“สัปดาห์นี้ได้ไปเข้าค่ายนอกสถานที่แล้วล่ะ ตื่นเต้นจังเลยเนอะ”
“……อืม”
“ดูจากคำตอบแล้วไม่น่าจะสนใจเลยสินะ”
หลังเลิกเรียนวันหนึ่ง ขณะที่อิโอริกำลังเก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน คานาตะที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ก็มาทักอย่างร่าเริง
ตรงกันข้ามกับท่าทีสดใสของคานาตะ อิโอริกลับรู้สึกห่อเหี่ยวลงอย่างเห็นได้ชัด
เหตุผลนั้นก็เพราะค่ายนอกสถานที่
เป็นกิจกรรมเข้าค่ายเล่นสกีสองคืนสามวัน ที่เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งวัยรุ่นโดยแท้
แต่สำหรับอิโอริแล้ว มันคือช่วงเวลาที่เขาจะวาดรูปไม่ได้ตามปกติ เลยไม่ใช่เรื่องน่ายินดีนัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเขาที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องกิจกรรมของโรงเรียนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
“จริงๆ นายไม่ค่อยสนใจพวกกิจกรรมพวกนี้เลยสินะ”
“มันก็มีเหตุผลของมันน่ะ”
“งั้นเหรอ ก็แล้วแต่คนล่ะนะ แต่สำหรับฉันได้ไปเข้าค่ายกับคุรุมิแล้วก็โทกิซากะคุง ฉันว่ามันน่าสนุกดีออก”
“แกนี่พูดอะไรก็ดูดีไปหมดเลยนะ”
แม้อิโอริจะดูหมดแรง แต่คานาตะก็หัวเราะแห้งๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงตรงไปตรงมาเช่นเคย
อิโอริรู้สึกทึ่งกับจุดนี้ของเขา พร้อมกับยิ้มมุมปากนิดๆ อย่างไม่รู้ตัว
“ว่าแต่ วันนี้หลังเลิกชมรมฉันจะไปซื้อของสำหรับเข้าค่ายกับคุรุมิน่ะ นายจะไปด้วยกันมั้ย?”
“ไม่ล่ะ ไปเดตกับยัยนั่นให้เต็มที่เถอะ แล้วฉันก็ไม่ได้อยากดูพวกนายหวานกันด้วย”
“ฮะฮะฮะ งั้นเราคงต้องไปกันเองแล้วล่ะ”
แม้คานาตะจะชวนมาด้วย แต่มานั่งดูเพื่อนสองคนออดอ้อนกันก็คงไม่ใช่เรื่องน่าสนุกนัก
อิโอริจึงโบกมือลาเขาเบาๆ พลางหันหลังเดินกลับบ้าน
“เฮ้อ…ฉันเองก็ต้องไปซื้อของไว้ใช้ตอนเข้าค่ายเหมือนกันนี่หว่า งั้นไปเลยก็แล้วกัน”
อิโอริพึมพำกับตัวเองในอากาศหนาวขณะเดินกลับ แล้วเปลี่ยนเส้นทางจากบ้านไปยังห้างในเมืองข้างๆ
ประมาณสิบห้านาทีโดยรถไฟ อิโอริก็มาถึงเมืองข้างเคียงแล้วเดินดูของอยู่ในห้าง
เขาซี้อของชิ้นเล็กๆ อย่างแปรงสีฟัน เซ็ตล้างหน้าเรียบร้อย แล้วเดินเข้าร้านหนึ่งเพื่อหาซื้อเสื้อกันหนาว
“เอ๊ะ……”
“อะ……”
แต่แล้ว เขาก็สบตาเข้ากับท่านนักบุญที่กำลังลองเสื้อโค้ทอยู่หน้ากระจกเข้า
“ทำถึงอยู่ที่นี่ล่ะ?”
“ฉันก็อยากถามเธอเหมือนกันนะ?”
“ก็ที่นี่เป็นร้านดังนี่คะ เจอกันที่นี่ก็ไม่แปลกเท่าไหร่หรอก”
“ก็จริงแฮะ”
ถึงจะตกใจที่เจอกันโดยบังเอิญ แต่ด้วยประสบการณ์ในฐานะสตรีมเมอร์มืออาชีพ อาสุมิก็ปรับอารมณ์กลับมาทันที
“อิโอริคุงเองก็มาซื้อเสื้อกันหนาวใช่มั้ยคะ?”
“อืม ถุงมือกับอะไรอีก ของจิปาถะน่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น ไปเลือกของด้วยกันหน่อยได้มั้ยคะ?”
