สายตาของฮายาชิที่จ้องมาที่ผมกำลังพูดว่า
ตอบมานะ
ตอบมานะ
…ตอบมาสิ
ผมพ่ายแพ้ต่อแรงกดดันจากสายตาของฮายาชิและถอนหายใจออกมาหนึ่งครั้ง
“ก็โดนอิชิดะเกลียดน่ะสิ”
เมื่อจนมุม ผมก็สารภาพกับฮายาชิ
ทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น ฮายาชิก็พึมพำว่า ‘อ้อ’ อย่างเข้าใจ การที่เธอเข้าใจได้ขนาดนี้แสดงว่ายัยนี่เป็นคนที่ร้ายกาจจริงๆ สิ่งที่ร้ายกาจที่สุดคือ ตอนนี้เธอไม่มีความตระหนักเลยว่าตัวเองได้ทำเรื่องร้ายกาจกับผม
“นายโดนคนเกลียดเยอะเกินไปรึเปล่า”
แล้วฮายาชิก็พูดเรื่องที่ไม่ควรพูดออกมา
ถ้าไม่ใช่ผมคงโกรธไปแล้ว
“ก็มีเรื่องงานวัฒนธรรมอะไรนั่นด้วยนี่นา”
“แค่เรื่องงานวัฒนธรรมไม่น่าจะโดนเกลียดขนาดนั้นนะ”
ผมเงียบ
ผมว่ามันก็จริง
“มันมีหลายเรื่องน่ะ”
“…งั้นเหรอ”
ฮายาชิก้มหน้าลงอย่างเศร้าๆ
ฮายาชิในตอนนี้ที่สวมแว่นนั่งท่าเทพธิดาก้มหน้า ไม่เข้ากับฉายา ‘ราชินี’ ที่เธอเคยถูกเรียกสมัยมัธยมปลายเลยแม้แต่น้อย
“แต่ทำไมนายถึงโดนอิ๊จจังเกลียดด้วยล่ะ? อิ๊จจังน่ะ ใจดีแล้วก็ฉลาดพอๆ กับอาคาริเลยนะ ไม่น่าจะเป็นคนที่จะเกลียดใครง่ายๆ เลย”
จริงอยู่ที่อิชิดะไม่ใช่แค่หน้าตาสวย แต่นิสัยก็ยังสวยด้วย
อิชิดะกับเราอยู่ห้องเดียวกันตอนปีหนึ่งกับปีสาม ตอนปีหนึ่งอยู่กับฮายาชิ ตอนปีสามอยู่กับฮายาชิและคาซาฮาระ บ่อยครั้งที่อิชิดะกับคาซาฮาระคอยดูแลฮายาชิ ภาพนั้นยังคงติดตาผมอยู่
การที่สามารถดูแลฮายาชิในตอนนั้นได้ ก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่านิสัยดี… นี่คงเป็นเรื่องราวที่ขาดไม่ได้ในการพูดถึงความงามทางนิสัยของอิชิดะ
“น่าจะโดนเกลียดเพราะฉลาดเกินไปนั่นแหละ”
แต่เหตุผลที่ผมโดนอิชิดะเกลียดนั้น เหนือความคาดหมายของฮายาชิ
“…ฉันน่ะ ตลอดสามปีที่เรียนมัธยมปลาย ไม่เคยเสียตำแหน่งที่หนึ่งของชั้นปีให้ใครเลย”
“อ๊ะ งั้นเหรอ”
“ใช่ อยากจะอวดเพื่อเติมเต็มความต้องการการยอมรับ แต่ตอนนั้นไม่มีเพื่อนดีๆ เลยสักคน ไม่ต้องพูดถึงการเติมเต็มความต้องการการยอมรับเลย เรื่องนี้ไม่ค่อยมีใครรู้ด้วยซ้ำ”
“นายเนี่ย จริงๆ แล้วมีความคิดเล็กๆ น้อยๆ เหมือนกันนะ”
“เอาเป็นว่า ด้วยเหตุผลนั้น ฉันก็เลยรักษาตำแหน่งที่หนึ่งของชั้นปีไว้ได้ตลอด แต่ก็มีคนที่อิจฉาหรือส่งสายตาเกลียดชังมาให้ฉันอยู่”
“นั่นคืออิ๊จจังเหรอ”
ผมพยักหน้า
“อิชิดะหลังสอบเสร็จทุกครั้ง จะใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์หาที่ที่ไม่มีคนแล้วเข้ามาหาฉัน พูดว่า ‘ช่วยออมมือให้หน่อยสิ’ บ้าง ‘คราวหน้าไม่แพ้แน่’ บ้าง ‘ทำยังไงถึงได้เก่งขนาดนั้น คราวหน้าขอไปเรียนพิเศษที่ห้องยามาโมโตะคุงสองต่อสองได้ไหม สองต่อสองนะ’ บ้าง เอาเป็นว่าก็ประมาณนั้นแหละ… พยายามจะทำให้ฉันเสียหน้า”
“…หือ?”
