ในตอนนั้น ฉันไม่ชอบท่าทีเหมือนไม่แคร์ของยามาโมโตะ เลยกลายเป็นว่าฉันเริ่มเกลียดเขาไปเองฝ่ายเดียว
…ใช่แล้ว
…มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ
ฉันลืมเรื่องในอดีตแบบนี้ไปหมดแล้ว
ทำไมกันนะ
แต่ก็แค่เรื่องงานโรงเรียน งานเลี้ยงหลังงานวัฒนธรรมจะหายไปสักปีสองปี พอนานวันเข้าก็กลายเป็นเรื่องไม่สำคัญ
“…นี่ อาคาริ เธอยังจำได้ไหม?”
หลังจากแยกกับอิโตะกับโอตะ ฉันกับอาคารินั่งรถไฟกลับบ้านด้วยกัน อิโตะกับโอตะจะค้างโรงแรมในโตเกียวและเที่ยวต่อวันรุ่งขึ้น พวกเขาชวนให้เราไปด้วย แต่พออาคาริปฏิเสธ ฉันก็เลยปฏิเสธตาม
คำถามของฉันกับอาคาริอาจจะฟังดูงง ๆ เพราะไม่มีประธาน แต่ดูเหมือนอาคาริจะเข้าใจสิ่งที่ฉันอยากถาม
“ถ้าเป็นเรื่องงานเลี้ยงหลังงานวัฒนธรรมปีหนึ่ง ฉันจำได้สิ”
“…งั้นเหรอ”
ฉันกำมือแน่นกับที่จับบนรถไฟ
“ฉันลืมไปหมดเลยจริง ๆ “
“เหรอ?”
“อืม”
ฉันพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ ในใจฉันรู้สึกผิดกับยามาโมโตะ อาจเพราะเราสนิทกันมากขึ้นก็ได้ เรื่องที่ฉันเคยรุมต่อว่าเขาในชั้นเรียน ทั้งที่ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องที่ฉันลืมไปแล้ว
“…ก็ช่วยไม่ได้หรอก”
“จริงเหรอ?”
“อืม แน่นอนอยู่แล้ว”
อาคาริพูดอย่างหนักแน่น ซึ่งไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก ถ้าอาคาริพูดแบบนี้ก็คงจริงนั่นแหละ ฉันเลยพยายามยอมรับความรู้สึกตัวเอง
…แต่ก็ยังมีข้อสงสัยอยู่ดี
มันคือข้อสงสัยเดียวกับที่ทำให้ฉันรู้สึกผิดเมื่อกี้
ตอนนี้ฉันอยู่กับยามาโมโตะ
ตอนนี้ฉันชอบยามาโมโตะ
ตลอดเดือนกว่า ๆ ที่ผ่านมา ฉันได้เห็นยามาโมโตะในหลายมุม
ทั้งตอนที่เขาช่วยเหลือ
ตอนที่ดูอ่อนแอ
ตอนที่หมกมุ่นกับการทำความสะอาด
และตอนที่เขายิ้ม
ฉันได้เห็นเขาหลายด้าน จนเกิดข้อสงสัยและความรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา
วันนั้น ยามาโมโตะบอกว่า
“ลืมสั่งไม้สำหรับแคมป์ไฟ”
…มันเป็นแบบนั้นจริงเหรอ?
ไม่ใช่ว่าฉันสงสัยเรื่องไม้แคมป์ไฟไม่ได้ถูกสั่ง เพราะงานเลี้ยงหลังงานวัฒนธรรมก็ถูกยกเลิกจริง ๆ เหตุผลมันก็ชัดเจน
แต่สิ่งที่ฉันสงสัยคือ…
การลืมสั่งไม้ มันเป็นความผิดของยามาโมโตะจริง ๆ เหรอ?
…เขาเป็นคนแบบนั้นเหรอ
ขยัน
เจ้าระเบียบ
รอบคอบ
เกลียดความครึ่ง ๆ กลาง ๆ แบบสุด ๆ
คนแบบนั้นจะพลาดเรื่องพื้นฐานขนาดนี้จริงเหรอ?
“อาคาริ เธอเคยได้ยินอะไรจากยามาโมโตะไหม?”
อาคาริส่ายหัวเบา ๆ
“…งั้นเหรอ”
“นี่ เมกุ?”
“แล้วอาคาริ ตอนปีหนึ่ง ใครเป็นกรรมการงานวัฒนธรรมของห้องเธอ?”