“ไม่ขัดหรอก แต่ระวังหน่อยนะ แถวนี้อาจมีพวกเพื่อนร่วมโรงเรียนเดินเพ่นพ่านอยู่ก็ได้”
จากคำพูดและการที่เธอกำลังถือเสื้ออยู่ในมือก็บ่งบอกได้ว่าเป้าหมายของเธอคงไม่ต่างจากอิโอรินัก
พอเข้าใจตรงกันแล้ว อาสุมิก็ชวนเขาเดินเลือกของด้วยกัน
มันเป็นเรื่องที่เกินคาดไปมาก
แม้จะเคยเจอกันบ้างตามซูเปอร์หรือร้านสะดวกซื้อ แต่พวกเขาก็ยังไม่เคยไปเดินด้วยกันแบบนี้เลย
เพราะอาสุมิเป็นนักบุญที่มีคนรู้จักเยอะ ถ้ามีคนเห็นว่าเดินกับผู้ชายล่ะก็ เรื่องจะยุ่งยากเลยทีเดียว
ดังนั้นนี่จึงเป็นครั้งแรกที่อาสุมิเอ่ยชวนเองแบบนี้
“คือว่า…ก็…เอ่อ…”
“อ๋อ เข้าใจล่ะ ใช้ฉันเป็นไม้กันหมานี่เอง”
พออาสุมิปรายตามองออกไปนอกหน้าร้าน อิโอริก็เห็นชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งกำลังจ้องมองเธออยู่
เขาจึงเข้าใจในทันที ว่าเธอต้องการให้เขาแสดงตัวเป็นเพื่อนร่วมทางเพื่อกันพวกที่มาจีบ
ระหว่างเสียงซุบซิบจากพวกเพื่อนในโรงเรียนที่อาจจะเจอ หรือพวกผู้ชายที่แน่ใจว่าเข้ามาจีบแน่ๆ
ในสองตัวเลือกนี้ อาสุมิก็เลือกอย่างหลัง
“ใช่ค่ะ ถ้าอิโอริคุงไม่รังเกียจล่ะก็ ขอความร่วมมือด้วยนะคะ?”
“โอเค ถ้าแค่นั้นก็ไม่มีปัญหา”
“ขอบคุณมากค่ะ งั้นช่วยเลือกเสื้อโค้ทให้หน่อยนะคะ”
อิโอริตอบรับโดยไม่ลังเล หลังเข้าใจเจตนาของเธอ
อาสุมิยิ้มบางๆ แล้วชี้ไปที่ห้องลองเสื้อ
“โอ้! เข้ากับเธอดีนี่นา”
“อิโอริคุง บอกแบบนี้ทุกตัวเลยนะคะ”
“ก็เธอใส่แล้วดูดีทุกตัวนี่นา”
ผ่านมาเกือบสิบห้านาทีตั้งแต่เริ่มเลือกเสื้อกันหนาวให้อาสุมิ
เธอลองหลายตัวราวกับเดินแฟชั่นโชว์ ส่วนอิโอริก็บอกได้แค่ว่า “ดูดี” เท่านั้น
เพราะความจริงมันก็ดูดีกับเธอทุกตัวจริงๆ ไม่ว่าจะสีแดง ชมพู ขาว ดำ ใส่แล้วเข้ากับเธอทั้งนั้น
ถ้าไม่ใช่ดีไซน์ที่แย่เกินไป อาสุมิที่มีรูปร่างหน้าตาดีแบบนี้จะใส่อะไรก็สวยหมด
ที่เหลือก็แค่ความรู้สึกใส่แล้วสบายไหมกับราคาว่าคุ้มรึเปล่า
อาสุมิเริ่มพองลมที่แก้มเบาๆ แล้วทำเสียงบ่นเล็กน้อยด้วยความงอน
“ถึงจะจริง แต่ก็น่าจะพูดอะไรเพิ่มเติมหน่อยก็ได้นี่คะ”
“ขอโทษๆ ถ้าให้พูดเพิ่ม ฉันว่าตัวสีดำที่ลองเมื่อกี้ดูดีนะ อบอุ่นดีด้วย ดูเท่ แถมยังทำให้ผมเธอดูเด่นขึ้นอีก”
“พูดแบบนี้ตั้งแต่แรกก็ได้นี่คะ… จริงสิ มันกันน้ำด้วย งั้นเอาตัวนั้นก็แล้วกันค่ะ”
เมื่อได้ฟังความเห็นจริงจังจากอิโอริ เธอก็สบตาเขานิ่งๆ อยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็กลับมาเป็นปกติ
