พลังศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าก็สูงกว่าข้าเสียด้วยซ้ำ…”
“แต่เพราะเหตุนี้ หากปล่อยให้เจ้าเติบโตต่อไป วันหนึ่งข้าจะไม่เหลือโอกาสใดในการกำจัดเจ้า และเมื่อนั้น… ความหวังของข้า ในการก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง ก็จะพังทลายลงโดยสิ้นเชิง”
“แต่ก็อย่างที่ข้าเคยบอก พลังศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่ความแข็งแกร่งที่แท้จริง!”
“อีฟ… เจ้าพ่ายแพ้แล้ว ตั้งแต่เจ้าก้าวเข้าสู่พื้นที่ผนึกแห่งนี้ เจ้าไม่มีวันชนะข้าได้แล้ว!”
“อาณาจักรแห่งเทพ… คือพลังสูงสุดของพวกเรา! ในพื้นที่แห่งนี้ เจ้าจะไม่มีวันแผ่อาณาเขตของเจ้าออกมาได้ และเจ้าก็ไม่มีโอกาสชนะข้าได้แม้แต่น้อย!”
เขาสะบัดแขน เงื้อขวานเทพขึ้นเหนือศีรษะ ดวงตาเปล่งประกายคลุ้มคลั่ง ก่อนจะประกาศด้วยน้ำเสียงสะท้านเวหา
“จงดับสูญเสียเถิด! ข้าจะสังหารเจ้าที่นี่! แล้วพลังศักดิ์สิทธิ์ของเจ้า… พันธกิจของเจ้า… จะตกเป็นของข้า!”
“ข้าจะกลายเป็นเทพแห่งชีวิตและธรรมชาติองค์ใหม่!”
ทันทีที่เสียงสุดท้ายจางลง อูลร์ก็ตวัดขวานศักดิ์สิทธิ์ฟาดลงมาด้วยพลังอันมุ่งร้ายที่สุด ประกาศสงครามอย่างสมบูรณ์!
แต่ทว่า…
อีฟกลับยืนนิ่ง สงบ เยือกเย็นราวกับสายธารในฤดูใบไม้ผลิ
“โอ้? จะเอาอย่างนั้นเหรอคะ?”
น้ำเสียงนุ่มนวลดังขึ้นคล้ายแว่วฝัน เธอเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แววตาเปี่ยมความเย้ยหยันอย่างบางเบา
อูลร์ขมวดคิ้วทันที
ไม่รู้เพราะเหตุใด ท่าทีของอีฟที่เรียบเฉยเช่นนี้กลับทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างไม่มีเหตุผล ราวกับสัญชาตญาณบางอย่างกำลังเตือนภัยที่มองไม่เห็น
“หากนี่คือไม้ตายของล่ะก็… ศึกครั้งนี้ ก็คงจบลงแล้วล่ะค่ะ”
อีฟกล่าวอย่างแผ่วเบา พลางส่ายหน้าช้า ๆ
เธอเอื้อมมือขึ้นไปรับเกล็ดหิมะที่ร่วงหล่นจากเบื้องบน ทันทีที่ปลายนิ้วสัมผัส เกล็ดหิมะกลับสลายกลายเป็นพลังศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ ละลายหายไปในอากาศอย่างแผ่วพลิ้ว
จากนั้น… เธอดีดนิ้วครั้งหนึ่ง
และในเสี้ยววินาทีนั้น พลังศักดิ์สิทธิ์พลันปะทุจากพื้นดิน!
แสงสีทองแห่งชีวิต และแสงสีเขียวแห่งธรรมชาติ พวยพุ่งขึ้นมาพร้อมกัน ผสานทอกันเป็นหนึ่งเดียว เปล่งประกายราวอรุณรุ่งแห่งป่า!
ภายใต้สายตาตื่นตะลึงของอูลร์ เสาแสงศักดิ์สิทธิ์สีทองเขียวพลันพุ่งทะยานขึ้นฟ้า ทำลายอาณาจักรแห่งเทพของอูลร์อย่างราบคาบ!
รอยแตกร้าวกระจายทั่วฟ้า และในพริบตา โลกแห่งน้ำแข็งที่เคยห่อหุ้มทั้งสวรรค์และพื้นพิภพได้พังทลายลง หิมะละลาย ดินแดนน้ำแข็งพังครืน ท่ามกลางแสงสีอบอุ่นที่ปะทุขึ้นแทนที่
และสิ่งที่ปรากฏแทนที่ทุ่งน้ำแข็งนั้น คือป่าศักดิ์สิทธิ์อันตระการตา!
กลุ่มพืชพรรณแสง ต่างงอกเงยจากผืนดินมายา ใบไม้โปร่งใสลอยละล่องกลางอากาศ กลิ่นหอมละมุนตลบอบอวล แสงแห่งชีวิตและธรรมชาติโอบล้อมทั่วฟ้า
อีฟเอื้อมมือไปเด็ดใบไม้เลือนรางใบหนึ่ง ราวกับภาพฝัน พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“อาณาจักรแห่งเทพ สินะ…”
เธอคลี่ยิ้มบาง ดวงตาสงบนิ่งราวผืนน้ำในยามรุ่งสาง
“พอดีเลย…”
“เราเองก็มี…”
เสียงของเธอทิ้งช่วงแผ่วเบา ก่อนที่ถ้อยคำสุดท้ายจะเปล่งออกมาด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยอำนาจ สะท้อนก้องกลางป่าศักดิ์สิทธิ์
“และมันก็แข็งแกร่งกว่า จนเทียบกันไม่ติดเลยค่ะ…”
…
…
~~ ~~ ❀ ~~ ~~
ถ้าเจองานแปลของเค้าที่อื่น… สัญญานะว่าจะมาอ่านแปลไทยที่ https://www.nekopost.net/novel/12413 ♥
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ Support the project https://book.qidian.com/info/1016509432
~~ ~~ ❀ ~~ ~~
MANGA DISCUSSION