“เป็นอะไรไป ฮายาชิ”
“ขอโทษ… เอ่อ ขอโทษ… หือ?”
“เป็นอะไรไป อยู่ๆ ก็เป็นแบบนี้ หรือว่าไม่สบาย”
“…อืม? ขอโทษนะ ขอเรียบเรียงแป๊บนึง”
“หือ? โอ้”
“นายเป็นที่หนึ่งของชั้นปีตลอด”
“ใช่”
“แล้วอิ๊จจังล่ะ”
“…จำได้ว่าเขาบอกว่าเป็นที่สองตลอดนะ”
“เหรอ… แล้วนอกจากหลังสอบเคยคุยกันสองต่อสองไหม”
“เอ๊ะ? …อ่า ก็มีบ้างนะ เคยรู้สึกว่าโดนมองอยู่ ก็เลยเข้าไปทัก”
“ตอนนั้นอิ๊จจังมีปฏิกิริยายังไง”
“คงจะเป็นไข้มั้ง หน้าแดงก่ำแล้วก็เดินหนีฉันไปทุกที”
“…หา?”
“เอ๊ะ”
“…แล้วนายก็โดนขอให้ไปเรียนพิเศษด้วยกันทุกครั้งหลังสอบเสร็จเหรอ”
“ใช่”
“แล้วเคยตกลงไหม”
“คิดว่ามีเหรอ? ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นนี่”
“…คุยกันสองต่อสองแบบนั้นตลอดเลยเหรอ”
“ไม่ตลอดหรอก… น่าจะตั้งแต่ปลายภาคเรียนที่สองของปีสามมั้ง เขาคงคิดว่าสู้ฉันไม่ได้แล้วล่ะ หลังจากนั้นก็ไม่มายุ่งอีกเลย”
เด็กสาวที่อยู่ข้างๆ ผมเป็นอะไรไปกันแน่นะ
ฮายาชิปิดอัลบั้มจบการศึกษาที่อยู่ตรงหน้าแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง จากนั้นก็ดึงผ้าห่มมาคลุมแล้วก็เริ่มพึมพำอะไรบางอย่างเหมือนสวดมนต์
โทรศัพท์ของฮายาชิสั่นขึ้น
“นี่ โทรศัพท์เธอ”
“…รับให้หน่อย”
ฮายาชิที่ปกติแล้วเป็นคนดูแลเอาใจใส่ดีอย่างน่าประหลาด บางครั้งก็กลับกลายเป็นเด็กขี้อ้อนเหมือนตอนนี้
ผมคิดว่าน่าจะเป็นผลกระทบจากการถูกแฟนเก่าทำร้ายร่างกายมาเกือบครึ่งปี เลยพยายามตอบสนองความอ้อนของเธอทุกวัน
ก็จนถึงวันนี้ ยังไม่เคยถูกขอให้อ้อนแบบที่เป็นไปไม่ได้เลย… ยกเว้นเรื่องที่โรงแรมวันนั้น
“นี่”
ฮายายชิรับโทรศัพท์จากผม
ท่าทีของเธอยังคงแปลกๆ อยู่
“ฮัลโหล อ๊ะ แม่… เอ๊ะ อื้อ งั้นส่งมาเลย”
ดูเหมือนว่าคู่สนทนาจะเป็นแม่ของฮายาชิ
ตอนแรกนึกว่าเป็นโทรศัพท์เรื่องอาการป่วยของพ่อเธอ แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ ผมแอบโล่งใจ
“อาการพ่อเป็นไงบ้าง? …อ้อ งั้นเหรอ อื้ม หา? …มะ ไม่ได้สนใจสักหน่อย”
โกหกสิ้นดี
“อื้ม เอ๊ะ? …อึ อึ้ดอัดน่า น่ารำคาญจริงๆ นะ… อื้อ พอได้แล้ว? วางแล้วนะ วางแล้วล่ะ งั้นนะ”
ตอนท้ายๆ ดูเหมือนจะตัดสายไปอย่างรุนแรง
ไม่รู้ว่าโดนแม่พูดอะไรมาบ้าง แต่ก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับผม
ทันทีที่วางสาย ฮายาชิก็ลุกออกจากผ้าห่ม
“นี่ ยามาโมโตะ”
“หือ?”
ฮายาชิทำหน้าจริงจัง
เมื่อได้ยินคำพูดของฮายาชิ ผมก็นึกว่าพ่อของเธอไม่เป็นอะไรแล้ว… แต่กลับมีลางสังหรณ์ไม่ดีแวบเข้ามา
“อิ๊จจังแต่งงานแล้วล่ะ”
“เอ๊ะ”
เสียงแปลกๆ หลุดออกมาจากปากผมอย่างไม่ตั้งใจ
MANGA DISCUSSION