ดูเหมือนจะตกลงกันได้แล้ว ว่าเลือกตัวสีดำที่ลองไปก่อนหน้านี้
“งั้นต่อไปก็ของอิโอริคุงนะคะ”
“ฝากด้วยล่ะ”
ถึงคราวเลือกของอิโอริบ้าง
“อ๊ะ ตัวนี้ดูดีมากเลยค่ะ เข้ากับอิโอริคุงดีนะคะ”
“นี่ เธอก็บอกแค่นี้เหมือนกันเลยไม่ใช่เรอะ”
“เข้าใจรึยังคะ? แบบนี้แหละที่ฉันรู้สึกเมื่อกี้น่ะ”
แม้จะเปลี่ยนเป็นฝั่งเขาเลือก แต่การพูดคุยก็เหมือนวนลูปกลับไป
อาสุมิต้องการให้เขารู้สึกแบบเดียวกันกับที่เธอรู้สึกเมื่อกี้
“เข้าใจละ ขอโทษทีนะ”
“เข้าใจก็ดีแล้วค่ะ ฉันเองก็พูโแรงไปหน่อย ขอโทษเหมือนกันนะคะ… เอาล่ะ งั้นไปต่อกันเถอะค่ะ”
อิโอริที่เข้าใจแล้วก็รีบขอโทษ อาสุมิเองก็ยิ้มบางๆ แล้วหยิบเสื้ออีกตัวส่งให้
ขณะเลือกเสื้อให้อิโอริต่อ พนักงานหญิงของร้านคนหนึ่งก็เดินเข้ามาทัก
“เอ่อ… คุณผู้ชายคือแฟนของคุณหรือเปล่าคะ? ถ้ายังเลือกไม่ถูก เราช่วยแนะนำได้นะคะ”
เหตุการณ์ที่มักจะเกิดเวลาไปซื้อเสื้อผ้าก็เกิดขึ้นจนได้
แถมยังถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคู่รักกับอาสุมิอีกต่างหาก
อิโอริทำหน้าลำบากใจเล็กน้อยเพราะไม่ชอบคุยกับพนักงานร้านเท่าไร
ทันใดนั้นเอง…
“ค่ะ ใช่ค่ะ แต่พวกเราอยากเลือกกันเองก่อน ถ้าลังเลจะมาขอคำแนะนำนะคะ”
อาสุมิยิ้มตอบไปอย่างมั่นใจ
ไม่มีความลังเลหรือเขินอายแม้แต่น้อย
เธอพูดอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับมันเป็นเรื่องปกติ
พนักงานร้านก็พยักหน้าเข้าใจ แล้วเดินกลับเข้าไปในร้าน
(หา?)
อิโอริตกใจอย่างหนัก
ไม่เคยคิดว่าอาสุมิจะพูดแบบนั้น คนอย่างเธอน่ะนะ? ยิ่งเป็นคนที่มักจะหลีกเลี่ยงเรื่องความรักมาตลอดยิ่งไม่น่าเชื่อเข้าไปใหญ่
“ขอโทษนะคะ เห็นอิโอริคุงดูไม่อยากคุยกับพนักงาน เลยตอบไปแบบนั้นน่ะค่ะ”
“อะ-อ๋อ อย่างงั้นเหรอ ขอบใจนะที่ใส่ใจ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
อาสุมิยิ้มเขินๆ พลางอธิบาย
ดูเหมือนนั่นจะเป็นเจตนาจริงๆ และอิโอริก็เข้าใจในทันที
แม้จะใจเต้นแรงไปนิด แต่เขาก็เก็บซ่อนไว้ไม่ให้ใครรู้
“งั้น… เอาตัวไหนดีล่ะ?”
“ตัวนี้ดูไม่ค่อยเวิร์คนะคะ ลองไปเลือกอีกฝั่งดีกว่า”
“อืม งั้นลองดูฝั่งโน้น… อ๊ะ”
แล้วทั้งสองคนก็เดินกลับไปเลือกเสื้อต่อ
แต่แล้ว เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
คราวนี้อาจยุ่งกว่าครั้งก่อนเสียด้วย
“เฮ้ย…เมื่อกี้นั่น…”
“ท่านนักบุญกับโทกิซากะคุงไม่ใช่เหรอ?”
“ซวยแล้ว…”
ทั้งสองเผลอเจอเข้ากับคู่รัก—คานาตะกับคุรุมิที่กำลังมาเดตซื้อของเหมือนกันเข้าให้…
MANGA DISCUSSION