ฉันเผลอพูดแทรกอาคาริไปเลย
ดูเหมือนอาคาริจะมีอะไรในใจเหมือนกัน เธอเลยทำหน้าหม่น ๆ
อาคาริคิดอยู่สักพัก
“…มาเอดะคุง ปีสามก็อยู่ห้องเดียวกันใช่ไหม”
“หมอนั่นเอง”
มาเอดะเป็นคนที่อยู่ชมรมฟุตบอล เสียงดังแต่ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ
“อาคาริ มีเบอร์มาเอดะไหม?”
“จะทำอะไรเหรอ?”
“อยากถามเรื่องตอนนั้นน่ะ”
อาคาริทำหน้าตกใจนิดหน่อย
แต่ฉันเองก็แปลกใจที่ตัวเองจะกล้าทำอะไรแบบนี้เหมือนกัน
ถ้าไม่ใช่เพราะยามาโมโตะ ฉันคงไม่อยากขุดอดีตขึ้นมาแน่ ๆ
…แต่ถ้าเพื่อยามาโมโตะ ฉันไม่ลังเลเลย
ฉันรู้ดี
ถ้ายามาโมโตะรู้ว่าฉันจะทำอะไร เขาคงพูดว่า
“รู้ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก”
เขาเป็นคนที่ไม่ชอบหันกลับไปมองอดีต
เพราะเขาเป็นแบบนี้ ฉันถึงค่อย ๆ ก้าวข้ามความกลัวที่อดีตแฟนเคยทำไว้ได้
เขาคงพูดว่า สิ่งที่ฉันทำมันไร้ความหมาย
…แต่ฉันไม่คิดแบบนั้น!
คนที่ฉันเคยทำร้าย
คนที่ฉันชอบในตอนนี้
ฉันทนไม่ได้หรอก ถ้าเขาต้องถูกกล่าวหาทั้งที่ไม่ได้ทำผิด…
แต่ก็เถอะ สิ่งที่ฉันทำมันอาจจะสายไปแล้วก็ได้
ต่อให้ไปบอกเพื่อนสมัยเรียนว่าความผิดนั้นไม่ใช่ของยามาโมโตะ ทุกคนก็คงไม่สนใจอะไรแล้ว
ฉันเองก็ลืมไปแล้วเหมือนกัน
…แต่ฉันยังขอโทษเขาได้
ถ้าฉันรู้ความจริง ฉันควรจะขอโทษเขา
อย่างน้อย คนที่เคยทำร้ายเขาและอยากอยู่กับเขาต่อไปอย่างฉัน…ควรจะขอโทษเขา
“น่าอิจฉาจังเลยนะ”
“…อือออ”
“เมกุ เมื่อก่อนเธอทำหน้าแบบนี้ไม่เป็นเลยนะ”
“ห-หน้าแบบไหนกันเล่า!”
“หน้าเด็กผู้หญิงที่กำลังมีความรักไง”
อาคาริกอดฉันในรถไฟ
ในขบวนรถไฟเกือบว่างเปล่า มีแต่คนที่หลับเพราะเหนื่อยจากงาน
…ถึงยังไงก็ยังอายอยู่ดี
“ขอโทษนะ ฉันไม่มีเบอร์มาเอดะคุงน่ะ”
“…งั้นเหรอ”
“งั้นเดี๋ยวลองถามให้ละกันนะ?”
“เอ๊ะ?”
“ถ้าได้แล้วจะบอกนะ ลองไปเจอเขาดูสิ”
“…ขอบใจนะ อาคาริ”
ตั้งแต่กลับมาเจอกันใหม่ ฉันกับอาคาริก็ยังมีบรรยากาศอึดอัดอยู่
แต่ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะฉันเองฝ่ายเดียว
แต่ถึงอย่างนั้น อาคาริก็…
ฉันกอดอาคาริกลับ
เธอคนนี้แหละ…เป็นเพื่อนแท้ของฉันจริง ๆ
ต่อให้เธอเคยคบกับยามาโมโตะมาก่อนก็เถอะ
แต่เธอก็ยังเป็นเพื่อนแท้ของฉันอยู่ดี
“…ขอโทษนะเสมอเลย”
“ไม่เป็นไรหรอก อย่าคิดมาก”
“…สักวันหนึ่ง ฉันจะช่วยเธอบ้างนะ”
“…ถ้าอย่างนั้นล่ะก็”
อาคาริเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง
“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก”
แล้วเธอก็ยิ้มเศร้า ๆ เล็กน้อย
MANGA DISCUSSION